Bombshell
สรุป
ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ Feminist ได้อย่างถึงพริกถึงขิง 3 นักแสดงหนังสามารถแบกภาพยนตร์ให้น่าสนใจตลอดทั้งเรื่องได้เป็นอย่างดี เสียดายที่การถ่ายทอดยังออกมาไม่ดีเท่าวัตถุดิบที่ดีนัก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ทรงพลังและน่าจดจำเท่าที่ควร เหมือนการที่มีวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการทำอาหาร แต่ผู้เป็นเชพยังฝีมือไม่ถึงขั้น ทำให้อาหารออกมาอร่อยตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่ยังไม่อร่อยถึงขั้นลืมไม่ลง หรือกลายเป็นอาหารจานโปรดของผู้ลิ้มลองทุกคน
Overall
7/10User Review
( votes)Pros
- บทภาพยนตร์ที่เล่าเรื่อง Feminist ได้เฉียบคมและถึงพริกถึงขิง
- 3 นักแสดงนำ Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie เป็นจุดขายของภาพยนตร์ชุดนี้
- ตอกย้ำว่า Margot Robbie ได้ก้าวเป็นนักแสดง A List ของ Hollywood เป็นที่เรียบร้อย
Cons
- ภาพยนตร์มีการดำเนินเรื่องเร็วจนเกินไปในช่วงแรก ทำให้เรื่องราวอาจสร้างความมึนงงได้
- อารมณ์ภาพยนตร์ที่เวลาสับเปลี่ยนที่ดูเปลี่ยนราวกับหนังคนละม้วน ทำให้ภาพยนตร์ออกมาไม่สมูธ
- ภาพยนตร์มีองค์ประกอบชั้นยอด แต่ผลลัพธ์ออกมากลับอยู่ในมาตรฐานธรรมดา ยังไปไม่ถึงภาพยนตร์ที่น่าจดจำ และเป็นภาพยนตร์เรื่องโปรดของหลายคนได้
Bombshell แฉกระฉ่อนโลก ภาพยนตร์เกี่ยวกับสิทธิสตรี เมื่อผู้หญิงถูกกดขี่ทางเพศโดยไม่มีสิทธิขัดขืน พวกเธอต้องหาทางรวมตัวกันเพื่อทวงคืนความยุติธรรมของพวกเธอคืนมา
สร้างมาจากเรื่องจริงของคดีสุดอื้อฉาววงการสื่อโทรทัศน์ เมื่อหญิงสาวสามคนผู้เป็นพิธีกรและผู้ประกาศสาว “เมจิน เคลลี” “เกรตเชน คาร์ลสัน” “เคย์ลา พอสพิซิล” ถูกคุกคามทางเพศจาก “โรเจอร์ ไอล์ส” เจ้าพ่อวงการข่าวผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Fox News นำไปสู่การที่พวกเธอต้องร่วมมือกันเพื่อแฉและเปิดโปงเบื้องลึกของการกระทำนี้ให้ถึงที่สุด!
สิทธิสตรี…สิ่งที่ถูกผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงแนวคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ หรือมักถูกเพศชายเป็นฝ่ายนำทางเพียงฝ่ายเดียว ให้กลายเป็นเพศที่มีความเท่าเทียมเทียบเท่าระหว่างสองเพศ ภาพยนตร์นี้กำกับโดย Jay Roach จาก Trumbo (2015) ได้มือเขียนบทชั้นเยี่ยมอย่าง Charles Randolph จาก The Big Short (2015) มารับหน้าที่เขียนบทให้ เสริมด้วยนักแสดงแม่เหล็กไม่ว่าจะเป็น Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie มารับบทนำให้ โดยเฉพาะ Charlize Theron และ Margot Robbie ได้เข้าชิงรางวัล Oscar สาขานักแสดงนำหญิงและสมทบหญิงประจำปีนี้ด้วย ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างภาพยนตร์ Bombshell
ตามความรู้สึกของผมนะครับ พบว่า…อืม มันก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ภาพยนตร์มีบทภาพยนตร์ที่เฉียบคมมาก มีการโต้วาทีที่ดุเด็ดเผ็ดมันน่าจดจำในหลายฉาก การดำเนินเรื่องที่ทำให้ทุกฉากภายในเรื่องมีความสำคัญและเริ่มไต่ลำดับไปเรื่อย การสร้างเรื่องราวมีความน่าสนใจตลอดทั้งเรื่อง โดยมีการลงลึกถึงประเด็น Feminist มาอย่างมากโดยไม่ยัดเยียดจนเกินไป ในขณะที่เรากำลังติดตามเรื่องราว เราก็รู้สึกเห็นใจผู้หญิงภายในเรื่องต่อการพบเจอความอยุติธรรมที่ได้เผชิญหน้า ทำให้ผมว่าเป็นเรื่องที่มีการพูดประเด็นสิทธิสตรีได้อย่างชัดเจนที่สุดของปีเลย เรียกว่าเราได้เห็นภาพอย่างชัดเจนถึงความลำบากในการเรียกร้องสิ่งต่างๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะเรียกร้องมันออกมาได้
