คอสเพลย์ Devil May Cry (DMC) เกมแอคชั่นสุดฮิตอายุมากกว่า 15 ปีของค่าย Capcom ที่เกมเมอร์ชายไทยหลายคนรู้จักกันดี แต่มีกลุ่มหนึ่งที่นอกจากเป็นแฟนเกมซีรี่ส์นี้แล้ว พวกเขายังแต่งคอสเพลย์เป็นตัวละครจากซีรี่ส์ DMC นี้ด้วย เรามาทำความรู้จักกับแฟนเกม และเหล่าคอสเพลย์เยอร์เหล่านี้กันครับ
ชื่อ Galen
คอสเพลย์มาประมาณ 8 ปี
รู้จัก DMC ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เล่นบนเครื่องPS2 และได้เล่น DMC ภาคแรกคือภาค 2
ตัวละครที่ชอบในซีรี่ส์นี้: ดันเต้
ชื่อ แว่นโกะ
คอสเพลย์มาตั้งแต่ ปี 2550
รู้จัก DMC และได้เล่นตั้งแต่ภาคแรก
ตัวละครที่ชอบในซีรี่ส์นี้: ดันเต้
“ประทับใจตั้งแต่ภาคแรกเลย ตอนนั้นคิดว่าดันเต้ใส่ชุดเสร่อมากๆ (แดงทั้งเสื้อทั้งกางเกง) แต่แม่งทำไมมันถึงเท่งี้วะ ยอมใจ”
NEXT TO INTERVIEW
จากนี้เรามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดถึงของเพื่อนๆ ชาวคอสกันดีกว่าว่าพวกเขามีความคิดเห็นอย่างไรกับคำถามดังต่อไปนี้ครับ
ตอนที่คอสเพลย์ในงานมีคนรู้จักตัวละครที่เราคอสเยอะแค่ใหน
ตอนที่คอสก็มีคนรู้จักนะครับ แต่ไม่รู้ว่ารู้จักเยอะไหม เพราะไม่มีใครรู้จักเลยไม่ค่อยมาคุยด้วย (ฮา)
ไม่แน่ใจ ตอนคอสเลดี้ก็พอมีคนในงานรู้จักบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นเพื่อนๆ น้องๆ ที่เราก็รู้จักเขาเพราะเขาก็คอส DMC เหมือนกัน ส่วนตอนคอสนาวานจะโดนคนที่ไม่รู้จักเกมเข้าใจผิดบ่อยว่าเราคอสอะวาตาร์ (ฮา) พอมีคนมาทักถูกว่าเราคอสตัวไหนก็ดีใจนะ แม้จะคอสไม่ค่อยเหมือนต้นแบบมากก็ตาม แต่นาวานเป็นชุดที่เราตั้งใจทำมากถึงฝีมือในการทำชุดจะกระท่อนกระแท่น และอุปสรรคเยอะ
สรุปว่าไม่รู้ว่ามีคนรู้จักเยอะมั้ย แต่รู้สึกสนุกที่ได้ทำและแก้ข้อบกพร่องไปเรื่อยๆ แบบตามมีตามเกิด มันสนุกที่ได้คิดน่ะว่า เอ๊ะ…ทำแบบนี้แล้วจะเวิร์คมั้ยนะ ถึงแม้วว่าเวลาลงมือทำจริงแล้วมันจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดก็เถอะ ก็แก้ปัญหากันไปเรื่อยๆ
ถ้าเป็นแฟนๆคอเกมคงรู้จักเป็นอย่างดีเลยครับ ตอนที่ผมคอสทุกคนก็รู้จักนะครับแฟนๆของ Capcom ติดตามข่าวของเกมเป็นอย่างดีเลยครับ
ก็มีพอสมควรครับ ส่วนใหญ่ก็จะทักว่าไอ้ขี้ยา (ฮา)
จากชุดที่เคยคอสเพลย์มา คิดว่าส่วนใหนทำยากที่สุด
พร๊อพเซ็ทอาวุธของเนโร ดาบ Red Queen ปืนBlue Rose ติดไฟ LED และแขนกล
ส่วนที่ลงมือกับมันมากที่สุดคือรองเท้าที่ซื้อสีมาพ่นเองค่ะ
