รีวิว Dark Forces โรงแรมอสุรกาย หนังที่ดูดีแค่ภายนอก
รีวิว Dark Forces โรงแรมอสุรกาย หนังที่ดูดีแค่ภายนอก
สรุป
กราฟความสนุกของหนังคือความราบเรียบและดิ่งลงไปเรื่อยๆ ตลอดที่เราดู และไม่รู้ว่าจะจะสนุกขึ้นตรงไหน มันเฉยๆ มาก ไม่มีการเฉลยปม ขมวดปม หรือนำเสนอจุดแข็งจุดว้าวของเรื่อง เหมือนนึกอะไรออกก็เอามาโปะๆ รวมๆ แล้วเรียงกันโดยไม่คำนึงถึงความเชื่อมโยงอะไร ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับเพื่อนของคุณที่กำลังเมาอะไรสักอย่าง พยายามเล่าเรื่องที่สนุกสุดๆ ในหัวของเขาให้คุณฟัง แล้วคุณฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ไม่อิน มันคือหนังเรื่องนี้เลยล่ะ ถ้าหากใครอยากลองหาความแปลกใหม่ งานศิลป์ในหนังที่ดูแปลกๆ เหมือนคนหลอนประสาท ดูฟุ้งๆ เฟ้อๆ ลอยๆ อาจจะชอบเรื่องนี้ แต่ถ้าอยากจะหาดูเพื่อความบันเทิง ยังไงก็ยังยืนยันว่าเรื่องอื่นแนวนี้สนุกกว่าจริงๆ
Overall
3/10User Review
( vote)Pros
- งานภาพดูดี ดูเป็นงานศิลป์
Cons
- ดำเนินเรื่องแบบฟุ้งๆ เฟ้อๆ ไม่มีต้นสายปลายเหตุ จับต้นชนปลายแทบไม่ได้
- ฉากแอ็กชั่นเกรด C
- CGI เอฟเฟคที่ดูตกยุค
- การนำเสนอที่แย่
Dark Forces โรงแรมอสุรกาย ภาพยนต์เรื่องใหม่ของ Netflix จากประเทศ Mexico แนวลึกลับแอคชั่นสยองขวัญ เรื่องราวของอาชญากรที่ตามหาน้องสาว จนได้เข้ามาพักในโรงแรมที่มีแต่ความลับปริศนาอันดำมืด ที่อาจจะนำพาไปสู่ที่อยู่ของน้องสาวเขา
Dark Forces โรงแรมอสุรกาย ตัวอย่าง
รีวิว Dark Forces โรงแรมอสุรกาย
ภาพยนต์จาก Mexico เรื่องนี้ เมื่อดูตัวอย่างแล้วรู้สึกว่ามันน่าสนใจ รวมไปถึงตัวพล็อตเรื่องเองที่ชวนให้เราสงสัย แต่กลับกลายเป็นว่า ในตัวอย่าง มันก็มีแค่นั้น และในตัวหนังทำออกมาได้ค่อนข้างแย่ เราไม่สามารถตัดสินความสนุกของหนังได้จากตัวอย่างหนังจริงๆ
โรงแรมอสุรกาย เล่าถึง ฟรังโก้ อาชญากรหน้าหนวด ที่ออกตามหาน้องสาว จนได้เข้ามาพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งโรงแรมนี้ก็มีผู้พักอาศัยแปลกๆ เต็มไปหมด ในช่วงแรกของหนังเราก็จะเห็นตัวละครแปลกๆ โผล่ออกมาเต็มไปหมด แบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ คือแค่เป็นผู้อาศัยอยู่ แต่ดันสำคัญกับเนื้อเรื่องซะอย่างนั้น แต่บางตัวโผล่มาก็ ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย แต่ทุกๆ คนพูดเหมือนกันว่า กำลังรอพระเอกของเราอยู่
