Mindhunter ss1 ss2
สรุป
เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่แม้จะไม่มีฉากไล่ล่า แต่ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกกดดันได้ แถมยังมีเนื้อหาที่เข้มข้นชวนติดตาม ควรค่าแก่การเสียเวลาดูอย่างมาก
Overall
9/10User Review
( votes)Pros
- เนื้อหาเข้มข้น ตึงเครียด
- บทสนทนาในเรื่องคือจุดแข็ง
- แคสติงนักแสดงได้ดีมาก แสดงได้เหมือนฆาตกรตัวจริง
- การันตีความน่าดูโดยเดวิด ฟินเชอร์ จากผู้กำกับ Fightclub / Gone Girl
Cons
- เนื่องจากดัดแปลงมาจากหนังสือ ทำให้เนื้อหาบางส่วนในซีซั่น 2 ไม่สมเหตุสมผล
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฉากไล่ล่า ตื่นเต้น
รีวิว MINDHUNTER Season 1 และ Season 2 ซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ไม่มีฉากไล่ล่า แต่ตื่นเต้น กดดัน และลุ้นระทึกจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้
จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง…
หลายคนคงเคยได้ยินคำโคลงโลกนิติที่สอนใจเราเรื่องจิตใจของมนุษย์ ที่แม้มหาสมุทรจะลึกแค่ไหนก็ยังหยั่งถึงได้ ไม่มีอะไรที่ลึกล้ำและน่ากลัวเท่าจิตมนุษย์เราอีกแล้ว
ในรีวิวนี้ขอเชิญพบกับ ซีรีส์สืบสวนสอบสวน ว่าด้วยเจ้าหน้าที่ FBI คู่หู ที่พยายามตามจับเหล่าฆาตกรโรคจิต ด้วยการพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีคิดอันบิดเบี้ยวของพวกฆาตกร เพื่อหาทางยับยั้ง ป้องกัน และปราบฆาตกรโรคจิตพวกนี้ลง
ตัวซีรีส์จะเป็นเรื่องราวในยุคประมาณ 70’s เมื่อเจ้าหน้าที่ FBI โฮลเดน ฟอร์ด และ บิล เทนซ์ ได้ร่วมกันจัดตั้งแผนกใหม่ของ FBI ที่ชื่อว่า หน่วยพฤติกรรมศาตร์ หน้าที่ของพวกเขาคือ เดินทางสัมภาษณ์เหล่านักโทษฆาตกรโรคจิตทั่วสหรัฐฯ ที่ถูกขังอยู่ในคุก
เพื่อเก็บข้อมูล เข้าถึงจิตใจและวิธีคิดเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในด้านอื่นๆ ไขคดีที่เกิดขึ้น โดยทั้งสองตัวละครนี้ อ้างอิงมาจากนักสืบจริงๆในยุค 1960s เพราะตอนนั้นทางสหรัฐฯ ได้ใช้หลักจิตวิทยาในการไขคดีอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีฆาตกรรมที่อุกฉกรรจ์ โหดร้ายผิดมนุษย์ ทางเจ้าหน้าที่ต้องปรับตัว เรียนรู้ที่จะใช้สมองเพื่อวิเคราะห์บุคลิก ดักทางฆาตกร เพื่อให้เข้าใจว่าในหัวของปีศาจในร่างมนุษย์พวกนี้มีกลไก ความคิด หรือสัญชาติญาณแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างไร
Mindhunter เป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่า ดำเนินเรื่องแบบ นิ่งๆ แต่แฝงไปด้วยความกดดันที่มันเรียลมากๆ
มันเป็นซีรีส์ในแบบที่ พูดกันทั้งเรื่อง ตัวละครพูดจาฉลาดแต่ไม่น่าเบื่อเลย ไม่เหมือนกับการที่เราต้องนั่งฟังเลคเชอร์ในคาบเรียน โดยเฉพาะในการสัมภาษณ์เหล่าฆาตกร ในซีรีส์ไม่ได้มีภาพชวนแหวะ ฉากฆ่า หรือฉากไล่ล่าเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ความกดดันมันมาจากบทสนทนาที่ออกจากปากของฆาตกร ค่อยๆเล่าถึงรายละเอียดต่างๆ
ที่ตัวฆาตกรทำกับเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม ทารุณ ฟังแล้วขนลุกและน่ากลัวจนเห็นภาพ ทำให้บทสนทนาระหว่าง FBI และฆาตกรในเรื่องนี้มันหนักหน่วง กดดัน และถือว่าเป็นจุดแข็งของซีรีส์เรื่องนี้เลยก็ว่าได้
