รีวิว ฮาร์ทบีท - เสี่ยงนัก...รักมั้ยลุง
สรุป
คอนเซ็ปต์ดี แต่ดึงอารมณ์ร่วมของคนดูให้อินตามไม่ได้
Overall
6/10User Review
( votes)Pros
- นักแสดง เล่นดีเรียกว่าตัวแบกทั้งนั้น
- คอนเซ็ปต์ดี ที่เล่นประเด็น “ลุง” ก็มีความรักได้
Cons
- ลำดับเนื้อเรื่องไม่ดี
- ไม่มีจุดให้อิน
- ข้อมูลรายละเอียดปลีกย่อยในหนัง ทำได้ไม่ดีเลย มีสิ่งที่ไม่เมคเซ้นส์หลายอย่างเกินไป
ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก…รักมั้ยลุง กับการกลับมาอีกครั้งของ “เคน ธีรเดช” ในหนังแนวโรแมนติก คอมเมดี้ กับค่าย Transformation Films ที่เคยฝากผลงานไว้บนแผ่นฟิล์มแบบไม่ขี้เหร่เลยอย่าง “มิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บ” และคราวนี้นอกจากตัวแสดงดี ผู้กำกับเด่นแล้ว หนังยังมีคอนเซ็ปต์ที่ดีมากๆ อย่าง รักข้ามรุ่น ระหว่างหนุ่มรุ่น “ลุง” กับสาวใสรุ่นหลาน ซึ่งบอกเลยว่าแนวคิดนี้โดนใจคนรุ่นลุงอย่างผมมาก “นี่แหละหนังที่จะมาทลายกำแพงรักต่างวัย!”
เรื่องย่อ (เล่าแบบไม่ซีเรียสจ้า)
“ชัย” (พี่เคน) หนุ่มวัย 40 มีตังค์ แม้จะไม่รู้ว่าเขาทำงานอะไร อยู่ๆ ฮีก็ก็มาเชียงใหม่แบบไม่รู้สาเหตุ แถมมาพักนานซะด้วย แล้วในวันแรกที่มาพี่แกก็ได้พบกับสาวน้อยวัยใสในชุดมหาลัยอายุคราวหลาน “น้ำหวาน” (พรอย มนสภรณ์) ลูกเจ้าของเกสต์เฮ้าส์น่าอยู่สักแห่งในเชียงใหม่ น้ำหวานดูจะปิ๊ง ชัยตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็คงเป็นการกรี๊ดคนหล่อตามภาษาสาวรุ่น แต่ด้วยความที่นางหยอดเก่งเหลือเกิน ลุงชัยที่ว่ากำลังเฮิร์ทๆ อยู่ก็ต้องมีเขวกันบาง แถมยังมีเรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เด็กประถมยังเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่องมาช่วยด้วยอีกต่างหาก คราวนี้ลุงเสร็จหลาน หรือหลานเสร็จลุง คงต้องไปลุ้นกันในโรงอะครับ อ่อเรื่องมี End Credit แจกโค้ดไอเทมเกม Free Fire ด้วยนะอย่ารีบลุก
ช่วงนี้ขอสับให้ ฮาร์ทบีท แบบระทึกเลย
อย่างที่บอกไปแล้ว ผมนี่หวังกับเรื่องนี้มากเลย ด้วยวัยที่พอๆ กับพี่ชัยนี่แหละ กะไปดูเอาเป็นกำลังใจ ให้ได้กระชุ่มกระชวยที่ไหนได้… หนังไม่ช่วยอะไรลุง(ผม)เลย โธ่
ต่อไปนี้จะขอกล่าวเนื้อหาบางส่วนในหนัง “ฮาร์ทบีท เสี่ยงนัก…รักมั้ยลุง” ให้ฟัง แต่ไม่ถึงกับสปอยหรอก จะเลือกมาที่หนังตัวอย่างพูดไปแล้วละกันครับ
– เปิดเรื่องมานี่เว่อร์มาก หลายอันเลย บางอันก็พอรับได้ บางอันก็หยวนๆ แต่บางอันมันดูรีบไป ไม่รู้ว่าคนเขียบบทจะรีบไปไหน ให้ทั้งคู่พอมีเวลาด้วยกันหน่อยก็ได้ “เรื่องมันเลยไม่ซึ้งไง” 3 ข้อด้านล่างนี้เป็นเหตุการณ์ที่ผมคิดว่าเลือกจังหวะเวลามาไม่ดี ทำให้เราไม่ค่อยอินกับหนังเท่าไหร่
1.ลุงชัย เจอน้ำหวานครั้งแรกที่สวมชุดนักศึกษาอยู่ ดันเผือกรู้ว่านางเป็นคนของเกสต์เฮ้าส์เฉย ถามหาห้องว่าง แถมลงหางเสียงว่า “คะ” อีกต่างหาก สาวๆ ในโรงหนังอาจจะกรี๊ดที่พี่เคนพูด “คะ” ได้น่ารักมาก แต่ขอโทษนะครับผู้ชายที่ไหนเขาพูด “คะ” กับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แถมไม่รู้จักกันด้วยอะ?
