playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

AeternoBlade II รีวิวเกมแอคชั่นฟอร์มยักษ์ฝีมือคนไทย ก้าวไกลสู่ระดับอินเตอร์

สรุป

AeternoBlade II ถือเป็นเกมที่พิสูจน์ออกมาแล้วว่าฝีมือคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก จนกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญผลักดันวงการเกมและอุตสาหกรรมเกมในบ้านเราให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นกันในอนาคตแล้วล่ะครับ

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
4 (1 vote)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • พล็อตเรื่องที่ออกแบบมาได้เจ๋งสุดๆ
  • ระบบการเล่นที่เรียบง่าย แต่ท้าทายฝีมือดี
  • แก้ไขปริศนาที่ต้องใช้การวิเคราะห์เยอะพอดู
  • รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ 100%

Cons

  • ช่วงต้นเรื่องค่อนข้างอืดๆ พอสมควร
  • ระบบการเล่นที่คิดว่าน่าจะต่อยอดได้ดีกว่านี้
  • ปัญหากราฟิกโหลดพื้นผิว (Texture) ไม่ทันบ้าง
  • การแสดงสีหน้าท่าทางของตัวละครที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ADBRO

รีวิว AeternoBlade II อีกหนึ่งในเกมฝีมือคนไทย 100% ที่ได้พิสูจน์หรือประจักษ์ชัดอย่างเป็นรูปธรรมแล้วว่าคนไทยเรานั้นมีฝีมือในการทำเกมระดับคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งถือเป็นผลงานครบรอบ 17 ปีของของทีมพัฒนาสัญชาติไทย Corecell Technology สู้ลำบากตรากตรำจากเปิดหมวกระดมทุนสนับสนุนผ่านเว็บไซต์ Indiegogo และไหนจะปัญหาภายในทีมงานกันรุ้มเร้าไปทั้งกายใจ ค่อยๆ ฟันฝ่าอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา จนในที่สุดก็สามารถพัฒนาตัวเกมให้ถึงขั้นปล่อยออกสู่ตลาดโลกและตลาดไทยได้สำเร็จ

และผลจากการทุ่มเททำงานหนักก็ทำให้ดอกผลนั้นงอกงามสมความตั้งใจของทีมพัฒนาเป็นอย่างมาก นั้นก็เพราะตัวเกมได้รับความสนใจในหมู่เกมเมอร์ชาวไทยเกิดกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็เล่นติดหนึบจนไม่อันเป็นการเป็นงานเลยทีเดียว (ฮา) ทีมงาน Play in one จึงขอทำบทความรีวิวเพื่อแนะนำเกมดังกล่าวให้เพื่อนๆ ลองสัมผัสกับเกมไทยคุณภาพระดับโลกดูนะครับ แต่ก่อนอื่น ขอขอบคุณทาง Corecell Technology ที่ส่งมอบตัวเกมที่ใช้ในการรีวิวครั้งนี้ด้วยครับ

*อนึ่ง นี้เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้อัดคลิปวิดีโอผ่านทาง PlayStation 4 หากภาพไม่คมชัด + ขนาดรายละเอียดต่ำก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งด้วย*


AeternoBlade II เรื่องราวที่เข้มข้นและซับซ้อนไปมากันอย่างกลมกล่อม

"<yoastmark

เรื่องย่อ หลังจากที่ Freyja สามารถกำราบจอมปีศาจ Beladim พร้อมทำลายตัวตนอันชั่วร้ายของเธอในอีกไทมไลน์หนึ่งอย่าง Vernia ได้สำเร็จ เธอก็กลับไปใช้ชีวิตสงบสุขในหมู่บ้าน Ridgeroad โดยที่ไม่รู้เลยว่าในช่วงไทม์ไลน์ใหม่นี้ ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ห้วงมหาทมิฬ ณ ใจกลางของอาณาจักรโครโนเซีย พร้อมกับผีเสื้อนิลกาลจากแดนมิติอื่น ซึ่งเข้าไปสิงในสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในป่าจนเกิดอาการคุ้มคลั่ง และทำให้บ้านเมืองโกลาหลกันไปทั่ว Freyja จึงออกเดินทางไปยังอาณาจักรโครโนเซียให้รอดพ้นจากวิกฤตกาลครั้งนี้ ด้วยการรวบรวมพลังการควบคุมกาลเวลาแห่ง AeternoBlade

