รีวิว Zombieland Double Tap ภาคต่อที่โหด มันส์ ฮา ซึ้งกว่าภาคแรก
Zombieland Double Tap
สรุป
หนังภาคต่อที่ทำได้เหนือกว่า ฮากว่า ซาบซึ้งกว่า แต่หนังก็ต้องพึ่งพาการเข้าใจมุกคลาสิคเก่าแก่หลายอย่าง รวมถึงความต่อเนื่องจากภาคแรก (ดูได้ผ่าน Netflix) ซึ่งอยากให้ดูกันก่อนไปชมจะทำให้ดูเข้าใจเรื่องราวต่อเนื่องสนุกกว่า
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- ตลกพร้อมซึ้งไปในตัว
- ซอมบี้โหดกว่าเก่ามาก
- นักแสดงไม่เปลี่ยนทีม มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
- ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาสุดฮา
Cons
- มุกตลกหลายอย่างของหนังออกแนวคลาสิคเก่าหน่อยยุค 80s 90s คนใหม่อาจจะตามไม่ทัน
- เส้นเรื่องยังคงสูตรแบบเดิมกับการตามหาบ้านและสมาชิกที่หายไป
Zombieland Double Tap หรือ ซอมบี้แลนด์ 2 ภาคต่อของหนังซอมบี้แหวกแนวที่เน้นฮากระจาย เรื่องดังในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนกลับมาอีกครั้ง ถ้าใครคิดจะดูภาคใหม่นี้แนะนำเลยว่าควรจะดูภาคแรกก่อน เพราหนังมีความต่อเนื่องจากภาคแรก รวมถึงมุกที่นำมาเล่นในภาคใหม่ก็สืบเนื่องจากภาคแรกที่ปูพื้นไว้ทั้งนั้น ถ้าไม่ดูมาก่อนอาจจะงงไม่ขำ กลายเป็นมุกไม่ฮาพาแป๊กได้ ดูภาคแรกเมื่อปี 2009 ผ่าน Netflix ได้ที่นี่
ตัวอย่างหนัง Zombieland Double Tap ซอมบี้แลนด์ 2
ซอมบี้แลนด์ เป็นเรื่องราวของโลกที่ได้ล่มสลายลงจากการที่มนุษย์ติดเชื้อซอมบี้ และตัวหนังเป็นเรื่องราวการเอาชีวิตรอดด้วยกฎสุดฮาของคน 4 คน (เล่นโดย 4 นักแสดงคนเดิม Jesse Eisenberg, Woody Harrelson, Emma Stone และ Abigail Breslin) ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันในโลกแห่งนี้ โดยเรื่องราวหลังเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดในภาคแรก สหรัฐฯกลายเป็นเมืองที่รกร้างไร้ผู้คน เหล่าแก๊งซ่าส์ล่าซอมบี้จึงได้ออกเดือนทางไปยึดสถาณที่ดังๆ ของสหรัฐมาใช้ทำเป็นบ้านของตัวเอง ซึ่งที่มั่นในภาคนี้ก็คือ “ทำเนียบขาว” ที่ทำงานและที่พักของประธานาธิบดีสหรัฐนั่นเอง แน่นอนว่ามุกฮาๆ ก็ต้องเกี่ยวกับเรื่องราวในทำเนียบขาวทั้งหลาย แต่นั่นเป็นแค่น้ำจิ้มที่ใส่ไว้ตอนเริ่มเรื่องเท่านั้น สุดท้ายเรื่องราวก็วนกลับไปแบบภาคแรกอีกครั้ง เมื่อ Wichita กับ Little Rock พี่น้องสาวมิจฉาชีพ ที่ใช้เสน่ห์กับมุกตอแหลตบรถตบปืนเหยื่อผู้เคราะร้ายทำให้เอาตัวรอดกันมาได้สองคนตลอด และเมื่อต้องมาอยู่กับแก๊งพระเอก Tallahassee กับ Columbus จนสนิทกันเหมือนครอบครัวมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เกิดอาการอินดี้อยากกลับไปอยู่แบบเดิม ด้วยกฎข้อห้ามผูกมัดมีสัมพันธ์กับใครที่นางตั้งไว้ ทั้งคู่จึงหนีไปพร้อมรถแบบเดิม ซึ่งถ้าใครดูภาคแรกมาก็คงขำว่าสองพระเอกของเราเจอฤทธิ์เดชความอินดี้ติสแตกของนางเข้าอีกแล้ว
