playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว You Are My Spring (Netflix) ซีรีส์เกาหลีที่ชื่อหวานแหววแต่เป็นแนวฆาตกรรมโรคจิต (ไม่สปอยล์)

You Are My Spring

สรุป

ซีรีส์แนวโรแมนติกผสมสืบสวนตามหาฆาตกรโรคจิต ซึ่งเอาจริงๆ พล็อตไม่ได้ใหม่อะไรมาก ตัวเรื่องเทน้ำหนักไปที่ฉากรักตลกกุ๊กกิ๊กของพระเอกนางเอกเยอะถึง 70-80% ในแต่ละตอน แต่แทรกปมอาชญากรรมเข้ามาคั่นเรื่องนิดหน่อย ซึ่งแม้ปมอาชญากรรมในเรื่องจะดูลึกลับน่าสนใจตั้งแต่เรื่องเริ่มสตาร์ทฉากแรก แต่การกั๊กไว้เยอะแทบไม่ค่อยเดินเรื่องตรงนี้ ก็เลยทำให้ตัวเรื่องดูยืดหมดเวลาไปกับฉากโรแมนติกเป็นหลัก อาจจะดูเพลินๆ ได้ แต่ก็ไม่ได้น่าติดตามอะไรมาก

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
5 (2 votes)

Pros

  • ฉากรักตลกแบบโรแมนติกเยอะ
  • ปมอาชญากรรมดูซับซ้อนมาก
  • มีเรื่องไซโคจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะ

Cons

  • เนื้อเรื่องเทไปเรื่องรักเยอะมากจนไม่บาลานซ์กับแนวสืบสวน
  • พระเอกนางเอกไม่ได้หล่อสวยหรือเสน่ห์มาก
  • เล่าปมอาชญากรรมในเรื่องแบบกั๊กมาทีละนิดจนดูไม่ต่อเนื่อง
  • มีจังหวะสโลวทำฉากยืดเกินจำเป็นหลายครั้ง

 

ADBRO

You Are My Spring เธอคือรักที่ผลิบาน ซีรีส์เกาหลี Netflix ที่ชื่อหวานชวนให้คิดว่าเป็นแนวโรแมนติก แต่ความจริงเป็นแนวสืบสวนฆาตกรต่อเนื่องที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวความรักอีกที

 You Are My Spring (2021) on IMDb

ตัวอย่าง You Are My Spring เธอคือรักที่ผลิบาน

รีวิวมีสปอยล์เนื้อหาบางส่วนช่วงแรกนิดหน่อย ตอนนี้อัพเดทถึง EP6

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นส่วนผสมของแนวยอดฮิตเกาหลีรักผสมฆาตกรรม ซึ่งเป็นการเขียนบทแบบตั้งใจรวมส่วนผสมสองอย่างนี้ให้เข้ากันลงตัวให้ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วแนวรวมแบบนี้ก็ไม่แปลกใหม่อะไร เพราะมีหลายเรื่องทำมาก่อน อย่างที่ดังๆ ก็ Oh My Ghost แต่โดยทั่วไปคือตัวเรื่องมักจะมาหักมุมกลางเรื่องเพื่อเข้าสู่อีกแนวที่วางไว้ แต่เรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นฉากแรกก็เปิดมาให้เห็นคดีที่ดูเหมือนฆ่าตัวตายปริศนา แล้วไล่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนๆ นี้ โดยเรื่องราวถูกโฟกัสไว้ที่นางเอก คังดาจอง (รับบทโดย Seo Hyun-Jin) ผู้ซึ่งมีบาดแผลในวัยเด็กพ่อทำร้ายแม่จนต้องพาหนีออกมากับน้องชายเมื่อตอนยังเด็ก และเมื่อโตขึ้นมาเธอกลับมีปัญหาการคบหาเป็นแฟนกับใครก็มักจะเจอแต่ผู้ชายสร้างปัญหา จนเมื่อเธอพบกับ จูยองโด (รับบทโดย Kim Dong-Wook) จิตแพทย์ร่วมตึกที่พักอาศัยเดียวกัน และทำนายทายทักปัญหาของชีวิตเธอได้อย่างแม่นยำราวกับตาเห็น และเริ่มแอบชอบเธอขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกันเธอก็พบกับหนุ่มหล่อขี้ตื้อที่แวะเวียนมาจีบตลอดเวลาอย่าง ชเวจองมิน (รับบทโดย Yoon Park) ซึ่งเอาความใจใส่ของเขาก็ทำให้เธอเริ่มตกหลุมรักครั้งใหม่อีกครั้ง ในขณะที่จูยองโดกลับรู้สึกว่าหนุ่มคนนี้ผิดปกติทางจิต และพยายามสืบหาว่าเขาคือใคร และเข้ามาสนิทสนมกับคังดาจองด้วยเหตุผลอะไรกันแน่

