playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Lost Girls แม่ผู้สืบหาความยุติธรรมให้ลูกสาวที่สาบสูญ (สร้างจากเรื่องจริงคดีสะเทือนขวัญ)

สรุป

เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ มีพล็อตเรื่องที่น่าค้นหา และการเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด แต่ข้อเสียใหญ่ ๆ คือการที่บทภาพยนตร์และการดำเนินเรื่องราว นี่จึงเป็นภาพยนตร์สืบสวนที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ชม แต่สำหรับผู้ชื่นชอบแนวนี้…บอกเลยว่านี่เป็นหนังสืบสวนที่มีคุณภาพพอดูฆ่าเวลาได้อีกเรื่องครับ

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
4 (2 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • การถ่ายทอดเรื่องราวจากเรื่องจริงได้อย่างสมจริง
  • ช่วง 20 นาทีแรกของเรื่องน่าสนใจมากเลยทีเดียว
  • เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด
  • ดนตรีประกอบ และงาน Production จัดว่าทำได้ดี

Cons

  • บทภาพยนตร์ที่สร้างเรื่องราวและสร้างตัวละครได้ไม่ดีเท่าไรนัก
  • ตัวละครนอกจาก Mari แทบไม่มีตัวละครใดน่าจดจำภายในเรื่องเลย
  • อารมณ์ภายในเรื่องค่อนข้างเหือดแห้ง หากไม่ใช่แฟนหนังสืบสวน เรื่องนี้ยังไม่ตอบโจทย์นัก

Lost Girls เด็กสาวที่สาบสูญ ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนิยายติดท็อปเบสเซลเลอร์ของนิวยอร์คไทม์ Lost Girls: An Unsolved American Mystery และเปิดฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์เมื่อต้นปี ก่อนมาลง Netflix ว่าด้วยคดีฆาตกรรมจากเรื่องจริงอย่าง Long Island Serial Killer เรื่องราวเกี่ยวกับ Mari Gilbert ผู้เป็นแม่ขาดการติดต่อกับลูกสาวของเธออย่าง Shannan Gilbert รวมถึงได้หายตัวไปอย่างลึกลับ แม้จะแจ้งทางตำรวจไปก็ได้เพียงความว่างเปล่ากลับมา นั่นทำให้เธอพยายามสืบหาด้วยตนเอง เพื่อหาคำตอบว่าลูกสาวของตนหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่

 Lost Girls (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่างภาพยนตร์ Lost Girls – เด็กสาวที่สาบสูญ 

คดีฆาตกรรมเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก บ้างก็สามารถไขคดีออกมาได้ บ้างก็ยังคงเป็นปริศนาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน คดีเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สื่อและผู้คนให้ความสนใจ จนก่อให้เกิดหนังสือจำนวนมาก สารคดี จวบจนเป็นภาพยนตร์…ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง Lost Girls – เด็กสาวที่สาบสูญ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับที่เคยเสนอถูกเสนอเข้าชิงรางวัลออสการ์อย่าง Liz Garbus มารับหน้าที่กำกับคุณภาพงานครั้งนี้ อีกทั้งนี่ยังเป็นเรื่องราวที่สร้างจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญในอดีต ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทำเอาผมรอคอยที่จะรับชมอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร มาอ่านกันเถอะ…

Lost Girls

สำหรับความรู้สึกของผมนะครับ พบว่า…

อืม…เข้าใจสิ่งที่ภาพยนตร์ต้องการสื่อนะครับ แต่นี่มันทำให้ภาพยนตร์มันดูไม่สุดไปเสียสักทาง ระหว่างการรับชมภาพยนตร์ มันมีเนื้อเรื่องและแนวโน้มที่น่าสนใจดีมากเลยละครับ ในช่วงแรกภาพยนตร์มีการเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ เราจะเห็นการวางปมปริศนาให้เรารู้สึกอยากชมต่ออยู่เสมอ ความรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Shannan Gilbert กัน มันทำให้ดูเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจมากในช่วง 20 นาทีแรกของเรื่องราว เราเห็นสภาพครอบครัว Gilbert ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน มันดูเต็มไปด้วยความเศร้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ความพยายามที่จะค้นหาคนสำคัญของครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม…มันให้ฟิลลิ่งที่หนักหน่วงมาก

