playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Lisey’s Story (Apple TV+) ลิมิเต็ดซีรีส์จากปลายปากกา Stephen King ลงมือเขียนบทให้แท้ๆ

สรุป

ถ้าหากใครที่อินมากๆ อาจจะมีน้ำตาซึมในความสัมพันธ์ของคู่รัก การก้าวผ่านอะไรบางอย่าง และเป็นบทสรุปที่ดีสำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งงานภาพที่สวยมากทั้งเรื่อง ดนตรีประกอบที่ให้ความรู้สึกไม่ไว้ใจ กดดัน ผสมผสานกับเรื่องราวหลายอย่างเข้าด้วยกัน นี่จึงเป็นอีกผลงานชั้นเยี่ยมของสตีเฟนคิงบน Apple Tv+ ที่ควรลองเปิดใจชม และถ้าหากเป็นแฟนผลงานของคิง บอกเลยว่าห้ามพลาด

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • เนื้อเรื่องลึกลับ น่าติดตาม
  • ผสมผสานหลายๆ แนวเข้าด้วยกัน และทำได้ดีมาก ทั้งลึกลับ แฟนตาซี ลุ้นระทึก
  • เล่นกับจิตวิทยาคนดูชวนคิดตาม
  • โปรดักชั่นจัดเต็ม ทั้ง CG เอฟเฟค เพลงประกอบ
  • นักแสดงนำมีเสน่ห์ น่ามอง
  • สตีเฟน คิง ดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกัน เขียนบทเวอร์ชั่นซีรีส์เองทุกตอน

Cons

  • การนำเสนอที่ค่อยเป็น ค่อยไป จนอาจจะน่าเบื่อในช่วงแรก
  • การเล่นกับปมเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่ขยายความมากเท่าไหร่
  • เฉลยปมได้ไม่สุด ต้องเก็บไปคิดต่อ
  • เป็นซีรีส์ที่การนำเสนอแทบจะเรียกได้ว่า เฉพาะกลุ่มมาก เหมือนเป็นแฟนเซอร์วิสให้กับคนที่ชื่นชอบผลงานสตีเฟนคิงด้วยซ้ำ ผู้ชมทั่วไปอาจจะเข้าถึงยากมาก

ADBRO

Lisey’s Story ลิมิเต็ดซีรีส์บน Apple Tv+ จากปลายปากกาของสุดยอดนักเขียนอย่าง Stephen King เรื่องราวของลีซีย์ แม่ม่ายสาวที่เสียสามีไป ได้เจอกับเกมล่าสมบัติที่สามีทิ้งไว้ให้ก่อนตาย ยิ่งเธอพยายามเล่นเกมนี้มากเท่าไหร่ ความลับในอดีตที่ชวนขนลุกก็ค่อยๆ เผยออกมา ในอีกด้าน เธอก็ถูกคนโรคจิตตามล่าตัวเพราะผลงานของสามีที่ตายไปแล้วของเธอ ผสมผสานทั้งความโรแมนติกและจิตวิทยาที่ชวนลุ้นตามแบบฉบับของสตีเฟนคิง

 Lisey's Story (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Lisey’s Story

รีวิว Lisey’s Story

Lisey's Storyก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ถ้าใครที่ไม่ได้เป็นแฟนหนังสือ หรือผลงานของสตีเฟนคิงแล้วล่ะก็ คุณอาจจะเบือนหน้าหนีไปกับการนำเสนอที่ค่อยเป็น ค่อยไป ผสมผสานกับการเล่นกับจิตวิทยาของคนดู ให้ชวนขบคิด ตีความตาม แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบเรื่องราวลึกลับ เรื่องราวปริศนาที่ค่อยๆ เผยออกมา ความน่าขนลุกของการถูกตามล่าโดยคนโรคจิต ความแฟนตาซี และอีกหลายๆ อารมณ์ผสมกัน ซีรีส์เรื่องนี้ให้คุณได้แบบจัดเต็ม การันตีโดยบทซีรีส์ ที่ต้นตำรับอย่างสตีเฟน คิง ลงมาเขียนเองทุกตอน ประกอบกับโปรดักชั่นงานสร้างจาก J.J. Abrams ใครที่เป็นแฟนงานของคิง ไม่ผิดหวังแน่นอน

