รีวิว Afterlife of the Party ภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดี้ฟอร์มดีแห่งปีจากเน็ตฟลิกซ์ (ไม่สปอยล์)
Afterlife of the Party
สรุป
ภาพยนตร์คุณภาพจากเน็ตฟลิกซ์ที่พล็อตอาจสูตรสำเร็จ คาดเดาเรื่องได้ว่าจะจบอย่างไร แต่ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลง เพราะประเด็นการเล่าเรื่องที่หนักแน่นเรื่องความตาย การให้ความสำคัญกับตัวละครและขมวดปมได้อย่างสวยงามทำให้เป็นหนังที่จะไปอยู่ในใจคนดูได้ ด้วยการแสดงที่มีคุณภาพและเป็นธรรมชาติ ดนตรีประกอบที่สามารถบิ๊วอารมณ์ของเรื่อง แม้ว่าจะมีการถ่ายทำช่วงสุดท้ายของเรื่องที่ดูไม่สม่ำเสมอก็ตาม
Overall
8.5/10User Review
( vote)Pros
- เนื้อเรื่องสนุกไม่มีเบื่อดูเพลินจนจบ
- เปี่ยมด้วยรสชาติทั้งดราม่า โรแมนติก และคอเมดี้
- ปมขัดแย้งระหว่างเรื่องเล่าออกมาอย่างตั้งใจและลึกซึ้ง
- ตัวละครมีเสน่ห์และมีมิติน่าเอาใจช่วย
- เพลงประกอบสุดไพเราะและเข้าถึงอารมณ์ของเรื่อง
- การเขียนบทที่เป็นเหตุเป็นผลไม่มีช่วงไหนรู้สึกแปลก ๆ
- ขยี้ในทุกประเด็น ทั้งเรื่องครอบครัว เพื่อน และตัวเอง
- มีเสียงพากย์ภาษาไทยคุณภาพ
Cons
- พล็อตค่อนข้างสูตรสำเร็จ ไม่มีอะไรใหม่หรือพิเศษเท่าไหร่
- การถ่ายทำช่วงสุดท้าย มุมกล้องกับการถ่ายภาพไม่ดีเท่าช่วงแรกของเรื่อง
Afterlife of the Party (อาฟเตอร์ไลฟ์ ออฟ เดอะ ปาร์ตี้) ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าคอเมดี้เหนือธรรมชาติ กำกับโดย สตีเฟน เฮเร็ก ผู้กำกับที่เคยมีชื่อจากการกำกับหนังเรื่อง 101 ไอ้จุดมหาสนุก (101 Dalmatians) โดยมี วิคตอเรีย จัสติซ นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดังจากซีรี่ส์ “VICTORIOUS วิคตอเรียยืนหนึ่ง” ที่หวนคืนงานแสดงภาพยนตร์ในรอบหลายปี พร้อมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง โปรแกรมเด็ดของเน็ตฟลิกซ์ในเดือนกันยา พร้อมทีมพากย์ไทยคุณภาพ เรื่องราวของสาวสังคมที่ใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับงานปาร์ตี้ เธอได้รับภารกิจในการช่วยเหลือคนรอบตัวเธอ เพื่อเธอจะได้ขึ้นไปบนสวรรค์หลังโลกแห่งความตาย
ตัวอย่าง Afterlife of the Party
รีวิว
ไม่มีคำว่า “ขาดปาร์ตี้” ในชีวิตของ แคสซี่ สาวสังคมสุดเริ่ด เชิ่ด ปัง ปั๊วะ ที่อายุจะ 25 ปีในอีกไม่กี่วัน ตัดสินใจตัดงานปาร์ตี้ระห่ำทั้งสัปดาห์โดยพ่วงลิซ่า เพื่อนสนิทสมัยเด็กของเธอไปด้วยแต่ก็ดันทะเลาะกันอย่างรุนแรง ทว่า อุบัติเหตุบางอย่างทำให้เธอถึงคราวตาย เธอจึงได้พบกับ วาล นางฟ้าผู้พิทักษ์ที่ยื่นข้อเสนอให้แคสซี่เคลียร์ปัญหาที่ค้างคาบนโลกมนุษย์ภายในเวลาห้าวัน ไม่อย่างนั้นจะต้องไปลงนรก แคสซี่จึงต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจและยอมรับความเป็นจริงเมื่อพบว่าเป้าหมายที่มีอันน้อยนิดแต่กลับใหญ่หลวงสำหรับเธอนั้นใช้ชีวิตมาเป็นปีแล้วหลังจากเธอตาย ได้แก่ ฮาเวิร์ด พ่อของเธอที่จมทุกข์หลังการสูญเสียลูกสาวของเธอ โซเฟีย แม่ที่ทิ้งเธอและพ่อไปตั้งแต่เด็ก และลิซ่า เพื่อนสนิทที่ปัจจุบันห่างเหินกันอย่างเห็นได้ชัด และกำลังแอบชอบหนุ่มข้างห้องนิสัยดีสุดประหลาดอย่าง แม็กซ์ แคสซี่ต้องใช้เวลาทั้งหมดค้นหาคำตอบว่าอะไรที่ทำให้พวกเขามีความสุขก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไปอย่างหมดทุกข์
