playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว The Coyotes ลูกเสือลักเพชรมาเฟียเหมือนจะดาร์กแต่อ่อนด๋อย

สรุป

เดอะไคโยตี้ เรื่องราวของกลุ่มลูกเสือที่ดูเผินๆ อาจจะน่าสนใจ แต่บทอ่อนปวกเปียก การนำเสนอหรือการพัฒนาตัวละครที่ไม่สามารถทำให้คนดูอินได้เลยสักนิด การคุมโทนของเรื่องที่พยายามจะดาร์กแต่กลายเป็นเรื่องราวจบแบบเด็กๆ ข้อผิดพลาดในการถ่ายทำที่สามารถเห็นได้ชัดๆ แค่เปิดดูตอนแรกแล้วเฉยๆ ไม่ค่อยสนุกอย่างไร อีกห้าตอนที่เหลือก็แทบจะไม่ต่างกัน

Overall
4.5/10
4.5/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • พล็อตเรื่องในธีมลูกเสือที่ค่อนข้างแปลก
  • นักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครที่ชื่อแพนด้าน่ารัก

Cons

  • บทอ่อนมาก
  • การนำเสนอแย่ ทำให้ไม่อินกับตัวละครตัวใดสักตัว
  • พยายามจะนำเสนอแบบดาร์กแต่จบแบบหนังเด็ก

ADBRO

The Coyotes ซีรีส์ Original Netflix จากประเทศเบลเยียม เมื่อนักเรียนมาเข้าค่ายลูกเสือแต่ดันเจอเพชรของมาเฟียจอมโฉด คนในกลุ่มลูกเสือจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกระหว่างมิตรภาพหรือเงินก้อนโต ซึ่งมันจะทำให้การเข้าค่ายของพวกเขาในครั้งนี้ เปลี่ยนไปตลอดกาล

 Coyotes (2021) on IMDb

ตัวอย่าง The Coyotes

รีวิว The Coyotes

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์จากประเทศเบลเยียมที่มีพล็อตเรื่องน่าสนใจ เกี่ยวกับกลุ่มลูกเสือที่ตั้งแคมป์ทำกิจกรรม แต่ต้องมาเจอเรื่องราวที่ต้องไปพัวพันกับอาชญากรตัวจริง แม้อาจจะไม่ได้ดูแปลกใหม่ แต่มาในธีมลูกเสือก็ถือว่าใช้ได้ในความแตกต่าง แต่มันจะดีหรือไม่นั้น ลองไปดูพร้อมๆ กันว่ามันเป็นอย่างไรและดีไม่ดีตรงไหนบ้าง

The Coyotesเดอะไคโยตี้ จะเป็นเรื่องราวของ เควิน เด็กวัยรุ่นที่ค่อนข้างมีปัญหา กับทั้งที่บ้านและเพื่อนๆ บางคน รวมไปถึงพี่ชายของเขาด้วยเพราะเรื่องยาเสพติด แต่เขาก็ได้พบกับที่ซ่อนของเพชรในขณะที่เข้าค่ายลูกเสือกับเหล่าเพื่อนๆ อยู่ ในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง มารี ลูกสาวเจ้าของพื้นที่ตั้งแคมป์ลูกเสือ

เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ก็จะมีตัวละครหลากหลายตัวที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเพชรเหล่านี้ โดยเฉพาะเหล่าหมู่ลูกเสือที่เป็นที่มาของชื่อเรื่องอย่างกลุ่มไคโยตี้ ตัวซีรีส์ก็จะแนะนำคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ ภายในเมืองเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งของการเข้าค่ายอีกทีหนึ่ง โดยหลักๆ จะแบ่งเป็นสองฝั่งคือ ฝั่งที่เหมือนตัวร้าย ต้องการเพชรคืน คือกลุ่มคนทำผิดกฏหมายในเมือง เป็นแก็งค์เล็กๆ กับกลุ่มเด็กลูกเสือ

แต่การนำเสนอของเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างที่จะคลุมเครือและน่าเบื่อ อย่างแรก กลุ่มตัวละครหลักที่เป็นลูกเสือ กับซีรีส์ที่มีจำนวน 6 ตอน ตอนละราวๆ 40 กว่านาที แต่ใช้เวลาในการปูเรื่องถึง 2 ตอน คนดูถึงจะรับรู้ได้ว่า นี่มันกำลังจะเริ่มเรื่องราวความปั่นป่วนแล้ว แต่มันดันไม่นำเสนอเกี่ยวกับเหล่าตัวละครหลักเลยยกเว้นตัวพระเอกที่เป็นเด็กขี้ยาคนเดียวซะอย่างนั้น เช่นเด็กแว่นในกลุ่มไคโยตี้ที่เคร่งศาสนา หรือจอมป่วนที่แอบเอามือถือมาเล่นในค่าย ไม่มีการพาผู้ชมไปทำความรู้จักกับตัวละครต่างๆ เลย ว่าพวกเขาคือเพื่อนกัน สนิทกันปานไหน กลุ่มเพื่อนๆ ลูกเสืออยู่กันอย่างไร ทำไมมันถึงต้องน่าติดตาม เพื่อไปยังจุดแตกหักในช่วงกลางเรื่อง (ที่เฉลยมาตั้งแต่ตัวอย่างซีรีส์และต้นเรื่อง) ตรงนี้มันไม่นำเสนอให้เรา มันเลยขาดความเข้าใจตัวละครและความอินไปกับเรื่อง