ส่วนชุดนาวาน ที่ยากที่สุดคือย้อมสีบอดี้สูทให้ใกล้เคียงกับสีเพ้นท์ตัว เพราะตัวละครมันเปลือยท่อนบน แต่เราจะเปลือยขนาดนั้นไม่ได้
ชุดผมคิดว่ายากทุกจุดเลยครับ เพราะตอนทำผมทำตอนที่เค้าปล่อยตัวอย่างแรกออกมาก็ต้องมานั้งแกะดูทีละจุดๆในคลิปตัวอย่างเอาเลย
สร้อยคอ กับปืนครับ เพราะตอนที่ทำ มีแค่ตัวอย่างเกมสั้นๆ ออกมา นั่งงมแบบอยู่พอสมควรเลย
จากที่ตัวเกมห่างหายไปนาน คิดว่า DMC5 จะทำให้มีคนกลับมาคอสเพลย์เพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า
ถึงจะหายไปนานถึง10ปี แถมมีเกมภาครีบู๊ทออกมาจนมีคนพูดว่าเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงภาคหลักแน่ๆ แต่หลังจากการเปิดตัว DMC เกมหลักภาค5 ในงาน E3 2018 ทำให้เกิดกระแส HYPE ขึ้นมาในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกมออก ทำให้ผมรู้ว่าแฟนเกมยังไม่ลืม DMC และตอนนี้ก็มีกระแสการกลับมาคอสเพลย์ DMC ทั่วโลกผ่านโซเชียลมีเดีย และด้วยความที่ภาคนี้ชุดเสื้อผ้าของตัวละครมีความเข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้สะดวกที่จะจัดทำมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ
คิดว่าพวกเลือดเก่านี่มาแน่นอนค่ะ จากที่ได้ข่าวและได้ลองเล่นไปบ้าง ทางผู้พัฒนาบอกว่าแม้จะเล่นเกมไม่เก่งก็ยังสนุกกับเกมได้คิดว่าไม่เกินจริง และคาร์แรคเตอร์เนโรภาคนี้ก็เท่กว่าเดิมซะด้วยสิ เชื่อว่าแฟนบอยหน้าใหม่ต้องลุกฮือเทใจให้เนโรแน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นลีลาการต่อสู้ของ V ที่ไม่เหมือนใครก็น่าจะจับใจผู้เล่นได้ไม่ยาก แต่คิดว่าไม่เกินกลางปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีดันเต้ V นีโร เดินกระทบไหล่กันในงานคอสให้ควั่กแน่ๆค่ะ
ผมว่ามีแน่นอนแต่อาจไม่มากเพราะเกม DMC มันเจาะจงไปเฉพาะกลุ่มจริงๆส่วนมากจะเป็นแฟนเกมหรือไม่ก็คอเกมนี้เลยผมเองก็ได้มาคอส DMC จริงจังก็ภาค 5 เลยช่วงนั้นที่ยังไม่คอส ภาคแรกๆเพราะมีเกมอื่น หรืออนิเมะอื่นๆที่น่าสนใจและใหม่กว่า
ก็น่าจะกลับมาคอส DMC กันหลายคนอยู่นะครับ เห็นหลายคนก็ทำชุดเนโร่ ภาค 5 เสร็จกันแล้ว
พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องคอสเพลย์กันไปแล้วเรามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องในเกม DMC กันดีกว่าครับ
คิดว่าซีรี่ส์นี้ใครเป็นนางเอก?
ถ้าของเนโรแน่นอนว่าต้องเป็นคิริเอะ
แต่ถ้าดันเต้คงเป็นพิซซ่า…
ถ้าภาค 3 ก็จะตอบว่าเลดี้สุดหัวใจ
แต่นี่มีภาคใหม่แล้วก็อยากจะตอบว่าน้อง V (อ้าว ไม่ใช่เหรอ?)
