รีวิว Palmer (Apple TV+) อดีตคนคุกกับเด็กพิเศษ ดราม่าเคล้าน้ำตาอบอุ่นหัวใจเรื่องเยี่ยม

Palmer ภาพยนต์ดราม่าจาก Apple Tv+ ชั้นเยี่ยม กับอดีตนักโทษที่เพิ่งออกจากคุก พยายามทำให้ชีวิตกลับเข้าร่องเข้ารอย แต่ได้จับพลัดจับผลูมาเลี้ยงเด็กชายข้างบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่นั่นก็ก่อให้เกิดสายสัมพันธ์และความหวังครั้งใหม่ให้กับเขา

ตัวอย่าง Palmer

รีวิว Palmer

จัสติน ทิมเบอร์เลค นักแสดงมากฝีมือ รับบทเป็น เอ็ดดี้ พาลเมอร์ อดีตดาวรุ่งทีมอเมริกันฟุตบอล ที่ต้องถูกตัดสินจำคุกถึง 12 ปี เพราะคดีที่เขาก่อ หลังจากออกคุก เขาก็ได้กลับมายังหลุยเซียร์นา อาศัยอยู่กับคุณย่าวิเวียนที่เปรียบเสมือนเป็นคุณแม่ของเขา พาลเมอร์พยายามที่จะทำตัวให้ดีขึ้นหลังออกจากคุก แต่ก็ถูกอดีตของเขาตามหลอกหลอนผ่านสายตาของคนในชุมชน

เพื่อนบ้านของคุณย่าวิเวียน เป็นหญิงสาวที่ไม่เอาไหน ติดยา ชอบดื่มเหล้า มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบากชื่อว่า เชลบี้ ได้หายตัวออกจากบ้านไป ทิ้งให้ลูกชายของเธอ แซม เด็กชายที่มีความชอบแตกต่างจากเด็กผู้ชายคนอื่นๆ เช่น ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิง อยากที่จะเป็นเจ้าหญิง ทำให้ตัวของเขาตกเป็นเป้าหมายของการถูกบูลลี่อยู่เป็นประจำ และเขาต้องเข้ามาอยู่ภายใต้ความดูแลของพาลเมอร์อย่างไม่สมัครใจเท่าไหร่นัก แต่นั่นก็ทำให้ชีวิตของเขาเริ่มมองเห็นแสงแห่งความหวังบางอย่าง

พาลเมอร์และแซมก็ได้สานความสัมพันธ์ ผ่านประสบการชีวิตที่คล้ายๆ กันในอดีต นั่นก็คือการที่ผู้คนรอบข้างทำให้เขารู้สึกว่าตนเองแตกต่าง ชีวิตของพาลเมอร์ก็ค่อยๆ ดีขึ้น รวมไปถึงความสัมพันธ์ของเขากับครูสาว แมกกี้ ที่เข้าอกเข้าใจตัวตนของแซมดี เรื่องราวของเส้นทางชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ความเข้าอกเข้าใจ อบอุ่นใจ สุข เศร้า เคล้าน้ำตา แต่แล้วอดีตของพาลเมอร์ ก็ต้องกลับมาคุกคามและหลอกหลอนกับชีวิตที่เขาเพิ่งจะสร้างใหม่นี้

นี่เป็นภาพยนต์ดราม่าเรื่องเยี่ยม ที่ต้องบอกสำหรับคนเซนซิทีฟเรื่องราวเกี่ยวกับเด็ก เรื่องของชีวิต การยอมรับและความเข้าใจ คุณเสียน้ำตาแน่นอน และการแสดงของจัสติน ทิมเบอร์เลค ในบทพาลเมอร์สามารถเอาคนดูได้อยู่หมัด ทำให้เราอินไปกับอารมณ์ของหนัง และ ไรเดอร์ อัลเลน เด็กน้อยวัยเพียง 7 ขวล ที่รับบทเป็นแซม ก็เป็นเด็กที่น่ารัก น่าเอ็นดู จนทำให้เรารู้สึกสงสาร และเอ็นดูเด็กคนนี้อย่างมากในเรื่อง

ภาพยนต์ก็จะค่อยๆ ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอก ที่เพิ่งออกจากคุก ตัวเขาเองก็พยายามหางานทำ และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น แต่การที่เพิ่งออกจากคุกมาใหม่ การปรับตัวให้เข้ากับสังคมมันก็ไม่ง่ายดายนัก แถมยังต้องมาเลี้ยงเด็กข้างบ้านที่พ่อแม่เป็นขี้ยาอีก แต่ตัวเด็กคนนี้ก็พิเศษไม่เหมือนคนอื่นด้วย ทำให้ในช่วงแรกเราก็จะรู้สึกเหมือนพาลเมอร์ว่า ชีวิตของเรานี่มันอิหยังวะ ทำไมต้องมาเลี้ยงเด็ก แถมไอ้เด็กนี่มันก็แปลกๆ ด้วย

เรื่องราวก็เริ่มดราม่ามากขึ้นเมื่อพาลเมอร์ได้รับเลี้ยงแซมอย่างเต็มตัว คอยไปรับส่งที่โรงเรียน หาข้าวให้กิน แต่นั่นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับเด็กคนนี้เพิ่มมากขึ้น เข้าอกเข้าใจกันดี จากตอนแรกตัวเอกเราไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่นัก เหมือนกับว่าเปลือกภายในจิตใจของพระเอก ถูกกระเทาะออกด้วยความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้