Lost Girls
การตามหาลูกสาวของผู้เป็นแม่

สิ่งน่าชื่นชมที่สุด

การดำเนินเรื่องในฐานะหนังสืบสวนมีการดำเนินมาเรื่อยอย่างเต็มไปด้วยปริศนา มันมีการเผยข้อมูลให้เห็นอยู่เรื่อย นั่นทำให้เรื่องราวดูน่าสนใจอยู่ตลอด การดำเนินเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของหน่วยงานกรมตำรวจมีมาอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวที่ให้เราเข้าใจหัวอกของคนได้รับผลกระทบมากมาย เข้าใจเหตุผลว่าหากเราไม่ทำอะไรสักอย่าง เรื่องราวมันพร้อมจะถูกลืมอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเล่นประเด็นเรื่องนี้ได้อย่างถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว จนนี่อาจเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่น่าสนใจในการเรียกร้องสิทธิที่ควรจะเป็นได้

Lost Girls
การหายตัวไปของหญิงสาว

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าชื่นชมคงหนีไม่พ้นงานดนตรีประกอบ, งานโปรดักชั่นภายในเรื่อง และการถ่ายทอดด้วยภาพเรื่องราวสมจริง ดนตรีประกอบมีการขับเน้นอารมณ์ร่วมกับการถ่ายทอดด้วยภาพได้เป็นอย่างดี เราจะรู้สึกถึงความพิศวง ลึกลับ ซึ่งรวมอยู่ในบรรยากาศการดำเนินเรื่อง ในส่วนของงาน Production ต้องชื่นชมเลยว่า ทีมงานทำการบ้านมาดีมาก ในการจำลองเหตุการณ์ให้เหมือนกับอยู่ในปีนั้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้า Facebook หรือ Google ที่ทำออกมาเหมือนในปีที่เกิดเหตุขึ้นเลยละ เรียกว่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สอบผ่านได้เป็นอย่างดี และการถ่ายทอดเรื่องราวอันนี้ขอชมเลยละครับ มันทำให้ความรู้สึกสมจริงมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการถ่ายทอดด้วยภาพข่าว ผมไม่แน่ใจว่าใช่ภาพเหตุการณ์จริงไหม แต่ถ้าใช่…มันเป็นสิ่งที่ดีเลยละครับ มันทำให้เหมือนเรากำลังชมสารคดีเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยละ

จุดด้อยที่สำคัญ

มาในส่วนของข้อเสียของเรื่อง ต้องบอกเลยว่าส่วนที่ใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้นบทภาพยนตร์ แม้มันจะมีพล็อตเรื่องหรือโครงเรื่องที่น่าสนใจ ยิ่งบอกสร้างจากเรื่องจริงยิ่งทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทว่ามันกลับมีแผลใหญ่ในส่วนของการให้ความสำคัญแก่ตัวละครต่าง ๆ ในระหว่างที่มีการดำเนินเรื่อง ตัวละครมีการกล่าวถึงมากมาย แต่ถ้าถามว่ามีตัวละครไหนน่าจดจำบ้าง ?…มันเป็นสิ่งที่ตอบยากนะครับ ความน่าจดจำตัวละครหรือบทบาทมันถูกเทไปที่ Mari เพียงคนเดียว ตัวละครอื่นภายในเรื่องเหมือนเป็นเพียงตัวละครประกอบเท่านั้น จริงอยู่ที่เรื่องราวมี Mari เป็นตัวละครหลัก แต่การที่ตัวละครภายในเรื่องตัวอื่น ๆ ไม่น่าจดจำเลยแม้แต่น้อยมันเป็นบาดแผลใหญ่นะ เราเห็นแค่มุมด้านเดียวเท่านั้น…อย่างฉากการรวมกลุ่มคนที่มีคนในครอบครัวสูญเสียไปจากคดีฆาตกรรมรวมตัวกัน เราก็เห็นตัวละครอื่นเพียงแค่มุมเดียว มันไม่มีการสร้างมิติให้แก่ตัวละครเลยแม้แต่น้อย อย่าว่าแต่ตัวละครอื่นเลย…แค่คนในครอบครัว Gilbert นอกจาก Mari ตัวละครอื่นล้วนมีเวลาให้ค่อนข้างน้อย น้อยเสียจนจดจำตัวละครไม่ได้ นั่นคือข้อเสียแรกที่พังจากการสร้างตัวละคร