อันนี้ก็ตอบอยากเหมือนกันครับแต่ถ้าเอาตามความชอบผมก็คงให้Lady ครับชอบสุดๆ
Cat จาก DmC ครับ
คิดอย่างไรกับการที่ Capcom ทำภาค “ดันเต้ขี้ยา” ออกมาเป็นภาคแยก
ส่วนตัวผมว่าภาค DmC ไม่ได้แย่ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาไม่ใช้ชื่อว่า Devil May Cry มันทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับภาคหลัก ซึ่งส่วนตัวผมชอบสไตล์ภาคนี้นะมันดูดิบดี แม้จะมีคนบอกว่า”ถ่อย” ไปบ้าง เกมเพลย์เข้าถึงง่ายแต่ไม่สะใจและสุดเหมือนภาคหลัก ดีไซน์ศัตรูกับฉากมีความครีเอท แต่สิ่งที่ผมไม่ประทับใจแบบจริงจังเลยคือการตีความคาแรคเตอร์ของเวอร์จิลพี่ชายฝาแฝดของดันเต้ในภาครีบู๊ทนี้ ซึ่งเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่างเพื่ออุดมการณ์แบบสุดโต่งเกินไป แต่โดยรวมถือเป็นเกมที่ดี เพียงแต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่ใช้ชื่อว่า Devil May Cry
คิดสงสัยมาตลอดว่าทำไปทำไม (ฮา) ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรีบูทเนื้อเรื่อง ทั้งที่โครงเรื่องยังไปต่อได้ และดราม่าของทีมพัฒนาที่เราเพิ่งมานึกได้ทีหลังว่า หรือว่ามันจะเป็นแผนการตลาดโซเชียลมีเดียที่มาก่อนกาลหรือเปล่า?
แต่ดันได้ผลตรงข้าม ทำเอาแฟนๆ หลายคนเลิกสนใจซีรีส์นี้ไปเลย ทั้งๆ ที่เนื้อในมันอาจจะดีก็ได้ แต่คาร์แรคเตอร์ที่ดีไซน์ใหม่และเนื้อเรื่องใหม่ในภาคนี้สำหรับเรามันพังอะ นี่คือดันเต้เหรอ? ค่อนข้างรับไม่ได้ค่ะ มันดูธรรมดาเกินไป
ภาคนั้นตัดออกไปได้เลยครับแต่มันก็มีความสนุกในแบบของมันเองอยู่นะครับยังดีที่มันไม่รวมเข้าในภาคหลัก
เสียใจเลยนะครับที่โดนเรียกแบบนั้น (ฮา) ผมมองว่ามันสุดยอดเลยนะ เพราะมันเป็นการตีความใหม่ที่ดูจับต้องได้มากกว่า ทั้งเรื่องปูมหลังตัวละคร เหตุจูงใจ เสียดายเหมือนกันที่มันไม่ได้ไปต่อ
คิดว่าภาคล่าสุดนี้ (ภาค 5) จะแตกต่างจากภาคก่อนๆแค่ใหน
ผมมองว่าเป็นการผสมผสานของความ Old School กับของใหม่เข้ากันได้อย่างลงตัว รวมถึงการนำระบบบางอย่างที่ดีของภาครีบู๊ทมาใช้เพื่อทำให้เกมเพลย์น่าสนใจมากขึ้น จากที่ตามข่าวเกี่ยวกับเกมเพลย์มาผมมองว่า DMC5 คืองานคืนสู่เหย้าที่ทำให้เราได้หวนนึกถึงวันวานเก่าๆ และเซอร์ไพรส์เราด้วยการพัฒนาให้เข้ากับยุคปัจจุบัน