อีก 1 จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือ แคสติง นักแสดงที่รับบทเป็นฆาตกรตัวจริง แสดงได้ดีมากๆ อย่างซีซั่นแรกก็คือ เอ็ดมุนด์ เคมเปอร์ (Co-Ed Killer) ฆาตกรร่างใหญ่ ที่ฆ่าตา-ยายตัวเอง ตัดหัวแม่ตัวเอง แสดงได้ดีและเหมือนฆาตกรตัวจริงสุดๆ ลองไปชมกันว่า เหมือนขนาดไหน (โดยเฉพาะตอนสุดท้ายในซีซั่นที่ 1 ฉากสุดท้าย สามารถทำให้คุณอึดอัด หายใจไม่สะดวกเพียงแค่บทพูดได้จริงๆ)
ในซีซั่น 1 นั้นได้ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2017 และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทั้งในแง่คำวิจารณ์ และคนดูต่างก็ชอบความเข้มข้นของเนื้อหาและเรื่องราวในซีรีส์ แถมยังมีประเด็นถกเถียงกันมากมายในเว็บบอร์ดและสื่อโซเชี่ยลต่างๆ
ใครที่ได้ดูภาคแรก ต้องรอมาถึงสองปี ในที่สุดซีซั่นที่สองของ ก็ได้ปล่อยให้ชมบน Netflix เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อได้ชมแล้วผมก็เข้าใจได้เลยว่า ทำไมซีรีส์มันถึงให้เรารอนานขนาดนั้น
โดยเนื้อหาในซีซั่นที่สองจะต่อกับซีซั่นแรกทันที และยังคงเนื้อหาที่เข้มข้น ตึงเครียด และบทสนทนาที่น่าติดตามเอาไว้ แถมยังขยายสเกลของซีรีส์ให้ใหญ่ขึ้น จากการที่ไล่ตระเวนไปทั่วสหรัฐในภาคที่ 1 เพื่อสัมภาษณ์ฆาตกร ในซีซั่นนี้ เจ้าหน้าที่ฟอร์ด และเทนซ์จะลงมือติดตามจับฆาตกร โดยใช้ข้อมูลที่พวกเขาหามาได้ในซีซั่น 1 เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมจนนำไปสู่การจับกุมฆาตกรตัวจริง
และในซีซั่นสองจะยิ่งจัดเต็มในด้านดราม่าของแต่ละตัวละคร เจาะลึกลงไปด้วย เช่นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ปัญหาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ที่บางตอนอาจจะดูเหมือนยัดเยียดใส่เข้ามา แม้จะดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลในบางจุดแต่ก็ต้องยอมรับว่า มันเพิ่มความกดดัน และเพิ่มสเกล มิติให้กับตัวเรื่องได้ดีทีเดียว
เป็นซีรีส์ที่ทำให้เราเข้าใจถึงเบื้องหลังในการกระทำที่เลวร้ายของเหล่าฆาตกร และนำเสนอการทำงานของเจ้าหน้าที่ FBI ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ สนุกและน่าติดตามมากๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ถ้าหากใครที่ชอบซีรีส์สืบสวนสอบสวน ที่มีฉากแแอคชั่นไล่ล่า ฉากตื่นเต้นเร้าใจ ยิงกัน นี่ไม่ใช่ซีรีส์สำหรับคุณ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบในเรื่องจิตวิทยา ชอบบทสนทนาฉลาดๆ คมๆ ชวนให้ติดตามและเก็บเอาไปคิดต่อ ชอบบรรยากาศและความกดดันแบบเรียลๆ ซีรีส์เรื่องนี้จัดให้คุณแบบไม่อั้นเลยครับ
อีกอย่างหนึ่ง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานสร้างของ เดวิด ฟินเชอร์ ผู้กำกับชื่อดังที่ขึ้นชื่อในสไตล์การเล่าเรื่องที่เยือกเย็น และแหลมคม ทั้งยังเคยกำกับภาพยนต์เกี่ยวกับฆาตกรอย่างเรื่อง Se7en และ Zodiac แต่เขาไม่ได้กำกับซีรีส์เองทุกตอน และเรื่องราวในซีรีส์ สร้างมาจากเรื่องจริง โดยตัวละครหลักสองตัว นำมาจากคู่หู FBI ที่มีอยู่จริงคือ John Douglas และ Robert K. Ressler และอิงพล็อตเรื่องจากหนังสือ Mind Hunter : Inside the FBI’s Elite Serial Crime Unit ที่ John Douglas เป็นคนเขียน และ John Douglas ยังเป็นต้นแบบให้ตัวละคร Jack Crawford ในหนังชื่อดังในตำนานอย่าง The Silence of the Lambs ด้วย
สามารถรับชมทั้งสองซีซั่นได้ทาง NETFLIX
อ่านรีวิวอื่นๆได้ที่นี่