playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Sex Education SS3 โรงเรียนเซ็กซ์สุดห่ามถึงคราววิกฤต

สรุป

โดยรวมก็คือ ไม่ผิดหวัง ยังคงทำได้ดีตามมาตรฐาน สอดแทรกความรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับทั้งเซ็กซ์ ความสัมพันธ์ ความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับปัญหาที่ทำให้รู้ว่าเหล่าคนหัวโบราณกับสถานศึกษา มันเป็นปัญหาที่ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย เน้นหนักทางด้านดราม่าของตัวละครไปนิดหนึ่ง จนทำให้เรื่องของโรงเรียนที่น่าจะเป็นเมนหลักของซีซั่นดูดรอปๆ ลงไป ต่างจากซีซั่นก่อนที่ปิดท้ายด้วยงานโรงเรียนอลังการสุดๆ ตามลุ้น ตามเชียร์ความสัมพันธ์ของเหล่านักเรียนโรงเรียนมัวร์เดลว่าจะลงเอยอย่างไร นี่คือหนึ่งในซีรีส์ที่ต้องบอกเลยว่า หากสมัครเน็ตฟลิกซ์มาแล้วไม่เคยกดดูเรื่องนี้ ถือว่าพลาดอย่างแรง

Overall
9/10
9/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • สานต่อความสัมพันธ์จากซีซั่นที่แล้ว ใครตามเชียร์คู่ไหน ซีซั่นนี้มีบทสรุป
  • การมาของตัวละครเจ้าปัญหาคนใหม่ที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้นขึ้น
  • ดราม่าประเด็นที่หนัก พร้อมกับเรื่องรักๆ ของวัยรุ่นที่ยังคงทำได้ดี
  • ฉากฮามีเยอะขึ้น
  • สอดแทรกความรู้ แง่คิดในเรื่องของทั้งเซ็กซ์ ความสัมพันธ์ และความหลากหลายทางเพศดีเหมือนเดิม

Cons

  • ตัวเรื่องหลักของซีซั่นถือว่าดรอปลงถ้าหากเทียบกับซีซั่นที่แล้วที่จัดเต็มมาก
  • ตัวละครหลักบางตัวถูกตัดบทไปช่วงกลางเรื่องจนน่าเสียดายเพื่อไปเน้นดราม่าในส่วนอื่น
  • เรื่องเพศกับเกร็ดความรู้ไม่ได้จัดเต็มเท่าซีซั่นก่อนๆ

ADBRO

Sex Education SS3 กลับมาอีกครั้งกับซีซั่นที่ 3 ของหนึ่งในซีรีส์ขึ้นหิ้งจาก Netflix กับการขึ้นเทอมใหม่ของเหล่านักเรียนโรงเรียนเซ็กซ์สุดป่วนที่คราวนี้ พวกเขาจะต้องเจอกับปัญหาอันใหญ่หลวงที่อาจจะทำให้โรงเรียนมัวร์เดลถูกยุบ กับเรื่องราวความสัมพันธ์ที่หลากอารมณ์ พร้อมสอดแทรกแง่คิดเรื่องเซ็กซ์หลากหลายรูปแบบที่มีมากกว่าแค่คำว่าเพศสัมพันธ์

ตัวอย่าง Sex Education SS3

รีวิว Sex Education SS3

ในการขึ้นซีซั่นใหม่ ก็จะเป็นการเปิดเทอมใหม่ของเหล่านักเรียนที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ซึ่งเทอมนี้พวกเขาก็ขึ้น ม.6 เทอมแรกแล้ว เป็นปีการศึกษาสุดท้าย เรื่องราวก็จะทำการสานต่อความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงของทั้งเหล่าวัยรุ่นและของผู้ใหญ่ พร้อมกับการปรากฏตัวของตัวละครใหม่ๆ ที่จะมาสร้างปัญหาจนทำให้เรื่องราวชวนลุ้นและน่าติดตามว่าจะลงเอยอย่างไร ใครที่ลงเรือเชียร์คู่โอทิสกับเมฟ หรือโอทิสกับรูบี้ ซีซั่นนี้มีคำตอบให้แน่นอน

อ่านรีวิว ซีซั่น1-2 ได้ที่นี่

เริ่มจากตัวละครหลักอย่างโอทิส ที่ทะเลาะกับเมฟจากซีซั่นที่แล้วพร้อมกับมีเคมีคู่กับรูบี้ เปิดซีซั่นมาเขาก็มาพร้อมกับหนวดเฟิ้มและความสัมพันธ์ที่กุ้กกิ้กกันมากขึ้นกับรูบี้ แต่มันจะเป็นไปในทิศทางไหนต้องไปลุ้นเชียร์ในเรื่อง

เมฟกับไอแซคที่มีโมเมนต์กันในซีซั่นก่อน พร้อมกับทำให้เกิดกองแช่งไอแซคในโซเชี่ยลปะทุขึ้นหลังจากจบซีซั่นสอง พอมาซีซั่นนี้เขาก็จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับความสัมพันธ์ของเมฟ และดราม่าเรื่องแม่ของเมฟด้วย เป็นอีกคู่หนึ่งที่น่าติดตามว่าจะลงเอยอย่างไร

อดัมและเอริค ซีซั่นนี้เอริคก็ยังคงสวยสุดในเรื่อง กับการค้นพบตัวตนใหม่ๆ ของเขา ส่วนอดัมเองก็มีพัฒนาการตัวละครที่น่าติดตาม เปลี่ยนจากตัวละครที่คนเกลียดเป็นเอ็นดู ซึ่งซีซั่นนี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในคนที่น่าสงสารที่สุดในเรื่อง

เอมี่ หลังจากเธอถูกลวนลามในซีซั่นก่อนก็เกิดเป็นแผลใจ จนเธอต้องหาทางรับมือกับความรู้สึกแย่ๆ ด้วยการปรึกษากับคุณแม่จีนของโอทิส ในพาร์ทนี้ก็จะเล่าถึงมุมมองของคนที่เคยถูกลวนลามทางเพศ สอดแทรกให้ความรู้ความเข้าใจที่มีประโยชน์มากอีกตอนหนึ่งเลย

ทางด้านความสัมพันธ์ของจีนและยาค็อบ ก็เป็นเรื่องราวที่เข้มข้นไม่แพ้ความสัมพันธ์ของเหล่าเด็กๆ หลังจากที่ทั้งคู่เลิกกัน แต่ท้องของจีนก็ดันป่องขึ้น พวกเขาก็ต้องหาทางจัดการความสัมพันธ์ที่กระอั่กกระอ่วน และการมีลูกในวัย 48 ของจีนก็เสี่ยงอันตรายและมีให้ลุ้นในช่วงท้ายๆ

อดีตครูใหญ่ ไมเคิล กรอฟฟ์ หลังจากถูกภรรยาของเขา มัวรีน ขอหย่าร้าง รวมไปถึงเสียตำแหน่งครูใหญ่ จากตัวละครที่หลายๆ คนเกลียดขี้หน้าในซีซั่นก่อนๆ จะกลายเป็นอีกตัวละครที่น่าเห็นใจ และน่าสงสารมากที่สุดอีกพาร์ทหนึ่งในเรื่อง เราจะได้เห็นอดีตวัยเด็กที่เป็นปมในใจของเขาที่ค่อยๆ เผยออกมา เขาจะกลับตัวกลับใจ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้หรือไม่ต้องติดตาม

