รีวิว Birds of Prey – ทิ้งอย่างไร ไม่ให้เหลือโจ๊กเกอร์

รีวิว Birds of Prey ทีมนกผู้ล่า 

Birds of Prey (and the Fantabulous Emancipation of One Harley Quinn) โอ๊ย ยาวไปไหน หรือ ทีมนกผู้ล่า กับ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ผู้เริ่ดเชิ่ด หรือ Birds Of Prey ภาพยนตร์ลำดับที่ 8 ของจักรวาลดีซี ภาคต่อแยกของ Suicide Squad ทีมพลีชีพ มหาวายร้าย กำกับโดย เคธี่ ยาน ผู้กำกับสาวชาวเอเชียที่กำลังมาแรงจากผลงาน Dead Pigs ภาพยนตร์ดราม่า คอเมดี้ ที่กวาดเสียงวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes มาเต็มร้อย โดยครั้งนี้เธอเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้เนรมิตเรื่องราวความวุ่น เริ่ด เชิ่ด ของตัวละครฮาร์ลีย์ ควินน์ และผองเพื่อนให้เจ็บแสบ จนกวาดคะแนนคำชมไปอย่างล้นหลามในตอนนี้ไปอย่างสวยงาม

โปรเจกต์แสนเริ่ดนี้ เริ่มในปี 2015 โดยมาร์โก ร็อบบี ผู้รับบทนำอย่างฮาร์ลีย์ ควินน์ เป็นผู้เสนอไอเดียรวมดาวฮีโร่สาวนี้ และเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมหนังให้กับค่ายวอร์เนอร์ โดยดัดแปลงจากซีรีส์คอมมิคในชื่อเดียวกันของ จอร์แดน บี. กอร์ฟินเคล และ ชัค ดิกสัน สองมือเขียนการ์ตูนชาวอเมริกันที่ได้หยิบจับคอนเซปต์ของฮีโร่หญิงเกือบจะทุกคนในจักรวาลคอมมิคได้มารวมตัวกันเพื่อปราบเหล่าร้าย ขจัดคนพาล ล้างเมืองก็อตแธมให้ใสสะอาด แต่สิ่งที่แปลกคือ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ไม่เคยปรากฏเลยสักครั้งในซีรีส์ดี มันจึงเป็นอะไรที่แปลกแหวกแนว และไม่แคร์ความเป็นคอมมิคมากนัก โดยได้ คริสตินา ฮอดสัน ผู้เคยฝากผลงานอบอุ่นหัวใจอย่างหนังเดี่ยวในจักรวาลทรานฟอร์มเมอร์อย่าง บัมเบิลบี มานั่งแท่น พร้อมด้วยนักแสดงที่แห่มาอย่างคับคั่ง ตั้งแต่ แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด, จอร์นี สมอลเล็ตต์-เบลล์, โรซี่ เปเรซ, เอลล่า เจย์ บัสโก ไปจนถึง ยวน แมคเกรเกอร์ มาร่วมสร้างสีสันให้กับหนังภาคแยกเปี่ยมด้วยเฉดสีใหม่ ที่อาจจะเป็นหมุดหมายใหม่ของ ดีซีก็เป็นได้ เอาล่ะเหมือนจะอวยไปหน่อย เอาเป็นว่า เรามาอ่านเรื่องย่อให้เข้าใจกันคร่าว ๆ หน่อยดีมั้ย

“ฮาร์ลีย์ ควินน์ สาวสติเฟื่อง ผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงของอาชญากรรมโฉดแห่งเมืองก็อตแธมต้องตกกระป๋อง เมื่อเธอถูกคนรักทิ้งอย่างไม่ไยดี แต่ถึงแบบนั้นแล้ว เธอก็พยายามที่จะข้ามผ่าน โดยการหากิจกรรมหรือทำอะไรมากมาย เพื่อให้ตัวเองมีความหมายมากกว่าเป็นผู้หญิงที่ต้องรับใช้ผู้ชาย กระทั่งชีวิตเธอดันต้องเข้าไปพัวพันกับ โรมัน ไซออนิส อาชญากรหนุ่มผู้หลงตัวเอง และโรคจิตสุดขั้ว ๆ และเผชิญหน้ากับคำถามที่ค้างคาใจเธอมาตลอดว่า เธอจะยืนหยัดด้วยตัวเองได้หรือไม่ พร้อม ๆ นั้นเธอยังจะได้พบกับทีมจำเป็นที่เธอจะต้องร่วมมือด้วย แต่มันจะไปรอดเหรอ ในเมื่อว่า เธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็น วายร้าย”