AeternoBlade II
รีวิว AeternoBlade II

แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่หวังเอาไว้ เพราะศัตรูในคราวนี้เป็นถึงเหล่าเทพเจ้าผู้คอยค้ำจุนโลกใบนี้มาตลอด และเริ่มทำการบิดเบือนมิติเวลาเพื่อขัดขวาง Freyja ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะเหล่าเทพเจ้าที่อยู่ฝ่ายเดียวกับมนุษย์เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา พร้อมกับหมอบหมายภารกิจปกป้อง “รากของรุกขาแห่งชีวิต” และ “กำจัดศัตรู” ให้กับนางเอกของเราที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เต็มๆ ด้วยอิทธิพลจากวังวนความแค้นอันมหาศาลได้หลอมรวมเข้ากับเทพเจ้าองค์อื่นด้วยกัน โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหญิง / นักระบระดับสูงแห่งอาณาจักรโครโนเซีย ได้แก่ Rosaline, Bernard และ Felix

ผู้เขียนขอเล่าไว้จบแค่ตรงนี้นะครับ ไม่อย่างงั้นจะถือว่าเป็นการสปอยเนื้อหาแบบขั้นสุดไปเลย ดังนั้นทางเราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองสัมผัสกันดูด้วยตัวเองจะดีกว่า เพราะว่ากลวิธีการดำเนินเรื่องของตัวเกมมีความสลับซับซ้อน, เบื้องหลังที่ไปที่มาอย่างน่าสนใจ, หักมุมพลิกไปพลิกมา และเข้มข้นจนหนักหน่วงกว่าภาคก่อนหน้าเลยล่ะ อีกทั้งมาพร้อมกับบทสรุปสุดซึ้งด้วยธีมของ ‘ความรัก’ กับ ‘ความพูกพันธ์’ ที่ทำให้ต้องเสียน้ำตากันแน่ๆ [แม้มีหลายฉากจบก็ตาม] เรียกได้ว่าทีมพัฒนาใส่ใจกับเนื้อเรื่องเป็นพิเศษมากๆ

แต่ส่วนตัวแอบไม่ชอบช่วงต้นเรื่องที่ตัดเข้าเรื่องแบบรวบรัดไปหน่อย อย่างน้อยๆ ก็เล่าเหตุการณ์ที่เริ่มปรากฏการณ์ห้วงมหาทมิฬบ้างก็ยังดีนะ นอกจากนี้ตัวเกมแทบไม่มีการเกริ่นนำเรื่องราวของภาคแรกให้เกมเมอร์หน้าใหม่ที่พึีงรู้จักเกมนี้ได้ทรสาบกันอีกด้วย ซึ่งทีมงาน Play in one เลยทำคลิปวิดีโอสรุปเนื้อเรื่อง AeternoBlade ภาคแรกฉบับเข้าใจง่ายๆ แถมพากย์โดย 9th TEARDROP GameTeller กันตามข้างบนนี้เลยครับผม (เวอร์ชั่น Text บทความคลิกที่นี่)


Power Time Signature นำเสนอพลังย้อนเวลาที่หลากหลายมากกว่าเดิม

รีวิว AeternoBlade II

หนึ่งในเอกลักษณ์ของตัวเกมที่ขาดไปเสียไม่ได้ นั้นก็คือ “พลังการย้อนเวลา” เอาไว้ต่อกรกับศัตรูให้สะดวกยิ่งขึ้น, จัดการกับศัตรูเฉพาะทางที่จำเป็นต้องใช้พลังนี้, แก้ปริศนาเพื่อหาทางไปต่อ และแก้ปริศนาที่แอบซ่อนไอเทม / เครื่องรางลับไว้ตามฉากต่างๆ หรือไม่ก็ที่อยู่ใน “อนุสรณ์แห่งนอร์น” ที่จำเป็นต้องใช้พลังการย้อนเวลาในการปลดล็อคเข้าถึงพื้นที่อีกด้วย ขอยกให้เป็นระบบที่นำมาประยุกต์ใช้แล้วนำเสนอไอเดียที่สร้างสรรค์ออกมาได้น่าสนใจมากๆ เอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม โดยแบ่งพลังทั้งหมดออกเป็น 5 ประเภทด้วยกัน อาทิ

