รีวิว To All the Boys I’ve Loved Before แอบหลงรักเธออยู่ แต่เธอคงดูไม่ออก
To All the Boys I've Loved Before
สรุป
เป็นหนังโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ดีเรื่องหนึ่ง บรรยากาศอบอุ่นหัวใจ กับผู้ชายที่เราแอบชอบ สาวๆจะต้องชอบหนังเรื่องนี้ มันอาจทำให้เราหวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาแห่ง Puppy Love ความรักแบบเด็กๆ ที่เราเคยรู้สึกจั๊กจี้หัวใจกับใครสักคน
Overall
8.5/10User Review
( votes)Pros
- พลังบวก 100%
- โทนสีของหนังเข้ากับเนื้อเรื่อง
- ฉากจูบที่โรแมนติก
Cons
- ขาดในส่วนของรายละเอียดเล็กๆน้อย
- พล็อตจำเจ ไม่แปลกใหม่
To All the Boys I’ve Loved Before แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก ภาพยนต์วัยรุ่นแนวโรแมนติกจาก Netflix ที่ขอรับประกันความจั๊กจี้หัวใจเมื่อรับชม
ตัวอย่าง To All the Boys I’ve Loved Before
หลายๆ คนคงจะเคยมีประสบการณ์แอบรักใครคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่ หรือรุ่นน้องกันใช่ไหมคะ แล้วสิ่งที่สำคัญในการจะแอบรักใครก็คือเราต้องมีการระบายความรู้สึกลงไปในไหนสักแห่ง ในยุคนี้คงเป็น Blog ส่วนตัว ์Note ในโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่การระบายความรู้สึกผ่าน Status ใน Social แต่ก็ตั้งเป็นส่วนตัวเอาไว้อ่านคนเดียว และครั้งนี้ Netflix ขอทำให้มันคลาสสิกขึ้นด้วยการใช้ ‘จดหมายรัก’ ในหนังเรื่องนี้ ‘แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก’
นี่เป็นหนังโรแมนติกสำหรับคนแอบรัก ที่ได้แต่แอบรักไม่กล้าเข้าไปทำความรู้จักหรือทักทาย’เขาคนนั้น’ ได้มากกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ได้แอบซ่อนความในใจเอาไว้ในไหนสักแห่ง สำหรับลาร่า จีน (แสดงโดย Lana Condor) เธอได้เลือกที่จะเขียน ‘จดหมายรัก’ ถึงชายหนุ่มที่เธอปลื้ม 5 คน แล้วเก็บเอาไว้ในกล่องสีฟ้าผูกโบว์ใบเล็ก หนึ่งนั้นฉบับเป็นของ จอช (แสดงโดย Israel Broussard) ที่แม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันแต่จอชก็เป็นแฟนหนุ่มของพี่สาวของเธออย่าง มาร์โก (แสดงโดย Janel Parrish) อีกด้วย อย่างไรก็ตามจดหมาย 5 ฉบับที่ลาร่าเขียนขึ้นมานั้นไม่ได้ถูกส่งออกไปแม้ว่าจะมีการจ่าหน้าซองชัดเจนก็ตาม เพราะเธอไม่อาจรู้เลยว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นที่ทำให้จดหมายของเธอถูกส่งออกไป จนเธอต้องตามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ทว่าก็เกิดเรื่องยุ่งเหยิงตามมาเมื่อ ปีเตอร์ (แสดงโดย Noah Centineo) ชายหนุ่มซึ่งเป็นรักแรกที่เธอเขียนจดหมายให้ได้มาขอให้เธอแกล้งเป็นแฟนหลอกๆ เพื่อหลอกให้เจน (แสดงโดย Emilija Baranac) แฟนเก่าของเขา เกิดอาการหึงหวง ทว่ากามเทพกลับเล่นตลกแผลงศรให้ลาร่าหลงรักปีเตอร์เข้าจนได้
ขอรับรองว่าเรื่องนี้ต้องถูกจคอหนังโรแมนติก คอหนังแนววัยรุ่นอย่างแน่นอน การันตีด้วยรางวัล Best Kiss 2019 จาก MTV Movies Award เชียวนะคุณ เป็นฉากที่โรแมนติกมากเลยทีเดียวแหละ สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จเหมือนหนังรักหลายๆเรื่อง โดยมีที่มาอ้างอิงจากนิยายในชื่อเรื่องเดียวกัน แต่งโดย Jenny Han พล็อตไม่ได้เดาทางยากอะไรมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน คุณอาจจะมองว่าน่าเบื่อ แต่ถ้าใครที่ชอบความโรแมนติกล่ะก็ เตรียมเก็บเรื่องนี้ไว้ในลิสต์หนังรักเรื่องโปรดที่ Made your day มากๆได้เลย หนังมักจะอ้างถึงอะไรที่อยู่ในยุคเก่าๆ อย่างหนังที่ตัวละครชอบดู หนังสือที่นางเอกชอบอ่าน มันสื่อได้ถึงโรแมนติกคลาสสิก ผู้ชมในช่วงวัยผู้ใหญ่ดูแล้วคงได้จะกลับไปนึกถึงช่วงเวลาเก่าๆเหล่านั้น แต่หากเป็นวัยหนุ่มสาวก็อาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารักกุ๊กกิ๊กอะไรอย่างนี้ อย่างการทำข้อตกลงกันโดยเขียนออกมาเป็นข้อๆ การส่งข้อความสั้นๆด้วยกระดาษ มันอาจจะดูตลกแต่พอมาอยู่ในหนังเราก็ลืมความตลกนั้นไปหมดเลย
