[รีวิว] The King’s Avatar: For the Glory เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ (The Movie)
The King's Avatar: For the Glory
สรุป
พัฒนางานภาพจากเวอร์ชั่นซีรี่ส์ขึ้นมาค่อนข้างมาก นำเสนอมุมมองของอีสปอร์ตค่อนข้างดี เกมเมอร์น่าจะมีโอกาสได้ดู
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- ภาพสวย
- เพลงเพราะ
- เลือกช่วงเนื้อเรื่องที่นำเสนอได้ดี
Cons
- เสียพากย์ไทยแหลกๆ ของจีนซับก็เปลี่ยนเร็วไป
- เหตุการณ์สำคัญบางอย่างก็เงินง่ายเกิดเร็วไปหน่อยไม่ค่อยบิวด์อารมณ์เท่าไหร่
หนังอีสปอร์ต เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับ The King’s Avatar: For the Glory หรือชื่อไทยว่า เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ ในฉบับ Live Action คนแสดงที่ได้ดารานำสุดฮ็อตอย่าง “หยางหยาง” มาแสดงเป็น “เยี่ยซิว” พระเอกสุดเทพของวงการเกม “Glory” ที่ออกฉายไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะจริงๆ จะว่าไป The King’s Avatar ไม่ใช่นิยายเรื่องใหม่อะไร และอนิเมชั่นซีรี่ส์ ก็มีออกมา 2 ซีซั่นตั้งนานแล้ว แต่กว่าจะมาเป็นฉบับหนังโรงได้ ก็ต้องรอหลังจากที่ซีรี่ส์ฉบับคนแสดงออกฉายเมื่อปีที่แล้ว (2019)
The King’s Avatar: For the Glory – หนังตัวอย่าง
[ความเดิม]
ตามบทประพันธ์ดั่งเดิม เรื่องจะเริ่มขึ้น 3 ปีให้หลัง หลังจากที่ทีม “เจียซื่อ” สโมสรอีสปอร์ตชื่อดังที่มีสนามซ้อมสุดอลังการ และแสนไฮเทค ขึ้นสู่ความสำเร็จอย่างสูงสุด เป็นแชมป์ลีกของเกม Glory 3 สมัยซ้อน แต่แล้ว เยี่ยชิว ผู้เล่น MVP คนสำคัญก็กลับถูกบีบให้ไปอยู่เบื่องหลัง ด้วยเหตุผลทางธุระกิจบางอย่าง เยี่ยชิวจึงตัดสินใจลาออกจากสโมสร ไปทำงานชิวๆ อยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แถวๆ นั้น แล้วจับพลัดจับผลูได้ตั้งสโมสรใหม่ชื่อว่า “ซิงซิน” เพื่อเข้าสู้ศึก Glory League อีกครั้ง
เรื่องย่อ The King’s Avatar: For the Glory
ในภาคนี้เป็นเรื่องราวก่อนที่สโมสร “เจียซื่อ” จะถูกสร้างขึ้น ย้อนกลับไปตอนที่ “เยี่ยซิว” อายุ 18 เขาหนีออกจากบ้านมาและได้พบกับ “ซูมู่ชิว” ซึ่งเป็นกำพร้าอยู่กับน้องสาว “ซูมู่เฉิง” แค่ 2 คน (ในภาคนี้ ซูมู่เฉิง ยังเป็นเด็กน้อยที่น่ารักเว่อร์ๆ ถ้าใครเคยดูภาคหลักแล้วจะรู้ว่าน้องคนนี้ไม่ธรรมดาเลย)
ทั้ง เยี่ยซิว และ ซูมู่ชิว หาเลี้ยงตัวด้วยการเป็นพนักงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า “เจียซื่อ” หลังจากที่เกม Glory เปิดให้บริการมาได้ 2 ปีก็ฮ็อตฮิตติดลมบน และในขณะนั้นกระแสของ Esport ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วใจจีน และเมื่อ Glory อยากจะทำให้บุคคนทั่วไปเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า Esport กับการเล่นเกมทั่วๆ ไปแตกต่างกันอย่างไร จึงตัดสินใจประกาศจัดการแข่งขัน Glory League ครั้งที่ 1 ขึ้น ซึ่งการเป็นนักกกีฬาอีสปอร์ต และได้แชมป์ถือเป็นความฝันของ ซูมู่ชิว มาตลอดหลังจากที่เริ่มเล่น Glory มาได้ 2 ปี
ด้วยฝีมือและความมุ่งมั่นของทั้ง ซูมู่ชิว และ เยี่ยซิว ในที่สุดเจ้าของร้าน เจียซื่อ จึงตัดสินใจตั้งสโมสรเพื่อเข้าร่วมลีกที่กำลังจะมาถึง แต่หนทางการตั้งสโมสรก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องฝ่าฟันกันขนาดไหนกว่าที่สโมสร เจียซื่อ จะได้เป็นทีมชั้นนำอย่างที่เรารู้จักกัน ในภาคนี้มีคำตอบครับ
ทำไมต้องดูภาคนี้?
