รีวิว Kleo คลีโอ สายลับสาวน่ารักแบบโหดๆ จากช่วงยุคกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย (ไม่มีสปอยล์)
Kleo
Summary
ซีรีส์สายลับเยอรมันย้อนยุคที่ทำออกมาได้ดีเลยทั้งบทที่ผูกโยงเข้ากับประวัติศาสตร์จริงช่วงกำแพงเบอร์ลินพังลง และนำมันมาเล่นเป็นเงื่อนปมสายลับดังหลายหน่วยในยุคนั้นมารุมตามล่านางเอกคลีโอที่เก่ง+น่ารัก แต่โหดสุดๆ เช่นกัน ตัวเรื่องผูกปมล้างแค้นนางเอกไว้ฆ่าเหยื่อด้วยวิธีพิสดารที่น่าติดตาม มีความรุนแรงโหดติดเรตหลายฉาก แต่ก็ค่อยๆ กลายมาเป็นแนวสายลับทรยศหักหลังโยงใยทฤษฎีสมคบคิดระดับโลกที่น่าติดตาม และเฉลยจบเรื่องเคลียร์ปมทั้งหมดได้ลงตัวในซีซั่นนี้เลย แต่จุดอ่อนของเรื่องก็คงเป็นแนวติดตลกที่บางครั้งบทหาทางออกให้นางเอกง่ายโดยใช้มุกตลกโชคช่วยแทนความสามารถ และก็มีตัวละครกาวๆ ที่ดูจนจบก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องสายลับหลักเลย แต่ให้บทมาเยอะจนดูนอกเรื่องไปมากเช่นกัน
Overall
7.5/10User Review
( votes)Pros
- สายลับสาวน่ารักแบบโรคจิตหน่อยๆ ในธีมเรื่องย้อนยุค
- นักแสดงเล่นได้ดีสวยแบบน่ารักมีเสน่ห์กับน่าเชื่อถือในฉากแอ็กชั่นด้วย
- ผูกโยงเรื่องกับประวัติศาสตร์จริงได้ดีเลย
- งานโปรดักชั่นย้อนยุคที่เก็บรายละเอียดได้ดี
- ตัวเรื่องติดตลกทำให้ดูขำๆ ในบางครั้ง
- เรื่องโหดติดเรต 18+
- จบเคลียร์เรื่องหมดในซีซั่นเดียว
- มีพากย์ไทย
Cons
- อาศัยความตลกมาช่วยให้รอดจนทำให้เรื่องดูง่ายๆ ไปบ้าง
- มีตัวละครกาวสุดๆ ใส่มาเพื่อทำให้เรื่องตลกล้วนๆ จนดูนอกเรื่องไปหลายครั้ง
- บางฉากก็ไม่เมคเซนส์แบบงงๆ เหมือนจะอาศัยความตลกบังหน้าให้ผ่านๆ ไป
Kleo คลีโอ รีวิว Netflix ซีรีส์ Netflix แนวสายลับจริงจังกึ่งตลก 8 ตอนจบ จากเยอรมัน เรื่องราวย้อนไปยุคสมัยปี 1987 สายลับสาวมือหนึ่งของเยอรมันตะวันออกถูกรัฐบาลทรยศหักหลังส่งเธอเข้าคุกหลังปฏิบัติภารกิจเสร็จ แต่เมื่อกำแพงเบอร์ลินพังลงทำให้เธอถูกปล่อยตัวออกมา เธอจึงตามหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในภารกิจนั้น และไล่สังหารคนที่ทรยศหักหลังเธอทุกคน
รีวิว Kleo (ไม่มีสปอยล์)
ซีรีส์เรื่องนี้ปูเรื่องย้อนไปสมัยที่เยอรมันนียังแบ่งออกเป็นตะวันตกกับตะวันออก ตะวันตกปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีอเมริกาสนับสนุน ส่วนตะวันออกเป็นคอมมิวนิสต์เต็มตัว ซึ่งการย้อนปูเรื่องมาช่วงนี้ก็เพื่อเล่าถึงหน่วยสายลับสตาซีที่มีจริงในประวัติศาสตร์ แต่ล่มสลายไปแล้วตามกำแพงเบอร์ลิน ซึ่งการที่เรื่องเป็นแนวย้อนยุคก็ทำให้เซตติ้งโลกดูเก่าๆ ไม่มีอุปกรณ์ทันสมัยแบบปัจจุบัน สายลับในเรื่องจึงเป็นแบบลุยกันดิบๆ ซึ่งนางเอกของเรื่อง คลีโอ ก็เป็นสายลับนักฆ่ามือหนึ่งที่ต้องออกจากคุกมาพบกับการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ทำให้หน่วยงานเก่าของเธอแตกกระจายไปหมด ในเรื่องจึงเป็นการตามล่าล้างแค้นแบบโชว์ให้เห็นว่าความสามารถในการตามรอยกับจัดการเหยื่อของเธอเก่งแค่ไหน ซึ่งมีสารพัดวิธีฆ่าเหยื่อได้แม้จะอยู่ในคุกก็ไม่รอด ซึ่งตรงนี้ตัวเรื่องทำออกมาให้ดูสนุกว่าเธอตามจัดการเหยื่อแต่ละคนได้ยังไง ผ่านวิธีแปลกๆ ที่เธอคิดขึ้นมา และก็มีความรุนแรงติดเรตสูงด้วย