  • ไทม์วาร์ป – สร้างจุดวาร์ปเอาไว้ที่แห่งหนึ่ง แล้วกดเพื่อย้ายไปอยู่ตรงจุดนั้นในชั่วพริบตา
  • ไทม์ทราเวล – สามารถย้อนเวลาทุกสิ่งทุกอย่างได้ ยกเว้นตัวผู้เล่นเอง
  • ควิกไทม์รีเวิส – หมุนปุ่มบังคับมุมกล้องเป็นทวนเข็มนาฬิกา สามารถย้อนเวลาทุกอย่างรวมถึงตัวผู้เล่นด้วย เหมาะสำหรับเพิ่มพลังในเวลาสั้นๆ หลังถูกโจมตี หรือไม่ก็ย้อนเวลาก่อนค่า HP ของเราจะหมดไปก่อน Game Over
  • ไทม์พาราด็อก – บันทึกการโจมตีของเราในไทม์ไลน์แห่งหนึ่ง แล้วร่างปรากฏขึ้นมาโผล่ในอีกไทมไลน์หนึ่ง (ของตัวผู้เล่นเอง)
  • ไทม์สต็อป – หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูแล้วโจมตีไปด้วยพร้อมๆ กัน ว่าง่ายๆ ก็คือการหยุดเวลานั่นเองครับ

AeternoBlade IIโดยแรกเริ่มนั้น “ไทม์พาราด็อก” และ “ไทม์สต็อป” เป็นพลังการย้อนเวลาของ Felix และ Bernard ที่แฝงไปด้วยทักษะพิเศษ อาทิ

  • กระชาก – สามารถใช้ดาบโซ่ยาวๆ กระชากเกี่ยวตะขอ ขึ้นไปในจุดที่ไปไม่ถึง
  • กล่องสำหรับดึง – ใช้ดาบโซ่ยาวๆ ดึงกล่องสัญลักษณ์ให้เข้าหาตัวเรา
  • ปัดป้อง – ปัดป้องการโจมตีของศัตรูด้วยการแทรกโจมตี มันจะทำให้ศัตรูชะงักได้ชั่วขณะ
  • กำแพงเปราะบาง – กำแพงบางแห่งนั้นสามารถตีเพื่อทำลายได้

แต่พอมาถึงช่วงกลางเรื่อง Freyja จะได้พลังเหล่านี้ไปครอบครอง ด้วยสาเหตุ…ที่ผู้เขียนบอกไม่ได้ ไม่งั้นจะเป็นการสปอยครับ (เอ๊ะ หรือแบบนี้สปอยแล้วหว่า?!)


Combat System ทำความเข้าใจระบบของตัวเกมที่มีทั้งข้อดี – ข้อเสีย

  • Combat system AeternoBlade II
    Combat system

    การต่อสู้บนพื้น & บนอากาศ จะแบ่งการโจมตีแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ โจมตีหลัก, โจมตีรอง และโจมตีพิเศษ [งัดขึ้นกลางอากาศ] ส่วนตัวเห็นว่ามันเหมาะกับเกมประเภทนี้อยู่พอสมควร แต่ก็แอบดูธรรมดาๆ ไปหน่อยอะนะ

