Nioh 2 เกมแนว Action RPG สไตล์ Souls Clone ธีมซามูไรญี่ปุ่น (เป็นการบ่งบอกแนวเกมที่อิงมาจากพวก Dark Souls) กลับมาสร้างปรากฎการณ์อีกครั้ง เมื่อทางค่าย Koei Tecmo และทีมพัฒนา Team Ninja มอบโอกาสให้เหล่าเกมเมอร์ชาว PlayStation 4 บางส่วน (ใครที่โดนสุ่มได้โค้ดเกมจากทีมพัฒนาถือว่าโชคดีมากๆ) เข้าร่วมทดสอบตัวเกมในช่วง Closed Alpha ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งผู้เขียนก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบในครั้งนี้เช่นกัน เลยทำให้เกิดอารมณ์อยากทำบทความ First Impression ที่รวบรวมระหว่างทดสอบไปพลางๆ มาถ่ายทอดข้อมูลทุกอย่างให้ผู้เล่นทุกคนได้ทราบกันอย่างอรรถรส
ระบบเกมเพลย์แบบเดิม เพิ่มเติมคือลูกเล่นใหม่สารพัดชนิด
หลังจากที่ผู้เขียนเข้าไปทดสอบ NioH 2 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันเกิดความรู้สึกอย่างหนึ่งขึ้นมาว่า “นี้มันคือ NioH 1.5 ดีๆ นี่เอง” เพราะระบบเกมเพลย์ส่วนใหญ่แทบยกถอดมาจาก NioH ทุกประการ หรือถ้าให้เรียกภาษาบ้านๆ ก็คือ แทบเอามา Reuse ใช้เยอะมากๆ เลยให้อารมณ์และประสบการณ์การเล่นเหมือนเดิม จนไม่รู้สึกว่ามันเป็นภาคใหม่แม้แต่น้อย เพียงแต่ Team Ninja ได้เสริมลูกเล่นใหม่ๆ มาผสมผสานกันเข้ากับของเดิมที่มีอยู่แล้ว อาทิ
Boss Fight องค์ประกอบหลักสำคัญของเกมแนว Soulsborne ที่ผู้เขียนขอสารภาพว่าตัวเกมภาคก่อนหน้าทำออกมาได้ค่อนข้างผิดหวัง เนื่องจากบอสภายในเกมมีท่าทางเดิมๆ ใช้แต่รูปแบบเดิมๆ ตลอด ยิ่งไปกว่านั้นยังเน้นตรง One Hit Kill เกินความจำเป็นด้วย จนมันขาด “ความท้าทาย” ในแบบที่ตัวเกมควรจะเป็น
ถึงกระนั้นพอได้ลอง Boss Fight ของ NioH 2 ผู้เขียนดีใจมากๆ ที่ทีมพัฒนาเอาข้อเสียทั้งหลายไปปรับปรุงให้ดีขึ้น เพราะว่ามีการเสริมพลัง “ดอกฮิกันบานะ” [ผู้เขียนตั้งชื่อเอง] ซึ่งปล่อยออร่าสีเทาๆ พร้อมกับดอกฮิกันบานะรายล้อมพื้นที่ให้กับบอสทุกตัว โดยพลังของมันจะปรากฏขึ้นมาตอนเลือดของบอสลดลงไปส่วนหนึ่ง ส่งผลให้บอสหันมาเปลี่ยนการโจมตี, เพิ่มรูปแบบการเคลื่อนไหว แถมยังอึดขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย นี่แหละคือ “ความท้าทาย” ที่ผู้เขียนต้องการ
Team Ninja ปรับปรุงข้อเสียที่เคยปล่อยปละละเลยให้หายไปแล้ว
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น NioH 2 แทบยกเอาระบบเดิมๆ มา Reuse ใช้เกือบหมด เลยทำให้ผู้เขียนคิดว่าปัญหาที่เคยประสบพบเจอในภาคก่อนหน้าคงตามมาด้วยแหง แต่กลับปรากฏว่าไม่พบปัญหาดังกล่าวอีกเลย เช่นพวกมุมกล้องที่ไม่มึนหัวไปมา (ยกเว้นตัวละครดันแนบติดระหว่างกำแพง จนมุมกล้องอับสายตาที่ยังแก้ไม่หาย), ระบบควบคุมบังคับตัวละครได้ดีขึ้น, Auto Lock ศัตรูให้ทันที หรือบัคที่ทำเอาทะลุฉาก ร่วงลงมาตายก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว ถึงอย่างน้อยรู้สึกว่ากราฟิกน่าจะทำได้ดีกว่านี้ก็เถอะ แต่ไม่แน่พอตัวเกมวางจำหน่ายจริง กราฟิกคงอาจสวยขึ้นมาบ้างแหละ
ถือเป็นการต่อยอดของเดิมที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
ถึงแม้ว่าตัวเกมจะมาในรูปแบบ “เหล้าเก่าในขวดใหม่” ก็ตาม มันสามารถมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเร้าใจยิ่งกว่าเดิม ผลที่ได้ก็คือ Gameplay ที่ทั้งมันส์ – รวดเร็ว – เร้าใจ พร้อมยกระดับความยากที่อาจมีสิทธิ์ต้องวนเวียนว่ายตายเกิดพอสมควร แต่ตัวเกมก็ยังมอบโอกาสให้เราก้าวผ่านอุปสรรคไปได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน นอกจากสิ่งที่กล่าวมานั้น NioH 2 : Closed Alpha Demo นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น!!! เพราะดูเหมือนทีมพัฒนากำลังรอเวลาปล่อยของที่กั๊กเอาไว้อีกเพียบเลย เอาไว้คราวหน้าตัวเกมวางจำหน่ายแล้ว ผู้เขียนจะรีบมาทำบทความรีวิวให้ผู้เล่นได้อ่านกันนะครับผม
ติดตามผลงานผู้เขียนได้ที่นี่
Mr.T-Rat Jongjumruspun