หลังจากงานเปิดตัวของ iPhone 11 จาก Apple มาได้ไม่นานก็ใกล้เข้ามาแล้วกับงานเปิดตัวเรือธงรุ่นต่อไปของ Huawei กับ Huawei Mate Series ซึ่งเป็นเรือธงอีกตัวหนึ่ง โดยจุดเด่นของสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนแบรนด์นี้ก็คงหนีไม่พ้นทางด้านกล้องถ่ายภาพ ทำให้เราอยากจะลองคาดเดาการพัฒนาของกล้องในรุ่นนี้มาเทียบกับ iPhone 11 ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานนี้ซะจริงๆ
ซึ่งเราจะลองทำการคาดเดาโดยการใช้ภาพถ่ายจริงจากทาง iPhone 11 Pro ที่จัดเต็มด้านการอัพเดตตัวกล้องมาด้วยเททคโนโลยีที่ดีที่สุดและภาพถ่ายจริงจากเรือธงของ Huawei อย่าง มาเทียบและวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้และการพัฒนาของ Huawei ให้ทุกท่านได้รับชมไปพร้อมๆ กัน โดยขอขอบคุณภาพจาก mashable
เลนส์หลักกล้องหลัง
จากภาพ iPhone 11 Pro จะมีสีภาพที่คมชัดและเหมือนจริงกว่ามาก ในขณะที่ทาง Huawei P30 Pro นั้นยังคงถ่ายรูปไฟด้านบนออกมาได้ไม่ชัดเท่าที่ควร อีกทั้งสีภาพก็มีความอมขาวไม่สมจริงเหมือนทางด้าน iPhone เรียกได้ว่า iPhone มีการพัฒนาทางด้านกล้องที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากที่ได้เห็น P30 Pro นั้นเทียบไม่ติดซึ่งอาจเป็นเพราะเป็นรุ่นที่ออกวางจำหน่ายก่อนทำให้เทคโนโลยีเก่ากว่า ซึ่งก็แปลว่าถ้า Mate 30 อยากจะเป็นมือถือที่ถ่ายภาพได้ดีขึ้นก็จำเป็นต้องจัดเต็มมามากอยู่ทีเดียว
เลนส์ Ultra Wide กล้องหลัง
ADBRO
ทางด้านเลยส์ถ่ายภาพมุมกว้างนั้นในเรื่องของสี Huawei P30 Pro ทำสีค่อนข้างออกมาอมขาวนิดๆ ในขณะที่ iPhone 11 Pro เน้นสีที่สมจริงแต่ถ้ามองที่คุณภาพนั้น P30 จะทีภาพที่สมูธมากกว่าสังเกตได้จากท้องฟ้า และเมื่อซูมดูรายละเอียดใกล้ๆ ตรงตึกสีดำด้านขวาจะสังเกตได้ว่า iPhone 11 Pro นั้น มีน๊อยซ์ที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว และด้วยการออกมาของ Mate 30 ที่กล้องจะต้องถูกพัฒนาขึ้นทำให้คาดเดาได้ว่าในโหมดนี้ Huawei น่าจะทำได้ดีกว่า iPhone อย่างแน่นอน
เลนส์ Wide กล้องหลัง
เทียบให้ดูกันอีกซักหน่อยสำหรับเลนส์ Wide ทางด้านสีที่สมจริงก็ยังคงต้องให้กับทาง iPhone อีกเช่นเคย แต่ทางด้านรายละเอียดภาพนั้นก็ไม่ทิ้งกันมาก แต่ถ้าหากลองซูมดูตรงตึกที่มีสีดำจะสังเกตได้ว่า Huawei เกลี่ยนอยซ์ได้ดีมากกว่า แต่โดยรวมก็ยังถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก ส่งผลให้ Mate 30 ที่กำลังจะออกมานั้นถ่ายเลนส์ Wide ออกมาได้อย่างสวยงามแน่นอน
เลนส์ Telephoto กล้องหลัง
