รีวิว Ted Lasso SS1 (Apple Tv+)โค้ชสุดกวน ป่วนพรีเมียร์ลีค
Ted Lasso SS1
สรุป
นี่คือซีรีส์ฟุตบอล ที่มีเรื่องฟุตบอลเป็นฉากหลัง แต่เรื่องราวจริงๆ มันจะอยู่ที่สายสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร การทำให้คนยอมรับ จากโค้ชรักบี้กวนๆ คนหนึ่ง ที่จะค่อยๆ ทำให้ทุกคนรอบตัวเขาเปิดใจ รวมไปถึงคนดู ที่บอกเลยว่า แม้จะไม่ใช่คนที่ดูกีฬาฟุตบอล ก็ยังดูซีรีส์เรื่องนี้สนุกมาก ชวนอมยิ้มทุกตอน ฉากซึ้งก็กินใจ ฉากแข่งก็มันส์ แต่เสียดายว่าเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลนำเสนอน้อยเกินไปหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย บอกเลยว่าถ้าเผลอกดไปดูตอนนึงแล้ว จะเผลอดูรวดเดียวจนจบซีซั่นได้ง่ายๆ เลย
Overall
9/10User Review
( vote)Pros
- มุกตลกที่ลื่นไหล ไม่น่ารำคาญ มีชั้นเชิง
- เรื่องราวน่าสนใจ โดยเฉพาะการพัฒนาความสัมพัน์ของแต่ละตัวละคร ที่ค่อยๆ เชื่อใจในตัวเท็ด
- ด้านดราม่า ปมปัญหาของแต่ละคนทำออกมาได้ดี ยิ่งเสริมให้แต่ละตัวละครมีมิติ
- ฉากแข่งฟุตบอลก็ทำออกมาได้ดีและลุ้นมาก
Cons
- ซีรีส์เกี่ยวกับฟุตบอล แต่นำเสนอเกี่ยวกับฟุตบอลน้อยไปหน่อย
- ฉากแข่งน้อยมาก บ่อยครั้งคือ skip ไปตอนแข่งเสร็จซะงั้น
- ปมปัญหาบางอย่างของเรื่อง เหมือนถูกตัดจบออกไปดื้อๆ แล้วดำเนินเรื่องราวส่วนอื่นต่อทันที
Ted Lasso ซีรีส์น้ำดีจาก Apple Tv+ เรื่องราวของโค้ชรักบี้สายฮา ที่พาทีมท้องถิ่นเป็นแชมป์ในอเมริกา ถูกจ้างวานมาให้คุมทีมฟุตบอลริชมอนด์ในอังกฤษ ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้กติกามันเลยแม้แต่น้อย แถมยังต้องแบกรับภาระที่ต้องมาคุมระหว่างแข่งพรีเมียร์ลีคอีก เขาจะทำให้ทีมตกชั้นหรือไม่ มันจะป่วนแค่ไหนกับโค้ชรักบี้มาคุมทีมฟุตบอล ต้องลองติดตามชม
ตัวอย่าง Ted Lasso Season 1
รีวิว Ted Lasso Season 1
ถ้าหากว่าใครที่เคยอ่านการ์ตูนดังในอดีต อย่าง Great Teacher Onizuka หรือ GTO คุณครูพันธ์หายาก บอกเลยว่าเรื่องนี้ให้กลิ่นอายคล้ายๆ กันมาก เรื่องจีทีโอจะเป็นคุณครูทีมีแนวการสอนแปลกๆ แต่ถึงใจนักเรียน และโค้ชเท็ด ลาสโซ่ ก็จะมีวิธีคุมทีม ที่จะค่อยๆ เข้าถึงใจเหล่านักกีฬา และเหล่าคนรอบข้างตัวเขา ด้วยวิธีเฉพาะตัว
เท็ด โค้ชทีมอเมริกันฟุตบอลที่พาทีมท้องถิ่น เป็นแชมป์ในรายการใหญ่ได้ แถมยังมีคลิปไวรัล จากการที่เขาสนิทสนมกับเหล่านักกีฬา และมีวิธีฉลองที่แปลกและแตกต่างจากโค้ชทั่วไป และนั่น ทำให้เขาเข้าตาผู้บริหารสโมสรฟุตบอลริชมอนด์อย่าง รีเบคกา ดึงตัวเขามาคุมทีมที่อังกฤษ หวังว่าเขาอาจจะพาทีมที่กำลังแข่งพรีเมียร์ลีคใกล้หลุดตาราง กลับขึ้นมาให้ได้ แต่แท้จริงแล้ว มันมีเบื้องลึกเบื้องมากกว่าที่เห็น
แค่พล็อตเรื่องก็น่าสนใจแล้ว โค้ชอเมริกันฟุตบอล หรือรักบี้ มาคุมทีมฟุตบอล (ซ็อคเกอร์) ซึ่งเป็นกีฬาที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก แถมตอนเขามาคุมทีมก็ยังแทบไม่รู้กติกาอะไรสักอย่างเกี่ยวกับฟุตบอลเลยสักนิด จนทั้งคนดู และคนในตัวซีรีส์เองก็สงสัยว่า ไอ้หมอนี่ จะคุมทีมได้จริงเหรอ?
