The King's Avatar เทพยุทธ์เซียน Glory
สรุป
เป็นช่วงรวบรวมทีม ดีที่ในที่สุดก็ก่อตั้งทีมได้สักที แม้จะมีย้อนอดีตเยอะไปหน่อยแต่พอเข้าใจได้ บรรยากาศการแข่งทำได้ดี
Overall
8.3/10User Review
( votes)Pros
- มีการนำเสนอรูปแบบการแข่ง Esport ได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจ
- ฉาก และเงื่อนไขการต่อสู้ทำได้เร้าใจ
Cons
- ตอนย้อนอดีตน่าเบื่อไปหน่อย
กระแสมาแรงจริงๆ ครับสำหรับนิยาย Esport สุดมันส์อย่าง The King’s Avatar หรือ เทพยุทธ์เซียน Glory ที่ตอนนี้เข้า Netflix (คลิกรับชมที่นี่) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ดูซีรี่ย์ หรืออ่านนิยายเรื่องนี้มาก่อนผมขอเกริ่นนำสักนิด The King’s Avatar ซีรี่ย์ขวัญใจวัยรุ่นสายเกมเมอร์เรื่องนี้ โด่งดังจากการเป็นนิยายมาก่อนซึ่งตอนนี้ที่ไทยก็แปลออกมาถึง 21 เล่มแล้วและยังไม่จบ ด้วยกระแสของ Esport และสำนวนที่อินมากๆ ของผู้แต่งที่ตอนแรกแต่งแบบแค่เอามันส์ เพราะชอบ Esport มากๆ จึงทำให้นิยายเรื่องนี้ได้รับความนิยมในระดับสูงที่จีน และต่อมาก็ได้ผลิตเป็นอนิเมะ จนถึงเวอร์ชั่น Live Action หรือ คนแสดง ที่ออกมาให้เราได้ชมกันนี่แหละ
โดยซีรี่ย์เรื่องนี้ออกอากาศในแพลตฟอร์ม WeTV ซึ่งเป็นต้นสังกัดมาก่อน โดยในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว (ออกอากาศทุก พฤ. ศ. ส. วันละ 2 ตอน) สายดูฟรีก็ดูได้ถึงตอนที่ 24 ส่วนเหล่า WeTV.VIP ก็จะได้จะได้ชมนำหน้าไป 1 สัปดาห์นะครับคือดูได้ถึงตอนที่ 30 แล้ว (Netflix ถึงตอนที่ 10)
และในวันนี้ผมจะมารีวิวกัน 6 ตอนของสัปดาห์ที่ 4 กัน ซึ่งก็คือตอนที่ 25-30 (สำหรับคนที่จ่าย vip นะครับ) คนที่ยังไม่ได้ดูก็พออ่านเป็นน้ำจิ้มได้อยู่ (อาจจะมีสปอยล์เล็กๆ นะครับ ใครอ่อนแอกับการสปอยล์โปรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าไม่แคร์มาก ผมตั้งใจให้ทุกท่านดูเนื้อหาแต่ละตอนได้เข้าใจมากขึ้นครับ) เพราะจุดเด่นของเรื่องนี้น่าจะอยู่ที่รายละเอียดที่เข้าถึงความเป็น Esport แบบสุดๆ ตั้งแต่เคยมีซีรี่ย์มาเลยก็ได้ คือจริงๆ ซีรี่ย์เกี่ยวกับเกมก็มีมาหลายเรื่องพอสมควรแล้วครับ แต่ถ้าลงลึกเกี่ยวกับการแข่งขันเกมที่มีรูปแบบเป็นอีสปอร์ตเรื่องนี้ผมว่าดีที่สุดในตอนนี้เลย
ส่วนใครอยากจะทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรพอสังเขปสามารถย้อนไปอ่านได้ ที่นี่เลยครับ
