playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว To All the Boys: P.S. I Still Love You 2 ปัจจุบัน VS. ถ่านไฟเก่า (มีสปอยล์)

สรุป

ภาพยนตร์ภาค 2 ของ  To All the Boys I’ve loved before ที่รับประกันความฟินเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีหลากรสมากขึ้น และทุกรสนั้นเราสามารถเข้าไปมีอารมณืร่วมกับมันได้ในทุกๆช่วงของหนัง เหมือนเราได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละคร สะท้อนแง่มุมของคู่รัก ที่ต้องความเชื่อใจไม่ใช่แค่คำพูด ฉากจูบมีเยอะไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วยังสนุกและน่ารักเหมือนภาคแรก

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
3.5 (4 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • ความโรแมนติกแบบหนังรักคลาสสิก
  • ตัวละครใหม่
  • ยังคงมีการผสมผสานกับยุค 80’s
  • พระเอกในอุดมคติของสาวๆ
  • เพิ่มความตลกและดราม่าขึ้นเพื่อตัดอารมณ์

Cons

  • ละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยเหมือนเดิม
  • มีฉากจูบที่ไม่จำเป็นทำให้ดูล้น
  • เหตุการณ์บางอย่างดูบังเอิญเกินไป

To All the Boys: P.S. I Still Love You แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก) Netflix ขอต้อนรับตอนรับวันวาเลนไทน์ 2020 ด้วยภาคต่อของ To All the Boys  ที่สร้างจากนิยายของ Jenny Han โดยในภาคนี้มีชื่อเรียกน่ารักตามหน้าปกอย่าง P.S. I Still Love you (ตอนนี้ก็ยังรัก) ที่บอกได้เลยว่าแม้จะสร้างจากคนละผู้กำกับแต่ก็ยังคงความจั๊กจี้หัวใจอยู่เหมือนเดิมแน่นอน

 To All the Boys: P.S. I Still Love You (2020) on IMDb
คะแนนเฉลี่ย IMDB

ตัวอย่าง To All the Boys PS I Still Love You

เนื้อเรื่องในภาคนี้เป็นเหตุการณ์ต่อจาก To All the Boys I’ve loved before โดยเล่าถึงชีวิตรักของ ลาร่า จีนหลังจากที่เธอตกลงปลงใจคบกับปีเตอร์  แต่โชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้งเมื่อเธอได้รับจดหมายตอบกลับจดหมายรักของเธอจาก จอห์น แอมโบรช แม็คลาเร็น รักสมัยประถมของเธอ การกลับมาครั้งนี้ของจอห์นจะทำให้ลาร่าหวนกลับไปนึกถึงวันวานที่ยังหวานอยู่ของเธอ รักของเธอกับปีเตอร์จะสั่นคลอนหรือมั่นคงแค่ไหน เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมลุ้นไปด้วยกันกับ แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก)

To All The Boys P.S. I Still Love You
To All the Boys PS I Still Love You แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก)
To All The Boys P.S. I Still Love You
To All the Boys PS I Still Love You แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก)

