รีวิว Invisible City เมืองอำพราง รวมเหล่าภูติผีตำนานพื้นบ้านจากบราซิล
Invisible City เมืองอำพราง
สรุป
ด้วยงานสร้างที่ดี เนื้อเรื่องที่ดูจับฉ่าย ความน่าสนใจของตำนานพื้นบ้านบราซิล ประกอบกับกราฟฟิคซีจีที่ไม่น้อยหน้าซีรีส์ฝั่งอเมริกา แม้ว่าบางจุดของเรื่องมันจะดูยังไม่ค่อยสุด แถด้วยความแฟนตาซี แต่การที่ได้รับรู้ตำนานพื้นบ้าน ตัวละครเหล่าภูติผี ตำนานที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตา เปิดโลกและมุมมองใหม่ๆ กับซีรีส์ของบราซิลเรื่องนี้ ค่อนข้างคุ้มค่าแก่การดู
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- นำเสนอตำนานพื้นบ้านของบราซิลได้น่าสนใจ
- ซีจีกราฟฟิคดีงามเทียบกับซีรีส์ดังๆ ได้เลย
- ผสมผสานความแฟนตาซี ไสยศาสตร์ ภูติผีและตำนานเข้าด้วยกัน
- เนื้อเรื่องมีความน่าติดตาม และหักมุมบ้าง
- โปรดักชั่นงานสร้างจัดเต็ม
Cons
- มีช่องโหว่ในเนื้อเรื่องเยอะ เพราะความเป็นแฟนตาซี
- เนื้อเรื่องไม่โฟกัสทางใดทางหนึ่ง ผสมกันไปหมด
Invisible City ซีรีส์ทุ่มทุนสร้าง Original Netflix ของบราซิล ที่หยิบยกตัวละครจากตำนานพื้นบ้านมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นภูติลมขี้แกล้งที่มีขาเดียว ปีศาจแห่งฝัน นางเงือกที่ถูกสาป คนป่าที่มีหัวเป็นไฟและมีขาที่กลับด้าน พวกเขาอาศัยท่ามกลางมนุษย์ และกำลังถูกภัยร้ายบางอย่างคืบคลานเข้ามา
ตัวอย่าง Invisible City
รีวิว Invisible City เมืองอำพราง
ไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นซีรีส์ชั้นดี Original Netflix ของบราซิล นี่ถือว่าเป็นซีรีส์การเปิดหูเปิดตาอีกเรื่องหนึ่ง ดูว่าต่างประเทศเขาเสพสื่อแบบไหนกัน กับเรื่องราวของตำนานพื้นบ้าน (Folklore) ที่ถูกเล่าต่อๆ กันมา หลายร้อยหลายพันปี มาโลดแล่นในซีรีส์แนวแฟนตาซี สืบสวน ดราม่าเรื่องนี้
ในเรื่องราว จะเล่าถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพิทักษ์สิ่งแวดล้อมคนหนึ่งชื่อว่าเอริค ผู้ที่สูญเสียภรรยาที่เป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ และเกือบเสียลูกสาวไปในเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งหมู่บ้านนั้น มีผืนป่าที่มีตำนานเกี่ยวกับตัว คูคูปิร่า คนป่าที่มีหัวเป็นไฟ และมีเท้ากลับหลัง ออกกู่ร้องและปกป้องผืนป่าแห่งนั้น
ตัวเอริคเองก็รับไม่ได้กับสารสูญเสียภรรยาไป ลูกสาวตัวเล็กของเขา ลูน่า ที่ช็อคการเหตุการณ์ไฟไหม้เพราะสูญเสียแม่ ก็ทำตัวแปลกขึ้นไปอีก แต่จู่ๆ เขาก็พบกับศพปลาโลมาสีชมพูเกยตื้นอยู่ริมหาด เอริคจึงนำศพกลับไปพิสูจน์ตามหน้าที่ แต่แล้วพอเปิดดูศพปลาโลมาอีกที มันดันกลายเป็นศพของคนๆ หนึ่ง ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของภรรยาของเขา จนเขาต้องดำดิ่ง สืบจนล่วงรู้ความลับดำมืด เกี่ยวกับเหล่าภูติในตำนาน ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คนทั่วไป ที่กำลังเผชิญหน้ากับภัยคุกคามของวิญญาณอาฆาตที่ถูกปลดปล่อย พร้อมกับป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกฆ่าจากเหล่าภูติ และต้องสืบให้ได้ว่าภรรยาเขาตายได้ยังไง