อีกเรื่องที่น่าชื่นชมภายในเรื่องคงหนีไม่พ้น 3 นักแสดงนำของเรื่องอย่าง Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie แต่ละคนล้วนแสดงได้ออกมาสมบทบาท และแบกภาพยนตร์ให้ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก การมอบมิติให้แก่ตัวละครส่งให้เราอินกับเรื่องราวได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Margot Robbie ในช่วงองค์สามของเรื่อง หากใครอินกับเรื่องราวคงจะน้ำตาแตกได้โดยไม่ยากนัก เพราะเธอเข้าถึงตัวละครได้แบบเป็นตัวตนของตัวละครอย่างแท้จริง และนี่เป็นข้อตอกย้ำว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงระดับแถวหน้าของวงการ Hollywood เป็นที่เรียบร้อย
หากจะพูดถึงบาดแผลของภาพยนตร์ ผมคงต้องบอกเลยว่ามันเป็นบาดแผลที่มาจากประสบการณ์มากกว่า แม้ภาพยนตร์จะมีบทภาพยนตร์ที่ดี การถ่ายทอดประเด็นเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศได้อย่างถึงพริกถึงขิง และนักแสดงชั้นยอดที่แบกหนังได้จบทั้งเรื่อง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือการดำเนินเรื่องราวที่ทำได้ตามมาตรฐานแต่ไม่ดีนัก อย่างช่วงแรกที่เป็นช่วงเกริ่นนำ การดำเนินเรื่องได้รวดเร็วฉับไว แต่ก็มีปัญหาในการที่ทำให้ภาพยนตร์ไปเร็วจนเกินไป อาจทำให้ผู้ชมหลายคนตามเรื่องราวได้ไม่ทัน นอกจากนี้การดำเนินเรื่องแม้จะมีความสนุกและเพลิดเพลินหลายฉาก แต่ความสมูธของการเปลี่ยนอารมณ์กลับทำได้ไม่ดีนัก ส่งผลให้ภาพยนตร์เปลี่ยนโทนเหมือนเปลี่ยนดูหนังคนละม้วนเลยทีเดียว อีกทั้ง Impact ในแต่ละฉากที่ควรจะเข้าถึงความรู้สึกได้มากกว่านี้ แต่มันถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเรียบง่ายและไม่ทรงพลังนัก
หากจะจำกัดความเป็นคำพูดง่าย ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเหมือน เรามีวัตถุดิบชั้นเลิศในการทำเมนูชั้นเลิศออกมา แต่เชพผู้ทำอาหารเราฝีมือไม่ถึง ทำให้อาหารออกมาอร่อยตามมาตรฐาน แต่ยังไม่อร่อยถึงขนาดลืมไม่ลงได้
หากเทียบหนังพลังหญิงภายในปี 2019 (นับปีที่เข้าฉายในต่างประเทศ) นี่นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เรียกว่าบทภาพยนตร์สู้กับเรื่อง Little Women ของ Greta Gerwig ได้ในระดับใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่อยู่ในระดับเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยกันทั้งสองเรื่อง เนื้อหาที่พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับ Feminist ได้อย่างเข้มข้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือทักษะการเล่าเรื่องที่ Little Women ทำออกมาได้สมูธ ตราตรึงจิตใจ และมีชั้นเชิงมากกว่า จนไม่อยากจินตนาการเลยว่า…หากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ Greta Gerwig มานั่งแท่นเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราว เรื่องราวภายในภาพยนตร์จะเปลี่ยนแปลงความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ไปได้ขนาดไหน นี่คือข้อแตกต่างระหว่างภาพยนตร์สองเรื่องนี้
สรุป
ภาพยนตร์เรื่องนี้อุดมไปด้วยบทภาพยนตร์ชั้นเยี่ยม การถ่ายทอดประเด็นเรื่อง Feminist ได้อย่างถึงพริกถึงขิง มีความลึกเป็นอย่างมาก และสามนักแสดงชั้นยอด ผลงานเรื่องนี้เป็นตัวบ่งบอกว่า Margot Robbie ได้เลื่อนขั้นเป็นนักแสดง A List ของวงการ Hollywood เป็นที่เรียบร้อย เสียดายตรงที่ภาพยนตร์ยังขาดการขับเคลื่อนอารมณ์ที่ดี ส่งผลให้ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก เหมือนการที่มีวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการทำอาหาร แต่ผู้เป็นเชพยังฝีมือไม่ถึงขั้น ทำให้อาหารออกมาอร่อยตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่ยังไม่อร่อยถึงขั้นลืมไม่ลง หรือกลายเป็นอาหารจานโปรดของผู้ลิ้มลองทุกคน
ระดับความน่าชม : รอว่างค่อยไปรับชม ยังไม่ถึงขั้นดูวันแรกที่เข้าโรง
สามารถฟังเพลงประกอบภาพยนตร์ได้ผ่าน Spotify : คลิกฟังที่นี่