2.น้ำหวานเจอหน้าลุงชัยครั้งแรกก็ยิงมุขจีบลุงทันที…มุขอาจจะใช้ได้นะ แต่มันดูห่างไกลความเป็นจริงไปนิดนึง(นิด แบบ ด.เด็กล้านตัวเลยนะ) แล้วนางก็ไม่ได้หยอดทุกครั้งที่เจอลุงด้วย คือถ้าหยอดทุกครั้งคือคิดได้ว่าเป็นนิสัย แต่นี่เดี่ยวหยอด เดี่ยวสุภาพ ลุงเริ่มงงกับบุคลิคหนูแล้วนะขอบอก
3.จากการพบหน้ากับแบบไม่เกิน 1 นาทีในช่วงเช้า ตอนค่ำน้ำหวานได้พบลุงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เลือกคำถามผิดเลยได้ยินว่าลุงมีแฟนแล้ว เท่านั้นแหละ ฟิลของหนังทำออกมาเหมือนนางอกหักแบบจริงจังด้วยนะ คือหน้าเสีย ดนตรีเศร้าขึ้นเลย …ไม่เร็วไปหรอ?
– มีหลายจุดที่ใส่รายละเอียดมา “ผิดรึเปล่า?” เหมือนไม่เคยเป็น หรือถามคนที่เป็น เช่น พระเอกขับรถขึ้นเขาแล้วเมารถอ้วก นางเอกถามว่า “ลุง กลัวความสูงหรอ” สุดท้ายลุงเขาก็กลัวจริงๆ นะ แต่…คนอ้วกตอนนั่งรถขึ้นเขาน่ะ มันไม่เกี่ยวกับกลัวความสูงหรอกนะ เท่านั้นยังไม่พอ พอไปถึงยอดเขา พี่เคนก็ไม่กล้าไปดูวิว เพราะกลัวความสูง (อันนี้ถ้าจะหยวนๆ ก็อาจจะได้) คือผมไม่รู้ว่าคนกลัวหนักๆ จะขนาดไหน แต่ผมก็กลัวความสูงนะ แต่การไปดูวิวบนยอดเขาผมไม่กลัวอะ เพราะลานบนพื้นที่เขามันเซฟครับ ถ้าให้ผมปีนขึ้นไปบนพื้นที่เล็กๆ แคบๆ มีโอกาสตกได้อะครับ ถึงจะกลัว เช่นปีนบันไดลิงสูงๆ หรือไปยืนบนบันไดหนีไฟที่ติดอนู่นอกอาคารในชั้นสูงๆ อะ ผมจะหวิวมากยอมรับ แต่เวลาขึ้นไปดูทะเลหมอกอะไรพวกนี้ไม่เคยกลัวนะ
– เรื่องราวตัวช่วยที่มาในรูปแบบปาฏิหาริย์ หนังเลือกที่จะเลี่ยงการพูดถึงในช่วงต้นเรื่อง คงหวังจะให้เซอร์ไพรส์ แต่มุขนี้ไม่ใช่ไม่เคยมีทำให้ใครๆ ก็เดาได้ว่ามันคืออะไร แล้วเดาได้ก่อนเข้ากลางเรื่องด้วยซ้ำผมคิดว่า ถ้าจะทำแค่นี้นะผมว่าปูเรื่องก่อนหน้านั้นให้น่าสนใจ และเข้มข้นขึ้นอีกหน่อยคนดูอาจจะอินกว่า ถึงจะทำให้รู้ว่าเรื่องต่อไปจะเป็นยังไงแต่ถ้ามันดูแล้ว “ประทับใจ” ยังไงมันก็ดี
– นางเอกเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวหยอดหนัก เดี๋ยวออกห่าง ไม่ใช่นางเอกเล่นไม่ดีนะ ผมว่าหนังวางลำดับเหตุการณ์ได้ไม่ดีเลยต่างหากมัเลยเละ
-เพลงประกอบ ตามฉากทั่วๆ ไปมันก็ดี แต่เพลง “เล่นของสูง” ที่ไปเอาคำว่า “เสี่ยง” ในเพลงมาอยุ่ในชื่อหนังด้วยเนี่ย ดูจะเป็นเพลงที่ไม่เข้ากับบรรยากาศหนังที่สุดแล้ว มันไม่ได้เสี่ยงอะไรขนาดนั้นมั้ง
นอกจากนี้ก็มีฉากที่ดูจะไม่ค่อยมีเหตุผลสักเท่าไหร่อยู่เยอะ อย่างมีเจ้าของร้านกาแฟแห่งหนึ่งรู้จัก”เฟิร์น”แฟนพระเอกแต่ไม่เคยเจอนะ ไม่น่าจะรู้จักพระเอก แบบเฟิร์นเคยพูดว่ามีแฟนแล้วแต่ไม่ได้อยู่เชียงใหม่เฉยๆ แต่แล้วอยู่ๆ ตอนที่พระเอกมาที่ร้านกับน้ำหวาน (เฟิร์นไม่อยู่) เจ้าของร้านก็มาทักพระเอกประมาณที่มาร้านนี้ได้เพราะ เฟิร์น หรือ น้ำหวาน? คือเขารู้ได้ไงว่า ชัย เป็นแฟน เฟิร์น? คืองงมาก เหตุการณ์แบบนี้มีอีกหลายจุด ทำให้หนังดูไร้สาระไปเลย ผมผิดหวังมาก
สรุป
อย่างที่บ่นไป ผมว่าบทของ ฮาร์ทบีท ยังไม่ค่อยดีพอ ไทม์ไลน์หนัง หรือการเรียงเนื้อเรื่องก็แปลกๆ บุคลิกตัวละครก็ดูจะไม่ลงตัว ทั้งหมดทั้งมวลทำให้คนดูไม่ค่อยอินกับหนัง สุดท้ายเลยขาดความประทับใจ คือถ้าดูแบบไม่คิดมากหนังมันก็ได้ได้แย่มาก แต่ก็เรียกไม่ได้ว่าดี เหนือสิ่งอื่นใด ไคล์แม็กซ์ ของหนังอยู่ตรงไหนหว่า ถ้ามีมันคงบางเบาจนไม่รู้สึกเลยว่ามีไหน…