playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว A Cop Movie (Netflix) หนังสารคดีตีแผ่ตำรวจที่เล่าเรื่องได้โคตรเฟี้ยว

สรุป

คุณเคยดูสารคดีที่เดาเนื้อหาและตอนจบไม่ได้มั้ยล่ะ? ถ้ายังไม่เคยล่ะก็ เรื่องนี้คือคำตอบ ใครจะไปคิดว่าการเล่าเรื่องของสารคดีที่มาตีแผ่เรื่องราวของตำรวจมันจะมีสไตล์ที่ชวนให้ติดตาม แม้ว่าจะมีช่วงที่รู้สึกยืดๆ บางช่วง แต่โดยรวมมันคือการดูสารคดีที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ากำลังดูสารคดีอยู๋เลย ทั้งการนำเสนอประเด็นต่างๆ จากปากของตำรวจที่ทำงานมาหลายสิบปี ที่จะทำให้เราหายสงสัยว่าทำไมตำรวจเม็กซิโกในหนังหรือซีรีส์ ชอบใช้กำลัง ชอบรีดไถ หรือไม่ค่อยมีตำรวจดีๆ ให้เห็น แต่ความจริงนั้น มันแทบจะแย่เสียยิ่งกว่าในหนังเลยล่ะ ลองเปิดใจดูจะรู้ว่าเรื่องนี้มันเจ๋งจริง

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • การเล่าเรื่องสารคดีในแบบที่มีสไตล์จนคิดว่าไม่ได้ดูสารคดีอยู่
  • นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ในหลายแง่มุมของตำรวจได้เข้าถึง
  • สร้างจากเรื่องจริง

Cons

  • มีช่วงน่าเบื่อบ้าง ตัวละครคุยกันยาวๆ
  • ชื่อเรื่องโคตรธรรมดาจนไม่น่ากดเข้าไปดู

ADBRO

A Cop Movie ตำรวจเม็กซิโก ภาพยนต์สารคดีจาก Netflix ที่นำเอาสองนักแสดงชายหญิง ไปแฝงตัวเข้าฝึกเป็นตำรวจจริงๆ เพื่อหาข้อมูล และเผยแพร่เรื่องราวของตำรวจในหลายๆ แง่มุมในสังคมของเม็กซิโก ที่อาชีพตำรวจนั้น มันเป็นเป็นอาชีพที่ถูกตั้งคำถามเสมอว่ามีเกียรติหรือไม่

 A Cop Movie (2021) on IMDb

ตัวอย่าง A Cop Movie

รีวิว A Cop Movie

การตีแผ่วงการตำรวจ ความดาร์ก ความหม่น เบื้องหลังสีเทาๆ การหักหลัง ทุจริต ชิงดีชิงเด่น อำนาจภายใน ฯลฯ เป็นเรื่องที่ถูกเอามาเล่าเป็นทั้งภาพยนต์ และสารคดีมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่เรื่องนี้คือ “ภาพยนต์สารคดี” ที่มันผสมผสานระหว่างความเป็นหนัง การเล่าเรื่อง การนำเสนอ ควบคู่ไปกับความเรียลในแบบสารคดีที่แปลกใหม่ พร้อมกับเรื่องราวที่ชวนตั้งคำถาม โดยนำเสนอผ่านตัวละครหลักที่เป็นตำรวจสองคน

ในฉากเปิด กล้องจะแช่ไว้ในรถตำรวจพร้อมกับเสียงหวอและแสงไฟของรถ วิทยุแจ้งข่าวสารตำรวจก็บอกข้อมูลว่ามีเหตุเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนรถตำรวจมาหยุดที่หน้าบ้านๆ หนึ่ง โดยจะมีเสียงบรรยายว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างโดยนายตำรวจหญิงที่ชื่อว่า เตเรชา กลายเป็นว่าเธอต้องพบกับคนที่กำลังจะคลอดลูก แต่เรียกรถพยาบาลเท่าไหร่รถก็ไม่ยอมมา พวกเขาจึงแจ้งตำรวจ ตำรวจซึ่งก็คือเธอจึงมาตรวจเพื่อยืนยันกับส่วนกลางว่ามีเคสเกิดขึ้นจริงๆ ถึงจะส่งรถพยาบาลให้ แต่ด้วยความวุ่นวายของระบบต่างๆ มันไม่สามารถรอได้ เพราะคนจะคลอดลูกทั้งคน เตเรชาจึงต้องจำใจทำคลอดด้วยตัวเอง แม้ว่าเรื่องราวนี้จะดูธรรมดา แต่การบอกเล่า รวมถึงผลของการกระทำที่ตามมาในเรื่อง อย่างเหตุการณ์นี้ กว่าทางรถพยาบาลจะมาถึง เด็กก็คลอดออกมาปลอดภัยด้วยมือตำรวจหญิงแล้ว นายพยาบาลก็ถูกเหล่าชาวบ้านไม่พอใจและด่าทอ และนี่คือการเริ่มต้นองค์ที่ 1 ของหนังสารคดีเรื่องนี้ เรื่องราวของเตเรชา ว่าเธอคือใคร มาเป็นตำรวจได้อย่างไร