แซม คือเด็กพิเศษ ถ้าพูดเป็นภาษาบ้านๆ ก็คือค่อนข้างตุ้งติ้ง ชอบเจ้าหญิง อยากเป็นเจ้าหญิง แต่เด็กก็คือเด็ก ตัวละครแซม แสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสาที่บริสุทธิ แม้ว่าครอบครัวของแซมจะไม่ค่อยดีนัก อยู่ในรถเทรลเลอร์เก่าๆ มีพ่อเลี้ยงขี้โมโห ปฏิบัติตัวไม่ดีกับเขาตลอดเพราะความชอบของเด็กน้อย ประกอบกับแม่ที่ขี้ยา แถมชอบทิ้งลูกเอาไว้นานๆ อีก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้แซมเป็นเด็กที่เก็บกด กลับกันแซมเป็นเด็กที่จิตใจดี ยิ่งเราดูไปเราจะเห็นความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้ แล้วเราจะเข้าใจว่าเด็ก ก็คือเด็ก ไม่ควรไปกำหนดกรอบให้เขาว่า เพศชาย ต้องชอบแบบไหน ไม่สามารถชอบแบบไหน

และเรื่องราวส่วนนั้น ทำให้ตัวพาลเมอร์ เป็นเหมือนตัวแทนคนดู ที่จะพาเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับเด็ก ที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็คงเคยผ่านช่วงวัยนั้นมา เพราะแซมเองก็ถูกเพื่อนในห้องบูลลี่เพราะเอาแต่เล่นกับเด็กผู้หญิง ยิ่งดูก็ยิ่งสงสารตัวแซม เพราะน้องน่ารักน่าเอ็นดูมาก ตัวพาลเมอร์เองก็มีวิธีขัดการปัญหาต่างๆ ในวิธีของเขา ยิ่งดูเราก็จะยิ่งเห็นสายสัมพันธ์ที่มันค่อยๆ เชื่อมกัน ทั้งอดีตของพระเอก ชีวิตของแซม โมเมนต์แบบนี้ในเรื่องมันชวนอบอุ่นหัวใจ

แต่ภาพยนต์เรื่องนี้ ด้านดราม่าก็เข้มข้นจนทำให้น้ำตาแตกเพราะความสัมพันธ์ของคนแปลกหน้ากับเด็กข้างบ้าน ที่อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาอาจจะไม่นานมาก แต่เป็นช่วงเวลาที่สวยงาม กลับถูกขัดขวางด้วยความจริงของครอบครัวแซมที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ดราม่าในจุดนี้มันก็ยิ่งขยี้ให้กับอดีตของตัวเอกเราไปอีก จนไปถึงตอนจบของเรื่องที่ต้องยอมรับว่าผู้เขียนอินมาก ถึงกับร้องไห้สะอื้นออกมา

ต้องขอชมเรื่องนี้ในจังหวะการเล่าเรื่อง ที่มันจะค่อยๆ ให้เราติดตามชีวิตของตัวละครหลัก ปล่อยจังหวะชวนอบอุ่นหัวใจ สลับกับปัญหา และฉากดราม่าที่ทำให้เราเห็นอกเห็นใจทั้งตัวพาลเมอร์และน้องแซม ทำให้เรื่องราวมันไม่หนักจนเกินไปในช่วงต้น และทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์กับตัวละคร ด้วยเวลาการนำเสนอเกือบๆ สองชั่วโมง แต่เรากลับรู้สึกอินเหมือนกับดูซีรีส์ยาวๆ สักเรื่อง

อีกเรื่องที่ต้องชมก็คือบทบาทของตัวแซมที่มันสะท้อนอะไรได้หลายๆ อย่าง ทั้งปัญหาของครอบครัวที่มีความรุนแรง ได้รับการเลี้ยงดูไม่ดี ปัญหาในเรื่องการบูลลี่ และปัญหาในเรื่องตัวตนและเพศของเด็ก ที่มันถ่ายทอดออกมาเข้าถึงอารมณ์ เพราะเด็กก็คือเด็กจริงๆ เป็นวัยที่ควรจะใช้ชีวิตให้มีความสุขกับสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่ว่าต้องกำหนดให้เขาอยู่ในกรอบที่ผู้ใหญ่ขีดไว้

เรื่องนี้นำเสนออารมณ์ให้กับผู้ชมได้หลากหลายมาก ทั้งประหลาดใจ เศร้า อบอุ่น ดราม่าน้ำตาซึม จนถึงตอนจบกับบทสรุปที่สวยงามและน่าประทับใจ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องราวที่อาจจะเหมือนสูตรสำเร็จ แฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่กว่ามันจะผ่านมายังตอนจบที่สวยงาม ตัวละครหลักทั้งสองก็ผ่านเรื่องราว ทั้งร้าย ทั้งดี ที่มันจะบีบหัวใจผู้ชมให้อินไปกับเรื่อง ใครที่จิตใจอ่อนไหว เป็นคนรักเด็ก ขอเตือนไว้เลยว่ามีเสียน้ำตาแน่นอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ภาพยนต์แนวดราม่า สำหรับผู้ชมที่จะอินกับมัน อาจจะมีช่วงเวลาชีวิตที่มัน Relate กับเรื่องราวในหนังบางส่วน และทำให้การรับชมมันอินถึงขีดสุด แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์ ก็อาจจะอินน้อยกว่า

นี่เป็นภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ที่หลังดูจบแล้วน้ำตาอาบนองสองแก้ม มันทั้งเศร้ากับเรื่องราวที่ดำเนินมาถึงตอนจบ ฉากจบที่อบอุ่นและให้ความหวัง  และเกิดความรู้สึกใจหายที่ภาพยนต์ดีๆ แบบนี้มันจบลง เหลือทิ้งไว้เพียงอารมณ์อิ่มเอมและความประทับใจ นี่คือผลงานชั้นเยี่ยมอีกเรื่องใน Apple TV+ ที่ควรรับชมจริงๆ

รับชม Palmer ได้ทาง Apple TV+

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่