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกเลยที่ดีซี เล่าเรื่องได้ปั่นมาก ๆ ผ่านตัวของฮาร์ลีย์ ควินน์ที่ดูจะรู้ไปหมดทุกอย่าง อยากจะเล่ายังไงก็ได้ ซึ่งเราจะมองว่าเธอพูดจริง หรือ พูดหลอก ก็ได้ แต่เราก็ยอมให้สถานการณ์ที่เธอมอบให้คนดูแบบจัดเต็มครอบงำ จนเหมือนเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ เพราะสไตล์ของหนังเรื่องนี้มีเซ็ตติ้งอยู่เพียงไม่กี่ที แต่ความสนุกของมันเลยคือการได้เห็นตัวละครที่ดูจะไม่ปกติสักคนมาปล่อยความบ้า ความระห่ำ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้เข้ามาทำหน้าที่นี้อย่างหรรษาและไม่ดูยัดเยียด โดยเฉพาะตัวของฮาร์ลีย์ ควินน์ ที่ไม่ได้พยายามจะเป็นศูนย์กลางอยู่ในทุกเหตุการณ์ในเรื่อง เธอกลายเป็นศูนย์กลางเพราะเธอเป็นคนเล่าเรื่อง แต่หากถามว่านี่เป็นหนังเดี่ยวของเธอมั้ย ไม่ใช่เลย เพราะตัวละครหญิงอื่น ๆ ต่างก็มีปูมหลัง และความน่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งถ้าดีซีจะหยิบมาเล่าต่อก็จะยิ่งดีเลย แต่ฮาร์ลีย์ ควินน์หลังจากไร้เงาของโจ๊กเกอร์แล้ว เธอดูเป็นตัวของตัวเองขึ้นเยอะ โดยไม่ต้องไปพึ่งหนังเรื่องก่อนเลย เรียกได้ว่าหนังได้ทำลายสิ่งที่เธอเคยเป็นใน Suicide Squad และหยิบด้านดี ๆ ของเธอมาใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์

ยอมรับว่าทึ่งกับท่วงท่าและลีลาการต่อสู้ของตัวละครในเรื่องมาก แต่ไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะได้ถึงมือกำกับคิวบู๊จากจอห์น วิค อย่าง แชด สตาเฮลสกี มาช่วยสร้างความเดือดให้กับฉากบู๊ ไม่ก็หัวเราะไปกับสิ่งที่ตัวละครทำขณะต่อสู้ ซึ่งไม่ซ้ำใครแน่นอน เรียกว่า จอหน์ วิค ผู้หญิง ก็ยังได้ ในขณะที่มุกตลกจะไม่ใช่ลักษณะพยายามตลก แต่จะเป็นตลกร้าย ตลกที่ดูแล้วน่าจะขำไม่ค่อยออก แต่ก็ขำได้ โดยเฉพาะ ฮันเทรสที่ออกมาก็ทั้งเท่ และเด๋ออย่างน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน แต่ในส่วนของแคสแซนดร้า เคน เด็กหญิงเอเชียจอมฉก ผู้ที่ในอนาคตของคอมมิคจะได้เป็นแบทเกิร์ล แต่ตอนนี้เธอเป็นตัวละครสุดกวนที่หลอกด่า แถมยังแสบซ่า แต่ก็มีมุมน่าเห็นใจ แต่ก็น่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ฮาร์ลีย์ ควินน์ ดูมีชีวิตเป็นของตัวเองมากกว่าหนังเรื่องก่อนเสียอีก เธอทั้งแสบ แต่เธอก็รู้ตัวดี ว่าเธอจะต้องทำอะไร เป็นผู้หญิงแกร่งอีกคนหนึ่งเลย