ตัวเรื่องตอน 1-2 เป็นส่วนผสมของแนวปริศนากับความรักได้อย่างลงตัว เรื่องราวพยายามปูอดีตของนางเอกที่มีปมบางอย่างกับตัวละครหลักในปัจจุบัน และก็มีความชอบอะไรที่เป็นเรื่องปริศนาแปลกๆ อย่างแมวดำ กับความเจ็บช้ำรักที่ผ่านมารวมกันจนไม่กล้าเปิดใจให้ใครอีกต่อไป แต่เธอก็ยังมีแรงดึงดูดผู้ชายแย่ๆ เข้ามาไว้ที่ตัว ซึ่งตัวเรื่องเล่นกับพฤติกรรมจิตๆ ของ ชเวจองมิน ที่หน้าฉากกับนางเอกเขาคือผู้ชายที่มีเสน่ห์พร้อมทำอะไรก็ได้ให้เธอรัก แต่พออยู่กับคังดาจองที่เป็นพระเอกของเรื่องนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จนพระเอกวินิจฉัยว่าเขาเป็น โรคโซซิโอพาธ (Sociopath) ไม่แคร์ผู้อื่น ต่อต้านสังคม และอาจจะเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมปริศนาที่ปิดไม่ได้ที่ตึกแห่งนี้ที่เป็นที่พักกับที่ทำงานของพระเอกนางเอก ซึ่งตัวเรื่องหลอกล่อและเล่นกับความรู้สึกนางเอกที่เริ่มมีใจให้เขาได้เป็นอย่างดี จนคนดูคงรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้น่าจะเดินเรื่องไปในทิศทางนี้ซึ่งเอาจริงๆ ก็สนุกและน่าติดตามมากด้วย แต่เมื่อจบ EP2 เรื่องราวทั้งหมดจึงหักมุมเฉลยฉากเปิดเรื่องในตอนแรก ซึ่งหลังจากนี้ไปคือเมนหลักจริงๆ ของเรื่องนี้

ต้องบอกว่าการหักมุมแบบสุดๆ ในตอนจบของ EP2 ทำให้เรื่องดูน่าติดตามมาขึ้นมาก แต่มันกลับน่าผิดหวังเมื่อเรื่องกลับมาเดินหน้าในแนวที่แตกต่างจากสองตอนแรกเหมือนหนังคนละม้วน จากตอนแรกที่เป็นแนวรักผสมสืบสวนไซโคจิตวิทยาที่ค่อนข้างให้น้ำหนักพอๆ กัน แต่หลังจากนี้ไปแทบจะเป็นหนังรักเต็มตัว กินเวลาไป 70-80% ในแต่ละตอน โดยตัวเรื่องเปิดทางให้พระเอกอย่างจูยองโดเริ่มเข้ามามีบทบาทปกป้องและแอบจีบนางเอกแบบเนียนๆ จนกลายเป็นแนวโรแมนติกกุ๊กกิ๊กักนตลอดเรื่อง เมื่อนางเอกกลายเป็นคนที่ฝังใจกับความสัมพันธ์แย่ๆ มากกว่าเดิมจนไม่อาจจะเปิดใจได้อีกแล้ว ก็เลยเอาจุดนี้มาเดินเรื่องให้พระเอกเข้ามาเทคแคร์เยียวยาจิตใจของเธอ จนกลายเป็นการปลูกต้นรักใหม่อีกครั้งสมกับชื่อเรื่องนี้เลย ซึ่งถ้ามองในมุมของแนวรักโรแมนติกเรื่องนี้ทำได้ดีเลย แม้พระเอกนางเอกอาจจะไม่ได้สวยหล่อมาก แต่ก็ดูได้สนุกเพลินๆ อยู่ เพียงแต่ว่าปัญหามันคือส่วนคดีฆาตกรรมที่เรื่องเปิดทิ้งไว้ในสองตอนแรกนี่แหละที่มันแทบหายไปจากเรื่องหลักเลย