ตัวละครภายในเรื่อง
ตัวละครภายในเรื่องยังไม่น่าจดจำ

นอกเหนือจากตัวละครที่ไม่น่าจดจำโดยรวมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สอบตกเลยคือ…ภาพยนตร์เรื่องนี้มันมีการดำเนินเส้นเรื่องเดียวตลอดทั้งเรื่อง มันตรงจนดูเรียบง่ายและเรียบเฉยแบบไม่ได้ไต่ระดับยังไงทั้งนั้น การที่เราดูหนังสืบสวนเราควรจะไต่ระดับความสงสัยขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกถึงเรื่องราวที่ดูอะไรมากยิ่งกว่าเดิมอย่างต่อเนื่อง มันมีหลายฉากที่เนื้อเรื่องเหมือนมีการทำเช่นนั้นนะครับ ถ้านับในส่วนของเนื้อเรื่องแยกเป็นฉากเดี่ยวอะน่าสนใจ แต่พอมันรวมกัน…อารมณ์การถ่ายทอดมันรู้สึกไม่ได้เสียเลย จริงอยู่ที่เราไม่รู้ว่าฆาตกรเป็นใคร…แต่เราควรที่มีการถ่ายทอดอารมณ์ที่ดีมากกว่านี้ อย่างภาพยนตร์เรื่อง Zodiac แม้จะไม่รู้ในเรื่องจริงว่าฆาตกรคือใคร แต่มันมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจกว่าเรื่องค่อนข้างมาก ความน่าจดจำที่มันต่างกันเยอะพอควร อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่เป็นมิตรกับผู้ชมที่ไม่ได้ชอบหนังสืบสวนอีกด้วย เรียกว่าหากไม่ชอบแนวหนังเรื่องนี้…มีสิทธิที่จะหลับสูงมาก มันจึงเป็นข้อเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยละครับ เพราะฉะนั้นพูดจริง ๆ ถ้าหากคุณไม่ได้ชอบแนวสืบสวน สอบสวน คุณอาจต้องใช้พลังในการชมหน่อยนะครับ แต่หากคุณเป็นคนชอบแนวนี้…นี่จะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ แม้จะไม่ดีมากขนาดนั้น แต่ก็พอกล้อมแกล้มได้อยู่ครับ

Lost Girls
ความเป็นหนังสืบสวนที่ไม่เป็นมิตรกับคนดู
ตรงนี้จะเป็นสปอยล์เล็กน้อยนะครับ หากรับชมแล้วหรือไม่มีปัญหากับการสปอยล์ สามารถอ่านได้เลยครับ

สปอยล์เนื้อเรื่อง

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดผิดพลาดของภาพยนตร์ นอกเหนือจากที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในส่วนของการชี้เป้าไปที่ผู้ร้ายภายในเรื่อง จุดเด่นของหนังสืบสวนคือการทิ้งปริศนา ให้ทุกคนล้วนเป็นผู้ต้องสงสัยได้หมด ภายในเรื่องเราได้เห็นการเดินทางไปตามหาเบาะแสการหายไปของ Shannan Gilbert ซึ่งมีการเชื่อมโยงด้วยเนื้อหาจำนวนมาก ในภายแรกมีการควบคุมโทนความเป็นหนังสืบสวนไว้ได้อย่างดี แต่เมื่อดำเนินเรื่องมาเรื่อย ทิศทางผู้ต้องสงสัยกลับตกไปที่ Dr. Peter Hackett ทั้งหมด นั่นเหมือนกับการระบุไปเลยว่าคนร้ายคดีนี้คือ Dr. Peter Hackett นั่นเองทำให้เสน่ห์ที่มันควรจะเป็นกลับถูกเอนเอียงไป และทำให้ความน่าสนใจของภาพยนตร์ได้ดรอปลงไป นี่จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าเสียดายมาก หากมีการเลือกเล่าที่ชาญฉลาดกว่านี้ มันคงจะกลายเป็นภาพยนตร์สืบสวนที่น่าสนใจกว่านี้แน่