ในส่วนของเลนส์ Telephoto นั้นเรียกได้ว่าไม่จำเป็นต้องเทียบกันเลยทีเดียว จากการที่ Huawei สามารถถ่ายซูมได้ถึง 5 เท่า แต่ทาง iPhone นั้นทำได้แค่ 2 เท่า ทำให้ Huawei ชนะไปโดยปริยาย อีกทั้งถึงแม้จะมีการซูมที่มากกว่าแต่หากซูมดูรายละเอียดภาพชัดๆ นั้นยังมีภาพความละเอียดดีมากกว่าทาง iPhone เสียอีก สังเกตได้จากตึกสีแดงตรงกลางรูป ซึ่งก็หมายความว่า Huawei Mate 30 จะมีกล้องเลนส์ Telephoto ที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอย่างแน่นอน
Night Mode กล้องหลัง
iPhone 11 นั้นเป็นรุ่นแรกจากทาง iPhone ที่ได้มีการใส่โหมดสำหรับถ่ายภาพกลางคืนมาให้ ซึ่งก็มีมาอย่างยาวนานมากแล้วสำหรับทาง Android ซึ่งสังเกตได้ว่าภาพที่ถ่ายจาก iPhone 11 Pro จะมืดมากกว่าภาพที่ถ่ายจาก Huawei P30 Pro แต่เช่นเดิมหากซูมดูรายละเอียดโดยเฉพาะที่ตัวมอเตอร์ไซต์นั้น ถือว่า Huawei ทำได้ดีกว่ามากและชนะไปอย่างขาดลอย ซึ่งทาง iPhone นั้นมีนอยซ์ที่เยอะมากอย่างเห็นได้ชัด สรุปได้ว่า Huawei Mate 30 จะยังคงถ่าย Night Mode ได้ดีกว่า iPhone 11 แน่นอน
โหมด Portrait กล้องหลัง
สำหรับกล้องหลังในโหมดหน้าชัดหลังเบลอที่หลายๆ คนชอบนั้นจากสีที่สมจริงและการเบลอภาพที่สมูธมากกว่าจากการถ่ายบุคคลในรอบนี้ iPhone 11 ทำให้คนในรูปโดดเดนอย่างมาก และสรุปว่าทำได้ดีกว่ามาก โดยที่ Huawei P30 Pro นั้นถ่ายสีออกมาได้ค่อนข้างจืดชืดกับการเบลอที่ไม่ได้ทำให้คนในรูปดูเด่นมากนัก แต่ทางด้าน Mate 30 นั้นจะแก้ปัญหาของโหมดนี้อย่างไรก็คงต้องรอฟังกันในงานเปิดตัว
โหมด Portrait กล้องหน้า
ในส่วนของกล้องหน้านั้นก็ยังคงเป็น iPhone ที่ทำสีออกมาได้ดีกว่าและเบลอภาพด้านหลังได้สวยงามกว่า โดยที่ในครั้งนี้ Huawei พลาดจากการถ่ายภาพที่ไม่เบลอด้านหลังถือว่า iPhone ชนะไปเต็มๆ อีกหนึ่งรอบและปัญหานี้ก็เป็นปัญหาที่ Huawei สมควรแก้ใน Mate 30 เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้อีกด้วย
เลนส์ Wide กล้องหน้า
จากภาพที่เห็นมองได้ว่าทั้งสองภาพมีความละเอียดที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ที่แตกต่างชัดเจนคือทางด้านนั่นเอง ซึ่งทาง iPhone จะออกไปทางอมเหลืองมากกว่าและ Huawei นั้นจะออกมาทางอมขาว ซึ่งถ้าหาก Huawei Mate 30 มีการพัฒนาที่มากขึ้นอาจจะดีกว่าทาง iPhone ก็เป็นได้
Night Mode กล้องหลังแบบถ่ายบุคคล
เช่นเคยความแตกต่างที่เห็นชัดที่สุดคือทางด้านสีซึ่ง iPhone ยังคงอมเหลืองแต่ทาง Huawei นั้นอมขาว ซึ่งในรอบนี้นั้นทั้งคู่ทำออกมาได้แย่ทั้งคู่ เนื่องจากพอซูมดูบริเวณใบไม้ด้านหลังแล้วนั้นจะเห็นน๊อยซ์ชัดเจนมาก แปลว่าถ้าหาก Mate 30 ได้พัฒนากล้องหน้าและ Night Mode ของตัวเองให้ดีขึ้นจะส่งผลให้โหมดนี้ดีกว่า iPhone อย่างแน่นอน