ตอบยากจังข้อนี้ อันที่จริงมันก็มีความแตกต่างกันในทุกภาค ที่ผ่านมาแม้ว่าเกมจะอยู่ภายใต้ตีมเดียวกัน แต่ในแง่ของการเล่น การมีตัวละครใหม่อย่าง V ในภาคใหม่นี้ น่าสนใจมากๆ ว่ารูปแบบการบังคับ V จะออกมาเป็นยังไง เท่าที่ติดตามข่าวดูเหมือนว่า V จะมีร่างกายเป็นคนธรรมดาที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่ว่าสามารถยืมพลังปีศาจมาใช้ได้ ขอรอพิสูจน์พร้อมๆ กับทุกคนตอนเกมออกเลยดีกว่า ว่าแต่กดพรีกันรึยังจ๊ะ
แตกต่างแน่นอนทั้งระบบการเล่น และต่อสู้ที่เปลี่ยนไป แล้วยังมีระบบออนไลน์ที่ใส่เข้ามา อันนี้ต้องให้ลองเล่นดูว่ามันจะเป็นยังไง
การเพิ่มตัวละครใหม่ ( V ) เข้ามาก็น่าจะมีผลกระทบ ทั้งรูปแบบการเล่น เนื้อเรื่อง แถมด้วยบทเรียนจากภาค 4 ในเรื่องความด้อยของเนื้อเรื่องก็หวังว่าจะ ปรับปรุงในส่วนนี้ให้ดีขึ้นครับ
DMC มีตัวละครหลายแบบหลายสไตล์ คิดว่ายังขาดตัวละครแนวใหนอีกใหม
ตัวละครกล้ามล่ำบึ๊กสายแท็งค์ที่อยู่ฝั่งตัวเอก……(ฮา)
ข้อนี้ก็ตอบยาก ตัวละครที่ยังไม่มีอยู่ในเกม คงจะเป็นสาวน้อยเวทย์มนตร์กับตัวมาสคอร์ตที่น่ารักๆ ละมั้ง…ซึ่งจริงๆ มันไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะ (ฮา) ที่จริงในใจลึกๆ เคยคิดว่้าถ้ามีตัวละครแบบดันเต้แต่เป็นเวอร์ชั่นผู้้หญิงขึ้นมาสักคนจะเป็นยังไง ถ้าตัวเอกที่เป็น นักดาบลูกครึ่งปีศาจกลายเป็นผู้หญิงก็คงจะน่าสนุกดี
ที่ขาดไปน่าจะเป็นตัวละครสาวน้อยมั้งครับไม่ก็เด็กหนุ่มโชตะ (ฮา) แต่ถ้ามีผมก็อยากรู้นะจะออกมายังไง
ผมมองว่าขาดคาแรคเตอร์เทาๆ อะครับ คือ มี Good มี Evil ขาดที่อยู่ตรงกลาง
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของ DMC ตลอดมาในฐานะแฟนๆ ที่คอส คิดว่าเป็นไงบ้าง
คือผมได้เริ่มเล่นภาคแรกคือภาค2 แล้วหลังจากได้พูดคุยกับเพื่อนที่เคยเล่นภาคแรกมาบอกว่าภาคแรกสนุกกว่าเลยลองหามาเล่นดู ซึ่งมันก็สนุกกว่าจริงๆ ในภาค1ตัวละครของเราทำอะไรได้มากกว่าภาค2 ในภาคแรกท่าโจมตีจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เปลี่ยนอาวุธซึ่งมันควรจะเป็นจุดเด่นหลักในการต่อ Combo ซึ่งภาค2ไม่มี
แล้วหลังจากที่ภาค3ออก ผมว่าทางทีมงานรู้แล้วว่าคนเล่นต้องการอะไร พวกเขาจึงได้จัดการยกเครื่องดันเต้ให้ด้วยการจัด Style การต่อสู้ถึง 4 แบบ Trickster Swordmaster Gunslinger และ Royalguard ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ DMC3 ต่างจากเกม Hack&Slash เกมอื่น อย่าง Style Trickster จะทำให้ตัวละครของเรามีความสามารถในการหลบหลีกสูงมาก ทั้งการแดชไปมา โดดพุ่งกลางอากาศ ในLv.3ถึงขนาดวาร์ปไปตรงหน้าศัตรูให้ได้ Swordmaster ทำให้อาวุธระยะประชิดของเราออกท่าทางและcomboได้มากขึ้น