และการปรากฏตัวของตัวละครครูใหญ่คนใหม่ โฮป สาวมั่นสุดแกร่งอายุยังน้อยแต่ได้บริหารโรงเรียนมัธยมที่เปิดตัวมาก็มัดใจเด็กๆ ได้อยู่หมัด กับการลงมือทำจริงจัง แต่การมาของเธอ มันจะมาดีจริงหรือไม่ การจัดระเบียบ เปลี่ยนชื่อเสียจากโรงเรียนสอนเซ็กซ์ให้เป็นโรงเรียนปกติมันถูกต้องแล้วหรือเปล่า เป็นบอสใหญ่ในซีซั่นนี้ที่มีผลกระทบกับเรื่องมากจนถึงขั้นอาจจะทำให้โรงเรียนมัวร์เดลถูกยุบได้เลย

จะเห็นได้ว่าเรื่องราวหลายๆ ส่วนมันจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ในซีซั่นนี้ในช่วงแรก จะเน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์และการพัฒนาตัวละครของแต่ละคนที่มันเหมือนกับการเติบโต จากซีซั่นแรก การเปิดคลินิกปรึกษาปัญหาเรื่องเซ็กซ์ จนเลิกทำ หลายๆ อย่างมันก็ยังคงเป็นองค์ประกอบที่เหมือนเราได้ดูเรื่องราวของเพื่อนเราคนหนึ่งที่ค่อยๆ โตมาด้วยกัน เพราะแต่ละซีซั่น ก็คือ 1 เทอม บอกเลยว่ายังคงจัดเต็ม ครบทุกรสชาติ ทั้งสนุก ฮา เศร้า มีชวนยี้ด้วยบางฉาก แต่ฉากเซ็กซ์หรืออะไรที่โจ๋งครึ่มก็ลดน้อยลงเยอะมาก ถ้าเทียบกับซีซั่นก่อนๆ

Sex Education SS3และในจุดเปลี่ยนความสัมพันธ์ในช่วงที่เหล่านักเรียนไปทัศนะศึกษา ก็เป็นอีกช่วงพีคที่ทำให้เรื่องราวความรักของเหล่าวัยรุ่น มันยุ่งเหยิงขึ้นไปอีก ใครที่ชอบตรงนี้และลุ้นมาจากซีซั่นแล้ว เชียร์ใคร ทีมใคร ต้องจับตาดูไว้ให้ดีๆ เลย

และในช่วงหลังก็จะเป็นการปะทะกันของนักเรียนที่ต้องการพื้นที่ในการแสดงออกเรื่องเพศอย่างที่เคยเป็น แต่พวกเขาก็ต้องถูกจำกัดโดยใครบางคน หรือบางอย่าง ที่ตรงนี้มันจะเป็นเหมือนประเด็นคล้ายๆ กับซีซั่นที่แล้ว แต่จะนำเสนอในหัวข้อที่ว่า โรงเรียนยุคเก่าแบบตีกรอบให้นักเรียน ไม่เปิดกว้างเรื่องเพศ กับแบบที่เปิดกว้าง ให้นักเรียนค้นหาตัวตน แบบไหนดีกว่ากัน จากโรงเรียนอิสระ ก็มีชุดยูนิฟอร์มมาตีกรอบให้ ตรงจุดนี้ก็จะมีการปูปัญหามาตั้งแต่ช่วงต้นจนไปถึงช่วงพีคของตอนหลังที่ยังคงทำได้ดี และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยในภาคนี้ก็คือตัวละคร Non Binary ที่ไม่ได้เป็นทั้งเพศชาย หรือหญิง ตามกระแส LGBTQ+ หยิบมานำเสนอได้น่าสนใจ

แต่สิ่งที่สังเกตเห็นได้ขัดเลยก็คือทิศทางของเรื่องที่มันไม่ได้สอดแทรกหรือเสนอมุมมองเกี่ยวกับเซ็กซ์ หรือความหลากหลายทางเพศเท่ากับซีซั่นก่อนๆ จะเน้นหนักไปทางดราม่าของแต่ละตัวละคร แต่แลกมาด้วยการหยิบประเด็นหนักๆ มานำเสนออย่างเรื่องโรงเรียน ที่ควรจะเป็นแหล่งเรียนรู้ ไม่ใช่สถานที่ที่ทุกคนกลัวการทำผิด หรืออื่นๆ ได้อย่าง เสียอย่าง