สำหรับการทำภาคต่อนี้ Netflix เลือกใช้ผู้กำกับคนละคน สิ่งที่รู้สึกได้อันดับแรกคือหนังมีอารมณ์อื่นๆ มากขึ้น พอๆ กับอารมณ์โรแมนติก ทั้งดราม่า ตลกขบขัน ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ตัวบทด้วยไหม แต่มันทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อนัก เพราะถ้ายังคิดจะใส่แต่โรแมนติกมันก็จะไม่ดึงดูดให้เราอยากดูเลย การนำเสนอความรักครั้งแรกของลาร่า จีน อาจทำให้เราย้อนนึกไปถึงรักครั้งแรก หรือแฟนคนแรก การทำอะไรครั้งแรกมันดูเพอร์เฟ็คและน่ารักไปหมด มันอาจจะดูน้ำเน่าไปบ้างแต่นี่คือความจริงของคนที่เพิ่งจะมีโลกสีชมพูเป็นของตัวเอง แต่สิ่งที่รู้สึกว่ามันเกินไปมากก็คือฉากจูบ มีทั้งซีนใหญ่และซีนเล็กผสมกัน ซึ่งเราเข้าใจว่ามันเป็นการแสดงความรักของสองคน เป็นแฟนกันก็ต้องจูบกันสิ เอ๊ะ แต่หลายๆ คนอาจจะชอบเพราะมันฟิน หนังรักหลายเรื่องก็มีฉากจูบกัน แต่สำหรับเรื่องนี้เรามองว่ามันอาจจะมีบางฉากที่สิ้นเปลืองจูบไปเปล่าๆ แต่ต้องขอชมว่าภาคนี้มีฉากที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจหลายฉาก แทนที่จะมีแต่ฉากให้เราฟินอย่างเดียว ทว่าสิ่งที่ต้องติก็ยังเหมือนกับในภาคที่แล้วคือการนำเสนอเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยก็ยังคงไม่ได้ถูกเติมเต็มเลย บางอย่างก็ยังไม่เฉลยออกมา ซึ่งเราคงต้องมาลุ้นกันในภาคสุดท้ายว่าจะอั้นไว้ปล่อยในภาคจบรวดเดียวไหม และมีตัวละครบางตัวที่หายไปเลย ที่เจ็บใจแทนคือหายแบบไม่ถูกพูดถึงเลย (กดโกรธได้ไหม) ในภาคนี้ยังคงทำให้ดูคลาสสิกในธีมหนังยุค 80’s อย่างการไปออกเดท การให้เกียรติฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะผู้หญิง ทุกอย่างในเรื่องคือสิ่งที่ผู้หญิงเกือบร้อยทั้งร้อยใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตรักแบบลาร่าจีน ในภาคนี้ยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตขึ้นของนางเอกทั้งสไตล์การแต่งตัว การพูดจา และความคิด แต่ในแง่ของความรักเธอยังไร้เดียงสาและยังต้องตามหาความจริง

To All The Boys P.S. I Still Love You
To All The Boys P.S. I Still Love You

ท้ายที่สุดนี้ แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก) จะดูคนเดียวก็ฟิน ดูกับเพื่อนก็ฟิน ดูกับแฟนก็อย่าลืมแอบกระซิบแฟนว่าอยากได้แบบนี้ หนังมีอารมณ์อื่นแทรกเข้ามากขึ้น เพราะชีวิตคู่ไม่ได้มีแค่คำว่ารักอย่างเดียวที่เป็นองค์ประกอบ เรื่องนี้ถือว่ารวมทุกอย่างแล้ว และสำหรับคนที่เพิ่งมาดูใหม่ ขอแนะนำให้ไปดูภาคแรกก่อน จะได้เข้าใจเหตุการณ์ที่มาที่ไปของภาคนี้ค่ะ ฉากจูบจัดเต็มและยังดีเหมือนเดิม แม้ว่าจะมีเกินๆ ในบางฉาก

สามารถดู To All the Boys PS I Still Love You แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก ได้ที่นี่

ดูรีวิว To All The Boys I’ve Loved Before ได้ที่นี่

 

Welcome to spoiler zone: To All the Boys PS I Still Love You

เราได้อะไรจากการดู แด่ช่ายทุกคนที่ฉันเคยรัก (ตอนนี้ก็ยังรัก)

To All The Boys P.S. I Still Love You
To All The Boys P.S. I Still Love You

เปิดฉากด้วยเดทแรกแสนจะโรแมนติก

แฟนคนแรกกับเดทแรกจริงๆ ของลาร่า จีน เหมือนในหนังรักทั่วไป แต่สิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนคือลาร่าดูหวานขึ้นมาก จากเดิมที่เธอเป็นสาวช่างเพ้อฝันที่ชอบแต่งตัวหวาน แต่มันคือหวานแบบเด็กสาว ครั้งนี้ต่างออกไปคือเธอกลายเป็นสาวที่กำลังมีความรัก เราดูและเราก็เชื่ออย่างนั้น

