รีวิว WHITE NOISE หนังติสๆ ถึงความตายที่ใกล้แค่เอื้อม แต่ยำหลายเรื่องให้ชวนงง
WHITE NOISE
Summary
นี่คือหนังติสโดยแท้ เรื่องสื่อถึงปัญหาชีวิตครอบครัวกับความตายที่ผสมปนเปเรื่องต่างๆ มากมายที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันจนชวนให้งงได้ง่ายๆ มุกตลกลึกไปจนไม่ค่อยขำ ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องดูก็ได้ แนะนำว่าข้ามไปเลยดีกว่า แม้จะเป็นแฟนผลงานของผู้กำกับคนนี้ก็ตามทีครับ (โนอาห์ บอมบาค Marriage Story)
Overall
5/10User Review
( votes)Pros
- ดราม่าชีวิตกับความตายแบบติสๆ
- ผลงานของผู้กำกับโนอาห์ บอมบาค นำแสดงโดย อดัม ไดร์เวอร์
- หายนะที่ออกแนวเพี้ยนๆ
- มีพากย์ไทย
Cons
- บทสนทนานอกเรื่องเยอะ
- เรื่องยำหลายอย่างมากไป
WHITE NOISE ภาพยนตร์ Netflix ที่สร้างจากนิยายของดอน เดอลิลโลนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับโนอาห์ บอมบาค นำแสดงโดย อดัม ไดร์เวอร์และเกรตา เกอร์วิก เรื่องของครอบครัวที่พากันหนีตายหลังจากเกิดเหตุหายนะแก๊สพิษรั่ว นำมาซึ่งการเรียนรู้ว่าความสุขในชีวิตอาจไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน
รีวิว WHITE NOISE
หนังที่ออกแนวติสๆ ของผู้กำกับ Marriage Story ซึ่งคำว่าติสในที่นี้ไม่ใช่หนังที่ดูยากอะไร แต่มันคือหนังที่ดูแล้วผู้ชมอาจจะไม่เข้าใจว่าผู้กำกับจะเล่าจะสื่ออะไรมากกว่า เมื่อเรื่องราวหลักของหนังจากพล็อตเรื่องครึ่งแรกกับครึ่งหลังแทบจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
ครึ่งแรกของเรื่องใช้เวลาไปเรื่อยเปื่อยกับการนำเสนอชีวิตครอบครัวตัวเอก พ่อ แม่ ลูก 3 ที่ออกจะติดเพี้ยนๆ หน่อยกับบทพูดถึงเรื่องราวประหลาดๆ ตั้งแต่การอนุรักษ์โลก ชีวิตฮิตเลอร์ สุขภาพของแม่ บลาๆ เรียกว่าครึ่งชั่วโมงแรกนี่มีงงแน่ว่าเรื่องราวกำลังนำเสนออะไร ซึ่งจริงๆ แล้วผู้กำกับแค่พยายามปูพื้นให้เห็นความคิดของตัวละครในครอบครัวนี้แก่ผู้ชมเท่านั้น ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของหายนะจากแก๊สพิษรั่วในเมืองเล็กๆ ที่ทุกคนต่างหนีตายกันแบบไม่คิดชีวิต จนกลายเป็นอุบัติเหตุที่พาให้ครอบครัวนี้เฉียดตายอย่างไม่คาดคิด ซึ่งแจ็คตัวพ่อเองที่มีนิสัยยังไงก็ได้ ไม่ได้คิดอะไรมากแบบลูกที่วิตกทุกอย่างสุดๆ ก็เหมือนได้รู้ว่าคนเรามันจะตายก็ตายได้ง่ายๆ อย่าไปคิดว่าไกลตัวอะไร ซึ่งตัวเรื่องครึ่งแรกนี่คือการพาผู้ชมไปสู่ชีวิตต่อมาของครอบครัวนี้หลังจบภัยแก๊สพิษแล้ว
ครึ่งหลังของเรื่องคือชีวิตครอบครัวที่ต้องเจอกับเรื่องประหลาดที่ช่วงแรกเนื้อเรื่องตั้งใจทิ้งไว้ให้สงสัยว่า แม่กินยาอะไร ที่บลูกๆ พยายามหาคำตอบ จนในที่สุดคำตอบนั้นก็ถูกเผยออกมาเป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ประหลาดพิลึก เกี่ยวกับความตายที่เป็นประเด็นของเรื่อง แล้วก็กลายเป็นเรื่องดราม่าตลกๆ จบแบบสวยๆ ออกเพี้ยนๆ พาให้ผู้ชมที่ดูมาทั้งเรื่องคงงงๆ เหมือนกันว่านี่มันหนังอะไร ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมากครับเพราะนี่เป็นผลงานที่ติสๆ ติดตลกเสียดสีชีวิตกับความตายแค่นั้นแหละ
ปัญหาของเรื่องจริงๆ มันคือการพยายามให้คนงงกับหลายเรื่องปนๆ กันมากไปหน่อย คือแทนที่จะโฟกัสแค่ 2 เรื่องราวหลักที่เล่าไว้ แต่ตัวเรื่องพาไปชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะซูเปอร์มาเก็ต มันเลยทำให้ผู้ชมคงค่อนข้างงงว่าใส่มาทำไม ซึ่งอาจจะมีนัยยะอะไรก็ตาม แต่มันก็ยังไม่ค่อยเข้ากับเรื่องหลักสองช่วงที่นำเสนอนัก พาลให้มุกตลกในเรื่องไม่ค่อยขำ ออกแนวลึกเกินไป (แต่บางจุดก็ขำใช้ได้) ซึ่งรวมๆ แล้วเหมือนมาดูอดัม ไดร์เวอร์กับเกรตา เกอร์วิก เล่นซะมากกว่าตัวบทเรื่องราวจริงๆ
นี่คือหนังติสโดยแท้ ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องดูก็ได้ แนะนำว่าข้ามไปเลยดีกว่า แม้จะเป็นแฟนผลงานของผู้กำกับคนนี้ก็ตามทีครับ