ช่วงแรกหนังเล่าปูถึงความสัมพันธ์ของตัวละครต่าง ๆ แต่แค่ส่วนนึงให้เรารู้สึกว่า ตัวละครเหล่านี้จะมีความสำคัญในอนาคต และเล่าเป็นระยะ ๆ ไปให้ไม่รู้สึกเบื่อ สลับกับมุกตลกและปัญหาความสัมพันธ์ของตัวละครที่เพิ่มเข้ามาคล้ายกับหนังสไตล์ผู้หญิง ๆ ที่พล็อตดูไม่มีอะไร แต่แล้วช่วงหลังนั้นจะเน้นความขัดแย้งของตัวละครให้ลุ้นว่าตัวละครหลักจะสามารถข้ามผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้มั้ย ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นสูตรสำเร็จที่ตัวละครประเภทตายแล้วต้องเคลียร์ปมค้างคาใจ แต่ความดีงามของมันคือหนังขยี้ประเด็นทุกตัวละคร ทุกประเด็นอย่างหมดจด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อน เรื่องของครอบครัว เรื่องของตัวเอง และเรื่องของความตายที่ทำออกมาได้ไม่น่ากลัวและหดหู่ตรง ๆ แต่ก็รู้สึกเศร้าเหมือนกันที่ตัวละครหลักไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อประเด็นทุกอย่างมารวมกัน หนังจะมีบทสนทนาที่คมและกินใจชวนให้น้ำตาไหลอยู่หลายรอบ ใครที่อินเรื่องคนรอบตัวน่าจะร้องไห้ได้ไม่ยาก แต่ขณะเดียวกันก็จะมีความน่ารัก ความโรแมนติก และเคมีของตัวละครที่เสริมเนื้อเรื่องให้แข็งแรงขึ้นไปอีก แม้ว่าจะมีบางช่วงแรกที่แปร่ง ๆ หรือบทสรุปที่เดาได้และจบไวไปหน่อย แต่หนังก็ไม่มีอะไรที่เรารู้สึกแปลก ๆ หรือรู้สึกมันไม่ดีแบบหนังเน็ตฟลิกซ์ที่ผ่าน ๆ มาที่พล็อตไม่ค่อยจะมีอะไรสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เพราะด้วยความที่หนังสามารถให้เหตุผลกับทุกอย่างในเรื่องได้อย่างไม่มีอะไรกังขา ไม่ว่าจะเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือ การกระทำของตัวละคร
หน้าหนังอาจดูมีความเป็นหนังแบบดิสนีย์ พล็อตไม่ซีเรียสอะไร แต่จริง ๆ หนังเล่นเกี่ยวกับประเด็นที่จริงจัง ทั้งความตาย ความซึมเศร้า และการปิดกั้นตัวเอง ผ่านตัวละครต่าง ๆ ที่มีสีสันและคาร์แร็คเตอร์แบบมนุษย์ทั้วไป แต่ถูกเล่าออกมาด้วยความเป็นธรรมชาติบางตัวละครก็มีความคอเมดี้ บางตัวละครก็มีความดราม่า บางตัวก็ผสมกันอย่างลงตัว อย่างตัวละครเอก แคสซี่ เราจะเห็นเธอเป็นเหมือนตัวละครผู้หญิงสวยเริ่ดเชิ่ดออกมาพร้อมคอสตูมเครื่องแต่งกายสุดสวย ดูสดใสไม่มีปัญหาอะไรในชีวิต แต่แท้จริงเธอนั้นมีปมในใจบางอย่างที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวไม่ว่าเพื่อนหรือครอบครัวไม่ดี เธอไม่เคยสนใจใครนอกจากตัวเองจนกระทั่งวันที่ตาย เราจะค่อย ๆ เห็นพัฒนาการของเธออยู่เรื่อย ลิซ่า เพื่อนสนิทของแคสซี่ที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในกรอบทั้งทางเพศและสังคม เธอไม่ออกไปไหนหรือทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ ฮาเวิร์ด พ่อของแคสซี่ที่เคยมีชีวิตที่ดีและทุกข์ทนกับการที่ลูกสาวไม่ค่อยได้มาเยี่ยมกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตและกลายเป็นคนที่ปล่อยตัวไม่เปิดใจให้ใคร โซเฟีย แม่ของแคสซี่ที่ตอนมีเธอนั้นเธอยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตของลูกและสามีจึงทิ้งครอบครัวไปกลายเป็นปมปัญหาของแคสซี่จนถึงปัจจุบัน วาล นางฟ้าผู้พิทักษ์ผู้ใจดี เปรียบเหมือนไกด์นำทางที่ทำให้แคสซี่ได้เรียนรู้ ซึ่งตัวละครเหล่านี้อาจจะสามารถเข้าถึงหรือเชื่อมต่อกับผู้ชมได้ โดยเฉพาะคนที่มีเพื่อน มีครอบครัว หรือสูญเสียคนสำคัญในชีวิตไป เพราะหนังทำให้เราอินกับเรื่องราวกับตัวละครได้จริง