มาดูปัญหาอย่างที่สองของเรื่องนี้ ที่เป็นปัญหาหลักๆ เลยก็คือ ตัวบทของมัน ที่จะเน้นไปที่ดราม่าของเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่มีมาหลากหลายเรื่องมาก แต่ก็ไม่ได้นำเสนอความเป็น coming of age หรือช่วยเสริมให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้นเท่าที่ควร ให้ยกตัวอย่างก็คือเหล่าเด็กๆ ลูกเสือต้องทำการซ่อนเพชร หาทางทำให้เหล่ามาเฟียไม่รู้ว่าเพชรอยู่ที่พวกเขา พร้อมหลบหนี อาจจะช่วยกันวางแผน แต่บางคนอาจจะอยากได้เพชรจึงแตกคอกันเอง ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว แต่ดันไปเน้นในส่วนที่พระเอก ไปรักกับสาวบ้านรวย กับเหล่าเพื่อนๆ ตัวประกอบกิ้กก๊อกแทน

โดยส่วนตัวผู้เขียนไม่ได้คาดหวังกับซีรีส์วัยรุ่น หรือนักแสดงวัยรุ่น ที่อาจจะไม่ได้แสดงดีเด่นมากมายอะไร อยู่ในระดับที่โอเค แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นคือตัวบทที่อ่อนปวกเปียก มันเลยไม่ส่งเสริมให้นักแสดงเด่น โดยเฉพาะเรื่องราวในช่วงท้ายที่มันปูมาเหมือนจะเป็นเรื่องราวโหดๆ ดาร์กๆ เล่นกับจิตวิทยา จิตใจมนุษย์ ฮอร์โมนวัยรุ่นอะไรก็ว่าไป แต่จบแบบพลังมิตรภาพเหมือนหนังเด็กจนเราเหวอและปรับตัวแทบไม่ทันเลยทีเดียวว่า เฮ้ย ตกลงจะเล่าเรื่องไปในโทนไหนกันแน่ มีทั้งยิงกันตาย สมองระเบิด แต่จบแบบที่ต้องเกาหัวแกรกๆ แล้วคิดในใจว่า เล่นแบบนี้เลยเหรอ?

อีกอย่างหนึ่งที่น่าจะเป็นปัญหาหลัก ทั้งๆ ที่เป็นพล็อตเรื่องและธีมหลักนั่นก็คือ เรื่องราวของค่ายลูกเสือ เพื่ออะไร? มีความสำคัญตรงไหน ในตัวเรื่องแทบไม่ได้กล่าว หรือโฟกัสตรงนี้เลย เหมือนเป็นแค่เรื่องราวประกอบให้เหล่าตัวละครมาเจอเหตุการณ์ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลยด้วยซ้ำ

อีกเรื่องหนึ่งที่ชวนให้น่าหงุดหงิดใจก็คือ การถ่ายทำ โดยมันจะมีฉากกลางคืน แต่น่าจะถ่ายในช่วงกลางวันหรือช่วงที่มีแสงมาก สิ่งที่ผู้ชมได้คือการเกรดสีของภาพให้เป็นโทนฟ้าๆ แต่ตัวประกอบในฉษกหลังบางตัวดันใส่แว่นกันแดด ทั้งๆ ที่พวกเอ็งนำเสนอฉากกลางคืนแต่มีคนใส่แว่นกันแดด? มันคงเป็นปัญหาในการถ่ายทำ ซึ่งคนดูอาจจะไม่ติดใจอะไรเลยถ้าหากว่าเรื่องราวที่นำเสนอมันดีอยู่แล้ว แต่ก็นั่นล่ะ เรื่องราวมันไม่ได้กล่อมให้คนดูเชื่อหรืออินเท่าที่ควรเลยสักนิด

ซีรีส์เรื่องนี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ประเภท Thriller และ Drama ซึ่งมันน่าจะมีแค่ความดราม่าอย่างเดียว แม้จะมีฉากวิ่งไล่ล่าแต่ก็ไม่ได้ลุ้นระทึกอะไรเท่าที่ควร ธรรมดามากๆ ด้วยเรตของซีรีส์ 16+ ก็ไม่ได้มีฉากรุนแรงอะไรมากมาย มีเรื่องราวยาเสพติดหรือเซ็กซ์ที่ไม่ได้เห็นเนื้อหนังมาก เห็นแค่จูบ จะมีเพียงแค่ฉากเดียวที่คนสติไม่สมประกอบยิงหัวตัวเองแล้วมีเอฟเฟคสมองระเบิด ซึ่งน่าจะเป็นฉากที่โหดที่สุดในเรื่องแล้ว

เดอะไคโยตี้ เรื่องราวของกลุ่มลูกเสือที่ดูเผินๆ อาจจะน่าสนใจ แต่บทอ่อนปวกเปียก การนำเสนอหรือการพัฒนาตัวละครที่ไม่สามารถทำให้คนดูอินได้เลยสักนิด การคุมโทนของเรื่องที่พยายามจะดาร์กแต่กลายเป็นเรื่องราวจบแบบเด็กๆ ข้อผิดพลาดในการถ่ายทำที่สามารถเห็นได้ชัดๆ แค่เปิดดูตอนแรกแล้วเฉยๆ ไม่ค่อยสนุกอย่างไร อีกห้าตอนที่เหลือก็แทบจะไม่ต่างกัน

รับชม The Coyotes ได้ทาง Netflix แล้ววันนี้

อ่านรีวิวหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่น ได้ที่นี่

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!