รูปแบบการโจมตีจะเปลี่ยนไปตามอาวุธที่กำลังถืออยู่ ซึ่งมันเปิดโอกาสให้คนเล่นได้ลองอะไรใหม่ๆอย่างการผสมคอมโบของอาวุธ 2 ชนิด (ในภาค3สามารถเลือกอาวุธตอนก่อนเริ่มด่านได้ 2 ชนิด และเลือก Style ติดตัวได้ 1 อย่าง) ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้เกมนี้มันสนุกและสงสารศัตรูไปพร้อมๆกันอารมณ์แบบว่า “เอ๊ะกูจะตื๊บมึงด้วยท่าไหนดีนะ” เหมือนเวลาเล่นเกม Fighting ที่ยิ่งคอมโบเยอะก็ยิ่งมันส์ ยิ่งมันส์ก็ยิ่งติดพัน ส่วน Gunslinger จะเป็นการใช้ท่าของอาวุธปืนให้หลากหลายขึ้น และสุดท้าย Royalguard เป็นท่าบล็อกการโจมตีจากศัตรู หารเรากดบล๊อกถูกจังหวะในขณะที่ศัตรูโจมตีเข้ามาจะเป็นการสะสมเกทเพื่อทำการสวนดาเมจจากการโจมตีทั้งหมดในคราวเดียว จริงๆมีอีก 2 Style แต่ผมขอไม่พูดถึงละกัน
แล้วพอมาในภาค4 ตัวเกมเปิดพระเอกคนใหม่ของซีรี่ย์คือเนโร ดาบมอเตอร์ไซด์(Red Queen) ปืนลูกโม่ 2 ลำกล้อง(Blue Rose) และแขนปีศาจ(Devil Bringer) ที่ใช้ในการจับ-คว้าศัตรูมาออกแอคชั่นต่างๆซึ่งแตกต่างกันไปตามประเภทศัตรูที่โดน เช่นการจับทุ่ม เหวี่ยง ฉีกกระชาก จนไปถึงการ ORA!! รัวหมัดต่อยอย่างกับ Stra Platinum ใน JOJO แต่มันน่าเสียดายมากที่ถึงจะเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง แต่ระบบการเล่นของเนโรก็ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับดันเต้ในภาค3 แต่คงเพราะทีมงานมองว่าเนโรในภาคนี้ยังเด็กอยู่ยังไม่ลายครามเท่าดันเต้ ส่วนในภาค4 ทีมงานก็ได้เพิ่มความ BADASS ให้ดันเต้ยิ่งขึ้นด้วยการที่ในภาคนี้เราสมารถสลับ Style ทั้ง 4 แบบได้ทันทีในขณะที่เล่น แถมอาวุธทั้งหมดทั้งระยะประชิดและปืน ยังสามารถเปลี่ยนได้ในทันที ซึ่งตรงนี้ทำให้การเล่นดันเต้เป็นอะไรที่ไหลลื่นมาก อย่างเรากำลังใช้ดาบเสยศัตรูขึ้นกลางอากาศ เราวาร์ปขึ้นไปเหนือหัวมันแล้วหมุนตัวกระหน่ำยิงปืนคู่ แล้วปิดท้ายด้วยการ Rider Kick ใส่มันจนตัวแตก มันเป็นความสะใจที่อธิบายเป็นคำพูดได้ยากแต่มันเท่และมี Style
ต่อมาในภาครีบู๊ท DmC Devil May Cry ซึ่งทาง Capcom เกิดผีบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้นึกอยากให้เกมซีรี่ย์นี้ไปตีตลาดฝั่งอเมริกาเลยให้รีบู๊ทซีรี่ย์ใหม่แล้วมอบให้ทีมอื่นกำกับและสร้างแทน ซึ่งพอตัวอย่างแรกโผล่มาผมนี่แทบลมใส่ ดันเต้สูบบุหรี่ ทำตัวถ่อย เถื่อน นี่มันไม่ใช่ดันเต้ที่เรารู้จัก ไม่สิถึงบอกว่านี่ไม่ใช่ Devil May Cry ก็เชื่อ แล้วเหมือนทางทีมงานใหม่ก็ยอมฟังผู้เล่นนะ สั่งรีโมเดลดันเต้ใหม่ไปหลายรอบมาก เริ่มจากการเอาบุหรี่ออก เปลี่ยนโครงหน้าให้ดูดีขึ้น จนกระทั่งเกมออกแล้วผมได้ลองเล่นก็พบว่านี่มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนละเกมได้เลย แต่มันสนุกนะ เนื้อเรื่องโอเคพอรับได้ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาใช้ชื่อเกมอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Devil May Cry ในภาคนี้เราจะมีอาวุธ 2 สายคือสาย Angle ที่จะเน้นตีเร็วดาเมจไม่สูง กับ Demon ที่เน้นอัดหนักเข้าว่า ในแง่ของระบบการเล่นมันเล่นง่าย ไม่มีความหลากหลายเท่าภาคหลักแต่มันก็ยังสนุก
ส่วนในภาค 5 ได้ทีมงานเดิมที่เคยทำภาค 3-4 กลับมาทำและกำกับอีกครั้ง จากตัวอย่างเกมและข่าวสารที่ออกมา ตัวเอกหลักจากภาคเก่ายังคงเป็นเนโร ดันเต้ และตัวละครใหม่คือ V กล่าวถึงเนโรกันก่อน ในภาค4 จากที่แฟนๆบอกว่าเนโรเล่นง่ายท่าไม่ค่อยเยอะเพราะเอาไปเปรียบกับระบบ Styles ของดันเต้ ในภาคนี้ทางทีมงานจึงได้วางโครงเรื่องให้แขนปีศาจของเนโรถูกตัดไปโดยบุคคลปริศนา และถูกแทนด้วย Devil Breaker System แขนจักรกลที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนิโค่คู่หูคนใหม่ของเนโรในภาคนี้ ที่มีถึง 8 รูปแบบ(ยังไม่รวมแขนที่เป็นDLC) ซึ่งนี่เปรียบได้เหมือนระบบ Styles ของของเนโรก็ว่าได้ ในส่วนของดันเต้ยังคงเป็นระบบ Styles 4 รูปแบบเช่นเคย แต่ในภาคนี้อาวุธระยะประชิดบางชิ้นจะมีรูปแบบการโจมตีมากกว่า 1 รูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นอาวุธที่ชื่อ Balrog อาวุธชนิดนี้สามารถเปลี่ยนจากการโจมตีด้วยหมัดมาเป็นการโจมตีด้วยการเตะแยกจากกันได้ นี่อาจเป็นไปได้ว่าเราสามารถสร้าง Combo เหมือนเล่นเกม Fighting ได้ และตัวละครสุดท้ายคือ V ตัวละครใหม่ของภาคนี้ซึ่งรูปแบบการต่อสู้ที่ฉีกไปจากทั้งเนโรและดันเต้อย่างสิ้นเชิง โดยที่ V เป็นสายอันเชิญ โดยจะเรียกอสูรเงา นก(กริฟฟอน) เสือดำ(ชาร์โด้) และโกเล็มยักษ์(ไนท์แมร์) มาสู้แทนตนเองโดยที่ต้องมี V เป็นคนปิดฉากศัตรูด้วยไม้เท้า(ยกเว้นไนท์แมร์ที่ฟาดศัตรูตายได้) ซึ่งก็สร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ให้กับแฟนเกมได้มากทีเดียว และสุดท้ายคือระบบออนไลน์ที่เรียกว่า Cameo System ซึ่งจะเป็นการสุ่มผู้เล่นคนอื่นให้มาร่วมเล่นกับเรา โดยในบางด่านตัวละครเอก 2 ตัวขึ้นไปจะอยู่ในฉากหรือบริเวรใกล้กัน และถ้าหากเกิดเหตุการเชื่อมต่อขัดข้อง ผู้เล่นอีกคนจะถูกแทนที่โดย Ai ที่มีพฤติกรรมเลียนแบบการเล่นของเราเองแทน ซึ่งนี่ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากสำหรับซีรี่ย์นี้
