รีวิวสารคดี Why Did You Kill Me? คุณแม่ตามล่าฆาตกรผ่านโซเชียลมีเดียในอดีต myspace.com
Why Did You Kill Me?
สรุป
สารคดีที่ตัดตัวอย่างมาหลอกคนดูเยอะไปว่ามีการสืบหาล่าคนร้ายผ่านโซเชียลมีเดีย แต่กลายเป็นเรื่องราวบางส่วนนิดเดียวที่ไม่ได้มีผลอะไรมาก และก็เป็นคดีเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ที่โซเชียลมีเดียสมัยนั้นคือเว็บบล็อก myspace.com ไม่ใช่รูปแบบโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน
Overall
5.5/10User Review
( votes)Pros
- การจำลองเรื่องราวด้วยฟิกเกอร์
- การใช้เว็บบล็อกปลอมเป็นคนตายหลอกให้ผู้ต้องสงสัยหลงรัก
Cons
- การใช้โซเชียลมีเดียในเรื่องไม่ได้มีความสำคัญมากอย่างที่คิด
- รูปแบบการจำลองด้วยฟิกเกอร์ไม่ใช่จากตัวคุณแม่ทำเองจนดูเฟค
- คดีไม่ได้มีอะไรพิเศษมากขนาดที่ต้องดู
Why Did You Kill Me? ล่า ฆ่า ออนไลน์ ภาพยนต์สารคดี Netflix เรื่องราวของคุณแม่ที่ตามล่ามือปืนที่ยิงลูกสาวตายและไม่ได้รับโทษ โดยการปลอมตัวสืบหาคนร้ายผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อหวังล้างแค้นด้วยมือของตัวเอง
ตัวอย่าง Why Did You Kill Me? ล่า ฆ่า ออนไลน์
สารคดีเรื่องนี้ทำจากคดีเมื่อ 20 ปีก่อน สมัยที่ยังไม่มีเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ มีแค่เว็บบล็อก myspace.com ที่ฮิตสุดๆ ในยุคนั้นเป็นตัวแทนโซเชียลมีเดียในเรื่องนี้ ที่เป็นประเด็นสำคัญของสารคดีเรื่องนี้ จากที่คุณแม่ของลูกสาวที่ถูกฆาตกรรม ปลอมตัวเป็นลูกสาวมาเล่นเว็บบล็อกสืบหาคนร้ายที่คาดว่าเป็นเพื่อนในบล็อกของลูกสาวเธอ
คดีฆาตกรรมในเรื่องนี้ผู้ตายคือ สาววัย 24 คริสตัล ธีโอบาลด์ ที่อยู่ดีๆ ก็ถูกมือปืนยิงคารถที่กำลังนั่งไปกับพี่ชาย โดยมีแม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย และด้วยการตายของเธอไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ตำรวจไม่สามารถหาคนร้ายตัวจริงมาลงโทษได้ในขณะนั้น ด้วยความแค้นคุณแม่จึงลงมือสืบด้วยตัวเองผ่านเว็บบล็อก ด้วยความช่วยเหลือของลูกสาวอีกคนที่เป็นน้องของคริสตัลยังเด็กๆ อายุ 14 ที่คิดว่าจะได้เบาะแสคนร้ายผ่านเว็บบล็อกนี้ ที่บัญชีของพี่สาวมีความเชื่อมโยงกับแก๊ง 5150 แก๊งวัยรุ่นที่คุมย่านนั้นอยู่ และก็ใช้รูปของพี่สาวเป็นตัวล่อปลอมเป็นเหมือนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ จนนำมาสู่เรื่องราวการตามจับคนร้ายได้ในที่สุด แม้เวลาจะผ่านมาถึง 22 ปีถึงได้รับการตัดสิน
สารคดีเรื่องนี้ดูจากตัวอย่างและโครงเรื่องแล้วมีความน่าสนใจ แอบคล้ายสารคดีดัง Don’t Fuck With Cats แมว**ห้ามใครแตะ ที่เป็นแนวสืบสวนหาคนร้ายผ่านโลกออนไลน์เช่นกัน แต่ต้องบอกว่ารู้สึกผิดหวังที่สารคดีเอาเรื่องออนไลน์มาหลอกล่อคนดูมากกว่า เพราะตัวเรื่องจริงๆ ที่เกี่ยวกับการออนไลน์มีนิดเดียว อาจจะสำคัญกับคดี แต่ก็ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมาก แค่ตัวแม่ในเรื่องปลอมตัวเป็นลูกสาวและคุยกับคนที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดี แต่ก็ไม่สามารถสืบได้ จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจจะลงมือเอง ด้วยการนัดคนในแก๊ง 5150 มาฆ่า แต่ว่าเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรไปถึงตรงนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว มีแค่บทสัมภาษณ์ว่า ตอนนั้นคิดจะทำ แค่นั้นเองจริงๆ แต่ตัวอย่างกับชื่อเรื่องตัดมาซะดูเหมือนมีการล่าฆ่าออนไลน์ ซึ่งไม่มีอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย เป็นแค่การแชทคุนหลอกให้อีกฝ่ายตกหลุมรักแค่นั้น แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จบด้วยการเปิดตัวยิงคำถามไปยังคนในแก๊งที่ต้องสงสัย ด้วยประโยค Why Did You Kill Me? แกฆ่าฉันทำไม ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา…
สารคดีพยายามจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตด้วยฟิกเกอร์จำลอง และให้คุณแม่มาขยับตัวฟิกเกอร์เพื่อเล่าเรื่องที่เห็นในตอนนั้นให้ผู้ชมฟัง ซึ่งก็ดูเป็นการนำเสนอที่ดี แต่มันค่อนข้างขัดกับความจริงที่ว่าตัวคุณแม่เองก็ไม่ได้สร้างฟิกเกอร์นี้ขึ้นมาเพื่อสืบสวนทบทวนเรื่องราว แต่สารคดีกลับทำเหมือนให้เข้าใจว่าแบบนั้นจากตัวอย่าง เลยกลายเป็นเหมือนการเฟคในส่วนนี้เพื่อหวังสร้างอารมณ์ของเรื่องให้ดูตื่นเต้นขึ้น จากความพยายามของคุณแม่นอกเหนือจากการเข้าไปเล่นเว็บบล็อกเท่านั้น
เนื้อหาอีกส่วนที่เล่าควบคู่กันไปคือการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ในเรื่อง ที่พึ่งมาทำคดีนี้เป็นคดีที่สองในชีวิต คดีแรกคนร้ายหนีรอดไปได้ยังปิดไม่ลง ทำให้เขาต้องมุ่งมั่นไม่ให้ทำพลาดซ้ำอีก ซึ่งมีความน่าสนใจตรงฟุตเทจจริงในเรื่องตอนหว่านล้อมผู้ต้องสงสัยจากแก๊ง 5150 ให้พยายามเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้น และก็นำมาสู่การได้พยานปากเอกสำคัญที่ให้การหักหลังแก๊งจนบ้านโดนเผา ตัวตำรวจนายนี้เองจริงๆ คือคนที่ลงมือสืบสวนทั้งหมด และได้รับรู้ว่าแม่ของคริสตัลใช้เว็บบล็อกช่วยสืบด้วย แต่เขาก็ให้หยุดในภายหลังเพราะดูแล้วแม่ค่อนข้างคุมอารมณ์ไม่อยู่ และเริ่มทำให้งานสืบสวนของเขามีปัญหาไปด้วย ซึ่งก็ยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องการสืบออนไลน์ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นจุดสำคัญที่ช่วยพลิกคดีแต่อย่างใด
ตัวเรื่องมีความยาว 1 ชั่วโมง 23 นาที สั้นๆ เรื่องราวไม่ได้ยืดอะไรมาก เป็นสารคดีที่ตัดสลับบทสัมภาษณ์กับการจำลองเหตุการณ์ไปตามปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก แต่พยายามใช้ดนตรีบิ้วอารมณ์ตลอดเวลา ซึ่งก็อาจจะแค่ช่วยไม่ให้ง่วงได้เท่านั้น เพราะตัวเรื่องจริงๆ จนจบก็ยังถือว่าเป็นคดีที่ไม่ได้พิเศษอะไรมาก แต่มีจุดขายตรงการใช้โซเชียลมีเดียในยุคนั้นมาร่วมด้วยเท่านั้นครับ เรียกว่าดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ แต่ถ้าใครสนใจอยากดูแนวสืบสวนสารคดีดีๆ แบบแนะนำห้ามพลาดเลยคือ Don’t Fuck With Cats นี่แหละครับ รับรองเลยว่านี่คือสุดยอดสารคดีสืบสวนแกะรอยจากโซเชียลมีเดียที่น่าทึ่งมากๆ