การดำเนินเรื่องมันผสมผสานเสียงบรรยายที่เหมือนการสัมภาษณ์คนต่างๆ ในสารคดีทั่วไป แต่ภาพที่เราเห็นออกมาผ่านนักแสดงนั้น มันแทบจะทำให้เราเชื่อทันที่ว่า เธอคือตำรวจตัวจริง ประกอบกับการใช้เทคนิคการถ่ายทำที่แพรวพราวและมีลูกเล่นให้เราชวนว้าวอยู่หลายฉาก เช่นฉากที่เตเรชา ค่อยๆ เล่าเกี่ยวกับเรื่องราวของพ่อเธอ เหมือนตัวละครของเธอเองเป็นมุมมองบุคลที่ 3 นั่งอยู่กลางรถตำรวจของพ่อกับคู่หู แต่ทั้งสองคนนี้จะไม่ปฏิสัมพันธ์กับเธอ ปล่อยให้เธอเล่าไป หรือการใส่ลูกเล่นที่ในฉากไล่ล่า ที่เหมือนหลุดมาจากหนังในยุคเก่าๆ ที่ไม่ได้ดูเชย แต่ดูเก๋มาก รู้ได้เลยว่าผู้กำกับทำการบ้านมาดี

เมื่อรู้จักตัวละครเตเรชาแล้ว เรื่องราวก็จะไปสู่องค์ที่ 2 นายตำรวจมอนโตยา โดยจะเล่าว่าเขาคือใคร โตมาได้ยังไง ทำไมถึงมาเป็นตำรวจ คล้ายๆ กับเรื่องแรกแต่ต่างกันที่มุมมอง จนมันมาเล่าต่อนองค์ที่ 3 เมื่อทั้งสองตัวละครนี้ ได้มาเจอกัน เตเรชากับมอนโตยา ตำรวจที่ได้ชื่อว่า สายตรวจรัก เมื่อพวกเขาทั้งสองจับคู่กัน ทั้งในการทำงานและการเป็นคู่ชีวิต เจออุปสรรค หรือพบเจอเรื่องราวอย่างไร โดยจะเป็นฉากที่เหมือนนั่งสัมภาษณ์ทั้งสองคน สลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากคำบอกเล่าไปเรื่อยๆ จนจู่ๆ เหมือนกองถ่ายหนังสารคดีเรื่องนี้ไฟตก แต่กล้องก็ยังรัน ไม่หยุด เหล่านักแสดงก็หลุดออกจากบทบาท ทำตัวตามปกติ จนมันเฉลยว่า นี่คือองค์ที่ 4 ที่หนังจะนำเสนอ มันคือเรื่องราวของสองนักแสดงที่รับบทเป็นเตเรชา กับมอนโตยา ที่ได้เข้าไปฝึกตำรวจหกเดือน พร้อมกับลงพื้นที่ทำงานสายตรวจกับตำรวจตัวจริง ก่อนที่จะไปเจอกับบทสุดท้าย นั่นก็คือ เรื่องราวจากปากของเจ้าของเรื่องตัวจริง ไม่ใช่จากนักแสดง

บอกเลยว่าภาพยนต์สารคดีเรื่องนี้ ลูกเล่นการเล่าเรื่องที่แพรวพราวจนมันสามารถทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้แทบจะตลอดทั้งเรื่อง เดาไม่ได้เลยว่าเขาจะใส่อะไรมาให้เรารับชม ถือว่าเป็นความสนุกของหนังเรื่องนี้เลย ประกอบกับเรื่องราวของตำรวจในแบบเรียลๆ ที่ผู้ชมอาจจะพอรับรู้ หรือเห็นผ่านสื่อต่างๆ แต่มันจะลงลึกทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้น ว่ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง อย่างเช่นการที่จะมาเป็นตำรวจเม็กซิโกนั้น เพียงแค่ผ่านหลักสูตรฝึก 6 เดือนก็เป็นตำรวจได้เลย ไม่ได้เป็นอาชีพที่มีเกียรติอะไรขนาดนั้น หรือปัญหาที่ว่าตำรวจระดับชั้นล่างๆ ทำไมถึงจับอาชญากรไม่ได้ เพราะปัญหาในเรื่องชุมชน ที่ชาวบ้านจะทำการรุมสกรัมตำรวจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนบ้าน แทนที่จะช่วยตำรวจจับคนร้าย และอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องบอกเลยว่า โหดและดิบมาก มีหลายประเด็นที่นำเสนอที่ค่อนข้างเข้าถึง