สิ่งที่หนังยังใส่เข้ามาอีกก็คือเรื่องของครอบครัว ความรักระหว่างพี่น้อง ที่แม้จะไม่ใช่แก่นสำคัญนัก และใส่จุดดราม่าเล็กๆ ตรงที่ลาร่าแอบชอบแฟนของพี่สาวก็เท่านั้น แต่ด้วยความเป็นหนังที่มีพลังบวกสูงมาก ฉะนั้นดราม่าเหมือนใส่มาให้พอมีรสขมแต่หวานปลายก็พอ แต่ก็ต้องขอติว่ามีบางฉากที่ตัวละครแสดงสีหน้าแล้วเราไม่เข้าใจแล้วก็ไม่เฉลยอยู่บ้าง หรือแม้แต่เรื่องรายละเอียดเล็กน้อยที่แม้ไม่จำเป็นแต่ก็น่าจะเอามาใส่ไปบ้างเพื่อให้มีสีสันอีกหน่อยนอกจากความโรแมนติก และอีกอย่างที่ไม่โอเคคือพระเอกกับนางเอกไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องอื่นนอกจากเรื่องพ่อแม่ มันไม่แปลกที่จะปรับทุกข์ให้กันแต่อยากให้เพิ่มในส่วนอื่นบ้าง
ตัวละคร
ลาร่า – ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งเกาหลี เธอมีการแต่งตัวแบบสาวเอเชีย ซึ่งทำให้สไตล์ดูโดดเด่นมาก ใสดูเข้ากับตัวเธอมาก ยิ่งเพราะเธอเป็นคนตัวเล็กด้วย อาจจะมีบางชุดที่ดูเด็กไปสักนิดแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับโอเค การที่เธอกล้าลงมือเขียนจดหมายจินตนาการถึงใครสักคน ไม่ได้หมายความว่าเธอก็แค่สาวช่างฝัน แต่เธอเป็นสาวนักรักตัวยง เธอรู้ว่าอะไรแบบไหนคือความโรแมนติก สังเกตได้จากการใช้ชีวิตที่ของเธอที่มักจะหมกมุ่นกับนิยายหรือการดูหนังและพูดทฤษฎีความโรแมนติก
ปีเตอร์ – ชายหนุ่มผู้เป็นรักแรกสมัย ม.1 ของลาร่า เป็นตัวละครที่เดาง่ายมาก มีลักษณะของพระเอกที่ตรงข้ามกับนางเอกทุกอย่าง เรียนไม่เก่งแต่เป็นนักกีฬา ในขณะที่ลาร่าแทบจะไม่มีตัวตนในสังคมโรงเรียนเลย ปีเตอร์เป็นตัวแทนของผู้ชายที่ดูเหมือนเป็นคนกะล่อนด้วยลุคและบทบาทเป็นนักกีฬาตัวท็อปของโรงเรียนแต่ข้างในแล้วเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง ถือเป็นสเปคหนึ่งที่ผู้หญิงบางคนชอบ
จอช – ผู้ชายธรรมดา บ้านๆ และดูเป็นคนที่ทำอะไรตามใจแฟนมากกว่าที่จะแสดงความเห็นออกมา อย่างฉากลาร่าถามเรื่องน้ำที่ตอนโสดกับมีแฟนจะตอบคนละอย่างเลย หนังไม่ได้บอกที่มาที่ไปอีกเหมือนกันว่าทำไมจอชถึงเลือกคบกับมาร์โก
เจน (เจเนวีฟ) – ขอใช้คำโบราณอย่างคำว่า สาวป๊อบ ที่มักจะถูกสร้างมาให้คู่กับหนุ่มป๊อบประจำโรงเรียน อารมณ์แบบคู่จิ้นกัน แต่ในหนังรักมักจะไม่ได้ลงเอยกัน ในหนังได้วางไว้ให้เธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของลาร่า แต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก
สรุปแล้ว เป็นหนังที่ made my day มาก ดูแล้วให้พลังบวกอย่างมหาศาล แต่หากใครที่ดูหนังแล้วต้องการความแปลกใหม่เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไรนัก และด้วยความที่หนังพยายามจะเอนไปทางคลาสสิก โทนของหนังก็จะมีสีสันไปทางซีเปียเก่าๆนิดๆ มันทำให้เข้าถึงอารมณ์ของหนังได้ดีทีเดียว ถ้าได้ดูกับคนที่ชอบแล้วพวกคุณคงจะอินมากเลยแหละ และเนื่องจากว่าผู้แต่งเขียนหนังสือสำหรับเรื่องนี้เอาไว้ 3 เล่ม เราก็หวังว่าจะได้มีหนังดีๆดูไปอีก 3 ภาคเลยเด้อ
สามารถไปรับพลังบวกกันได้ที่นี่
อ่านรีวิวภาพยนตร์ Original Netflix อื่นๆได้ที่นี่