รีวิว In From The Cold ซีรีส์สายลับกลิ่นเกรดบีแต่แอ็กชั่นมันส์! (ไม่สปอยล์)
In From The Cold
สรุป
โดยรวม ในช่วงแรกเราอาจจะไม่เชื่อ ไม่อินกับตัวละครหรือการกระทำมากเท่าไหร่ ด้วยการดำเนินเรื่องที่ไม่เวิ่นเว้อมาก ฉากแอคชั่นที่สะใจและโหดใช้ได้ พล็อตเรื่องที่เหมือนหยิบเอาหลายๆ อย่างมาผสมรวมๆ กัน ทั้งสายลับ ความไซไฟ พลังพิเศษ ทำให้การไปเฉลยปมและดำเนินเรื่องช่วงหลังมันส์เลยทีเดียว มีหักมุมเพื่อปูไปยังซีซั่นที่สองด้วย ถ้าใครกำลังหาซีรีส์ดูเอามันส์ไม่คิดมากก็ขอแนะนำเรื่องนี้ ที่สำคัญคือมีพากย์ไทยด้วย แต่ถ้าหากอยากเรื่องราวสายลับแบบเข้มข้น การเมือง การสืบสวนหนักๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- ฉากแอ็กชั่นดี โหด สะใจ
- ผสมแนวไซไฟกับสายลับได้โอเค
- มีพลิกล็อก หักมุม
- มีพากย์ไทย
Cons
- ความไม่สมเหตุสมผลแบบเล็กๆ น้อยๆ มีให้เห็นตลอดเรื่อง
- ฉากเปลี่ยนจากปัจจุบันไปอดีตเชยมาก
- เนื้อเรื่องในช่วงแรกนำเสนอได้ไม่ดีจนขาดอารมณ์ร่วมในบางอย่าง
In From The Cold สายลับเงารัสเซีย ซีรีส์ Original Netflix เรื่องราวของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวธรรมดาๆ แต่เบื้องหลังเธอคือสุดยอดอดีตสายลับของรัสเซียที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ เธอต้องสืบหาข้อมูลของอาวุธร้ายแรงที่สามารถสะกดจิตคนได้ ก่อนที่มันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และลามไปยังลูกสาวของเธอ
ตัวอย่าง In From The Cold สายลับเงารัสเซีย
เรื่องย่อ In From The Cold สายลับเงารัสเซีย
เจนนี่ แฟลงค์ลิน คุณแม่ที่ดูท่าทางธรรมดา พาลูกสาวมายังสเปนเพื่อแข่งขันไอซ์สเก็ต แต่แล้วเธอดันถูกจับตัวโดยชอว์ซีย์ อดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่กำลังตามหาตัวโคตรสุดยอดสายลับโค้ดเนม “วิสเปอร์” ที่สังหารผู้มีอิทธิพลระดับโลกแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อมาทำภารกิจตามหาตัวการ ที่สามารถใช้อาวุธลับที่สามารถบงการจิตใจของคนได้ ทำให้เจนนี่ต้องเปิดเผยตัวเองว่าคือ อันย่า อดีตสายลับรัสเซีย เพราะกลัวว่าลูกสาวจะถูกนำเข้าไปพัวพันกับอดีตของเธอ
เจนนี่ต้องร่วมมือกับชอว์ซีย์เพื่อทำภารกิจ ร่วมกับคริส แฮคเกอร์มือฉกาจอีกคน แทรกซึมเข้าไปหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ด้วยพลังพิเศษที่มาจากการทดลองลับของรัสเซีย ด้วยการแปลงกายเป็นใครก็ได้ เพื่อกระชากหน้ากากตามหาตัวการตัวจริงที่ทำให้เรื่องราวนี้ปั่นป่วนยิ่งขึ้น
รีวิว In From The Cold สายลับเงารัสเซีย
ต้องเกริ่นก่อนว่า นี่เป็นซีรีส์สายลับที่ดูสนุก ดูเอามันส์ได้ดี แต่ไม่ใช่ซีรีส์ที่ดีเด่นอะไรขนาดนั้น ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง เราอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างจากเรื่องอื่น แต่ด้วยไอเดียที่ผสมความไซไฟเข้ากับสายลับแอ็กชั่น มันเลยทำให้เรื่องนี้น่าติดตามในแบบฉบับของตัวเอง
