playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Wonderland (Netflix) จำลองโลกหลังความตายด้วย AI ได้ธรรมดามาก..

Wonderland

Summary

สรุปแล้ว “Wonderland” เป็นภาพยนตร์ดราม่าไซไฟที่นำเสนอแนวคิด AI จำลองโลกเสมือนให้คนที่ตายไปได้กลับมาพูดคุยกับคนรักอีกครั้ง แต่พล็อตนี้ไม่ได้สดใหม่ และแม้จะเป็นผลงานจากเกาหลี การเล่าเรื่องก็ยังค่อนข้างธรรมดา ภาพยนตร์เน้นการรวมดาราชั้นนำมากกว่า และปัญหาของแต่ละคู่ที่เชื่อมโยงกับ AI ก็ทำให้แนวไซไฟดูมีช่องโหว่อยู่บ้าง

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • AI จำลองโลกเสมือนให้คนที่ตายไป
  • รวมดาราเกาหลีกับจีนตัวท็อป
  • มีพากย์ไทย

Cons

  • พล็อตไม่สดใหม่และเรื่องก็ธรรมดา
  • มีช่องโหว่ในมุมไซไฟ

Wonderland วันเดอร์แลนด์ ภาพยนตร์เกาหลี Original Netflix นำเสนอแนวคิดบริการโลกเสมือนจริงที่ใช้ AI จำลองชีวิตของผู้เสียชีวิตหรือผู้ป่วยโคม่า เพื่อให้ครอบครัวและคนรักได้สื่อสารราวกับพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ ความสัมพันธ์รูปแบบนี้จะสามารถทดแทนชีวิตที่สูญเสียไปและยั่งยืนได้จริงหรือไม่?
Wonderland (2024) on IMDb

รีวิว Wonderland วันเดอร์แลนด์ Netflix

แม้ว่า AI ในโลกจริงเพิ่งเริ่มแพร่หลายในช่วงนี้ แต่แนวคิด AI จำลองโลกหลังความตายไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการภาพยนตร์ เราเคยเห็นไอเดียนี้มาก่อนในหลายผลงาน เช่น “Her” ที่จำลองเพื่อนและคนรักให้สนทนากัน ซีรีส์ “Black Mirror” ของ Netflix ก็เคยนำเสนอแนวคิดคล้ายกัน หรือแม้แต่ซีรีส์ดังของ Amazon Prime อย่าง “Upload” ก็มีเนื้อหาใกล้เคียงมาก โดยเป็นบริษัทที่รับสร้างจำลองชีวิตคนตายให้มาพูดคุยกับคนเป็นได้ แต่ใช้วิธีดูดข้อมูลก่อนตายลงไปในโลกจำลองที่ทำไว้แล้วรวมกัน ในขณะที่ “Wonderland” ให้ผู้ใช้บริการหรือคนรักเลือกโลกที่ชอบเองได้ เนื่องจากเป็น AI ไม่ใช่ตัวจริง ด้วยเหตุนี้ ไอเดียนี้จึงอาจดูเชยจนไม่น่าสนใจไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังดึงดูดความสนใจได้คือการที่เรื่องนี้มาจากเกาหลี ซึ่งขึ้นชื่อในด้านการสร้างดราม่า นั่นคือสิ่งที่ผู้ชมคาดหวังว่าจะทำได้ดี

เรื่องราวถูกนำเสนอในรูปแบบคล้ายหนังสั้นหลายเรื่องมารวมกัน โดยใช้นักแสดงชั้นนำของวงการมาร่วมแสดง ได้แก่ แบซูจี คู่กับ พัคโบกอม, กงยู คู่กับ ถังเหว่ย (นักแสดงจีน), จองยูมี คู่กับ ชเวอูชิก โดยแต่ละคู่ใช้บริการของ Wonderland ในรูปแบบที่แตกต่างกัน แบซูจีกับพัคโบกอมเป็นเรื่องของหญิงสาวที่แฟนนอนโคม่า จึงให้ AI สร้างเขาให้เป็นนักบินอวกาศตามความฝัน กงยูกับถังเหว่ยเป็นเรื่องของนักโบราณคดีสาวที่ทำงานในต่างประเทศ โดยมีกงยูเป็นผู้ดูแลที่คอยเอาใจใส่ ในขณะที่เธอมีปัญหากับแม่ที่ซื้อบริการนี้มาเพื่อให้หลานได้พูดคุย ส่วนจองยูมีกับชเวอูชิกเป็นเจ้าหน้าที่ของบริการนี้ที่ต้องคอยช่วยเหลือทุกคนทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน โดยที่จองยูมีเองก็ใช้บริการนี้กับพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน และถูกพ่อแม่บ่นเรื่องลูกสาวไม่มีแฟนสักที