ประเด็นการต่อรองทางอำนาจระหว่างชายและหญิง โดยผ่านตัวละครวายร้ายอย่าง โรมัน ที่มาปล่อยความบ้า และความตลกร้ายได้อย่างเจ็บแสบ กับการที่ตัวละครหญิงถกเถียงปัญหาไปมาระหว่างกัน ทั้งยังจิกกัดตัวละครตำรวจที่ถ้าดูหนังแนวเดียวกันในปี 80 คงจะขำก๊ากน่าดู ในขณะที่ใส่ประเด็นจิกกัดตั้งแต่สังคมชนชั้นล่าง ยันไปจนถึงระดับบนที่ถ้าใครตั้งใจฟังดี ๆ มันก็ทั้งขำ และเศร้าในเวลาเดียวกัน ไหนจะจิกกัดหนังแนวแก้แค้นที่ออกมาเกลื่อนโรงด้วย หนังไม่ได้ยกความเป็นหญิงให้ใหญ่กว่าชาย หรือเอาความเลวให้ แต่พยายามจะบอกว่า ผู้หญิงก็มีอำนาจพอที่จะทำสิ่งที่ผู้ชายทำได้ และไม่ได้เป็นเหยื่อไว้รองรับอารมณ์หรือรังแกอีกต่อไป

ตัวละครโรมันที่อยากจะยิ่งใหญ่และมีอำนาจในก็อตแธม ให้ทุกคนต้องตกอยู่ในการคุ้มครองของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าได้อำนาจมาอย่างง่าย ๆ และมีคนรับใช้คอยทำทุกอย่างให้ โดยที่เขาแทบไม่ต้องทำอะไร แถมด้วยอารมณ์ที่ขึ้น ๆ ลง มันยิ่งเสริมความเลวของตัวละครนี้ได้โดยที่ไม่ต้องมีฉากต่อสู้ หรือโชว์พลังอะไรเลย เพราะอำนาจ นี่แหล่ะคืออาวุธของเขา แต่ก็แอบเสียดายนิด ๆ เพราะในคอมมิคนั้น ตัวละครนี้โหดกว่าที่คิด นั่นเป็นจุดอ่อนให้ตัวละครนี้ไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควร นอกจากหน้ากากที่สื่อถึงความโรคจิตและบ้าพลัง เช่นเดียวกับความเป็นแม่ของฮาร์ลีย์ที่มีให้กับเด็กหญิงอย่าง แคสแซนดร้า ในช่วงเวลาอันตราย และสอนให้เธอต่อสู้เพื่อที่จะเป็นคนแบบที่เธอเป็นจากการที่เธอเคยต้องติดอยู่กับความสัมพันธ์แย่ ๆ ที่ทำให้ชีวิตพัง ๆ ของเธอมีความหมาย ทั้ง ๆ ที่ความจริง เธอมีมากกว่านั้น และเธอก็ไม่เสียดายที่เธอได้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เป็นแบบอย่างที่น่าทำตาม หากต้องการจะหลุดพ้นจากเรื่องแย่ ๆ นะ

งานภาพถือว่าสวยทุกฉาก มีการไล่เฉดสี แถมยังใส่ฉากสีสันฟรุ้งฟริ้ง ไม่มืดหม่น แบบที่ดีซี พยายามจะเป็นเหมือนที่เคยเป็น เรียกว่าเป็นหนังที่มีอิสระเลยก็ว่าได้ เพราะเราจะเห็นสีหลายเฉดในหลาย ๆ ฉากด้วย ในจะคอสตูม ชุดที่จัดมาในเรื่องก็ล้วนเสริมตัวละคร และบุคลิกมาก แถมยังถูกใช้สอยในหนังได้อย่างลงตัวด้วย แต่ด้วยความที่มันจัดจ้านนี่เอง ทำให้บางส่วนของหนังมีการเล่าเรื่องที่อาจจะงงนิดหน่อยเช่นในช่วงแรก เหมือนดูเทปซ้ำไปมา แต่หนังก็พยายามทดแทนด้วยสถานการณ์หรือมุมมองต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน โดยสะท้อนผ่านความ “นก” ของตัวละครหญิงที่ต่างผิดหวังมาแล้วทั้งนั้น ทำให้ชื่อไทยของเรื่องมันสอดคล้องในตอนท้ายจริง ๆ ถือว่าวอร์เนอร์ไทยตั้งชื่อได้อย่างชาญฉลาดมาก ๆ ซึ่งสอบผ่านในการเล่าเรื่อง เพราะเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งผนวกกับงานภาพแล้ว เหมือนดูงานแฟชั่นโชว์ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าวแน่นอน