ดูเหมือนว่าโรงแรมแห่งนี้จะไม่ธรรมดา เพราะมีผู้อาศัยในโรงแรมที่ดูแปลกประหลาด ทั้งร่างทรง หญิงสาวที่เป็นทาสบำเรอกามของมาเฟีย ชายแก่ท่าทางแปลกๆ พระเอกเราก็ต้องการหาเบาะแสว่า น้องสาวของเขาอยู่ที่ไหน จะได้ไปช่วย และเขาเลยเลือกที่จะไปจ้างร่างทรง
อ่านถึงตรงนี้คงจะคิดแล้วว่า หนังเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแปลกๆ และใช่ มันแปลกจริงๆ ดูเหมือนการดำเนินเรื่องของมันจะเป็นแบบ ไม่มีต้นสายปลายเหตุ มีแต่อะไรไม่รู้ เหมือนลอยมา โปะๆ กัน เพื่อให้เรื่องดำเนินต่อไปได้ จู่ๆ พระเอกก็เข้าโรงแรมมา จู่ๆ พระเอกก็ฝันร้าย มีนิมิต จู่ๆ พระเอกก็ต้องไปหาเงิน คือทุกสิ่งทุกอย่าง ความมีเหตุผลของมันน้อยมาก และตัวหนังเองไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า ตัวพระเอกมันพิเศษ หรือเรื่องราวของเขามันพิเศษอะไรเลยในการตามหาน้องสาว
ตามปกติ หนังทั่วไปที่ตัวละครหลักต้องการตามหาคนสำคัญ มันก็จะเล่าถึงแรงจูงใจ หรือเหตุผลว่า ทำไมตัวละครนั้นถึงหายไป ถูกลักพาตัวไปเพระาเหตุผลอะไร แต่ไอ้เรื่องนี้มันไม่เล่าอะไรเลย จู่ๆ ก็บอกว่าหายตัวไป ถูกจับตัว ไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น สำหรับตัวละครหลักอย่างฟรังโก้ก็ไม่ได้ทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของแกนเรื่องหลักนี้เลยสักนิด โดยปกติหนังเรื่องอื่นๆ ก็จะบอกว่าน้องสาว เป็นแก้วตาดวงใจ คนในครอบครัวที่สำคัญขนาดตายแทนได้ แต่เรื่องนี้กลับกัน ไม่บอกอะไร แฟลชแบคที่เล่าย้อนไปในช่วงเวลาของสองพี่น้อง คือนั่งกินข้าวด้วยกันแล้วคุยเรื่อยเปื่อย ไม่มีสาระสำคัญ มันทำให้เราไม่อินเลยในเนื้อเรื่องหลักส่วนนี้
ส่วนต่อมาคือเนื้อเรื่องในโรงแรม ที่ชื่อเรื่องก็บอกว่า โรงแรมอสุรกาย แต่มันดันนำเสนอแบบ งงๆ มึนๆ เหมือนกับคนเมายา เพราะทุกสิ่งที่นำเสนอในหนังมันจะลอยๆ ฟุ้งๆ ดูไม่มีหลักการณ์ ดูไม่มีเหตุผล อยากจะเป็นแบบนี้ อยากจะดำเนินไปแบบนี้ ก็เอาเลย โผล่โพล่งมาเลยแบบอิหยังวะ และเราจะอิหยังวะไปจนจบเรื่อง การที่เราหวังจะเห็นแบบปีศาจ หรือความแปลกประหลาด ความสยองขวัญในหนังเรื่องนี้ ก็ขอให้ไปเลย 0 คะแนน
ความแย่ของหนังยังไม่หมด เพราะมันมีแต่ความไม่สมเหตุสมผลตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของพระเอก การที่ตัวเรื่องเกริ่นว่าพระเอกเป็นอาชญากร แต่ไม่บอกว่าในอดีตทำอะไรมาบ้าง อาชญากรแบบไหน? คาแรคเตอร์ดีไซน์ที่ดูทื่อๆ ไม่มีมิติตัวละครเลยสักตัว คนที่ดูเหมือนเป็นนางเอกที่พระเอกต้องไปช่วยพยายามบิ้วให้เราอินว่าเธอเจอเรื่องเลวร้ายมากแค่ไหน(แต่ก็เชื่อไม่ลง ไม่อิน) แม้กระทั่งความแปลกประหลาดที่หนังพยายามจะนำเสนอเกี่ยวกับพลังลึกลับที่จะคอยสิง กัดกินพระเอกที่ดูแล้วก็ต้องกุมขมับแล้วอุทานว่าอิหยังวะอีก 10 ที