ด้วยโครงสร้างที่คล้ายหนังสั้นหลายเรื่องมารวมกัน แต่ละเรื่องจึงมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการเล่าเรื่องสั้นๆ ก่อนตัดสลับไปคู่อื่น ในช่วงแรก การดำเนินเรื่องพยายามไม่เปิดเผยรายละเอียดขั้นตอนการทำงานของบริการนี้ แต่ค่อยๆ เผยออกมาทีละน้อย เช่น มีการจ่ายค่าบริการ การซื้อของใช้ส่งไปให้ การมีแบ็คอัพสำรอง และกฎที่ห้ามไม่ให้ AI รู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว เพราะโลกที่สร้างนั้นสมจริงจน AI เชื่อว่ามีตัวตนจริงๆ นอกจากนี้ยังสามารถพูดคุยกับคนปกติผ่านมือถือได้ตลอดเวลา โดยโทรวิดีโอคอลเห็นหน้ากันได้ง่ายๆ และทีมงานยังสามารถเข้าไปในโลกนั้นได้ด้วย การที่เรื่องค่อยๆ เปิดเผยรายละเอียดเหล่านี้ก็เพื่อสร้างจุดเชื่อมโยงไปสู่ช่วงดราม่าชีวิตคู่ของแต่ละคน ซึ่งเป็นวิธีการวางฉากอธิบายที่ดี

อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ยังขาดความสมเหตุสมผลในบางแง่มุม เพราะดูไม่น่าเชื่อว่าบริษัทที่ให้บริการแบบนี้จะไม่คิดวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ไว้ล่วงหน้าก่อนเปิดให้บริการ เช่น หาก AI รู้ว่าตัวเองตายไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น? หรือกรณีที่คนที่โคม่าฟื้นขึ้นมา แต่ตัวตน AI ยังคงสนทนาอยู่กับแฟนสาวที่ดูเหมือนจะรัก AI มากกว่า หรือแม้แต่การรีเซ็ต AI ก็มีปัญหาว่าจะทำลายตัวตนเดิมและได้คนใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมออกมา (แม้จะมีแบ็คอัพไว้ก็ตาม) ช่องโหว่เหล่านี้อาจทำให้ผู้ชมที่ชื่นชอบไซไฟจริงจังเกิดคำถามในใจตลอดเวลา จนอาจไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ดราม่าที่เรื่องพยายามสร้างขึ้นได้ ภาพยนตร์ทำได้เพียงการเล่าเรื่องดราม่าชีวิตในโลกสองฝั่งที่เกิดขึ้นในช่วงแรกให้ดูเป็นชีวิตหลังความตายที่สวยงาม ก่อนจะใส่ปัญหาเข้าไปและคลี่คลายปมอย่างง่ายดาย ไม่ได้ลึกซึ้งอย่างที่คาดหวังไว้

ในด้านภาพ CG ในเรื่องมีคุณภาพดีได้มาตรฐาน แต่ไม่ได้ใช้มากนักเพราะโลกเสมือนนั้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นโลกจริงปกติ มีเพียงฉากของพัคโบกอมที่อยู่ในอวกาศ โดยเขาสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหมือนอยู่บ้าน ซึ่งดูแปลกประหลาดในตอนแรกที่เรื่องยังไม่ได้เฉลย นอกจากนี้ยังมีฉากถ่ายในทะเลทรายที่น่าจะยกกองไปถ่ายทำจริง ทำให้เรื่องดูแปลกตาขึ้น แต่ส่วนใหญ่ฉากจะวนเวียนอยู่ที่เดิมตลอดเพราะเรื่องถูกจำกัดขอบเขตข้อมูลไว้ (หากจะออกนอกเขต ทางผู้สร้างจะมีกลไกป้องกันไม่ให้ข้ามไป)

สรุปแล้ว “Wonderland” เป็นภาพยนตร์ดราม่าไซไฟที่นำเสนอแนวคิด AI จำลองโลกเสมือนให้คนที่ตายไปได้กลับมาพูดคุยกับคนรักอีกครั้ง แต่พล็อตนี้ไม่ได้สดใหม่ และแม้จะเป็นผลงานจากเกาหลี การเล่าเรื่องก็ยังค่อนข้างธรรมดา ภาพยนตร์เน้นการรวมดาราชั้นนำมากกว่า และปัญหาของแต่ละคู่ที่เชื่อมโยงกับ AI ก็ทำให้แนวไซไฟดูมีช่องโหว่อยู่บ้าง

รวมรีวิว Netflix คลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!