Lisey’s Story

เรื่องราวจะเล่าผ่านตัวละครหลัก ลีซีย์ แลนดอน (นำแสดงโดยนักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง Julianne Moore) เธอได้เสียสามีที่เป็นนักเขียนนิยายชื่อดังอย่าง สก็อต แลนดอน (แสดงโดย Clive Owen) จากเหตุการณ์ถูกยิง สองปีต่อมา ลีซีย์ก็ได้บังเอิญพบกับเกมล่าสมบัติ ที่สามีทิ้งไว้ให้ก่อนตาย เงื่อนไขง่ายๆ คือ หาคำใบ้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสมบัติ ยิ่งเธอหาไปเท่าไหร่ ความทรงจำที่มีร่วมกันในอดีตกับสามีค่อยๆ ย้อนกลับเข้ามา รวมไปถึงความลึกลับน่าสะพรึงที่ตามไปด้วย

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลีซีย์ก็ถูกก่อกวนโดย จิม ดูลีย์ แฟนคลับเดนตายที่ชอนชอบผลงานนิยายของสก็อต แลนดอน ชอบมากจนคลั่ง เขาคิดว่าลีซีย์ เธอเก็บผลงานที่ไม่ถูกตีพิมพ์ของสามีไว้เป็นความเห็นแก่ตัว เขาจึงพยายามหาทางเอาผลงานเขียนของสก็อตมาให้ได้ นั่นทำให้ชีวิตของลีซีย์ตกอยู่ในอันตราย

ในอีกด้านหนึ่ง อแมนด้า พี่สาวของลีซีย์ก็มีอาการทางจิตที่แปลกประหลาด เหมือนกับจิตใจหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง และมันเกี่ยวข้องกับอดีตของสก็อตที่เคยเล่าให้ลีซีย์ฟัง ทุกอย่างมันเชื่อมโยงไปถึงโลกประหลาดที่เรียกว่า บูยามูน ซึ่งมันอาจจะเป็นเพียงจินตนาการของสก็อต หรือจะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของเรา ต้องไปติดตามลุ้นในเรื่อง

จะเห็นได้ว่าพล็อตเรื่องมันมีหลายอย่าง เกิดขึ้นพร้อมๆ กันมาก แต่พื้นฐานทั้งหมดมันจะเริ่มจากตัวละครที่ตายไปตั้งแต่ต้นเรื่องอย่าง สก็อต แลนดอน และเป็นคีย์สำคัญของเรื่องราวทั้งหมดด้วย โดยมันจะนำเสนอแบบค่อยเป็น ค่อยไป จากการตามล่าหาเบาะแสของลีซีย์ ที่สามีเธอทิ้งไว้ให้ เล่าย้อน แฟลชแบคถึงความรักระหว่างคนสองคน แต่จะสอดแทรกด้วยความแปลกประหลาดของตัวสก็อตเอง เช่น สก็อตจู่ๆ ก็เกิดบ้าไปต่อยกระจกจนบาดแขนตัวเองเหวอะหวะ แต่เขาก็บอกกับลีซีย์ว่า ตระกูลแลนดอนรักษาแผลตัวเองได้ไว มันเลยเป็นปริศนาให้คนดูชวนคิดตามว่า นี่มันจะเป็นเพียงจินตนาการของนางเอก หรือมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ทำไมสก็อตหายจากการบาดเจ็บได้ไว

ยิ่งเรื่องราวดำเนินไปจะย้อนแฟลชแบคบ่อยขึ้น ค่อยๆ เฉลยเรื่องราว ตัวตนของทั้งลีซีย์ และสก็อต รวมไปถึงความผูกพันธ์ ความรักของทั้งสอง ยิ่งลีซีย์ค้นหาเบาะแสที่สามีเธอทิ้งไว้ให้เท่าไหร่ เธอก็ยิ่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตมากเท่านั้น รวมไปถึงอดีตที่เธอเคยลืมมันไป และจุดนี้มันทำให้เรื่องราวโดยรวมน่าติดตาม และคิดตามว่า ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องราวแฟนตาซี หรือเป็นเชิงจิตวิทยาที่เล่นกับจิตใจของคนดู ซึ่งทำได้ค่อนข้างดีมาก

เรื่องราวในพาร์ทของปัจจุบัน ก็จะเป็นเรื่องราวที่ลีซีย์ ถูกจิม ดูลีย์ ตามรังควาน โทนเรื่องจากลึกลับ ปริศนา ผสมจิตวิทยา จะกลายเป็นระทึกขวัญ เพราะจิม ดูลีย์ เขาคือโรคจิตขนานแท้ แต่ละพฤติกรรมที่ตัวละครนี้แสดงออกมา ผสมกับเพลงประกอบและการนำเสนอ มันทำให้ผู้ชมรู้สึกขนลุกและหายใจไม่ทั่วท้องได้ โดยเฉพาะในพาร์ทสุดท้ายที่เรียกได้เต็มปากว่ามันคือทริลเลอร์ ที่ทำให้ผู้ชมลุ้นตาม หากใครเคยดู Misery อีกผลงานของสตีเฟนคิง ความระทึกอยู่ในระดับเดียวกันเลย