[ตอนที่ 25]
หลังจากที่ เยี่ยชิว ล่อหลอก “เว่ยเฉิน” หรือที่เทพเยี่ยมักเรียกว่า เหล่าเว่ย เข้าทีมได้สำเร็จ แถมยังหลอกให้ไปเจอกับสโมสรหลานอวี้ ซึ่งเหล่าเว่ยเคยเป็นอดีตกัปตันมาก่อนอีกต่างหาก เมื่ออดีตผู้เล่นระดับหัวแถวของลีก ต้องมาเจอกับทีมเก่าที่ตัวเองปลุกปั้นมากับมือบอกได้เลยว่าลีลาไม่ธรรมดา และเรื่องราวความเป็นมาของทีมหลานอวี้ผมว่าทำได้ดีเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอวี๋เหวินโจว หรือหวงเส้าเทียนก็ถือว่าแสดงอารมณ์ออกมาได้ดีทั้งคู่ แถมยังแสดงภาพลักษณ์ดีๆ ของคนในวงการเกมด้วยครับ
อีกด้านทางด้านสโมสรเจียซื่อ เองหลังจากได้ “เซียวสือชิน” 1 ใน 4 ยอดฝีมือนักวางกลยุทธ์มาเป็นรองกัปตัน รูปแบบการแข่งแบบทีมของเจียซื่อก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา แต่ก็ยังไม่วายจองล้างจองผลาญเยี่ยชิว โดยซุนเสียงได้เข้าไปยื่นขอเสนอให้ทางผู้บริหารกลอรี่ลีกจัดการแข่งขันนัดพิเศษระหว่าง เจียซื่อ และ ซิงซิน เพื่อเป็นตัววัดว่า ซิงซิน จะได้เข้าไปแข่งในลีกคัดเลือกได้หรือไม่ ร้อนเยี่ยชิวต้องไปหาสมาชิกคนใหม่เพื่อมาอีกคน(ด้วยวิธีการที่กวนประสาทสุดๆ) เพื่อมารับมือกับทีมเจียซื่อใหม่
สำหรับตอนที่ 25 นี้ผมชอบมาก ให้ 9/10 เลย
[ตอนที่ 26]
สมาชิกใหม่ที่เทพเยี่ยหมายตาไว้ ม่อฝาน คือนินจาลึกลับนักเก็บขยะติดอันดับของเซิร์ฟเวอร์ 10 ที่เทพเยี่ยไปเจอเข้าตอนที่พาทีมไปหาอาวุธส้มคราวก่อน แต่ด้วยที่ว่า ม่อฝาน เป็นคนเก็บตัวชอบอยู่คนเดียวจึงไม่สนใจเข้าทีมในทีแรก ซึ่งงานนี้เทพเยี่ยเราทุมทุนสร้างสุดๆ งัดมาใช้กันทุกวิธีเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าทั้งตอนนี้สมาชิกทีมซิงซินทั้งทีมไล่ตามจีบ ม่อฝาน คนเดียวเลย แม้จะมีฉากทำตัวเปิ่นๆ ของเทพเยี่ยออกมาให้เห็นอีกครั้งแต่ผมก็แอบคิดว่ามันใช้เวลาเสียเปล่าไปนิด ม่อฝานก็เล่นตัวเหลือเกิน มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมทีม ซิงซิน มันดูมีผู้เล่นเยอะเกินหน้าทีมอื่นจังวะ? ผมบอกเลยว่าจริงโครงสร้างของทีมสโมสรใหญ่ๆ นั้นมีมากกว่านี้แต่เขาจะแบ่งสมาชิกออกเป็นชุดๆ โดยมีหน้าที่ต่างกันชัดเจน แต่สำหรับซิงซินซึ่งเป็นสโมสรที่ตั้งขึ้นใหม่ยังไม่มีการแบ่งกลุ่มใดๆ ทุกคนรวมกันอยู่ที่กองกลางหมดเลยจะดูเยอะๆ หน่อยครับ
สำหรับตอนที่ 26 นี้ผมให้ 7/10 พอครับ
[ตอนที่ 27]
