นาคี 2 ภาพยนตร์อันว่าด้วยศรัทธา และ พญานาค
สรุป
บันทึกตำนานพญานาคความเชื่อผสมผสานมหัศจรรย์กับความเรียบง่าย
Overall
8/10User Review
( votes)Pros
- ลุ้นระทึกไปพร้อมเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม
- นักแสดงโชว์ฝีมือกันทุกคน
- งานภาพสวย ซีจีใช้ได้
- ความเชื่อที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่นอีสาน
Cons
- หนังสั้นมากไม่รวมเครดิตก็ ชั่วโมงกว่า ๆ อาจจะไม่เต็มอิ่ม
- มีช่วงเนือย ๆ และเดดแอร์บ่อยจนน่าอึดอัด
- ถ้าไม่ได้ดูละคร อาจงงความสัมพันธ์ของตัวละคร
นาคี 2
ภาพยนตร์อันว่าด้วยศรัทธา และ พญานาค รีวิว ไม่สปอยล์
ในที่สุดก็มาสักที สำหรับ นาคี 2 ภาพยนตร์ทริลเลอร์-แฟนตาซี ผลงานกำกับในรอบ 8 ปี ของคุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง สร้างโดย บริษัท ดู เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ทำรายได้มากที่สุดของปี 2561 ด้วย 441.2 ล้านบาท ตอนนี้ได้ลงสตรีมมิ่งใน Netflix แล้วเรียบร้อย (คลิกรับชมได้ที่นี่) ซึ่งก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาคต่อของละคร นาคี เมื่อปี 2560 ที่มีกระแสฮิตถล่มทลายด้วยเรตติ้งและความนิยม ซึ่งนาคี นั้นเป็นนวนิยายของ ตรี อภิรุม ซึ่งด้วยความนิยมนี้เองที่ทำให้ ภาค 2 เกิดขึ้นมาได้ โดยใช้ฐานของละครเป็นหลัก ซึ่งผมก็จะขออธิบายคร่าว ๆ ให้เข้าใจถึงเนื้อหาในละคร ก่อนที่จะเข้าสู่รีวิวของภาคที่ 2
“นาคี บอกเล่าถึง คำแก้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) หญิงสาวที่มีพลังพิเศษในการสื่อสารกับงู จนคนในหมู่บ้านพากันเกลียดชัง จนเธอได้พบกับ ทศพล (ภูภูมิ พงศ์ภาณุภาค) นักโบราณคดีหนุ่มที่เข้ามาทำให้เธอได้รู้จักกับความรัก แต่แล้วเรื่องที่เธอวาดฝันไว้ต้องพังทลาย เมื่อเธอพบว่า เธอคือเจ้าแม่นาคี ผู้ที่เคยทำลายมนุษย์ในครั้งโบราณกลับชาติมาเกิด แถมยังต้องเผชิญหน้ากับ ลำเจียก หญิงสาวหมู่บ้านเดียวกันที่อิจฉาริษยาเธอที่ทศพลมอบหัวใจให้ จนเกิดเป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักที่ไม่ว่าทางออกจะเป็นทางไหน ทั้งคำแก้ว กับ ทศพล ก็มิอาจอยู่ร่วมกันได้”
ซึ่งเรื่องราวนี้ได้ถูกบอกเล่าต่อมาในภาค 2 นี้ แต่บอกเล่าอย่างไร ผมจะไม่สปอยล์ เอาเป็นว่า ตัวเอกของภาพยนตร์นั้น ได้คู่ขวัญอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ และ อุรัสยา เสปอร์บันด์ มาสวมบทตัวละครยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญหน้ากับศรัทธาของท้องถิ่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจากภาคแรก และกำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาตลอดกาล พร้อมด้วย อิ๊ด โปงลางสะออน และ ปอยฝ้าย มาลัยพร มารับบทสองตำรวจหนุ่มผู้คอยช่วยเหลือตัวละคร ซึ่งเรื่องย่อเป็นอย่างไร แล้วพวกเขาเกี่ยวข้องอย่างไรกับตัวละครจากนาคี ผมจะเล่าแบบไม่สปอยล์ โดยผมจะไม่ได้ดูเน็ตฟลิกซ์มาเล่า แต่จะเป็นที่ดูช่วงเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มาเล่า
“นาคี 2 เล่าเรื่อง 60 ปี หลังจากตำนานเจ้าเเม่นาคีได้จบลงไป ตำนานบทใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น สร้อย (อุรัสยา เสปอร์บันด์) หญิงสาวชาวบ้านผู้จงรักภักดีกับเจ้าเเม่นาคี เเละ ร.ต.อ. ป้องปราบ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ตำรวจหนุ่มไฟแรงจากกรุงเทพผู้ไม่เชื่อในเรื่องเหลือเชื่อต่าง ๆ ทั้งคู่ต้องมาเผชิญหน้ากับคดีฆาตกรรมปริศนาใน บ้านดอนไม้ป่า ที่พัวพันกับตำนานเจ้าเเม่นาคีที่เคยเกิดขึ้น ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ความจริงของตำนานนี้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งพบว่า ชีวิตของพวกเขาผูกพันกับคำสาปของเจ้าแม่นาคีอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้ และอันตรายที่คาดไม่ถึงก็คืบคลานเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้า ๆ”
ตำนานที่ยังคงมีชีวิตจนถึงยุคปัจจุบัน
หนังเปิดเรื่องมาโดยการเกริ่นเรื่องจากละครนาคี อย่างคร่าวๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่องของหนังอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวชอบความที่บทหนังทำให้เรานึกถึงหนังเเนวระทึกขวัญที่มีคนตายเเบบสมัยก่อน ๆ ทำให้เราต้องมาลุ้นว่าใครมาเป็นคนร้ายจะเป็นตัวละครเอกหรือเปล่า โดยช่วงเเรกนาคีเดินเรื่องฉับไวมาก เเต่ก็ไม่ได้เร็วขนาดที่จะไม่เข้าใจ เพราะหนังมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ปม ๆ เดียวเท่านั้น พร้อมเเทรกมุขตลกเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะ เเละความสัมพันธ์พระนางที่มองว่าเบาบางไปนิด เเต่ก็พอทำให้เข้าใจได้ เพราะหนังใส่ความขัดเเย้งของสองตัวละครตัวนี้ตลอดเวลา ซึ่งมันจะไปเฉลยชัดๆในช่วงองค์ท้ายของเรื่อง
ช่วงที่สอง หนังค่อนข้างจะเริ่มอืด มีเดดเเอร์โดยเฉพาะคู่พระนาง เเต่ก็มีความโรแมนติกปนกระอักกระอ่วนบ้างเเค่มองตาก็เข้าใจได้ว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร สลับกับความสัมพันธ์ที่คิดว่าพัฒนาของพระนางเพราะบริบทของหนังมันชวนให้เป็นเเบบนั้นจริงๆ โดยสอดเเทรกความรุนเเรงของคนที่อยู่ในพื้นที่ทีละนิด ถึงเรื่องความเชื่อที่มันค่อยๆ ขยายไปเป็นวงกว้าง จนทำให้เกิดเรื่องนาคีนี้ขึ้น
