รีวิว เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว เวอร์ชั่น Netflix
Saint Seiya: Knights of the Zodiac เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว
สรุป
เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว ผลงานของทางสตูดิโอ Toei Animation การ์ตูนเก่าที่นำมาทำการสร้างใหม่ เรียกความน่าสนใจจากเหล่าสาวกอนิเมะได้อย่างน่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชื่อ Netflix เป็นตัวหนุนหลัง
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- องค์ประกอบของตัวละครดูดี
- คงรูปแบบของต้นฉบับเรื่องชุดคลอสได้เหมือนเดิม
- เนื้อหากระชับ
Cons
- สร้างความสัมพันธ์ตัวละครรวบรัดเกินไป
- เนื้อเรื่องบางตอนรวบรัดเกินไป
- ทรงผมไม่พริ้วไหวเหมือนเพลงประกอบทำให้ภาพแข็ง
Saint Seiya: Knights of the Zodiac (เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว) ผลงานของทางสตูดิโอ Toei Animation การ์ตูนเก่าที่นำมาทำการสร้างใหม่ เรียกความน่าสนใจจากเหล่าสาวกอนิเมะได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีชื่อ Netflix เป็นตัวหนุนหลังยิ่งทำให้ความคาดหวังสูงขึ้น และได้เปิดตัวก่อนหน้านี้ด้วยเพลงประกอบ “PEGASUS SEIYA” โดยวง THE STRUTS วงร๊อคชาวอังกฤษ ที่มีภาพมิวสิควีดีโอที่ดูแล้วต้องบอกเลยว่า “ไม่ดูไม่ได้แล้ว”
เนื้อเรื่องดั้งเดิมของเซนต์เซย่า นั้นเริ่มจากการที่เซย่าและที่สาวที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าของกลุ่มคิโดะกรุ๊ปและเซย่าจะต้องถูกแยกจากพี่สาวเพื่อถูกส่งไปฝึกเป็นเซนต์หลังจากที่พี่สาวถูกส่งไปแล้ว หลังจากนั้นเซย่าและเด็กคนอื่นๆก็ถูกส่งไปตามที่ต่างๆเพื่อฝึกเป็นเซนต์ และเมื่อจะเซย่าฝึกสำเร็จจึงได้กลับมาที่ญี่ปุ่นเพื่อทดสอบการเป็นเซนต์เพื่อปกป้องอาเธน่าตามคำทำนาย และตามหาพี่สาวของตัวเอง ในการทดสอบเซย่า ได้ต่อสู้กับเพื่อนที่เคยอยู่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันและก่อนการทดสอบจะจบสิ้น อิคคิหรือเซนต์ฟินิกซ์ได้เข้ามาขัดขวางการทดสอบ เซย่าและเพื่อนจึงต้องร่วมมือกันช่วยปกป้องอาเธน่าและแย่งชิงโกลด์เซนต์กลับมา และร่วมกับเพื่อนเพื่อไปช่วยอาเธน่าที่วิหารโกลเซนต์ต่อไป
ความเห็นส่วนตัว
ความรู้สึกแรกหลังจากที่ดูรู้สึกว่าเพลงประกอบมีความน่าสนใจมากทั้งการเคลื่อนไหวที่สวยงามและความเคลื่อนไหวของตัวละคร ถึงแม้ว่าลายเส้นเรียกว่าทิ้งของต้นฉบับไปเลยแต่พอเข้าใจได้ว่าการทำเป็นอนิเมชั่นแบบนี้ลายเส้นจะต้องเปลี่ยนไปตามรูปแบบของสตูดิโอซึ่งสามารถยอมเปิิดใจรับได้ รวมถึงชุดคลอสที่ถอดแบบมาจากของต้นฉบับและตัวละครที่ดูเท่ห์ทำให้รู้สึกว่าไม่ผิดหวัง พอมาดูจริงในเนื้อเรื่องการเคลื่อนไหวที่สวยงามยังคงอยู่แต่ความเคลื่อนไหวของเส้นผมจากในเพลงเปิดตัวกลับหายไปทำให้รู้สึกว่าภาพแข็งขึ้นซึ่งเข้าใจว่าเป็นอนิเมชั่นแบบ 3D (แต่ในเพลงประกอปมันพริ้วนะ จริงๆนะ)