ในช่วงแรกเรื่องราวจะดำเนินไปในแบบที่ ใครงง หรือไม่อิน ก็จะไม่มีอารมณ์ร่วมกับตัวซีรีส์ไปเลย เพราะกว่าเราจะรู้จักหรือเข้าใจตัวละครก็อาจจะปาไปครึ่งเรื่องแล้ว โดยมันจะค่อยๆ เล่าเรื่องราวของเจนนี่กับลูกสาว ที่ลูกสาวเธอจะมีเนื้อเรื่องในพาร์ทดราม่าครอบครัวแยกมาอีกทีกับพาร์ทสายลับแอคชั่น ตัดสลับกับเหตุการณ์ในอดีตที่ย้อนกลับไปในวัยสาวของอันย่า ว่าเธอได้ทำภารกิจอะไร ทำไมถึงเปลี่ยนร่างได้
ในพาร์ทอดีตก็จะหยิบเอาเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเย็นมาเป็นฉากหลัง ทดลองอาวุธลับ อาวุธชีวภาพ นางเอกเราก็ต้องไปตามสืบมาแบบนั้นแบบนี้ และขอบอกเลยว่าเนื้อเรื่องพาร์ทอดีตในส่วนแรกคือจุดอ่อนของซีรีส์เลยก็ว่าได้ เพราะว่ามันค่อนข้างดึงอารมณ์ร่วม โดยพาร์ทปัจจุบันเราจะไปทำความรู้จักเกี่ยวกับองค์กรนั้นนี้ ที่สเปนมีกลุ่มลับที่ต้องการสังหารคนสำคัญ อะไรก็ว่ากันไป เรื่องราวกำลังจะเข้มข้นก็ตัดไปยังอดีต ที่ตัวของนางเอก กำลังทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ด้วยเหตุผลบางอย่าง คนละโทนอารมณ์ในหลายๆ ครั้ง แถมเนื้อเรื่องพาร์ทอดีตช่วงแรกก็ค่อนข้างน่าเบื่อเลยด้วย แทบไม่สลักสำคัญอะไรมาก เหมือนปูให้เราได้รู้จักกับนางเอกเฉยๆ
ในส่วนเนื้อเรื่องพาร์ลูกสาวของเจนนี่ เธอชื่อ เบ็กกา เป็นนักแข่งไอซ์สเก็ตตัวแทนสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความที่เธอเข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้จึงถูกบูลลี่ เบ็กกาเลยต้องหาวิธีจัดการ หรือทำอะไรให้สามารถเข้ากับกลุ่มเพื่อนได้ แถมเธอยังถูกประคบประหงมจากคุณแม่จนไม่มีพื้นที่ของตัวเอง โดนโอ๋เกินไปจนอึดอัดทำให้ทะเลาะกันอีก แต่เบื้องหลังคือเจนนี่ คุณแม่ของเธอกำลังปฏิบัติภารกิจลับที่เลี่ยงไม่ได้อยู่ ทำให้เกิดความไม่เข้าใจและต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ในทีแรกดราม่าตรงนี้เหมือนจะออกแนวน่ารำคาญเล็กๆ ด้วยซ้ำ แต่เหมือนกับว่าผู้กำกับเข้าใจว่าควรจะนำเสนออะไร ดราม่าส่วนของลูกสาวกับแม่และชีวิตลูกสาว เลยเป็นอะไรที่ถูกหยิบมานำเสนอแบบ กล้อมแกล้มให้เป็นสีสัน มากกว่าที่จะเป็นส่วนสำคัญ มันเลยทำให้ดราม่าพวกนี้ไม่ได้มาแบบพร่ำเพรื่อหรือน่าเบื่อ เพราะมันทำหน้าที่เสริมในส่วนของชีวิตหลังจากที่นางเอก เลิกเป็นสายลับถึงหลายสิบปี ว่าเธอใช้ชีวิตอะไรมายังไงต่างหาก แถมในช่วงท้าย เรื่องราวพวกนี้ก็มาเชื่อมกัน แม้จะไม่ว้าวมากแต่ต้องยอมรับเลยว่ามันเสริมให้เรื่องราวสนุก มีที่มาที่ไปมากขึ้น