คิดว่าเกมนี้เหมือนคนที่มีชีวิตลุ่มๆ ดอนๆ มีทั้งช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก แล้วก็มีช่วงที่ทำให้แฟนอย่างเรารู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง (ฮา) คือชอบมีเรื่องให้แปลกใจเสมอ การได้ติดตาม DMC ทำให้เกิดความรู้สึกด้านใดด้านหนึ่งอยู่ตลอด ไม่ดีมากๆ ก็แย่มากๆ ไม่มีตรงกลางเลย แบบ เฮ้ย นายน่ะเหรอ ก็งั้นๆ แหละไม่ดีไม่แย่ ไม่มีเลย 5555 (ไม่รู้ว่าเราติ่งหรืออวยเกินไปหรือเปล่านะ) เนื้อเรื่องและตัวละครพัฒนาไปตามลำดับ ถ้าเอาภาคแรกมาเทียบกับภาคล่าสุด ในแง่กราฟิกก็เรียกว่ามาไกลแหละ ชอบบรรยากาศในเกมที่สิ่งกปลูกสร้างมีการใช้สถาปัตยกรรมแบบโกธิคและยังคงไว้ทุกภาค เพลงประกอบก็มันส์เกือบทุกภาค แต่ตอนหน้าสิ่วหน้าขวานไม่ค่อยได้ยินเพลงหรอก 5555555+ การออกแบบตัวละครก็ทำได้มีเสน่ห์ดี รู้สึกว่าตัวเองจะแพ้ทางแคปคอมตรงคาร์แรคเตอร์ดีไซน์ โดยเฉพาะภาคล่าสุดนี้หลังจากที่เล่นเดโมก็เกิดถูกใจนิโคขึ้นมา คาแรคเตอร์ดีไซน์แว่บแรกให้ความรู้สึกธรรมดา แต่พอใส่ท่าทางการเคลื่อนไหวที่ดูเซ็กซี่นิดๆ ลงไป นิโคก็ดูเป็นสาวสวยที่มีเสน่ห์มากเลย
มีการเปลี่ยนแปลงไปทีดีขึ้นมากครับเนื้อเรื่องยังคงความสนุกของตัวเกมไว้อยู่อีกทั้งยังมีตัวละครแปลกใหม่ทีใส่เข้ามาเพิ่มอีกด้วย
จริงก็ไม่รู้จะเพิ่มเติมอะไรอะครับ ถ้าจะลงรายละเอียด ก็จะขอนับแค่ในเกมเป็นหลักนะครับ
– ตั้งแต่ภาคแรกที่ลง PS2 เปิดตัวด้วยตัวละครเท่ๆ พร้อม gameplay ที่ค่อนข้างหวือหวาในยุดนั้น มีการแก้ปริศนา แถมเนื้อเรื่องก็ค่อยข้างโอเค (มีแอบติดน้ำเน่านิดหน่อย) ที่จำได้แม่นเลยคือการที่ตัวเองโดนดาบเสียบตั้งแต่ต้นเกม จนกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างนึงของเกมนี้ไปแล้ว (ฮา)
– ภาคถัดมา เหมือนพยายามจะเพิ่มอะไรใหม่ๆ ด้วย เกม 2 แผ่น ดันเต้และตัวละครใหม่อย่างลูเซีย (ถ้าจำไม่ผิด เนื้อเรื่องก็แยกเป็นของใครของมัน แต่ดำเนินเรื่องแบบคู่ขนาน) ฉากที่กว้างมากขึ้น ระบบอัญมณีในการเพิ่มความสามารถตัวละคร ระบบ gameplay ที่ง่ายกว่าภาคแรกมาก ฯลฯ แต่ไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร
– ภาค 3 กลายเป็นภาคก็ที่ทำให้เกมนี้ก็ได้รับความนิยมสูง ระบบ gameplay ที่เอาของภาค 1 มาพัฒนาเพิ่มสไตล์ 4 แบบ ของดันเต้ ทั้งเนื้อเรื่องชวนให้ติดตาม ทั้งตัวละครอย่างเวอร์จิล ที่เท่ห์จนสาวๆ กรี๊ดแตก คาแรคเตอร์หลักทุกตัว มีจุดน่าสนใจ
-ภาค 4 กราฟฟิคที่สวยปิ๊งของ PS3 และระบบ gameplay ที่แตกต่างกันระหว่าง ดันเต้ กับตัวละครใหม่ เนโร ที่เพิ่มความสนุก หลากหลายของการเล่น แต่ด้านเนื้อเรื่องกลับด้อยจนทำให้หมดความสนุก
– ภาค DmC การตีความดันเต้ที่สดใหม่ ผมชอบที่ตัวละครดูมีความเป็นมนุษย์ มีความเทาๆ มันดูไม่ Hero จ๋าแบบเวอร์ชั่น original ชอบวิธีการที่มุนดุส (บอส) ใช้ในการควบคุมมนุษย์ มันดูเป็นบอสที่มีความคิดอ่านดี ชอบจุดแตกหักระหว่างดันเต้กับเวอร์จิล เอาจริงๆ ผมชอบมากกว่าภาค3 ด้วยนะ มันดูจับต้องได้มากกว่า
– ส่วนภาค 5 ที่กำลังจะมา ผมอาจจะคิดไปเองก็ได้นะ ว่า เค้าใส่ความเป็นDmCมาในภาคนี้ด้วย (ฮา) ทั้งตัวละครที่ดูดิบขึ้น รวมถึงตัวละครใหม่อย่าง V แล้วก็ nico ด้วย
คำถามสุดท้าย อยากบอกอะไรกับ Capcom ครับ?
สุดท้ายผมอยากจะฝากถึง CAPCOM ว่า ผมดีใจที่ตอนนี้ทางทีมงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของแฟนเกมรุ่นเก่าซึ่งเป็นฐานตลาดสำคัญ โดยการทำเกมภาคต่อที่มีคุณภาพ รวมถึงการจับเอา Resident Evil 2 มา REMAKE ใหม่ซึ่งเป็นการดึงดูดแฟนเกมรุ่นเก่าที่เคยเล่นภาคต้นฉบับและปรับให้เหมาะสมเพื่อผู้เล่นหน้าใหม่อีกด้วย ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางทีมงานจะรักษามาตรฐานนี้ต่อไป ผมในฐานะ FC คนหนึ่งของซีรี่ย์ DMC ก็ขอให้ภาคนี้ประสบความสำเร็จจนสามารถสานต่อภาคใหม่ได้ในอนาคตด้วย ขอบคุณครับ
อยากบอกว่า ถ้าทำภาค 5 เจ๋งแล้ว ภาค 6 ต้องเจ๋งให้ยิ่งกว่านะคะ (ฮา) ทำเนียมของซีรี่ส์นี้จะดังเป็นพลุแตกภาคนึง สลับกับแป้กอีกภาคนึงตลอด เพราะตอนที่ทำได้ดี คุณภาพก็ทะลุมาตรฐาน พอภาคถัดมาทำได้เสมอตัวหรือน้อยกว่าเล็กน้อยก็จะถูกมองว่าด้อยทันที เป็นงานที่ยากเนอะ ที่ต้องเจ๋งให้ได้ตลอดเวลา เป็นดันเต้มันเหนื่อย
รักเกม Capcom มากครับถ้ามีภาคต่อขอตัวละครสาวน้อยหนุ่มน้อยเพิ่มมาหน่อยนะครับ (ฮา)
ไม่รู้จะบอกอะไรเหมือนกันครับ เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร (ฮา)
แล้วตอนนี้ทาง Capcom ได้ปล่อยชุดคอสเพลย์ตัวละครหลักทั้งสามคน คือ เนโร ดันเต้ และ วี ออกมาขายให้สาวกทั้งหลายได้จับจองเป็นเจ้าของ ลายระเอียดของตัวชุดเหมือนเอามาจากตัวเกมเลยก็ว่าได้
ชาวคอสเพลย์ท่านใหนสนใจลองกดเข้าไปดูกันได้เลยครับ แต่ราคาไม่ใช่เบาๆเลยนะขอบอก (หลักแสนบาท)