  • ไทม์บลิงค์ คืิอ ระบบพุ่งหลบการโจมตีทุกชนิดของศัตรู โดยเสียค่าพลังของไทม์บลิงค์ต่อ 1 ครั้ง (จำนวนครั้งเพิ่มขึ้นเมื่อเราอัพเกรด) ถ้าเราทำการพุ่งหลบก่อนเสี้ยวเวลาที่ศัตรูจู่โจม นอกจากจะไม่เสียค่าพลังของไทม์บลิงค์ แล้วยังโจมตีสวนกลับได้อีกด้วย แต่ประเด็นคือมันค่อนข้างกะจังหวะได้ยาก หากมุ่งแต่ทำไทม์บลิงค์ อาจทำให้เพื่อนๆ ตายก็เป็นได้นะครับ ในอีกแง่หนึ่งใครที่ใช้จนเชียวชาญก็ต่อช่วยทำให้เกมการเล่นง่ายขึ้นเป็นเท่าตัว
  • เทวรูปนอร์น (มือคน) เป็นทุกสิ่งอย่างให้กับเพื่อนๆ ได้แก่ บันทึกเกม [Save Game], ประตูไร้เวลา [Teleport], ห้องไร้กาลเวลา [ที่ที่พวกพ้องของเราอยู่], พัฒนาตัวละคร, ติดตั้งเครื่องราง และไอเทมฉุกเฉิก
  • ข้างๆ เทวรูปนอร์น ก็คือ อนุสรณ์แห่งนอร์น สถานที่ที่เก็บซ่อนไอเทม / เครื่องรางมีค่าเอาไว้ การจะได้มานั้นจำเป็นต้องแก้ไขปริศนา หรือไม่ก็ต่อสู้กับบอสสุดโหดหิน เป็นต้น ซึ่งบอกเลยว่าใครที่คิดจะตามเก็บให้หมดเนี่ย จำเป็นต้องใช้สมองเกิน 100% กว่าจะผ่านได้ (แต่บางคนอาจไม่เป็นไรก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย)
  • ระบบการเล่น -รีวิว AeternoBlade II

    ไอเทมที่อยู่ตามรายทาง สามารถเก็บได้โดยกดโจมตีใส่มัน แล้วจะเข้าไปอยู่ในช่องคียลัด พร้อมกับเปลี่ยนไอเทมไว้ใช้ตามใจชอบสูงสุดถึง 3 ชิ้นผ่านทาง “ไอเทมฉุกเฉิก”

  • พัฒนาตัวละคร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ พัฒนาค่าพลังสถานะต่างๆ และพัฒนาสกิล + ท่วงท่าต่อคอมโบ ทำออกมาเข้าใจง่ายมากๆ
  • ติดตั้งเครื่องราง เอาไว้เพิ่มขีดความสามารถของตัวละคร และนำไปพัฒนาระดับพลังของเครื่องรางแต่ละชนิดให้สูงขึ้นด้วย ถือว่าแทนที่ระบบคอยสวมใส่ชุดเกราะ – อาวุธให้วุ่นวายใจกันอีกต่อไป
  • AeternoBlade IIเครื่องรางมีอยู่ทั้งหมด 4 ประเภท เช่น สีแดง : เพิ่มค่าสถานะตัวละคร, สีเหลือง : เพิ่มความสามารถพิเศษของตัวละคร, สีฟ้า : เพิ่มความสามารถของพลังการย้อนเวลา และสีม่วง : เพิ่มสถานะตัวละครในระดับมหาศาล แต่ก็แลกมาด้วยผลกระทบด้านลยของตัวละครเช่นกัน ซึ่งหากนำหลายๆ สีมาผสมผสานกัน เราก็จะได้องค์ประกอบของผลสถานะรวมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นับว่าไอเดียดีทีเดียว ขอชื่นชมๆ
  • แผนที่ภายในเกมสามารถปรับมุมมองการดูในรูปแบบ 3D ซึ่งทำให้เห็นโครงสร้างของพื้นที่โดยรวมได้ชัดเจนขึ้น มาร์คจุดผู้เล่น – จุดเซฟ – จุดทำเควสชัดเจนดีครับ แถมยังบอกอีกด้วยว่าพื้นที่นั้นๆ สำรวจไปได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว บวกกับภาษาไทยอยู่ในระดับยอดเยี่ยม
  • ณ ห้องไร้กาลเวลา Zevil เพื่อสนิทของนางเอกของเราจะกลายมาเป็นพ่อค้าเร่ แล้วทำการขายไอเทม / เครื่องรางให้จับจ่ายกันด้วยนะครับ แต่ถ้าจะไม่อุดหนุนพี่แกก็ได้นะ เพราะต่อให้ซื้อหรือไม่ซื้อ ผลมันก็มีค่าเท่านกันอยู่ดีแหละ