[เนื้อเรื่อง]
ภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องส่วนที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และถือว่าทำได้น่าสนใจ เพราะในเรื่องหลักเราจะรู้ว่า ซูมู่ชิว (พี่ชายของ ซูมู่เฉิง) เพื่อนรักของ เทพเยี่ยเป็นผู้คิดค้น “ร่มแสนกล” ที่เป็นดั่งอาวุธมายา พลิกแพลงได้มากมายไม่เหมือนใครนั้น แท้จริงเป็นคนยังไง สนิทกับเยี่ยซิวแค่ไหน ทำไมในภาคหลักถึงหายไป ฯลฯ
ตอนแรกติดใจอยู่นิดหน่อยตรงที่เล่นมุกเด็กเฝ้าร้านเน็ตอีกละ แต่พอดูๆ ไปก็เหมาะแหละ และเป็นตัวชี้นำไปสู่ภาคหลักด้วยว่า ทำไมเทพเยี่ยถึงเลือกไปทำงานในร้านเน็ต
แต่ที่ปล่อยผ่านไม่ค่อยได้ดูจะเป็นบุคลิกของเจ้าของร้าน เจียซื่อ ที่ในภาคนี้ยังกะพระเอก แต่ในภาคหลักนี่้ตัวโกงชัดๆ มันดูขัดแย้งกันไปหน่อย
ที่จะชมคือบุคลิกของ เยี่ยซิว ดูวัยรุ่นเหมือนกับอายุดี มีความเกรียน มีเปิด PK ใส่ผู้เล่นอื่นเพื่อแย่งบอสด้วย เรียลสุดๆ
อ่อ ในภาคนี้เทพเยี่ยยังไม่ได้ใช้ร่มขี้โกงนะครับ
[กราฟิก]
ก่อนอื่นต้องพูดถึงดีไซน์ตัวละคร มีการปรับแต่งจากฉบับ ซีรี่ส์อนิเมชั่นพอสมควร โดยเฉพาะพระเอก เทพเยี่ยที่หน้าตาดูดีขึ้นเยอะ อาจจะได้อิทธิพลมาจากหยางหยาง เลยได้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่ดูมีชีวิตชีวาดี ไม่เหมือนกับคนเป็นโรคซึมเศร้าในซีรี่ส์อนิเมชั่น
เทคนิกการทำก็ดูจะเป็นแบบสมัยนิยมขึ้น คือทำฉากที่มีรายละเอียดเยอะหน่อย แล้วยึดเป็นฉากหลัง ขยับตัวละครเอาเลยทำให้หลายๆ ฉากดูมีมิติขึ้น ต้องยกความดีให้กับคุณ Shi Juansheng ที่เคยผ่านงานอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Naruto มาแล้ว
[ฉากต่อสู้]
ทำได้สนุกตื่นเต้นดีครับ สมกับเป็นหนังจีน ดราม่าไม่ต้องเยอะ สู้กันไปยาวๆ
[เพลง/ดนตรีประกอบ]
บอกได้สั้นๆ ว่า เพราะมากเข้ากับเรื่องได้ดี
[งานพากย์]
เสียงจีนดีมาก เพราะปกติหนังออกจากจีนเขาพากย์กันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่คนจีนพูดเร็วผมยอมรับเลยว่ามีหลายช่วงที่อ่านซับไม่ทัน แต่ก็สามารถดูได้รู้เรื่องแหละครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะเคยดูเวอร์ชั่นอื่นมาก่อนรึเปล่า?
ส่วนพากย์ไทย ก็ได้ไอดอลชื่อดังมาพากย์เช่นเคย แต่ถ้าดูจากหนังตัวอย่างผมว่ามันแปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็อยากแนะนำให้ชมพากย์ไทยนะจะได้มองภาพได้ทั่วถึงไม่ต้องโฟกัสกับการอ่านมากเกินไป
สรุป
คุณภาพทุกอย่างดูดีครับ เกมเมอร์ทั้งหลายถ้ามีเวลาน่าจะไปดูนะครับ เพราะ The King’s Avatar: For the Glory นี้มีมุมมองถึง อีสปอร์ตค่อนข้างมาก แล้วก็นำเสนอได้ดีว่า ถ้าเราต้องการให้วงการอีสปอร์ตเป็นที่ยอมรับเราต้องเล่นมันให้ดี พัฒนามันให้ดี ไม่ต้องไปโวยวายเรียกร้องอะไร เพราะคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจครับ เราต้องดึงให้เขาเข้าใจโดยอย่าไปหัวร้อนใส่ ซึ่งที่ผมพิมพ์มานี่ไม่มีตัวละครไหนพูดในหนังหรอกนะ แต่เขาทำผ่านการกระทำน่ะ ฝากไว้ด้วยนะครับ
ผู้อ่านท่านใดอยากพูดคุยเรื่องหนังเรื่องนี้ เชิญที่คอมเม้นต์ด้านล่างเลยครับ