และสิ่งที่น่าขัดใจเลยก็คือเรื่องราวของบางตัวละครที่มันกำลังไปได้สวย เหมือนถูกตัดบทไปช่วงกลางเรื่องแล้วดึงดราม่าหลักอันใหม่เข้ามาแทนที่ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่หลายๆ คนติดตาม ตรงส่วนนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าหลายคนอาจจะไม่ถูกใจที่ทำกับตัวละครที่ใครหลายๆ คนชอบ แต่มันก็เป็นการเปิดทางให้อีกความสัมพันธ์ของอีกตัวละครหนึ่งอีกที

ทางด้านบอสใหญ่ของซีซั่นนี้ที่ปะฉะดะกับเหล่านักเรียน มันก็ยังไม่ได้ให้ความรู้สึกในแบบที่บอสคนเก่าอย่างครูใหญ่กรอฟฟ์ทำเอาไว้ได้ มีผลอิมแพคกับเรื่องเยอะแต่การกระทำมันน้อยนิด เหมือนบทจะน้อยเกินไปเสียหน่อยนึง ค่อนข้างน่าเสียดาย ถ้าหากว่าทำให้บอสของซีซั่นกลายเป็นตัวละครที่แรงกว่านี้ เรื่องราวมันอาจจะชวนลุ้นมากกว่า คือปัญหาในเรื่องมันใหญ่มาก แต่รีแอคของแต่ละตัวละครในเรื่องมันเหมือนไม่ค่อยได้รู้สึกว่ามันเป็นแบบนั้นเท่าที่ควร

เป็น 8 ตอน 8 ชั่วโมงที่เต็มอิ่ม ครบทุกรสชาติ ทุกอารมณ์ เพลงประกอบก็ยังคงเพราะและหยิบเลือกมาประกอบกับช่วงเวลาต่างๆ ของซีรีส์ได้อย่างเหมาะเจาะ ใครที่รอจากซีซั่นก่อนก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง กำลังกลมกล่อมพอดี แต่ก็ยังมีทิ้งปมเอาไว้ให้ตามไปลุ้นซีซั่นต่อไปที่อาจจะเป็นซีซั่นสุดท้ายของเรื่องราว เพราะเหล่าตัวละครจะขึ้น ม.6 เทอมที่ 2 จบการศึกษาจากโรงเรียนมัวร์เดลแห่งนี้แล้ว

Sex Education SS3 โดยรวมก็คือ ไม่ผิดหวัง ยังคงทำได้ดีตามมาตรฐาน สอดแทรกความรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับทั้งเซ็กซ์ ความสัมพันธ์ ความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับปัญหาที่ทำให้รู้ว่าเหล่าคนหัวโบราณกับสถานศึกษา มันเป็นปัญหาที่ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทย เน้นหนักทางด้านดราม่าของตัวละครไปนิดหนึ่ง จนทำให้เรื่องของโรงเรียนที่น่าจะเป็นเมนหลักของซีซั่นดูดรอปๆ ลงไป ต่างจากซีซั่นก่อนที่ปิดท้ายด้วยงานโรงเรียนอลังการสุดๆ ตามลุ้น ตามเชียร์ความสัมพันธ์ของเหล่านักเรียนโรงเรียนมัวร์เดลว่าจะลงเอยอย่างไร นี่คือหนึ่งในซีรีส์ที่ต้องบอกเลยว่า หากสมัครเน็ตฟลิกซ์มาแล้วไม่เคยกดดูเรื่องนี้ ถือว่าพลาดอย่างแรง

รับชม Sex Education ทั้งสามซีซั่นได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