งานภาพและโปรดักชั่นของเรื่องนี้คือจัดเต็มมาก ภาพสวย เอฟเฟ็กต์ดี โลกแฟนตาซีที่ถูกสร้างขึ้นก็เข้ากับเรื่องและบรรยากาศ เพลงประกอบก็ชวนลุ้น กดดัน โดยเฉพาะเพลงเปิดของเรื่องที่เพราะมาก ติดหู ให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา ส่วนการแสดงของสองนักแสดงนำดีกรีรางวัลออสการ์ อย่าง Moore ที่รับบทเป็นลีซีย์ก็เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีเสน่ห์ชวนมองแบบสุดๆ

การนำเสนอของเรื่องนี้มันจะแฟลชแบคบ่อยมาก ทำให้เราต้องค่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวเอาเอง แถมยังต้องคิดตามเกี่ยวกับโลกแฟนตาซี ที่มันเหมือนจะมีอยู่จริง และไม่มีอยู่จริง รวมไปถึงความลับของสก็อตกับลีซีย์ที่ค่อยๆ เผยออกมา มันทำให้ในช่วงแรกๆ ของซีรีส์ แทบจะเรียกได้ว่าปริศนาของเรื่อง วนอยู่ในอ่าง เล่นประเด็นเดิมๆ ซ้ำๆ กับการให้ผู้ชมคิดว่า บูยามูน สถานที่ในจินตนาการของสก็อต ที่มีปีศาจชื่อ Long Boy กับเหล่าผู้คนประหลาดๆ นั่งนิ่งๆ หันหน้าเข้าหาผืนน้ำ มันคืออะไรกันแน่ ตอนที่ 1 ก็จะนำเสนอบรรยากาศที่สวยงาม แฝงไปด้วยเรื่องราวหนักๆ เพลงประกอบที่กดดัน และมี Jump Scare ในตอนท้าย (ถ้าใครไม่ถูกกับฉากตุ้งแช่ ให้ระวังแค่ตอนแรก ที่เหลือจะไม่มีแล้วครับ) ทิ้งปริศนาเอาไว้ และในตอนที่สอง ก็จะเริ่มนำเสนอความแฟนตาซี อย่างที่บอกว่ามันจะชวนให้เราคิดตามตลอดทั้งเรื่อง รวมถึงการปะติดปะต่อเรื่องราวเอง ใครที่ตามดูซีรีส์นี้อาทิตย์ละตอน ต้องบอกเลยว่ามันจะน่าเบื่อมาก นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม คะแนนของซีรีส์เรื่องนี้ทั้งใน IMDB และเว็บมะเขือ มันถึงน้อย เพราะหลายคนทนดูไม่จบนั่นเอง

ในอีกแง่ ถ้าหากดูรวดเดียวจนจบ ปริศนา ความลึกลับ ความแฟนตาซี ต่างๆ นาๆ ก็จะถูกเฉลยได้อย่างน่าสนใจ แต่เฉลย “ไม่หมด” ผมเชื่อว่าใครที่ดูเรื่องนี้ ถ้าหากเคยเสพผลงานของสตีเฟนคิงเรื่องอื่นๆ มาก่อน จะมีภาษีในการดูมากกว่า เพราะจะเข้าใจเรื่องราวที่เขานำเสนอได้เข้าถึง เรียกได้ว่าเป็นสไตล์เฉพาะของคิงเลยก็ว่าได้ และจะชอบในจุดนี้ที่ซีรีส์นำเสนอมาก ส่วนใครที่ดูงานของคิงผ่านๆ ตามาไม่กี่เรื่อง อาจจะยังจับจุดไม่ได้เท่าไหร่ ยิ่งดูยิ่งมีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ตรงนั้นคืออะไร จุดนี้หมายความว่าอะไร ทำไมตัวละครนี้ถึงต้องทำแบบนั้น และเรื่องนี้ในพาร์ทเฉลย มันไม่ได้เฉลยตรงๆ เน้นเก็บไปคิดตามมากกว่า