ถ้ายังจำหนังเพลงอย่าง Suicide Squad ผิด ๆ หนังเรื่องนั้นได้ คุณก็ยังจะได้ฟังเพลงเพราะ ๆ แนว ๆ เท่ ๆ มากมาย และหนังเรื่องนี้ก็มอบให้คุณผ่านนักร้องหญิงทั้งใหม่และเก่าอย่าง Diamonds ของ ศิลปินมาแรงอย่าง Megan Thee Stallion & Normani เพลงปิดฉากของเรื่องที่พูดสรุปเรื่อง และอ้างอิงถึงชื่อเพลงคล้ายกันของศิลปิน มาริรีน มอนโร ที่ตัวละครฮาร์ลีย์ได้นำเสนอในเรื่อง เพลง Boss Bitch ของ Doja Cat ที่มาสะท้อนความเป็นใหญ่ของหญิงของฮาร์ลีย์ เพลง Sway with Me ของ Saweetie & GALXARA ที่เป็นเพลงประกอบฉากตัวละคร และเล่าเรื่องในฉากได้ เพลง Joke’s On You เพลงเปิดเรื่องสุดเริ่ดที่ได้ Charlotte Lawrence มาถ่ายทอดการมูฟออนได้เป็นอย่างดี หรือ Experiment on Me ของ Halsey ที่ออกมาระเบิดฉากบู๊ให้ดุเดือด ประมาณได้ว่า ก็มาดิคะ เลยก็ยังได้ ซึ่งแม้จะฟังมาก่อนหน้าในสตรีมมิ่งแล้ว แต่พอมาอยู่ในฉากในเรื่อง มันทำให้เราตื่นเต้นกับฉากในหนัง จนอยากจะโดด โยกตามเลย แต่นอกจากนั้นก็ยังมีเพลงอื่น ๆ ที่ออกมาช่วยเสริมอารมณ์ให้ความเริ่ดเชิ่ดไม่เคยหลุดตีมของหนังด้วย หากใครอยากได้อัลบั้มเพลง ก็เตรียมรอซื้อได้พรุ่งนี้ครับ

สรุปแล้วนี่ถือเป็นหนังดีซีที่เปิดตัวต้นปีได้อย่างสวยงาม สมกับคำชมและคะแนนวิจารณ์ อีกทั้งยังแฝงประเด็นที่ดีพอ ๆ กับโจ๊กเกอร์ที่ฉายไปเมื่อปีก่อน อาจจะไม่ได้ถูกขับเน้นด้วยความแน่นของบท แต่มันก็รัดกุมพอที่จะปิดช่องโหว่ โดยการสร้างกฏของตัวเอง และเล่าเรื่องอย่างสนุกและหรรษา และเมื่อชมจบแล้ว ก็อยากจะถามว่าจะทำภาคแยก หรือ ภาคต่อก็ได้หมดถ้าสดชื่น เพราะนี่คือหนังรวมดาวฮีโร่ (วายร้าย) หญิงที่ทั้งเท่ เริ่ด และงดงามในเวลาเดียวกัน ทั้งยังลบคำสบประมาทคนดูที่รวมถึงตัวผมด้วย แม้ในช่วงแรกอาจจะอืด เล่างงไปบ้าง แต่ในตอนกลางจนจบ คุณจะไม่อาจละสายตาแน่นอน เพราะถ้าหากจะหาหนังฮีโร่หญิงที่เดือดดาล และนุ่มนวล อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ แนะนำให้ไปชม และไม่ต้องไปกังวลว่าต้องดูเรื่องอื่นถึงจะรู้เรื่อง แค่ 5 นาทีแรก หนังก็เล่ากระชับให้คุณแล้ว มีเอ็นเครดิตเป็นเสียงจะอยู่ก็ได้ ไม่อยู่ก็ดี และส่วนชื่อไทย

ตัวอย่างภาพยนตร์ประกอบ รีวิว Birds Of Prey ทีมนกผู้ล่า กับฮาร์ลีย์ควินน์ผู้เริ่ดเชิ่ด

                                             

พวกเธอมาเพื่อทุบให้แหลกทั้งบ๊อกซ์ออฟฟิศเลยล่ะครับ

ซื้อตั๋วไปเริ่ดเชิ่ดได้แล้วที่ Major และ Sf

• ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
• ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่