To All The Boys P.S. I Still Love You
To All The Boys P.S. I Still Love You

การกลับมาของจอห์น

ในตอนจบของภาคแรกนั้นจอห์นมาเคาะประตูที่หน้าบ้านพร้อมกับช่อดอกไม้และซองจดหมาย เราคาดหวังว่าจอห์นจะเป็นหนุ่มอีกคนที่ตามตื๊อลาร่า แต่มันไม่ใช่เลยสำหรับภาคนี้ เหมือนฉากจบนั้นแค่ใส่มาเฉยๆเพื่อบอกใบ้ว่าอาจจะมีภาคต่อ แต่ทว่านักแสดงถูกเปลี่ยนและจอห์นไม่ได้เริ่มจากการมาเคาะประตูบ้าน แต่จอห์นกลับเขียนจดหมายตอบกลับมาหาลาร่าแทน เนื้อความจดหมายที่เหมือนประโยคขอบคุณแต่แฝงด้วยความปลื้มในตัวลาร่า แถมจอห์นยังบอกอีกว่าลาร่ามีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มาก เพราะจดหมายฉบับของเขาถูกเขียนในตอนที่เธออายุ 11 ปี เหมือนหลอกด่าเนียนๆ ว่าเธอมันยัยเด็กแก่แดดนะ ซึ่งอันนี้ขอเห็นด้วยกับจอห์น เพราะความแก่แดดนี้ส่งมาถึงคิตตี้น้องสาวคนเล็กของเธอด้วย แต่ใครจะไปคิดว่าจดหมายฉบับเล็กๆนี้จะทำให้ลาร่าเริ่มไขว้เขว แถมยังมีเหตุการณ์ย้อนรอยฉากหงายหลังหัวฟาดพื้นในภาคแรกตอนลาร่าเจอกับปีเตอร์หลังจากจดหมายถูกส่งออกไปอีกด้วย เหมือนบอกนัยๆ ว่าคู่แข่งมาแล้วจ้า

To All The Boys P.S. I Still Love You
To All The Boys P.S. I Still Love You

ปีเตอร์กับสถานะแฟน

สงสัยใช่ไหมว่าปีเตอร์เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายหรือเปล่า สำหรับภาคนี้มันไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าการะเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน แต่ก็ขอยอมรับระดับหนึ่งได้เลยว่าปีเตอร์เป็นผู้ชายที่รู้ว่าผู้หญิงชอบอะไรไม่ชอบอะไร เพื่อให้ตามแบบฉบับพระเอกที่เข้าข่ายชายในอุดมคติของสาวๆ แต่ทว่าก็เกิดมีเหตุคดีพลิกสำหรับภาคนี้

 

อ่างน้ำร้อนคอยรัก

สิ่งที่รู้สึกแย่ที่สุดในเรื่องคือฉากจูบในอ่างน้ำร้อนที่ในภาคแรกนั้นถูกวาดออกมาอย่างสวยงาม ฟินกันเป็นแทบแต่ภาคนี้กลับเหมือนถูกตบหน้าด้วยการมาบอกว่า ปีเตอร์ไม่ได้รอลาร่าในอ่างน้ำร้อนแต่รอเจน! ความดีของปีเตอร์หายไแจนหมดสิ้นเพราะประโยคเดียว เชื่อว่าใครหลายคนจะต้องย้ายไปทีมจอห์นกับแบบไม่ลังเล เพราะปีเตอร์ยังรู้อีกว่าเจนคือคนที่ถ่ายคลิปแต่กลับปกป้องเธอเอาไว้ ซึ่งตรงนี้ปีเอตร์บอกว่าปกป้องลาร่า ซึ่งมันก็มองได้สองแบบ แตเราจะเชื่อใจคนคนนี้ได้อีกจริงๆหรอ

 

ความคิดมากกับผู้หญิง

จากย่อหน้าด้านบนแค่อาการหวั่นไหวกับชายอื่นก็มากพอสมควรแล้ว  ลาร่ายังต้องเจอกับปัญหาแฟนเก่าของปีเตอร์อย่างเจน เจนเข้ามาอยู่ในหัวของลาร่าได้เพราะความคิดมากของเธอเองล้วนๆ ต้องยอมรับเลยว่าอาการเก็บมาคิดเล็กคิดน้อยสามารถมีได้ในผู้หญิงทุกคน เป็นอีกเรื่องราวที่สะท้อนความจริง

 