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า คนที่ชื่นชอบผลงานของสตีเฟนคิงอยู่แล้ว จะชอบเรื่องนี้มาก แต่ใครที่ไม่ได้เป็นแฟนตัวยงขนาดนั้น อาจจะพาลเกลียดไปเลยด้วยซ้ำ เพราะการดำเนินเรื่องมันค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ป้อนข้อมูลให้ผู้ชมคิดตาม ผสมจิตวิทยา กดดัน สยองขวัญ ลุ้นระทึก แฟนตาซี หลากหลายอารมณ์เต็มไปหมด การนำเสนอแบบไม่ตรงไปตรงมา แฟลชแบคที่ยาวยืดและบ่อยมาก เรื่องนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความกระชับ ฉับไวสักเท่าไหร่ ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มเลยด้วยซ้ำ

และในพาร์ทสุดท้ายของซีรีส์ ถ้าหากใครที่อินมากๆ อาจจะมีน้ำตาซึมในความสัมพันธ์ของคู่รัก การก้าวผ่านอะไรบางอย่าง และเป็นบทสรุปที่ดีสำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งงานภาพที่สวยมากทั้งเรื่อง ดนตรีประกอบที่ให้ความรู้สึกไม่ไว้ใจ กดดัน ผสมผสานกับเรื่องราวหลายอย่างเข้าด้วยกัน นี่จึงเป็นอีกผลงานชั้นเยี่ยมของสตีเฟนคิงบน Apple Tv+ ที่ควรลองเปิดใจชม และถ้าหากเป็นแฟนผลงานของคิง บอกเลยว่าห้ามพลาด

รับชม Lisey’s Story ได้ทาง Apple TV+ ได้แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

ถ้าใครที่ยังไม่ได้ดู ปิดแทปสปอยล์เดี่ยวนี้เลยครับ มันจะหมดอรรถรสไปเยอะ และไม่เข้าใจที่สปอยล์ด้วย ต้องดูมาก่อนเท่านั้นถึงจะเก็ต

สรุปคือ โลกบูยามูน มีอยู่จริง มันคืออีกมิติหนึ่งใน Multiverse ของนิยายคิง โดยสก็อต แลนดอน มีความสามารถพิเศษในการข้ามมิติไปมาระหว่างโลกความจริงและโลกบูยามูนได้ เป็นเพราะสายเลือดของเขาเอง และพลังนี้ก็ส่งต่อมาให้กับลีซีย์ เพราะเขาพาเธอไปในอดีตตอนที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆ โดยการไปกลับของลีซีย์ได้ก็คือ เงื่อนไขของเกมล่าสมบัติ ที่สก็อตทิ้งไว้ให้นั่นเอง

โลกบูยามูนมีมอนสเตอร์ที่ปกป้องที่นั่นอยู่ก็คือ longboy เหล่าผู้คนที่ั่งอยู่บนแท่นหินริมสระก็คือเหล่าวิญญาณ ว่าง่ายๆ คือบูยามูน = โลกวิญญาณ แต่มีบางคนบังเอิญเข้าไปติดในนั้นอย่างอแมนด้า พี่สาวของลีซีย์ หรือเดินทางข้ามไปมาได้อย่างสก็อต

สิ่งที่ทำให้สก็อตรักษาตัวเองได้ไวคือน้ำจากสระในบูยามูน ถ้าหากบาดเจ็บในโลกความจริง ก็สามารถมารักษาแผลในโลกบูยามูนได้

สาเหตุที่ว่าทำไมสก็อตถึงตาย ไม่ไปรักษาตัวเองในสระน้ำ คำตอบคือ ในอดีต สก็อตเคยพาพี่ชายของเขา พอล ไปที่บูยามูน แล้วไปเจอกับลองบอยจนโดนโจมตี ทำให้ลองบอยหมายหัวพอลเอาไว้ ซึ่งภายหลังพอลก็ติดเชื้อ ทำให้สก็อตติดเชื้อไปด้วย เชื้อนี้ทำให้เขาถูกลองบอยหมายหัวเอาไว้ เพราะฉะนั้นในตอนก่อนตาย เขาพยายามข้ามไปอีกโลกรักษาตัวเอง แต่ลองบอยกั้นทางเอาไว้ไม่ให้ผ่าน สุดท้ายเขาจึงตายและกลายเป็นวิญญาณอยู่หน้าสระน้ำ

มีรายละเอียดเกี่ยวกับความแฟนตาซีสไตล์สตีเฟนคิงอีกเยอะมากในเรื่อง ถ้าหากมีพาร์ทไหนสงสัย สามารถคอมเมนต์ถามไว้ เดี๋ยวผู้เขียนจะมาตอบช่วยอธิบายให้นะครับ

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!