แต่หนังไม่ได้ให้สองหนุ่มตามหาสองสาวแบบภาคแรก หนังเดินเรื่องราวลึกซึ้งขึ้นกลายเป็นว่าทำเอาทั้งคู่ซึมทั้งอกหักและถูกเด็กที่เหมือนลูกทิ้งแบบไม่รู้อีโหน่อีหน่ว่าตัวเองทำอะไรผิด ซึ่งเป็นการเปิดปมเรื่องราวในภาคนี้ที่เน้นความสัมพันธ์ของผู้คนที่พบเจอและอยู่ด้วยกันว่า นั่นเป็นมิตรภาพที่นำมาสู่ความรักและครอบครัวที่แท้จริงได้แค่ไหน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสทบทวนตัวเองอีกครั้ง หนังพาให้นางเอก Wichita กลับมาหาทีมสองหนุ่มอีกรอบหลังเจอปัญหาว่าโดนน้องสาวที่พึ่งเข้าสู่วัยรุ่นทิ้งเธอไปเหมือนกัน และทุกคนต้องไปช่วยตามหา Little Rock ที่เดินทางไปกับหนุ่มอินดี้โลกสวยไม่มีปืน ตามรอยเอลวิสเพรสลี่ ไปจนถึงดินแดนบาบิโลน ที่ภาคนี้เน้นหยิบจับเล่นมุกนักร้องวงดนตรีดังในอดีตมาเล่นแทนมุกตลกเสียดสีดาราฮอลลีวู๊ดที่รอดชีวิตอย่าง “บิล เมอร์เรย์” ซึ่งบิลมีบทกลับมาในตอนเอนเครดิตภาคนี้ด้วย เป็นเรื่องราวก่อนที่โลกล่มสลายว่าเขาต้องเจออะไรบ้าง ก่อนมาพบจุดจบสุดฮาเพราะโดนโคลัมบัสยิงตายคาห้องดูหนังในบ้านตัวเอง ซึ่งหนังยังเอาเรื่องนี้มาเล่นต่อเนื่องให้เราได้ฮากับความลับที่คนตามหาว่า ใครฆ่า “บิล เมอร์เรย์” หลังโลกล่มสลาย
และไม่ใช่แค่ตัวละครเดิมๆ หนังมีเพิ่มมาอีกหลายคน อย่างเมดิสันสาวไร้สมองจนซอมบี้ไม่กินยัยนี่ (ทฤษฎีโดย Tallahassee) ซึ่งเป็นตัวเรียกเสียงฮาเสริมเพิ่มเข้าทีมได้อย่างไม่น่าเชื่อ (แบบรำคาญไปน่ารักไป) แถมยังเป็นตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวกับปมความรักของพระเอก ซึ่งหนังก็พาตัวเองให้กลายเป็นหนังรักลงลึกถึงเนื้อหาชีวิตคู่เพิ่มเติมต่อจากภาคแรกที่แค่พยายามพิชิตใจนางเอกให้ได้เท่านั้น นอกจากนี้ก็มีเพิ่มสาวสุดโหดให้กับ Tallahassee ได้มีคู่กับเค้าอีกด้วย แถมยังมีทีมคู่หูก็อปปี้เหมือนทีมพระเอกเข้ามาแจมเพิ่ม ซึ่งทำออกมาได้ฮาจากมุกเกทับเรื่องกฎใครเหนือกว่า (อีกฝ่ายใช้คำว่า บัญญัติ ซึ่งดูหนักแน่นจริงจังกว่า กฎ) แต่น่าเสียดายที่หนังเลือกให้เวลากับสองคนนี้สั้นๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าไม่งั้นตัวละครจะเยอะเกินไปจนโฟกัสเรื่องราวไม่ได้แล้ว
นอกจากคนที่มีเรื่องราวเพิ่มเติมมา ซอมบี้เองก็มีวิวัฒนาการแกร่งขึ้น อึดขึ้น ไวขึ้น ซึ่งหนังเปิดมาตอนแรกก็แนะนำพวกนี้ทันทีว่ามี 3 แบบ แต่ถูกนำมาใช้แค่ตัวใหม่ที่เปิดมากลางเรื่อง โดยเจ้าตัวนี้จะอึดเป็นพิเศษเลยถูกเรียกว่า T-800 ตามชื่อหนังคนเหล็กภาคแรก ซึ่งตั้งชื่อโดย Columbus หนุ่มเนิร์ดเจ้าเก่านั่นเอง ซึ่งเจ้า T-800 นี่ก็ได้บทหลักเป็นฝูงซอมบี้ที่แห่กันมาในตอนท้ายเรื่องแบบ world war z ที่คราวนี้ฆ่าไม่ได้ง่ายๆ แล้วก็ต้องใช้วิธีพิสดารในการจัด หนังทำออกมาได้มันส์สุดๆ ตั้งแต่การขับรถออฟโรดดริฟท์ไล่ขยี้ ไปจนถึงการสร้างกับดักที่ต้องเสี่ยงตายกันสุดๆ นอกจากไคลแม็กซ์ที่มันส์มากๆ แล้ว หนังยังสอดแทรกประเด็นดราม่าซึ้งๆ ไปพร้อมกัน (ในแบบที่นึกไม่ถึงว่าจุดเฉลยเรื่องเชื้อชาติอินเดียนแดงของ Tallahassee จะมาเป็นไคลแม็กซ์ตอนจบแบบนี้ได้)
นี่เป็นหนังภาคต่อที่ทำได้เหนือกว่า ฮากว่า ซาบซึ้งกว่า จากภาคแรกที่ออกจะแค่เกรียนๆ เท่านั้น แต่หนังก็ต้องพึ่งพาการเข้าใจมุกคลาสิคเก่าแก่หลายอย่าง รวมถึงความต่อเนื่องจากภาคแรก ซึ่งอยากให้ดูกันก่อนไปชมจะทำให้เรื่องราวต่อเนื่องสนุกกว่าดูแบบจำอะไรไม่ค่อยได้ หรือว่าไม่เคยดูมาก่อนก็ไม่ค่อยอยากแนะนำให้ดูครับ เพราะคงมึนงงไม่อินกับทั้งมุกฮากับเรื่องราวดราม่าที่หนังสอดแทรกเข้ามาในภาคนี้ ที่เป็นหัวใจหลักของแฟนๆ เลยก็ว่าได้ เรียกว่าทำออกมาเท่าไหร่ เราก็ยังอยากตามดูชีวิตครอบครัวนี้ต่อไปในดินแดน “ซอมบี้แลนด์” แห่งนี้