Octopath Traveler ผู้สืบทอดเจตนารมณ์ยุคทองเกม rpg ของ SQUARE ENIX
Octopath Traveler เกม jrpg แนวดั้งเดิมจาก SQUARE ENIX ที่ทำออกมาเพื่อสนองนี้ดแฟนๆเกม rpg ในยุค 16bits หรือยุค Super Famicom ที่ถือว่าเป็นยุคทองของ jrpg โดยนำระบบและรูปแบบภาพจากเกมยุคนั้นมาผสมจนเกิดเป็นเกมนี้
หลายๆคนอาจจะลืมๆไปบ้างหรืออาจจะจำไม่ได้ว่าเกมนี้ เอาแรงบันดาลใจมาจากเกม RPG ยุค 16bits เกมใดบ้างเราจะนำมาเทียบให้ดูคร่าวๆ เผื่ออาจจะไปสกิดความทรงจำของหลายๆคนจนสนใจหาเกมนี้มาเล่นกัน
เปรียบเทียบ Octopath Traveler กับ rpg ยุคเก่าๆของ SQUARE ENIX
Final Fantasy 5
ระบบ Job System ของFinal Fantasy 5 ถูกยกมาใช้ในเกม Octopath Traveler แทบทั้งดุ้นไม่ว่าจะเป็นการเก็บเลเวล Job เพื่อให้ได้สกิลใหม่ๆ การติดตั้งสกิลข้าม Job ซึ่งทำให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ระบบ job ในที่โด่งของ final ยุคเก่าๆถูกยกมาใช้เป็นระบบหลักของเกมนี้
Final Fantasy 6
ส่วนที่สองเกมนี้คล้ายกันมากที่สุดน่าเป็นในเรื่องกราฟฟิคที่เหมือนว่านี้ หยิบยืมกราฟฟิคต่างๆจาก Final Fantasy 6 มาใช้เป็นพื้นฐาน ทำให้ทั้งสองเกมนี้มีอารมณ์คล้ายกันมาก คล้ายกันจนมีแฟนทำภาพล้อเลียนเอาตัวละคร Final Fantasy 6 ไปใส่ในฉากเกมนี้
จากภาพจะเห็นว่าทั้งสมเกมมีรูปแบบการดีไซน์ภาพคล้ายกันมากคล้ายกันจนมีแฟนทำภาพล้อเลียนเอาตัวละคร Final Fantasy 6 ไปใส่ในฉากเกมนี้
แต่ถ้ามองเข้าไปในรายละเอียดต่างๆก็จะเห็นความละเอียดที่ Octopath Traveler พยายามอัพเกรดและใส่เข้าไปเพื่อให้ภาพดูเหมาะกับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
Romancing Saga
ในส่วนของความคล้ายคลึงกับซีรี่ส์ Romancing Saga นั้นเกมนี้จะเน้นไปที่อิสระในการเริ่มเลือกเล่นตัวละคร ซึ่งเหมือนกับซีรี่ส์ Romancing Saga เมื่อก่อนที่จะให้เราเลือกเริ่มเล่นจากตัวเอกทั้ง 8 คน ซึ่งเกมนี้ ก็ยกระบบนี้มาทั้งดุ้นเลย เราสามารถเลือกเล่นตัวละครใดก่อนก็ได้และสามารถตามหาเพื่อนได้ครบ 8 คนได้อยู่ดีโดยมีเนื้อเรื่องแยกออกไปในแต่ละคน
นอกจากจะมี 8 ตัวละครเหมือนกันแล้ว อาชีพของตัวละครทั้งสองเกมก็ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็น อัศวิน คนเก็บสมุนไพร นักเต้นรำ โจร นายพราน ซ้ำกันไปถึง 5 ตัวละครแถมตัวละครที่เหลือก็มีแรงบันดาลใจในการผจญภัยคล้ายๆกัน
รวมไปถึงความอิสระในการเดินไปพื้นที่ต่างๆในแมพให้เราไปโดนมอนเตอร์โหดๆตีเล่นเกมนี้ก็ปล่อยให้เราทำได้เหมือนกับ Romancing Saga ไม่มีผิด เผลอเดินเพลินๆมีหลับทั้งตี้ไม่รู้ตัวได้ง่ายๆ
ในส่วนรูปแบบการต่อสู้ก็มีการหยิบยืมระบบการถืออาวุธได้หลากหลายแล้วเลือกใช้ในแต่ละเทิร์นได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ Romancing Saga ที่แตกต่างจาก Final Fantasy
ดนตรีประกอบ สิ่งที่ดีงามสุดๆอีกอย่างของเกม
นอกจากกราฟฟิคและระบบต่างๆของตัวเกมแล้วดนตรีประกอบก็เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนนึงซึ่งเกมนี้ก็ทำดนตรีโดนมีพื้นฐานมาจากเกม rpg เก่าๆแบบฟังแล้วรู้สึกถึงได้ถึงอารมแต่ไม่ได้มักง่ายใช้เสียงแบบ midi เหมือนเกมอื่นๆที่มักใช้มุกนี้เวลาทำเกมแนวย้อนยุคแต่เกมนี้กับเล่นใหญ่ใช้เสียงระดับวงออเคสตร้ามาทำดนตรีประกอบของเกมนี้ซึ่งทำออกมาได้ไร้ที่ติ เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
นอกจากความเหมือนที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วสิ่งที่พิเศษสุดๆที่ทางผู้สร้างเกมได้ทำมาเพื่อเอาใจสาวกเกม rpg เก่าๆก็คือ บอสลับของเกมนี้รับรองว่าเหล่าสาวกได้ฟินกันสุดๆกับบอสลับของเกมนี้
หวังว่าบทความจะทำให้สำหรับผู้ที่ประทับใจในเกม rpg ยุค 16bits ไปลองหาเกมนี้มาเล่นกันดูซึ่งผมอยากจะบอกว่าเกมนี้ถือเป็นอีกเกมนึงที่ไม่ควรพลาดด้วยปราการทั้งปวง สามารถอ่านรีวิวของที่เกมนี้ได้ ที่นี่
สำหรับผู้ชื่นชอบที่จะหวนรำลึกถึงอดีตเชิญอ่านบทความในเวปเราได้ในหมวด retro/oldschool