เนื้อเรื่องส่วนคดีฆาตกรรมที่เปิดไว้แบบโคตรปริศนา ทั้งในอดีตที่นางเอกอาจจะรู้จักกับคนร้าย หรือตัวละครอย่าง ชเวจองมิน จริงๆ แล้วคือใครกันแน่ ตัวเรื่องเปิดตัวละครใหม่ เอียน เชส หมอจากอเมริกาที่กลับมาเกาหลี แถมมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ ชเวจองมิน อย่างกะแฝด ตัวเรื่องพยายามใส่ปริศนาเข้ามาต้นเรื่องของทุกตอน แต่ก็ไม่ได้ช่วยคลายปมอะไร กลับกลายเป็นการสะสมปริศนาให้งงขึ้นเรื่อยๆ ว่าตัวละครเหล่านี้มาเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับนางเอกของเรื่อง ในระหว่างตอนจะมีฉากสั้นๆ ที่เกี่ยวกับการสืบสวนทั้งของตัวพระเอกกับตำรวจที่พยายามปิดคดีฆาตกรรมปริศนาหลายคดีต่อเนื่องกันในอดีต แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ (พระเอกช่วยงานเป็นที่ปรึกษาตำรวจ) ซึ่งมันสั้นมากจริงๆ เหมือนเรื่องพยายามขยักปกปิดไว้เต็มที่ ในระหว่างเดินเรื่องรักเต็มสูบไปด้วย แล้วตอนท้ายของทุกตอนก็จบลงด้วยการวกกลับมาเรื่องฆาตกรรมต่ออีกนิดหน่อย วนไปวนมาแบบนี้จนถึงตอน 6 ล่าสุดของรีวิวที่เขียนนี้ตัวเรื่องส่วนนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน จนกลายเป็นความยืดยาดของเรื่อง เหมือนเรื่องจริงๆ มีนิดเดียวแค่นั้น

ตัวเรื่องนอกจากตัวละครหลักที่กล่าวมาแล้ว ก็พยายามเสริมให้มีเรื่องราวความรักของตัวละครรอง อย่างเมียเก่าพระเอกที่หย่าไปเป็นดาราดังก็มาคบกับไอดอลดังที่รักเธอสุดๆ แต่เธอกลับยังมีเยื่อใยกับพระเอก ตัวเรื่องพยายามให้เป็นเหมือนรัก 4 เส้ากลายๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นเนื้อหาเข้มข้นอะไร ออกแนวตลกๆ แบบแอบเข้าใจกันผิดกันเป็นทอดๆ แค่นั้น ซึ่งก็เลยทำให้ตัวเรื่องรักๆ ยิ่งยืดเข้าไปอีก (จากที่แค่ฉากกุ๊กกิ๊กพระเอกนางเอก็ว่าเยอะแล้ว)

You Are My Spring ฉายทุกวันจันทร์ อังคาร หลัง 3 ทุ่มไปทาง Netflix

อ่านรีวิวซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องอื่นคลิกที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!