playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว WAR SAILOR หนังสงครามที่เล่ามุมมองพลเรือนที่ถูกบังคับเข้าร่วมรบ

WAR SAILOR กะลาสีสงคราม

Summary

เป็นซีรีส์ที่ทำออกมาได้ดี มีคุณภาพงานโปรดักชั่นเหมือนหนังสงครามจริงๆ แต่ฉากสงครามมีให้เห็นแค่สั้นๆ เสี้ยวหนึ่งประกอบเรื่องเท่านั้น เพราะหัวใจหลักเป็นเรื่องราวของพลเรือนที่พยายามเอาชีวิตรอดกลับไปหาครอบครัว โดยสร้างจำลองเรื่องราวตัวเอกจากประสบการณ์จริงของกะลาสีเรือจำนวนมากที่สูญเสียชีวิตและสภาพจิตใจไป ในสงครามที่พวกเขาถูกบังคับเข้าร่วมรบอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ที่ไม่ค่อยมีออกมาให้เห็นเท่าไหร่ครับ 

Overall
7/10
7/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ลิมิเต็ดซีรีส์ 3 ตอนจบจากช่วงหนึ่งของสงครามโลกที่นอร์เวย์เข้าไปเกี่ยวข้อง
  • เล่าเรื่องดราม่าครอบครัวพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม
  • ฉากสงครามทำได้สมจริงแต่มีแค่สั้นๆ
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • เรื่องราวไม่ได้ออกมาตื่นเต้นอะไรมาก
  • ตัดสลับสคิปเหตุการณ์ไปมาหลายครั้งจนดูงงๆ อยู่บ้าง

ADBRO

WAR SAILOR กะลาสีสงคราม ลิมิเต็ดซีรีส์ Netflix 3 ตอนจบที่สร้างจากเรื่องจริงของเรือสินค้านอร์เวย์จำนวนมากที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมรบช่วยอังกฤษจากการโจมตีของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2
War Sailor (2023) on IMDb

รีวิว WAR SAILOR กะลาสีสงคราม

 

ลิมิเต็ดซีรีส์ 3 ตอนจบที่สร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เรือสินค้าของนอร์เวย์ถูกบังคับให้เข้าร่วมสงครามช่วยอังกฤษจากการบุกของเรือดำน้ำเยอรมัน ซึ่งทำให้เรือสินค้าหลายพันลำจมลง มีลูกเรือที่ถูกบังคับเข้าร่วมสงครามกว่า 3 หมื่นคน เพื่อขนส่งอาวุธสินค้าต่างๆ ให้อังกฤษ โดยตัวเรื่องโฟกัสไปที่ อัลเฟรด การ์เนส กะลาสีเรือที่เพิ่งกลายเป็นพ่อของลูกคนที่สาม เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเกิดขึ้น เขาและเพื่อนคู่หู กําลังทํางานบนเรือสินค้ากลางมหาสมุทรแอตแลนติก พวกเขาเป็นพลเรือนที่ปราศจากอาวุธ ยืนอยู่ในแนวหน้าของสงครามที่พวกเขาไม่เคยขอเข้าร่วม ทั้งสองต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดท่ามกลางกระแสน้ำวนแห่งความรุนแรงและความตาย,เรือดำน้ำเยอรมันอาจโจมตีเรือของพวกเขาได้ทุกเมื่อ พวกเขามีเป้าหมายเดียวคือ อยู่รอดและกลับบ้าน

ซีรีส์เล่าเรื่องแบบตัดสลับแฟลชแบ็คเรื่องราวต่างๆ ของการเข้าร่วมสงครามแบบไม่เต็มใจ ในระหว่างทางก็ช่วยเหลือลูกเรืออื่นที่ถูกจมลง  โดย อัลเฟรด การ์เนส เป็นเหมือนฮีโร่ผู้นำของลูกเรือกลุ่มเล็กๆ ที่พยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ บางครั้งก็เตรียมหนีสงคราม แต่สุดท้ายก็ยังล่องเรือฝ่าเข้าไปในดงสงคราม จนเกิดการสูญเสียหลายๆ อย่างตามมา โดยมีเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างเขาเสมอ ซึ่งตัวเรื่องก็ถ่ายทอดมุมมองของสงครามจากพลเรือนที่หลงเข้าไป ไม่ได้มีฉากต่อสู้กับใคร แต่เป็นการพยายามเอาชีวิตรอดเพื่อหวังให้สงครามยุติและได้กลับบ้านเท่านั้น ซึ่งตัวเอก อัลเฟรด การ์เนส ไม่ได้เขียนไว้ว่ามาจากเรื่องจริง แต่เรื่องจริงก็คือมีกะลาสีแบบเขาที่ต้องไปติดอยู่ในสงครามแบบเดียวกันมากมาย แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นคนตายที่ถูกลืมเลือนไป ไม่ก็กลายเป็นคนที่สภาพจิตใจไม่ปกติ ซึ่งตัวละครนี้ก็จะถ่ายทอดเรื่องราว มุมมอง ประสบการณ์ทุกอย่างให้เราได้เห็น

ตัวเรื่องยังมีการตัดสลับกลับมาช่วงที่ครอบครัวตัวเอกอยู่ในเมือง รอคอยจดหมายติดต่อจากเขาที่ติดต่อกันไม่ได้ในช่วงสงคราม ลูกๆ ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยไร้ความผูกพันกับพ่อ และการรอโดยแบบไร้ความหวังก็กลายเป็นปัญหาครอบครัวที่ก่อให้เกิดอะไรหลายๆ แม้ตัวคนที่ไปรบได้กลับมาก็ไม่อาจจะกลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนเดิมได้ จากช่องว่างของเวลาที่สูญเสียไป 

นอกจากนี้ตัวเรื่องยังโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ของตัวเอกกับเพื่อนรัก ที่ช่วยกันในเวลาต่างๆ แต่สงครามก็ทำให้เกิดปัญหากับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในท้ายที่สุด

ซีรีส์จำลองฉากสงครามไว้แบบสั้นๆ แต่ก็มีความสมจริงเหมือนหนังสงครามดีๆ ในระดับหนึ่งเลย โดยมีฉากเรือสินค้าของพวกเขาถูกเครื่องบินรบกับตอปิโดถล่มจนจมลง แล้วก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในทะเล ก่อนจะเจอกับเรือดำน้ำอังกฤษ ซึ่งตัวเรื่องก็ทำออกมาได้ดีแม้จะเป็นแค่ซีรีส์เล็กๆ ก็ตาม

โดยรวมเป็นซีรีส์ที่ทำออกมาได้ดี มีคุณภาพงานโปรดักชั่นเหมือนหนังสงครามจริงๆ แต่เรื่องราวอาจจะดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะเป็นเรื่องราวของพลเรือนที่พยายามเอาชีวิตรอด โดยสร้างจำลองเรื่องราวให้เหมือนจริงไปกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของนอร์เวย์ที่ไม่ค่อยมีออกมาให้เห็นเท่าไหร่ครับ (ก่อนหน้านี้อีกเรื่องคือ Narvik เป็นสมรภูมิที่ฮิตเลอร์แพ้ แล้วก็มีอ้างอิงไว้ในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย และก็มีบางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน)

 

 

ติดตามรีวิวหนัง Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!