ช่วงสุดท้ายคือช่วงที่พีคที่สุด เพราะมันพุ่งพล่านมาก เเบบหนังใส่ความเป็นเเฟนตาซี ใส่ซีจี เต็มรูปเเบบ เเละดราม่าในเวลาพร้อมๆกัน ผิดกับช่วงระทึกขวัญในช่วงเเรกๆ ซึ่งส่วนตัวชอบช่วงท้ายสุดเลย เพราะเป็นช่วงที่ทุกปมจะเฉลยออกมาเเละมันก็ค่อนข้างที่จะดีพอเข้าใจในความหมายจนน้ำตาซึม ก่อนที่หนังจะจบอย่างรวดเร็วเเม้จะตอบคำถามของคอละคร เเต่ส่วนตัวมองว่ามันรวบรัดไปหน่อย อดคิดไม่ได้ว่าจะมีภาคต่อนาคี ซึ่งส่วนตัวมองว่ามีหรือไม่มีก็ไม่เสียหาย เพราะหนังมันก็จบในตัวได้อยู่เเล้ว
ภาพที่สะท้อนในตำนาน
ลายเซ็นพี่อ๊อฟไม่ทิ้งลายเดิม เพิ่มเติมคือมุมกล้องที่มีความพัฒนาขึ้นมาก นาคี 2 ดูให้อารมณ์เเบบหนังฝรั่งอินดี้ๆ ที่เเช่ภาพเเล้วให้ตัวละครเเสดงไป เเต่หนังก็มีหลายฉากที่ชวนให้คิดถึงละครเหมือนกัน เเต่ก็ถือเป็นภาพยนตร์ผิดจากการเเสดงตัวอย่างที่มุมกล้องดูไม่ใช่ภาพยนตร์ อาจเพราะมุมกล้องต่างกันด้วย เเถมใส่ Dead Air เสียงเงียบแทนอารมณ์อึดอัด ซึ่งมันก็เยอะไปหน่อย เเต่ก็เห็นอารมณ์ตัวละครได้ชัดเจน สื่ออารมณ์เเละภาพได้ดี นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ให้ตีความระหว่างตัวละคร ที่ถ้าสังเกตจะเห็นถึงนัยยะบางอย่างที่แอบแฝงไว้
คุณสยมภู ผู้กำกับภาพมือเยี่ยมจาก Call Me My Your Name เเละ Suspiria กลัว มากำกับภาพให้ นาคี 2 ซึ่งช่วยให้หนังมีลายเซ็นของเขาอีกตรงที่มันมีความฝรั่งโดยเฉพาะการเเสดงฉาก เเสง สีต่าง ๆ ที่เข้ากับหนังได้อย่างน่าประหลาด ทำให้หนังมีความอินเตอร์เพิ่มมากขึ้นจริงๆ ไม่ปฏิเสธว่าทำไมต่างประเทศถึงยกย่องให้เป็นผู้กำกับภาพที่เก่งกาจ เพราะเขาทำออกมาได้ดีจริง ๆ
ในงานด้าน CG คือ โคตรดี โคตรเจ๋ง มีน้อยเเต่ใช้คุ้ม ใส่กันจัดเต็มไม่เกรงใจทุน ใช้ทีมเดียวกับที่ทำในละครนาคี เเต่ได้เพิ่มรายละเอียดชวนตื่นตามากขึ้น เเต่ก็ค่อนข้างจะเป็นฉากในที่มืด เลยดูเป็นกลบเกลื่อนความไม่เนียน จนเห็นไม่ชัดด้วย พร้อมทั้งประเด็นที่ธรรมดา แต่กินใจ
- อดีตก็ให้มันเป็นเรื่องของอดีต อย่าให้มันกลับมาทำให้เจ็บปวดอีก ความรักมีอานุภาพเกินกว่าจะอธิบายด้วยเหตุผล ไม่ว่าจะรักอย่างบริสุทธิ์หรือรักด้วยความชิงชังก็ตาม
ผู้ตกอยู่ในวังวนของตำนาน
ตัวละครใน นาคี นั้นมีมากมายจนต้องแยกออกทีละคนเลย เพราะนาคีก็เชื่อมโยงกับเรื่องนี้
– ญาญ่า ในบทสร้อย เราจะได้เห็นผู้หญิงธรรมดาลึกลับซึ่งสื่อสารทุกอย่างผ่านเเววตาเเละอารมณ์ มีเพียงภาษาอีสานที่สื่อสิ่งที่คิดออกมาอย่างเต็มรูปเเบบ ญาญ่าทำได้ดีมากๆ ในเรื่องการพูดสำเนียง ฟังเเล้วเชื่อว่าเป็นคนบ้านดอนไม้ป่าจริงๆ เล่นน้อยเเต่มาก ยิ่งฉากสุดท้ายขอซูฮกจนน้ำตาไหลเลย