ตัวซีรีส์มีทั้งหมด 8 ตอน ตอนละราวๆ 50 นาที ที่สำคัญคือมีพากย์ไทยให้ชมด้วย แกนเรื่องหลักๆ ในช่วงแรกจะค่อนข้างมึนๆ งงๆ อย่างที่ได้เกริ่นไป เพราะว่ามีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน ทั้งเรื่องนางเอกที่หลบซ่อนลาวงการ ต้องกลับมาทำภารกิจ เรื่องราวของอาวุธลับสะกดจิตคน เบื้องหลังของกลุ่มปฏิวัติ สมาชิกทีมที่ต้องทำภารกิจ เรื่องลูกสาว เรื่องในอดีตที่มีหัวหน้าปริศนาคอยควบคุม พลังแปลงร่างของนางเอก ฯลฯ แต่ถ้าลองอดทน ค่อยๆ ทำความเข้าใจไป ครึ่งเรื่องแล้วเริ่มมันส์แน่นอน รับประกันได้เลยว่ามีหักมุม พล็อตทวิส บางอย่างก็พอจะเดาได้บ้าง แต่หลายๆ อย่างก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน
ตัวของนางเอกนั้น ว่ากันตามตรงมันคือพลังของซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีฉากหลังเป็นสายลับ มองในอีกแง่ก็เหมือนซีรีส์ฮีโร่พลังพิเศษเหมือนกัน แต่เขาพยายามไม่ทำให้เหมือนฮีโร่ โดยการใช้ข้อจำกัดของพลังนางเอก ที่ไม่สามารถแปลงร่างได้ดั่งใจนึก ฉากเปลี่ยนร่าง สเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ขอบอกเลยว่าทำดีมาก โดยร่างกายของเธอจะค่อยๆ บิด เปลี่ยนจากหญิงเป็นชายมีกลามเนื้อ และใช้เวลาเปลี่ยนร่างสักพัก ไม่ใช่ปุบปับเปลี่ยนทันที มันเลยดูมีความไซไฟมากกว่าซุปเปอร์พาวเวอร์แบบฮีโร่ ข้อจำกัดอื่นๆ ก็เช่นเธอต้องกินธาตุเหล็กช่วยเสริมประสิทธิภาพการแปลงร่าง หรือฟื้นฟูตัวเองไวขึ้น ข้อจำกัดนี้ที่ว่ามันเลยทำให้เรื่องราวก็ชวนลุ้นกับสถานการณ์ที่นางเอกเจอ เพราะการแปลงร่างไม่ได้ดั่งใจนึกนี่แหละ แต่ขอตินิดหนึ่งว่าในฉากสุดท้ายคือฉากเปลี่ยนร่างเอาเท่เพื่ออะไร เพราะนางเอกน่าจะแรงหมดจากสถานการณ์บางอย่างก่อนหน้านี้แล้วไม่น่าเหลือแรงมาเปลี่ยนร่างได้ เหมือนใส่มาเป็นฉากโชว์เท่ให้นางเอก อย่าไปคิดหาความสมเหตุสมผลมาก
และโมเม้นต์ชวนงง หรือทำให้เราคิดว่านี่มันหนั๊ง หนังเลย อย่าไปหาความสมเหตุสมผลก็มีเยอะตามเช่นกัน ยกตัวอย่างเลย ฉากหนึ่ง นางเอกถูกล่อให้เข้าไปสืบเรื่องราวในคุก ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางคืน แต่คนในคุกกลับทำกิจกรรมต่างๆ เช่นออกกำลังกาย พักกินข้าวนั่นนี่ ถ้าหากว่าพูดกันตามจริง นักโทษพวกนี้ต้องนอนในห้องขังกันหมดสิ ไม่ออกมาเพ่นพ่านตอนดึกหรอก ถ้ามองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้จะดูสนุก แต่ใครที่ไม่ชอบความไม่สมเหตุสมผลประมาณนี้ ขอเตือนไว้ก่อนว่าคุณจะหงุดหงิดทั้งเรื่องแน่ๆ
อีกอย่างที่ชวนหงุดหงิดของหนังเรื่องนี้คือ บางปมมันเล่าผ่าน เล่าข้าม เหมือนจะสำคัญแต่ไม่สำคัญ คนดูเลยอาจจะมึนๆ งงๆ ว่าเฮ้ย แล้วไอ้ตรงนี้ ไปสำคัญกับส่วนนี้ได้ไงหว่า คนดูหลุดโฟกัสปุ๊บจะงงทันที ปมบางอย่างที่ทิ้งไว้ก็ไม่สานต่อ ดำเนินเรื่องไปอีกแบบแทนซะงั้น มองในแง่ดีคือมันทำให้เนื้อเรื่องเดาทางยากขึ้น แต่เอ็งก็ควรอธิบายคนดูด้วย ไม่ใช่ปล่อยเบลอไปแบบนี้