เนื้อเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นค่อนข้างน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าการทำ เซนต์เซย่า ซึ่งการ์ตูนจากยุคเก่าที่มีเนื้อหามากเมื่อเป็น อนิเมชั่น series จะต้องรวบรัดเนื้อเรื่องให้สั้นลงทำให้ต้องตัดหลายสิ่งหลายอย่างออกไป แต่ทำให้การดำเนินเรื่องไวไม่เยิ่นเย้อ จะขัดใจก็ตรง แกแลคซี่วอร์ ซึ่งจากเดิมเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อวดของที่ไปฝึกมากัน แต่ที่นี่เหมือนการประลองลับๆมากกว่า แต่พอถึงจังหวะที่มีความสำคัญก็ไม่ทิ้งไป และคาดว่า ในซีรีย์นี้พยายามเน้นไปให้ถึงเนื้อเรื่องสำคัญ โดยเร็ว และเมื่อถึงเนื้อเรื่องสำคัญ การรวบรัดเนื้อเรื่องจะดีขึ้น ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่า ในซีรีย์แรกนี้จะดำเนินเรื่องได้ถึงตอนไหน สรุปโดยรวมถือว่าไม่เสียความเป็นตัวตนของเนื้อเรื่องดั้งเดิมของเซนต์เซย่า ไป
ในส่วนของคาแร็กเตอร์นั้นเรียกได้ว่าผิดจากต้นฉบับเล็กน้อย และการพยายามใส่มุกตลกให้ตัวละครนั้นถือว่าเป็นความพยายามใหม่ที่เพิ่มเข้าไป แต่อาจจะดีไม่พอมุกตลกที่เสริมเข้าไปนั้นจึง…. ส่วนที่น่าจะพูดถึงกันมากที่สุดในเซนต์เซย่าซีรีย์นี้คือการเปลี่ยนชุนหรืออันโดรเมด้าชุน ให้กลายเป็นเพศหญิงซึ่งต้นฉบับนั้นเป็นน้องชายของอิคคิ เซนต์ฟินิกส์ แต่ในซีรีส์นี้เปลี่ยนให้เป็นน้องสาวซะอย่างนั้น ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทางทีมงานติดใจอะไรกับขบวนการเซนไตหรือเปล่าเพราะถ้าลองสังเกตดีๆทีมของเซย่า จะมี 5 คนแต่เป็นผู้ชายล้วน ส่วนขบวนการเซนไตนั้นจะมี 5 คนเช่นกัน ซึ่งถ้าเปลี่ยนชุนหนึ่งในสมาชิกที่มีหน้าตาและรูปร่างคล้ายผู้หญิงให้เป็นน้องสาวแล้วจะครบมาตรฐานการเป็นขบวนการเซนไตได้ทันทีเพราะชุดคลอสแต่ละชุดมีสีที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน การมีตัวละครผู้หญิงก็จะทำให้อะไรหลายๆอย่างดีขึ้นในด้านของ เด็กผู้หญิงอาจจะให้ความสนใจตัวละครนี้ เพิ่มการเข้าถึงให้มากขึ้นและเราอาจจะได้เห็นคอสเพลย์ อันโดรเมดร้าชุนสวยๆ ในภายหลัง (ในส่วนนี้คาดหวังมากกว่าสิ่งอื่นๆ)
ทางด้านเรื่องของเสียงพากย์หลายคนชอบทีมพากย์นี้ แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าดูเรียบเฉยเกินไปไม่ตื่นเต้นจนทำให้รู้สึกไม่สนุกเท่าสมัยก่อนซึ่งทางด้านเสียงพากย์นี้แล้วแต่ใครว่าจะชอบหรือไม่ชอบแต่ที่ดีคือชื่อตัวละครนั้นยังคงชื่อเดิมตามต้นฉบับได้อย่างดี ส่วนเสียงในซับไทยนั้นมีการใช้ชื่อที่เป็นสไตล์ของฝรั่งบางชื่ออาจจะไม่คุ้นกับสาวกดั้งเดิมสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเลย
โดยรวมแล้วเชื่อว่า หากเปิดใจให้กับความเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยและเข้าใจถึงการเป็นอนิเมชั่นซีรีย์ที่ต้องรวบรัดเนื้อเรื่องบางตอนแล้วถือว่า เซนต์เซย่า เทพบุตรแห่งดวงดาว นี้ อยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว คลิกรับชมได้ที่นี่