ในระหว่างการดำเนินเรื่อง ก็จะมีเรื่องราวดราม่า ความเป็นอยู่ของทั้งสองตัวละครหลักที่อาจจะน่าเบื่อไปบ้างในบางพาร์ท พูดยาวๆ เลยทำให้บางช่วงของหนังแผ่วลงไปเยอะมาก ถือว่าเป็นข้อเสียหลักๆ เลยก็ว่าได้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันคือหนังสารคดี พูดเยอะๆ คุยยาวๆ มันไม่ได้แปลกอะไร ถ้าหากว่าหนังฉากแอ็กชั่น ตำรวจเท่ๆ อะไรพวกนี้บอกเลยว่า ไม่มีแน่นอน

เรื่องราวโดยรวมของหนังสารคดีเรื่องนี้มันเหมือนกับว่า ชวนเราตั้งคำถาม ในองค์ที่ 4 จะเป็นมุมมองของนักแสดงที่เข้าไปคลุกคลีอยู่กับตำรวจจริงๆ ทั้งการฝึกและอีกหลายอย่าง ทำให้พวกเขาเหมือนเป็นตัวแทนของสายตาประชาชนที่เข้าไปอยู่ตรงนั้น ทำความเข้าใจ และตั้งคำถามเกี่ยวกับวงการตำรวจ เส้นสาย การคอรัปชั่น การรีดไถ เยอะแยะมากมายเต็มไปหมด และยังเชื่อมโยงไปถึงระบบการเมือง มันทำให้หนังเรื่องนี้เหมือนหยิบหลายๆ แง่มุมมานำเสนอ ไม่ได้มีบทสรุป จบบริบูรณ์ หรืออะไรที่สวยหรู ดูจบแล้วเราจะมีเจอกับความรู้สึกที่ค่อนข้างหนักอึ้งกับความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ให้เราไปคิดหาคำตอบเอาเองอีกทีหนึ่ง

เป็นภาพยนต์สารคดีที่ดีมากอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าภายนอกจะดูดาดๆ ทั่วไป เรื่องราวเกี่ยวกับตำรวจ ชื่อเรื่อง “ตำรวจเม็กซิโก” ก็บ้านๆ มาก แทบจะไม่ชวนให้กดเข้าไปดู แต่ถ้าหากว่าลองเปิดใจแล้วคุณจะพบว่า นี่มันเพชรในตมที่รอให้คุณได้ลองดู แต่มันก็ไม่ได้เหมาะกับคนดูทุกคน เพราะเรื่องราวต้องอาศัยการคิดตามและวิเคราะห์คำพูดของคนในเรื่องอยู่บ้างๆ ใช้วิจารณญาณต่างๆ เยอะ แต่บอกเลยว่าเราได้ความรู้และแง่คิดจากเรื่องนี้เพียบ ดูเพลินและสนุก การันตีรางวัลงานศิลป์ จากเทศกาลภาพยนต์เบอร์ลินปี 2021

A Cop Movie

คุณเคยดูสารคดีที่เดาเนื้อหาและตอนจบไม่ได้มั้ยล่ะ? ถ้ายังไม่เคยล่ะก็ เรื่องนี้คือคำตอบ ใครจะไปคิดว่าการเล่าเรื่องของสารคดีที่มาตีแผ่เรื่องราวของตำรวจมันจะมีสไตล์ที่ชวนให้ติดตาม แม้ว่าจะมีช่วงที่รู้สึกยืดๆ บางช่วง แต่โดยรวมมันคือการดูสารคดีที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่ากำลังดูสารคดีอยู่เลย ทั้งการนำเสนอประเด็นต่างๆ จากปากของตำรวจที่ทำงานมาหลายสิบปี ที่จะทำให้เราหายสงสัยว่าทำไมตำรวจเม็กซิโกในหนังหรือซีรีส์ ชอบใช้กำลัง ชอบรีดไถ หรือไม่ค่อยมีตำรวจดีๆ ให้เห็น แต่ความจริงนั้น มันแทบจะแย่เสียยิ่งกว่าในหนังเลยล่ะ ลองเปิดใจดูจะรู้ว่าเรื่องนี้มันเจ๋งจริง

รับชม A Cop Movie ตำรวจเม็กซิโก ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!