ในส่วนของจุดด้อยที่ไม่น่าให้อภัยได้คือการสร้างตัวละคร เราจะเห็นได้ว่าแต่ละตัวละครเหมือนมายืนเป็นตัวประกอบ ทำท่าเหมือนจะมีความสำคัญ แต่ก็ไม่มีเสียที…นอกจากแก๊งครอบครัวผู้เสียชีวิต ตัวละครตำรวจที่เหมือนมีเรื่องให้ความสำคัญ แต่มันก็ถูกเล่าผ่านๆ ตัวละครผู้ต้องสงสัยตั้งแต่แฟนหนุ่มของ Shannan จวบจนคนขับรถ แต่ละตัวละครหากเล่าเรื่องได้ดี มันจะกลายเป็นหนังสืบสวนชิงรางวัลได้เลยนะ แต่นี่มีการเล่าเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย ตัดการที่มันจะกลายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมนี้เสีย เราดูอยู่ก็รู้ได้เลยว่าไม่ใช่คนพวกนี้ทำแน่นอน และการโผล่มาอย่างไม่มีที่มาที่ไปของตัวละครอื่นภายในเรื่องอีก นั่นทำให้นี่เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของภาพยนตร์เลยละ

สรุป

Lost Girls – เด็กสาวที่สาบสูญ เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจ มีพล็อตเรื่องที่น่าค้นหา ช่วง 20 นาทีแรกมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก ด้วยการให้เราเริ่มเก็บความสงสัยจากปริศนาที่เรากำลังเผชิญหน้าไปพร้อมกับตัวละคร ตัวละครอย่าง Mari สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความเป็นแม่คนออกมาได้ดีและน่าจดจำ ในส่วนที่น่าชื่นชมอีกคือการเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมที่ผิดพลาด อีกทั้งงานโปรดักชั่น ดนตรีประกอบ และการถ่ายทอดภาพสารคดีภายในเรื่องดูสมจริงมาก แม้จะมีข้อดีดังที่กล่าวไป แต่ข้อเสียใหญ่ ๆ คือการที่บทภาพยนตร์ในการสร้างเรื่องราวและสร้างตัวละครยังไม่ดีพอ ตัวละครตัวอื่นนอกจากแม่หญิงสาวที่หายไป มันไม่มีความน่าจดจำเอาเสียเลย อีกทั้งทุกตัวละครอื่นล้วนเป็นเพียงตัวประกอบที่ตัดออกก็ไม่มีผลกับเรื่องราวนัก อีกหนึ่งในข้อเสียที่ต้องพูดถึงคือการดำเนินเรื่องราว มันขาดการส่งเสริมอารมณ์ภายในเรื่องไป ความสงสัยที่จะทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ จนถูกปลดปล่อยและสร้างความน่าจดจำ อันเป็นจุดเด่นของหนังสืบสวนไป นั่นส่งผลให้นี่เป็นภาพยนตร์สืบสวนที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ชมที่ไม่ชอบแนวภาพยนตร์นี้ แต่สำหรับผู้ชื่นชอบแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บอกเลยว่านี่เป็นหนังสืบสวนที่มีคุณภาพพอดูฆ่าเวลาได้อีกเรื่องครับ

Lost Girls

ระดับความน่าชม : หากเป็นแฟนหนังสืบสวนสามารถรับชมได้เลย แต่หากไม่ได้เป็นแฟนหนังแนวนี้คงไม่ตอบโจทย์นัก

สามารถฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ได้ผ่าน Spotify : คลิกฟังที่นี่

รูปแบบ Podcast จะรีบดำเนินการนะครับ ตอนนี้ The Invisible Man มาแล้ว : คลิกฟังตอนเก่า ๆ ได้ที่นี่

ติดตามรีวิวหนังในเว็บไซต์คลิกที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!