– ณเดชน์ ในบท ป้องปราบ รับบทเป็นตำรวจผู้ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดี มีความกวนประสาทเเต่ไม่ลบหลู่ มีความเท่ พอจะเป็นซีนอึดอัดหรือตะลึงก็เล่นได้ดี พอมาเล่นซีนตลกร่วมกับ ปอยฝ้ายเเละอิ๊ด โปงลาง ก็ดูไม่โดดไปจากคนอื่นๆ ชวนให้หมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน
– เเต้ว ในบท เจ้าเเม่นาคี ทุกฉากที่สื่อออกมา ทำให้เจ้าเเม่นาคีมีชีวิตจิตใจมากกว่าในเวอร์ชั่นละคร เเม้ฉากจะมีไม่มากก็ตาม
– เคน ผมทึ่งกับเคนมากในบทของทศพล เเทบจะไม่มีบทพูดอะไรเลย เเต่เราเห็นเรารู้สึกเลื่อมใส ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยบุญ น่าเป็นที่ศรัทธา
– ปอยฝ้ายกับอิ๊ด ตัวโจ๊กของหนังอย่างเเท้จริง ตลกตั้งเเต่สำเนียง ยันตลก Visual ที่มีเข้ามาเวลาเคร่งเครียด
– อุ้ม ตอนเเรกคิดว่าจะโอเวอร์เเอคติ้ง เเต่เปล่า เธอทำได้ดีมากในบทดราม่า ซีนอารมณ์เธอน่าสะพรึงมาก
นาคี 2 กับ เสียงแว่วของตำนาน
ดนตรีแบบโบราณ ๆ เข้ากับภาพยนตร์ดี ตื่นตาตื่นใจเเละเงียบงันจนน่ากลัว ให้หนังมีความลึกลับ ดื่มด่ำ ไม่ได้มีอะไรอะไรที่พิเศษ แต่ได้ความขลังของฉากเข้ามา ในส่วนของเพลงประกอบของ นาคี ภาคนี้ คือ เพลงสายเเนนหัวใจ ของก้อง ห้วยไร่ เป็นเพลงที่ถูกเเต่งขึ้นมาเพื่อหนังเรื่องนี้อย่างเเท้จริง เสริมให้เห็นภาพความรักเเละความสัมพันธ์ของพระพระนางให้อินได้ดีเลย เเต่ในเวอร์ชั่นเอนเครดิต เป็นเวอร์ชั่นร้องร่วมกับ ไข่มุก เดอะวอยซ์ ด้วยนะครับ
เรื่องของตำนาน
อาจจะเป็นความบันเทิงเเค่ ชั่วโมงครึ่ง เเต่มันก็น่าประทับใจที่หนังเรื่องนี้เหมือนมีมนต์สะกดมากๆ มันมีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับคนไทยได้ในเรื่องความเชื่อผสมผสานกับความเรียบง่ายที่เข้าถึงผู้คน โดยใส่ความเเฟนตาซีเข้าไปอย่างลงตัว ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้ควรค่าเเก่การดูซ้ำ หรือจะดูหนึ่งรอบ ก็ถือว่าหนังทำหน้าที่ของการเป็นภาคต่อของละคร นาคี ที่ดีมาก ๆ เเต่ส่วนของความเป็นภาพยนตร์ อาจจะยังดูไม่ถึงขั้นดี เเต่ก็อยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสดู ชอบไม่ชอบไม่เป็นไร เเต่อยากให้ไปลองดูว่า “ความเชื่อ” นั้น เป็นเรื่องมหัศจรรย์ขนาดไหน
แล้วความรัก จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ จริง ๆ ครับ
ตัวอย่างประกอบการรีวิวภาพยนตร์ นาคี 2
วันนี้ ใน Netflix
- ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับเกม หนัง และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เพิ่มได้ ที่นี่