พล็อตเรื่องของซีรีส์ มันฟังดูสับสนจริงๆ เหมือนกับการเอาอะไรหลายๆ อย่าง มายัดๆ รวมกัน เช่น เปิดเรื่องมาด้วยธีมสืบสวนของพระเอก พอสืบไปปุ๊บ เจอกับเรื่องแฟนตาซีไสยศาตร์ รวมไปถึงการแทรกบทดราม่าเกี่ยวกับการอนุรักษ์ผืนป่าท้องถิ่น กับเรื่องนายหน้าที่พยายามจะช่วงชิงผืนดินทำกินของชาวบ้าน มันดูไม่เป็นไปในทางใดทางหนึ่ง แต่แปลกมากที่มันทำออกมาได้ค่อนข้างน่าติดตาม และกลายเป็นความเฉพาะตัวของมัน ไม่ได้แย่ซะทีเดียว
อย่างแรกเลยที่เห็นได้ชัด ซีรีส์เรื่องนี้ทุนสูง โปรดักชั่นดีงามมากๆ ทั้งงานภาพ งานเสียง และเอฟเฟ็กต์ CG ที่บอกได้เลยว่าสวยเทียบกับหนังหรือซีรีส์ใหญ่ๆ จากทางฝั่งอเมริกาได้เลย ทั้งนางเงือกที่ดูหลอนและสวยงามในเวลาเดียวกับ เอฟเฟ็กต์ผีเสื้อนับร้อยกับพลังของภูติตัวหนึ่ง เอฟเฟ็กต์ไฟ ลม และอื่นๆ อีก ทำออกมาได้ดีจริงๆ มันทำให้เสริมความเป็นแฟนตาซีที่ออกไปทางไสยศาสตร์นิดๆ ของเรื่องนี้ได้อย่างดี
ต่อมาก็คือ การที่ตัวซีรีส์ หยิบยกตำนานพื้นบ้านของบราซิลมาใส่ไว้ในเรื่องแล้วนำเสนอ มันทำให้เราที่เป็นคนต่างประเทศ รู้สึกสนใจเกี่ยวกับตัวละครจากตำนานพื้นบ้านเหล่านั้นขึ้นมา เช่น ซาซี เป็นเหมือนภูติลมขี้แกล้ง สวมผ้าพันหัวสีแดง ออกแนวตัวป่วน ซนๆ ถ้าหากว่าเขาโดนเอาผ้าโพกหัวออกจากหัว ตัวภูติซาซีจะเชื่อฟังคำสั่งของคนที่เอาผ้าโพกหัวไป เพราะว่าผ้านั้นเป็นแหล่งพลังที่ทำให้ซาซีเรียกลมได้ และยังมีอีกหลายตัวที่ปรากฏในเรื่องและน่าสนใจ พร้อมกับธีมที่ว่าพวกภูติเหล่านี้อาศัยปะปนในหมู่มนุษย์ ทำให้มันจะออกแนวคล้ายๆ X-Men พวกกลายพันธ์ มีพลังพิเศษ แต่ไม่แสดงตัวอะไรประมาณนั้น
แต่ทางด้านเนื้อเรื่อง แม้ว่าจะดำเนินไปเรื่อยๆ ดูได้เพลินๆ แต่อย่างแรกเลยคือ เนื้อเรื่องยังไม่สุดทางใดสักทาง อย่างที่บอกว่ามันเป็นเนื้อเรื่องที่มีธีมต่างๆ ผสมปนเปกัน พอนำเสนอจริงๆ มันพอไปด้วยกันได้ แต่ก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรทางใดทางหนึ่งเลย และที่รู้สึกขัดใจอย่างมากก็คือ การสืบสวนในทีแรกที่เน้นวิทยาศาตร์จ๋า กลายเป็นลบล้างทุกอย่างด้วยความแฟนตาซี จนดูเหมือนมักง่าย และกลายเป็นพล็อตโฮล ซึ่งมีหลายจุดมากในเรื่องที่อาจจะดูแล้วขัดใจ เล่นง่ายๆ แบบนี้เลย แม้ว่าตัวซีรีส์เองจะใส่มุกหักมุม ค่อยๆ เฉลยปม แต่มันก็เหมือนจะรีบร้อนไปหน่อย ไม่รู้สึกเซอร์ไพรส์ ไม่หวือหวา จนดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ก็อ้าว จบซะแล้ว ซึ่ง “อาจจะ” มีภาคสองต่อ แต่ก็เหมือนกับมันจบแบบปลายเปิดไว้ ต้องรอดูว่าจะมีภาคต่อไหมในอนาคต แต่ถือว่าจบได้ค่อนข้างโอเค อาจจะต้องคิดตามและตีความในตอนท้ายสักนิด
ด้วยงานสร้างที่ดี เนื้อเรื่องที่ดูจับฉ่าย ความน่าสนใจของตำนานพื้นบ้านบราซิล ประกอบกับกราฟฟิคซีจีที่ไม่น้อยหน้าซีรีส์ฝั่งอเมริกา แม้ว่าบางจุดของเรื่องมันจะดูยังไม่ค่อยสุด แถด้วยความแฟนตาซี แต่การที่ได้รับรู้ตำนานพื้นบ้าน ตัวละครเหล่าภูติผี ตำนานที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตา เปิดโลกและมุมมองใหม่ๆ กับซีรีส์ของบราซิลเรื่องนี้ ค่อนข้างคุ้มค่าแก่การดู
รับชม Invisible City เมืองอำพราง ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้
อ่านรีวิวหนัง ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่