สิ่งที่ทำได้ดีมากอีกอย่างคือฉากแอ็กชั่นที่ดูสนุก ไม่ใช่ต่อยตีกันโบ๊ะบ๊ะเฉยๆ แต่นางเอกคือนักฆ่าระดับพระกาฬ ใช้อุปกรณ์รอบๆ ตัวมาพลิกแพลงเป็นอาวุธ การต่อสู้ด้วยมือเปล่าทำได้ดีมาก บางฉากก็มีการออกแบบสถานที่ต่อสู้ที่เชื่อมไปยังอดีตของนางเอก ตรงนี้เป็นกิมมิคที่น่าสนใจดี เช่นสู้กันบนลานไอซ์สเก็ต เจอนักฆ่ารัสเซียที่เตะโดยใช้รองเท้าสเก็ตเฉือน และฉายตายฉากฆ่าโหดๆ ก็รุนแรงใช้ได้ มีฉากแทงลูกตาด้วยผ้าอนามัยแบบสอด ดึงให้รถไฟบี้ หรือพวกฉากทรมาณก็ชวนเสียวใส้ใช้ได้เลยดีเดียว แอ็กชั่นอาจจะไม่ได้ออกมาเยอะมากแต่สนุก บางอย่างในการแอ็กชั่นอาจจะดูไม่เนียน เช่นต่อยลม ต่อยไม่โดนแต่มีเสียงตุ๊บ มีให้เห็นบ้างบางฉาก
หรือพวกคอสตูมสายลับ ด้วยความที่เหมือนซีรีส์เองก็พยายามทำให้มันดูสมจริง ผสมกับแฟนตาซีไซไฟนิดๆ ด้วยพลังนางเอก แต่คอสตูมที่นางเอกต้องใส่ มันออกมาแบบนาตาชาโรมานอฟ ชุดหนังรัดรูป แต่ซีรีส์เองก็เหมือนรู้ตัว เลยจิกกัดโดยให้นางเอก ด่าว่าชุดแบบนี้ คนออกแบบคือผู้ชายที่อยากเห็นผู้หญิงใส่ชุดรัดรูป มันเลยมีมุกจิกกัดอะไรแบบนี้อยู่บ้างเป็นสีสันที่ดี ในส่วนพาร์ทอดีตของนางเอกวัยเด็ก คอสตูมดูดีมีสไตล์สุดๆ ยกความดีความชอบให้เลย เหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารนางแบบ
งานภาพ โปรดักชั่นมันดูดีเลยทีเดียว แต่กลิ่นอายความเป็นซีรีส์เกรดบีลอยหึ่งจริงๆ อันนี้ต้องยอมรับ ทั้งพล็อตเรื่อง การหยิบนั่นนู่นนี่มาผสมและนำเสนอ ถ้าหากใครเคยดูเรื่อง Nikita ที่เป็นซีรีส์สายลับคล้ายๆ กันนี้คุณก็จะรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา เหมือนมีการหยิบหลายโมเมนต์นำมาใส่ เพียงแค่เล่าในฉบับของตัวเอง ลองสังเกตจากการเปลี่ยนฉาก จากปัจจุบันสลับไปอดีต เป็นการซูมเข้าซูมออก ถ้าใครเคยดูซีรีส์ฝรั่งแบบเกรดรองๆ ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาก็จะเห็นการเปลี่ยนฉากแนวๆ นี้เยอะ (ซีรีส์ของค่าย CW นี่ตัวดีเลย แบบเรื่อง Arrow หรือ The Flash) มันเลยมีกลิ่นอายแบบซีรีส์ยุคก่อนผสมอยู่ ไม่ได้จะบอกว่ามันแย่แต่มันทำให้เราสมผัส รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ มันก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรเหมือนกัน
สรุป In From The Cold สายลับเงารัสเซีย สนุกและดีไหม?
สายลับเงารัสเซีย เป็นซีรีส์ที่ดูสนุกและเพลิน โดดเด่นด้วยฉากแอ็กชั่นที่โหดสะใจ ผสมความไซไฟและพลังพิเศษ แต่มันไม่ใช่ซีรีส์สายลับที่ดี เพราะว่าด้วยตัวพล็อตเรื่อง หรือองค์ประกอบหลายๆ อย่างของตัวมันเองไม่ได้แปลกใหม่ และการดำเนินเรื่องที่มีจุดบกพร่องอย่างเห็นได้ชัดในหลายๆ จุด ในช่วงแรก แต่ถ้าหากทนดูผ่านไป ในช่วงหลังรับประกันความมันส์ให้แน่นอน
In From The Cold SS2 มีไหม มาตอนไหน
ณ ปัจจุบันยังไม่มีประกาศทำ Season 2 เพราะต้องรอ Feedback จาก Netflix หลังลงฉาย 28 วัน แต่ตัวซีรีส์เองจบไว้แบบทิ้งปมว่ามีซีซั่นต่อแน่นอน เพราะฉะนั้นน่าจะมีต่อแน่ๆ ต้องรอข่าวยืนยันอีกที ถ้าหากว่ามีอัพเดทจะแจ้งให้ทราบทันทีครับ
รับชม In From The Cold สายลับเงารัสเซีย ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้
อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่