ถ้าคิดว่าความแย่จะหมดแล้ว บอกเลยว่ายังไม่หมด เพราะหนังเรื่องนี้เป็นประเภทแอคชั่นด้วย และฉากแอคชั่นต่อยตีง่อยมาก กราฟฟิค CGI ต่างๆ เหมือนหนังสยองขวัญยุค 80 ดูตกยุค และที่ขัดใจที่สุดก็คือฉากไกล้ไคลแมกซ์ที่ไปสู้กับตัวบอสมาเฟีย ที่น่าจะมีลูกน้องเยอะมาก แต่กลับท้าดวลพระเอกตัวต่อตัว เพื่ออะไร? ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูน่าขัดใจไปหมดและไม่สมเหตุสมผลอะไรเลยสักนิด
แต่ก็ใช่ว่าในหนังจะไม่ดีไปทั้งหมด มีความดีอยู่บ้างในด้านงานภาพ และฉากพื้นหลังที่นำเสนอออกมาในระดับที่เรียกว่า เป็นงานศิลป์ที่เหมือนกับคนเมายามาทำ(อันนี้ชม) เพราะเขาเล่นแสงสีได้อย่างแปลกประหลาด แต่ดูสวยงาม เขาจะใช้โทนสีเหมือนในผับบาร์ มาผสมๆกัน ทั้งแดง น้ำเงิน เขียว และอื่นๆ พร้อมทั้งการกระพริบไฟถี่ๆ ในบางฉาก เหมือนเราดูไปเมาไปอะไรแบบนั้น และน่าจะเป็นความดีเพียงอย่างเดียวที่ต้องยอมรับ
เพลงประกอบ ซาวด์เอฟเฟคก็ง่อย ทั้งเสียงปืนก๊องแก๊งเหมือนกับโหลดเสียงจาก Internet แล้วมาตัดต่อใส่ เสียงต่อยตีแบบอะไรก็ไม่รู้ เพลงประกอบที่ไม่มีก็ได้ ไม่ได้ฟังแล้วชวนตื่นเต้น
กราฟความสุกของหนังคือความราบเรียบและดิ่งลงไปเรื่อยๆ ตลอดที่เราดู และไม่รู้ว่าจะจะสนุกขึ้นตรงไหน มันเฉยๆ มาก ไม่มีการเฉลยปม ขมวดปม หรือนำเสนอจุดแข็งจุดว้าวของเรื่อง เหมือนนึกอะไรออกก็เอามาโปะๆ รวมๆ แล้วเรียงกันโดยไม่คำนึงถึงความเชื่อมโยงอะไร ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนกับเพื่อนของคุณที่กำลังเมาอะไรสักอย่าง พยายามเล่าเรื่องที่สนุกสุดๆ ในหัวของเขาให้คุณฟัง แล้วคุณฟังยังไงก็ไม่รู้เรื่อง ไม่อิน มันคือหนังเรื่องนี้เลยล่ะ (แม้ในตอนสุดท้ายจะมีการหักมุม แต่จู่ๆก็เหมือนตัดจบไปดื้อๆ เลย และไม่ได้หักมุมแบบมีอิมแพคอะไรมากด้วย เรียบเฉยมาก)
แม้หน้าหนังจะดูดี แต่องค์รวมของหนังคือพังอย่างถึงที่สุด ซึ่งบางคนอาจจะชอบก็ได้ แต่หนังแนวนี้หลายๆ เรื่องสนุกกว่าเยอะ ถ้าหากใครอยากลองหาความแปลกใหม่ งานศิลป์ในหนังที่ดูแปลกๆ เหมือนคนหลอนประสาท ดูฟุ้งๆ เฟ้อๆ ลอยๆ อาจจะชอบเรื่องนี้ แต่ถ้าอยากจะหาดูเพื่อความบันเทิง ยังไงก็ยังยืนยันว่าเรื่องอื่นแนวนี้สนุกกว่าจริงๆ
รับชม Dark Forces โรงแรมอสุรกาย ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้