Gameplay บู๊แหลกสไตล์เรียบง่าย แต่บางทีพวกศัตรูและบอสก็โหดเกินไป

"<yoastmark

ตัวเกมเป็นแนว Action Adventure ที่มีส่วนผสมของกลิ่นอาย RPG แบบกึ่ง Open World ที่มีเควสแตกต่างกันในหลายๆ รูปแบบ พร้อมเลือกได้อย่างอิสระว่าจะทำเควสไหนก่อนก็ได้ พร้อมกับแฝงระบบ Quick-Time Event ค่อนข้างเยอะตามแบบสูตรสำเร็จรูปของเกมประเภทนี้ แต่เมื่อมองแบบเจาะลึกลงไปถึงรายละเอียด กลับกลายเป็นว่าเกมนี้แฝงไปด้วยความท้าทายในระดับชนิดที่ว่าอาจเกิดอาการหัวร้อนจนอยากปาจอยทิ้ง (ฮา) เพราะต่อให้ศัตรูลูกกระจ๊อกแบบไหนก็ตาม ห้ามประมาทเพียงวินาทีเดียว ไม่อย่างงั้นมีสิทธิ์ Game Over ได้ทันที

รีวิว AeternoBlade II

โดยคราวนี้ศัตรูลูกกระจ๊อกทั้งหลายต่างรู้จักให้ความร่วมมือในการจู่โจมกันเป็นกลุ่ม หัดคอยถอยออกมาห่างๆ แล้วเล่นงานตอนทีเผลอ อีกทั้งยิ่งผ่านด่านไปมากเท่าไหร ศัตรูลูกกระจ๊อก / เหล่าบอสก็ยิ่งอึดยิ่งทนทานต่อ “พลังการย้อนเวลา” จนใช้งานใช้การไม่ได้ ตามมาด้วยการต่อสู้กับบอสที่มีการเปลี่ยนแปลงท่าโจมตีเพื่อสร้างความยากสุดโหดในแต่ละตาแล้ว บางตัวก็ชอบพาเหล่าศัตรูลูกกระจ๊อกมาร่วมแจมเสียด้วยซ้ำ ซึ่งวิธีป้องกันไม่ให้เราตายบ่อยๆ ก็คือหมั่นศึกษารูปแบบการโจมตีและจุดอ่อนของศัตรูเอาไว้ [รอยแผลสีม่วงจางๆ] เพราะถ้าโจมตีถูกจุดล่ะก็ ช่วยสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว แถมยังทำให้ชะงักไปชั่วขณะด้วยนะครับ

"<yoastmark

ถึงอย่างนั้นทีมพัฒนาก็ไม่ได้กับผู้เล่นขนาดนั้น หากตัวเกมเห็นว่าผู้เล่นตายบ่อยมากเกินไป มันจะขึ้นหน้าแจ้งเตือนมาว่า “ถ้านี่ยังยากไปสำหรับเจ้า จะลองเข้าสู่มิติคู่ขนานที่มันง่ายกว่านี้ไหม” ซึ่งมีตัวเลือกอยู่ 2 ทาง ได้แก่ ‘ได้โปรด ช่วยส่งข้าไปมิตินั้นด้วย’ และ ‘ชะตากรรมของข้าไม่เคยลิขิตให้แพ้’ เลือกได้ตามแล้วแต่อารมณ์ อย่างไรก็ตามต่อให้เราตายกี่ครั้งไอเทม / ค่าสถานะต่างๆ จะยังคงเดิมอยู่

และที่น่าสนใจไปกว่านั้นบางฉากจะเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่เปิดกว้างในมุมมองแบบ 3D และหันมุมกล้องได้ 360 องศา ถึงกระนั้นก็มีปัญหาเรื่องของมุมอับที่บดบังวิสัยทัศน์พอสมควร แล้วพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ใต้อาคารกันด้วยซ้ำ แถมการจัดวางเรียงศัตรูก็แอบรู้สึกไม่แฟร์กับผู้เล่นหน่อยๆ แต่โชคดีที่เราหลบหนีไปยังฉากอื่นๆ ได้แทน