สิ่งที่น่าสนใจและทำให้เรื่องนี้เป็นคอมเมดี้ที่มีชั้นเชิงก็คือตัวละครหลัก เท็ด ลาสโซ่ คนสายฮาที่มีวิธีมองโลกในแง่ดี มีมุกจิกกัดแสบๆ คันๆ ปล่อยออกมาทั้งเรื่อง และมีวิธีการแปลกๆ จัดการปัญหารอบตัวเขา เช่น เมื่อทีมแพ้ แทนที่จะเศร้าเสียใจ กลับมาจัดปาร์ตี้ในห้องแต่งตัวนักกีฬาเสียครื้นเครง ซึ่งตัวเรื่องก็จะค่อยๆ แสดงให้ผู้ชมเห็นตัวตนของเท็ด ว่านอกจากความฮาที่เกินพิกัด เขายังมีความสามารถในการชนะใจคน รวมไปถึงด้านดราม่าส่วนตัวที่จะทำให้ผู้ชมอิน เสริมความมีติของตัวละครนี้มากขึ้น ไม่ใช่มีแค่ด้านตลกโปกฮาอย่างเดียว
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สนุก และมีเสน่ห์มากขึ้น ก็คือเหล่าตัวละครอื่นๆ ภายในเรื่อง ที่มีบทบาทคอยส่ง เสริมกันอยู่ตลอด อย่างเช่น รีเบคกา เป็นแม่ม่ายผู้บริหารสโมสรริชมอนด์ ที่เพิ่งถูกสามีที่เป็นเจ้าของสโมสรคนก่อนทิ้งไป แล้วยังเย้ยหยันด้วยการควงแฟนใหม่ ทำให้ตัวเธอค่อนข้างที่จะมีปมในเรื่องนี้ จนทำให้เธอตัดสินใจจ้างโค้ชเท็ด บินมาจากอเมริกามายังเกาะอังกฤษ เพื่อบริหารทีมฟุตบอล แทนที่จะจ้างโค้ชเก่งๆ มาบริหาร เพราะเบื้องหลังก็คือ เธอต้องการที่จะทำลายสโมสรฟุตบอลที่สามีเธอรักมาก เพื่อแก้แค้นที่ถูกเขาทิ้งไป
จะเห็นว่า นอกจากโค้ชเท็ด ที่ต้องพยายามจัดการทีมฟุตบอลไม่ให้ตกชั้นพรีเมียร์ลีค แต่ทางด้านของรีเบคกา ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำลายทีมฟุตบอลนี้ในเบื้องหลัง จนมันเหมือนกับตัวบอสที่แท้จริง คือคนใกล้ตัวของตัวเอก แต่เท็ดเองก็พยายามจะชนะใจบอสของเขาด้วยวิธีการต่างๆ โดยหารู้ไม่ว่า คนที่ต้องการจะทำลายชีวิตของเขา อยู่ตรงหน้านี้เอง
นอกจากตัวละครหลักอย่างตัวบอสแล้ว ก็ยังมีเหล่านักกีฬาหลากหลายคน แต่ที่เป็นตัวสำคัญจริงๆ จะมีอยู่ไม่กี่คน เริ่มจาก เนธาน ผู้ดูแลอุปกรณ์ให้นักกีฬา ที่ถูกพวกนักบอลบูลลี่อยู่บ่อยๆ เป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เท็ดได้เห็นถึงแววของเขา ถามความเห็นเกี่ยวกับทีม หรือแผนการเล่น เนธานก็นำเสนอไอเดียที่ดีออกมาได้เสมอจนน่าแปลกใจ และสองนักกีฬาทีมเดียวกันแต่เป็นคู่กัดอย่าง เจมี่ ทาร์ต ดาวเด่นของทีมที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนไม่ยอมจ่ายบอลให้เพื่อน กับรอย เคนท์ กัปตันทีมจอมหัวร้อนที่มีฝีมือเก๋า และอาวุโสสุดในทีม ตัวของรอยก็พยายามคุมให้เจมี่เชื่อฟังเขาและเล่นเป็นทีม แต่เจมี่ด้วยความเป็นเด็ก ก็พยายามกวนส้นเท้าและเอาแต่ใจตัวเองเสมอ จนเกิดเป็นโมเมนต์ป่วยๆ กวนๆ และเป็นเมนเรื่องหลักในช่วงต้นเลย
แต่ช่วงหลัง กลับตัดการกัดกันของสองคนนี้ไปแบบดื้อๆ ทั้งๆ ที่มันน่าจะเป็นสีสันให้กับเรื่องได้ดีกว่านี้ แต่จะไปสานต่อจุดนี้ตรงท้ายเรื่องแทน ก็เลยแอบงงนิดๆ เหมือนเรื่องราวมันจะถูกตัดข้ามไป แล้วแทนที่ด้วยดราม่าของทีมและตัวละครที่จะมีบทบาทสำคัญใหม่ๆ อย่าง คีลีย์ อดีตแฟนสาวของเจมี่ที่เป็นนางแบบ ได้เข้ามาทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปของทีมฟุตบอลริชมอนด์ และตัวเธอเองจะเข้ามาแก้ปมปัญหาของตัวรีเบคกาอีกที