บ้านต้นไม้และแคปซูลเวลา

บ้านต้นไม้และแคปซูลเวลาหนึ่งในฉากที่ชอบมากๆ ของภาคนี้ บ้านต้นไม้ในอดีตของลาร่าและเพื่อนๆ บ้านต้นไม้หลังนี้เหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง อย่างที่ทราบกันดีว่าเจนกับลาร่าเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน บ้านหลังนี้ก็ยังบันทึกความเป็นเพื่อนของของพวกเธอเอาไว้ แม้แต่ความหลังของลาร่ากับจอห์นก็อยู่ที่นี่ บ้านที่พวกเขาเคยมาอ่านหนังสือด้วยกัน ฉากที่ลาร่าและจอห์นจัดปาร์ตี้เล็กๆ เพื่อนัดรวมตัวเพื่อนเก่า มาขุดแคปซูลเวลาที่พวกเขาได้นำของรักของหวงมารวมไว้ในขวดโหลและฝังลงไป ร่วมกัน แม้ว่าจะก่อให้เกิดความอึดอัดระหว่างเจนและปีเตอร์ ปีเตอร์และลอร่า ลาร่าและจอห์นก็ตาม ท้ายที่สุดบ้านหลังนี้ยังเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ที่สำคัญอย่างคำว่าเพื่อนเข้าด้วยกันอีกครั้ง

 

ตัวละครใหม่

นอกจากจอห์น แอมโบรช แม็คลาเร็น แล้วครั้งนี้ก็ยังมีตัวละครใหม่ที่น่าสนใจอย่าง ‘สตอร์มี่’ หญิงชราที่ใจยังอยู่ในวัยสาว ครั้งนี้เธอมาเป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้กับลาร่า ด้วยการเล่าถึงอดีตของเธอ และประโยคเด็ดในตอนท้ายของเรื่องอย่าง  “บางครั้งเราต้องยอมจูบกับคนที่ไม่ใช่ เพื่อให้เรารู้ว่าใครคือคนที่ใช่” ที่ให้อารมณ์ประมารว่า ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ การจะทำอะไรให้สำเร้จได้ก็ย่อมต้องมีการลองผิดลองถูกกันทั้งนั้นแหละ

สิ่งที่ไม่ได้คาดฝัน

ฉากวันปีใหม่ของเกาหลีที่ลาร่าและคิตตี้ใส่ชุดฮันบกเพื่อไปเยี่ยมครอบครัวของแม่ที่เสียไปแล้ว เป็นฉากที่ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่เรากลับชอบในการสอดแทรกวัฒนธรรมต่างชาติ และแถมมาด้วยการใส่เพลงประกอบด้วยเพลง Kill This Love ของ Black Pink! คงจะเป้นประสงค์ของใครสักคนในกองที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ นับเป้นครั้งที่ 2 ของ Black Pink ที่เพลงของพวกเธอจะได้มาเป็นเพลงประกอบฉาก โดยเรื่องแรกนั้นคือเรื่อง Justice League ที่ใช้เพลง As if it’s your last ในฉากเปิดตัว The Flash มาแล้ว ตามความต้องการของนักแสดงเอง

การหายไปของใครบางคน

จากทั้งที่กล่าวมานี้คนที่หายไปอย่างน่าเสียดายคือจอช นอกจากจะไม่มีบทบาทแล้วยังไม่ถูกพูดถึงเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ภาคแรกก็กลับมาดีกัน รวมไปถึงเพื่อนของเจนที่เป็นลูกไล่ลูกชนก็หายไปด้วย และน่าเสียดายที่จดหมายถึงเคนนี่ถูกตีกลับมายังบ้านของเธอ ทำให้ในภาคนี้ไม่มีเคนนี่และภาคสุดท้ายก็คงจะไม่มีเช่นกัน

 

จะรักให้ครบทุกด้านต้องเอาทุกอย่างเป็นเดิมพัน

อย่างที่เรารู้กันว่าลาร่าเป็นนักอ่านนิยายช่างจินตนาการคนหนึ่งที่เฝ้าเพ้อฝันหาความสุขชั่วนิรันดร์ เธอมองมาโดยตลอดว่าความรักของเธอควรจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเธอไม่อยากที่จะเจ็บปวด เราเชื่อว่าหลายๆ คนในชีวิตจริงก็ยังต้องการสิ่งแบบนั้น แต่ลาร่าของเราเริ่มตาสว่างและโตไปอีกขั้นกับการมีความรัก ‘อยากรักก็ต้องเสี่ยง’ เหรียญยังมีสองด้าน นับประสาอะไรกับความรักที่อาจจะมีหลายร้อยรูปแบบก็ได้ แต่ละรูปแบบก็คงจะมีอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ของมัน คุณต้องพร้อมที่เผชิญกับมันก็เท่านั้นเอง นั่นคือเหตุผลที่ทำไมลาร่าถึงยังเลือกให้โอกาสปีเตอร์ต่อไป

 

อ่านรีวิวภาพยนตร์ Original Netflix อื่นๆได้ที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!