มาถึงการแข่งชีชะตาว่าทีม ซิงซิน จะได้เข้าร่วมการแข่งคัดทีมขึ้นลีกไหม โดยมีเงื่อนไขที่ว่า ซิงซิน ต้องสังหารสามาชิกทีมของ เจียซื่อ ให้ได้อย่างน้อย 1 คนในการแข่ง เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นตอนที่รอคอยเลยในที่สุดเราจะได้เห็นการปะทะกันจริงๆ ระหว่ากัปตันเก่าผู้เป็นตำนานแห่งเจียซื่อ กับกัปตันคนปัจจุบันแบบนิวเวอร์ชั่น (ไม่หัวร้อนง่ายแบบแต่ก่อนแล้ว)
หลังจากการแข่งขันอย่างดุเดือด ซิงซิน ที่ดูเหมือนจะได้เปรียบในช่วงแรกกลับแพ้แบบขาดลอย จนคนดูแอบโดนหลอกว่าซิงซินคงตกรอบแน่ๆ แต่ผู้กำกับเลือกที่จะหักมุมให้ซิงซินได้เข้ารอบ แต่แบบไม่เต็มภาคภูมิเท่าไหร่ (จริงๆ ทุกคนก็รู้ว่าต้องผ่านแหละ เพราะถ้าไม่ผ่านก็คงจบเลย เลิกกองได้ 55) หลังเกมลูกทีมซิงซินเรียกว่าจิตตกกันหมด ตรงนี้มีจังหวะที่เราจะได้เห็นความอ่อนแอของเยี่ยชิวอยู่ด้วยหลังจากที่ก่อนหน้านี้ดูเป็นคนมั่นใจมาตลอด ซึ่งผมว่าเป็นจังหวะที่ดีที่จะมีบทแบบนี้ให้พราะเอกบ้างไม่ใช่ว่าเก่งตลอด มั่นใจตลอดผมว่าเว่อร์ไป
ด้วยการต่อสู่ที่สุดมันส์ และจังหวะปล่อยซีนที่คาดไม่ถึงได้ดีผมให้ตอนนี้ 9/10 ครับ
[ตอนที่ 28]
ตอนนี้จริงๆ ส่วนตัวผมว่ามันดรอปๆ ไปหน่อยเพราะไม่ค่อยมีฉากเล่นเกมให้เห็น แต่พอดูๆ ไปฉากย้อนอดีตของพระเอกก็ได้ข้อคิดไม่เลว
ซึ่งอันนี้ผมว่าอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ตรงกับชีวิตใครหลายๆ คนในบ้านเราที่ทางบ้านไม่สนับสนุนให้เล่นเกมนะครับ แต่ผมขอแนะนำให้ทุกท่านดูวิธีการโต้ตอบของเยี่ยวชิวในวัยเด็กต่อพ่อของเขา ผมว่าเป็นวิธีที่ซื่อตรง แต่ฉลาดมากครับ ไม่เอะอะโวยวายเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ในวัยขนาดนั้นแน่นอน (อ่อ ผมหมายถึงเฉพาะการพูดคุยโต้ตอบที่ไม่ใส่อารมณ์นะครับ หึหึ)
ถึงแม้เนื้อหาจะดูดีแต่ความสนุกมันไม่ได้มาจากตรงนี้อะเอาไป 7/10 พอ
[ตอนที่ 29]
หลังจากเคลียปัญหาชีวิตเสร็จผมว่าตอนนี้ถือว่ากลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง เพราะเนื้อเรื่องเริ่มเข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการจริงๆ สักที ซึ่งก็ยังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน มีพลิกโผพลิกล็อกด้วยความโก๊ะของนางเอกอีกเช่นเคย แต่มันก็ทำให้การแข่งขันมีความน่าลุ้นขึ้นไม่ใช่ว่าทีมพระเอกของเราจะลอยลำเข้าไปแบบง่ายๆ ซะเมื่อไหร่