เรื่องราวโดยรวมดูเหมือนจะซับซ้อน แต่เปล่าเลย เราจะเพลิดเพลินไปกับมุกที่ลื่นไหล จังหวะการดำเนินเรื่องที่สนุก การพัฒนาตัวละครของแต่ละคน ที่จะค่อยๆ ถูกกระเทาะเปลือกโดยเท็ด ลาสโซ่ จากเริ่มแรกที่ไม่มีคนเชื่อมั่นในตัวเขา ทั้งคนในทีมฟุตบอลและแฟนบอลประจำเมืองก็ต่างเรียกเขาว่า “ไอ้โรคจิต” จนเขาเริ่มทำตัวและทำผลงานให้เป็นที่ยอมรับ แต่กว่าจะทำได้แบบนั้น ตัวเท็ดก็ต้องผ่านบททดสอบจิตใจที่จะเข้ามาถาโถมใส่ตัวเขา พร้อมกับคนรอบข้างเรื่อยๆ มันจึงเป็นเรื่องราวดราม่า เลิฟ คอมเมดี้ ที่มีหลากหลายรสชาติมาก นำเสนอออกมาได้อย่างกลมกล่อม และชวนยิ้มทุกตอน ดูเรื่องนี้แล้วบอกเลยว่าแฮปปี้มาก
แต่อย่าลืมว่าซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับฟุตบอล มันจึงต้องมีการแข่งขัน แต่เปล่าเลย เรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลจริงๆ มีค่อนข้างน้อยมาก โดยจะเน้นไปที่ด้านดราม่าและความสัมพันธ์ การพัฒนาตัวละครต่างๆ เสียมากกว่า เช่น เท็ดต้องคุมทีม ซ้อมแผนลับที่จะทำให้ชนะฝ่ายตรงข้าม แล้วจัดการปัญหาหลายๆ อย่างของทีม พอจัดการได้แล้ว กลับไม่มีฉากแข่งบอลเลย ตัดภาพมาที่หลังแข่งทันที อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งฉากแข่งบอลแบบจริงจังของเรื่อง มีเพียงประมาณสองฉาก ในช่วงต้น กับช่วงท้ายของเรื่องเอง น่าเสียดายมาก และแมตช์สุดท้ายในตอนจบก็ถือว่าสนุกมาก ใครเคยอ่านการ์ตูนสแลมป์ดังค์ตอนจบก็จะให้อารมณ์เดียวกันได้เลย แต่น่าเสียดายที่น่าจะบิ้วเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลให้มากกว่านี้หน่อย เหมือนเรื่องบอลกลายเป็นตัวประกอบ คนดูที่ชื่นชอบฟุตบอลอาจจะไม่ค่อยถูกใจสิ่งนี้เท่าไหร่ ต้องเตือนไว้ก่อน
ด้วยความสนุกนี้เอง ทำให้ตัวนักแสดงอย่าง Jason Sudeikis ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำชาย จากเรื่องนี้ด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า สมแล้วทีได้รางวัล ทั้งพาร์ทตลก มุกที่มีชั้นเชิงแบบอเมริกัน ที่ต้องฟัดเหวี่ยงกับสำเนียงอังกฤษที่ฟังดูมีเสน่ห์ ด้านดราม่าก็เข้าถึงจนทำให้คนดูน้ำตาซึม เป็นตัวละครหลักที่แบกทั้งเรื่องเอาไว้จริงๆ
นี่คือซีรีส์ฟุตบอล ที่มีเรื่องฟุตบอลเป็นฉากหลัง แต่เรื่องราวจริงๆ มันจะอยู่ที่สายสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร การทำให้คนยอมรับ จากโค้ชรักบี้กวนๆ คนหนึ่ง ที่จะค่อยๆ ทำให้ทุกคนรอบตัวเขาเปิดใจ รวมไปถึงคนดู ที่บอกเลยว่า แม้จะไม่ใช่คนที่ดูกีฬาฟุตบอล ก็ยังดูซีรีส์เรื่องนี้สนุกมาก ชวนอมยิ้มทุกตอน ฉากซึ้งก็กินใจ ฉากแข่งก็มันส์ แต่เสียดายว่าเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลนำเสนอน้อยเกินไปหน่อย แต่ไม่ใช่ปัญหาเลย บอกเลยว่าถ้าเผลอกดไปดูตอนนึงแล้ว จะเผลอดูรวดเดียวจนจบซีซั่นได้ง่ายๆ เลย
และซีซั่นที่สองของ Ted Lasso จะมาในวันที่ 23 กรกฏาคม 2021 ที่จะถึงนี้ ทาง Apple Tv+ และยังมีการอนุมัติจาก Apple ว่าจะมีถึง Season 3!
รับชม Ted Lasso ซีซั่นแรก ได้ทาง Apple Tv+ แล้ววันนี้
อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์อื่นๆ ได้ที่นี่