Graphic & Sound กราฟิกสวยสมยุค + เพลงประกอบสุดไพเราะ

รีวิว AeternoBlade II

เชื่อว่าสิ่งแรกที่ใครหลายคนประทับใจ AeternoBlade II คือคุณภาพกราฟิกที่ยกระดับขึ้นจากภาคแรกอย่างมาก โดยเป็นการนำเอา Unreal Engine 4 มาควบคู่ไปกับ CoreUs Engine เอนจิ้นของพวกเขาที่เคยพัฒนาตัวเกมภาคก่อนหน้านี้ (เรียกการนำเอนจิ้นมาใช้ร่วมกันว่า “Cross Engine”) จึงทำให้คุณภาพกราฟิกมีความสวยงามและออกแบบฉากภายในเกมได้ซับซ้อนมากกว่าเดิม อาจมีติดๆ ขัดๆ ตรงที่โหลดพื้นผิว (Texture) ไม่ทัน, แสงเงาตัวละครพิกเซลแตกๆ และการออกแบบสีหน้าท่าทางของตัวละครจะดูแปลกๆ ไม่เข้ากับสถานการณ์เลยก็ตาม แต่ว่าก็ทำออกมาได้ขนาดนี้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้วล่ะ

และแน่นอนว่าตัวเกมจะไม่สมบูรณ์เลยหาปราศจากนักร้องที่เปี่ยมไปด้วยเสียงมนต์เสน่ห์ ออย อมรภัทร เสริมทรัพย์ มาช่วยกันขับร้องเพลงประกอบที่มีชื่อว่า Nostalgia Rhapsody (บทกวีแห่งความคิดถึง) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกออกแนวโอเปร่า และช่วงที่สองออกทำนองเพลงป๊อปคัลเจอร์ (Pop Culture) เรียกได้ว่าทีมพัฒนาลงทุนลงแรงเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างสรรค์บทเพลงประกอบคุณภาพดีออกมา ยิ่งถ้าเพื่อนๆ ไปตอนที่มันขึ้นในช่วงเหตุการณ์ของเนื้อเรื่องด้วยจะยิ่งอินกับเนื้อหาเข้าไปอีก


สรุป ตัวเกมเป็นกระแสที่มาแรงแบบปากต่อปากถึงขนาดนี้ ไม่เล่นเนี่ยถือว่าพลาดโอกาสมาร่วมสนุกไปมากๆ เลยล่ะ หากตัดข้อเสียตรงในส่วนของเนื้อเรื่องช่วงเปิดเรื่องที่ดูเร่งรัดไปหน่อย ระบบเกมการเล่นที่บางส่วนคิดว่าต่อยอดไปได้มากกว่านี้ ปัญหาประสิทธิภาพเล็กๆ น้อยๆ และสีหน้าท่าทางของตัวละครที่ดูไม่เป็นธรรมชาติล่ะก็ AeternoBlade II ถือเป็นเกมฝีมือคนไทยที่น่าสนใจในหลายๆ ด้าน จนกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญผลักดันวงการเกมและอุตสาหกรรมเกมในบ้านเราให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น ส่วนตัวเกมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ บนเครื่อง PlayStation 4 [แผ่น + ดิจิตอล] และ Nintendo Switch [ดิจิตอล แต่แผ่นมาปลายเดือนพฤศจิกายน] ในขณะเดียวกัน Xbox One ขอเลื่อนวางจำหน่ายไป 1 สัปดาห์ เพราะปัญหาบางอย่าง แล้วมาลุ้นกันว่าจะลงบน PC ด้วยหรือไม่?

รีวิว AeternoBlade II : 8.0 / 10 คะแนนเต็ม

ติดตามผลงานผู้เขียนได้ที่นี่

Mr.T-Rat Jongjumruspun

Leave a comment
รีวิว Black Doves พิราบเงา (Netflix) ซีรีส์สายลับที่ตัวละครมีเสน่ห์ซับซ้อนคมคายสุดๆ