แต่ตัวเรื่องจริงๆ ที่น่าติดตามคือปมว่าทำไมมือหนึ่งของเธอถูกทุกคนทรยศหักหลังแม้แต่ปู่ของเธอก็ร่วมด้วย ซึ่งเรื่องผูกโยงโลกสายลับหลายหน่วยงานทั้ง KGB CIA และของเยอรมันเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องราวจึงซับซ้อนซ่อนเงื่อนและใหญ่โตมาก เป็นความลับที่ใหญ่โตระดับโลกที่บทเขียนขึ้นมาโดยอิงประวัติศาสตร์จริงของเยอรมันกำลังง่อนแง่นหลังเบอร์ลินแตกมาเป็นเงื่อนปมสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเรื่องได้ว่าทำไมคลีโอถึงกลายมาเป็นภัยร้ายที่ทุกหน่วยงานต่างตามล่าตัวเธอ
ในเรื่องเปิดมาคือเราแทบไม่รู้จักคลีโอเลย แต่เรื่องจะค่อยๆ เล่าให้เราเข้าใจเธอขึ้นมาเรื่อยๆ จากนักฆ่าสาวที่ดูไร้ความรู้สึก เราจะค่อยๆ เข้าใจว่าคลีโอเองก็ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว เธอเป็นคนมีความรู้สึกจิตใจ แต่เพียงแค่ถูกทรยศชีวิตพังทลายลงโดยไม่รู้สาเหตุ มีเรื่องราวดราม่าชีวิตที่น่าติดตาม และเรื่องก็หาจังหวะเล่าย้อนอดีตที่มาทั้งหมดว่าทำไมเธอเก่งขนาดได้ในภายหลังใน 1 ตอนเต็มๆ ในตอน 6 ซึ่งช่วยขยายโลกในเรื่องให้ชัดเจนขึ้นว่าตัวละครที่เธอพบเจอมาก่อนหน้านี้เกี่ยวข้องยังไง และยังช่วยปูเรื่องไปยังตอนจบที่สำคัญกับอดีตของเธอโดยตรงอีกด้วย
Jella Haase นางเอกที่เล่นเป็นคลีโอก็มีเสน่ห์น่ารักกับผมหน้าม้าอันเป็นเอกลักษณ์ตลอดเรื่อง เธอดูเป็นสายลับที่ออกโรคจิตๆ แต่ก็มีมุมขี้เล่นอยู่ตลอด ในบทบู๊แอ็กชั่นก็เล่นได้ดีไม่มีปัญหาเก้ๆ กังๆ เลย จนทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์ค่อนข้างมาก
นอกจากตัวคลีโอแล้วเรื่องยังสร้างตัวละครหลักอีกคนคือตำรวจที่พยายามสืบเรื่องคลีโอหลังเจอเธอในภารกิจสุดท้ายก่อนเข้าคุก ทำให้เขาหมกหมุ่นกับการตามจับเธอให้ได้ ก่อนค่อยๆ รู้จักเธอในเชิงลึกและกลายมาเป็นคู่หูทีมช่วยคลีโอในการตามล่าหาความจริงอีกคน ซึ่งพอคลีโอมีคู่หูก็ทำให้เรื่องดูสนุกและน่าสนใจขึ้นมากกว่าโชว์เดี่ยว ทั้งยังช่วยอุดความสมเหตุผลหลายๆ อย่างในเรื่องที่ถ้าให้คลีโอทำหรือรอดตายทั้งหมดคนเดียวคงดูเว่อร์จริงไปมาก แม้เรื่องนี้จะเป็นแนวติดตลกด้วยก็ตามที
ตัวเรื่องดูสนุกลื่นไหลไปกับเรื่องราวการผจญภัยแบบติดตลกนิดๆ ของคลีโอก็จริง แต่ส่วนตลกนี้เองบางครั้งก็หลุดกาวเกินจนทำให้รู้สึกว่าใส่มาทำไม อย่างเจ้าหนุ่มที่คลีโอเจอคนแรกหลังออกจากคุกที่มีบทแทรกมาเรื่อยแบบเพี้ยนๆ มันดูตลกในบางครั้ง แต่หลังๆ ก็ออกกาวจนไม่เกี่ยวกับเรื่องเลย และด้วยความที่เรื่องติดตลกก็ทำให้บางฉากคับขันเรื่องใช้ความตลกมาแก้ไขสถานการณ์แทนฝีมือของคลีโอไปเลย ทำให้ดูง่ายไป เหมือนมีโชคช่วยทำให้รอดได้เพิ่มอีกนอกจากความเก่งสุดๆ ของเธอ ทำให้โทนสายลับที่ดูจริงจังของเรื่องอ่อนลงไปพอสมควร
งานโปรดักชั่นย้อนยุคของเรื่องทำออกมาดีเลย ทุกอย่างในเรื่องดูย้อนยุคเก่ทั้งหมด รถที่ขับก็ยังเป็นสมัยก่อนทั้งหมด มีฉากที่ต้องไปในประเทศอื่นก็ยังไม่หลุดธีมย้อนยุค รวมถึงพวกเครื่องแบบคอมมิวนิสต์เก่าแก่สมัยนั้น อย่างหมวกทหารคอมมิวนิสต์ที่หน้าตาประหลาดของเยอรมันที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถือว่าเป็นซีรีส์ที่ใส่ใจในรายละเอียดสูงสมกับเป็นงานของเยอรมันทำมากครับ
ตัวเรื่องจบแบบเคลียร์ปมทั้งหมดที่ปูไว้ได้เป็นอย่างดี จบแบบค่อนข้างลงตัวสมบูรณ์เลยในทุกด้าน แต่ก็แอบแง้มปลายเปิดไว้ทำต่อในเอนด์เครดิตหลายจุด ซึ่งก็น่าติดตามต่อเพราะตัวเรื่องยังสามารถเอาโลกยุคนั้นกับตัวคลีโอมาเล่นได้อีกเยอะ