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ข้องแวะอะไรเกี่ยวกับการแข่งขันเกมผมขออธิบายรูปแบบการแข่งในรอบนี้เสริมให้สักหน่อยเพื่อความเข้าใจมากขึ้นครับ
รูปแบบการแข่งขันในรอบคัดเลือกจะแบ่งออกเป็น 3 รอบ
รอบที่ 1: เป็นการแข่งแบบ 1v1 จำนวน 3 คู่ แต่ละทีมจะส่งผู้เล่นออกมาทีละ 1 คน ใครชนะจะได้ 1 แต้ม (เท่ากับว่ารอบนี้มีแต้มให้เก็บทั้งหมด 3 แต้ม แยกตามแต่คนที่ชนะ)
รอบที่ 2: เป็นการแข่งแบบ 3v3 โดยจะส่งผู้เล่นออกมาทีละคนต่อทีม คนไหนแพ้จะต้องออกจากสนามและเปลี่ยนคนต่อไปในทีมเข้ามา โดยคนที่ชนะจะได้อยู่ในสนามต่อแต่จะไม่ได้รับการเติม HP ให้เหลือมาเท่าไหร่ก็เหลือเท่านั้น ทีมที่แพ้หมด 3 คนก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้ และทีมที่ชนะจะได้ไป 3 แต้มโดยไม่สนใจว่าคนในทีมจะแพ้ไปกี่คน (รอบนี้มี 3 คะแนน ไม่แยก)
รอบที่ 3: รอบสุดท้ายนี้จะเป็นการแข่งแบบทีม 5v5 อย่างแท้จริงโดยแต่ละทีมจะส่งผู้เล่นลงสนามพร้อมกันทั้ง 5 คนเลย ทีมที่สมาชิกตายหมดก่อนแพ้ และผู้ชนะในรอบนี้จะได้ 5 คะแนนไปทันที (รอบนี้มี 5 คะแนน ไม่แยก) เรียกว่ามีเกมพลิกกันได้ง่ายๆ เลย
ตอนนี้เอาไป 9/10 เลย
[ตอนที่ 30]
ตอนนี้ยกย่องคนแต่งเลยครับ ผมว่าเขาเข้าใจอารมณ์ของคนในวงการนี้ดีมากๆ หลังจากที่ทีมพระเอกชนะมาอย่างฉิวเฉียดแต่ก็ไม่วายเจอปัญหาดรามานอกเกมที่เยี่ยชิวถูกหาว่าเป็นคนทรยศ และลูกทีมซิงซินเองก็ถูกหาว่าไม่ได้เก่งจริง (เพราะผลงานแย่มาก) ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันดีเรียลมากๆ ครับ โดยเฉพาะที่เยี่ยเชิวพูดออกจากปากเองเลยว่า “เขาไม่ได้เล่นเพื่อคนดูหรอก แต่เขาเคารพและนับถือน้ำใจของแฟนคลับเสมอ” เอาจริงๆ นะคนแข่งก็ต้องเริ่มจากแข่งเพื่อเป้าหมายตัวเองก่อนจริงๆ นั่นแหละ
เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมก็จัดว่าโดนมากสำหรับผม เอาไป 9/10 ครับ
ก็จบกันไปแล้วนะครับสำหรับเนื้อหาความเป็นไปใน The King’s Avatar ในสัปดาห์ที่ 4 ตอนที่ 25-30 นี้
ส่วนตัวสำหรับสัปดาห์นี้ผมค่อนข้างชอบนะครับ เพราะมีการนำเสนอมุมมองที่สมจริงมากๆ แม้ว่าฉากเล่าย้อนอดีตเยอะไปหน่อย ทำให้เซ็งๆ ไปบ้าง แต่ดูจากการขมวดปมทุกอย่างไปเกือนหมดแล้ว คิดว่าสัปดาห์ต่อๆ ไปคงจะแข่งกันรัวๆ แบบสุดมันส์อย่างแน่นอน สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูตอนนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่
ดูฟรี: WeTV
มีค่าสมาชิก: WeTVvip / Netflix