ประเด็นของเรื่อง พูดถึงหลายสิ่งหลายอย่าง การใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้เหมือนทุกวันเป็นวันตาย แต่ต้องไม่ละทิ้งคนที่รักตัวเองด้วย เหมือนแคสซี่ที่ตายก่อนจะได้แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด เธอต้องเรียนรู้ที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนอื่นหลังโลกแห่งความตาย แล้วตัวเองก็จะได้รับความสุขด้วย เช่นเดียวกับลิซ่าที่ไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง จนต้องมีเพื่อนสนิทคอยผลักดันจนสามารถตัดสินใจเดินหน้าในสิ่งที่ตัวเองรัก หรือประเด็นเรื่องความไม่เข้าใจระหว่างครอบครัวระหว่างพ่อกับลูก การรู้จักมูฟออนกับชีวิตเพื่อให้ตัวเองมีความสุข ปัญหาการรับผิดชอบต่อชีวิตครอบครัวตั้งแต่คนหนุ่มสาว การเปิดใจเราเอาสิ่งต่าง ๆ ที่เคยมีอคติต่อกัน เรื่องของความไม่เท่าเทียมทางเพศที่หยอดเข้ามาผ่านการงานว่า ผู้คนมักนิยามว่าผู้หญิงนั้นไม่เหมาะกับงานนั้นงานนี้ ทั้งที่พวกเธออาจสามารถทำได้ และทำได้ดีกว่าผู้ชายด้วย ถ้าเปิดโอกาสให้ และสุดท้ายการมอบโอกาสที่สองให้กันและกัน ไม่โกรธเกลียด ใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ และเป็นตัวของตัวเอง แต่เพิ่มความมั่นใจเข้าไป เราก็จะสามารถเป็นคนที่เจ๋งได้แล้ว
ในส่วนทีมนักแสดง วิคตอเรีย จัสติซ เธอมีเสน่ห์ สดใส น่ารักมาพร้อมเครื่องแต่งกายที่จัดเต็มแบบสาวสังคม แต่ก็มีมุมแอบน่ารำคาญไปในทางหน้าหยิกที่เป็นตัวแทนของคนที่สนใจแต่ตัวเอง โทษปัญหาจนลืมสนใจคนรอบข้าง แต่พอช่วงดราม่าเวลาเข้าฉากร้องไห้เธอเป็นธรรมชาติมาก เธอร้องไห้ไปเกือบหกรอบในเรื่อง แถมทุกครั้งมันได้ผลกับผู้ชมให้อินและเข้าใจเธอ โดยเฉพาะกับ มิโดริ ฟรานซิส คนที่เล่นเป็นลิซ่าที่เคมีเพื่อนสนิทของเธอกับวิคตอเรียเป็นส่วนที่ผมชอบมาก ๆ เหมือนเพื่อนสนิทที่มีปมปัญหาแต่ก็พร้อมจะเปิดใจคุยกันและผลักดันอีกฝ่าย แถมฉากโรแมนติกเธอก็ทำได้ดี น่ารัก และสวยมาก ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่ง โรบิน สก็อตต์ ในบทหนุ่มแม็กซ์ หนุ่มแปลกที่ตกหลุมรักลิซ่า บทเขาอาจจะมีไม่มากแต่เคมีระหว่างเขากับมิโดริคือส่วนที่น่ารักและกระอักกระอ่วนในแง่ที่ดีตามบท เพราะทั้งคู่คือหนุ่มสาวที่เขินอายกันและกัน ส่วนตัวละครอื่น ๆ อาจจะออกมาเป็นช่วง ๆ ของเรื่อง แต่ก็แสดงได้ดีมากจริง ๆ เพราะมีซีนดราม่าเป็นของตัวเองและมันทำงานได้ดีกับหนังเอามาก ๆ ไม่มีใครเล่นใหญ่หรือเล่นแปลก ๆ ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับด้วยที่ทำให้การแสดงกลมกล่อมขนาดนี้
ในส่วนของมุมกล้องกับภาพมันดูไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่ แต่ช่วงท้ายการถ่ายทำความคมชัดเรื่องความเนียนไม่เท่ากับช่วงต้น ๆ จนแอบคิดว่าเป็นหนังวิดีโอแน่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำคัญที่ทำให้หนังแย่แต่ขอพูดเพราะมันเป็นข้อด้อยที่เห็นได้ชัด ส่วนซีจีก็ตามมาตรฐานหนังเน็ตฟลิกซ์ไม่ได้สวยแบบหนังฟอร์มยักษ์แต่ก็ไม่ได้แย่ ส่วนเพลงประกอบทำงานได้ดีมากทั้งช่วงตลกกับช่วงดราม่าที่เรียกน้ำตาได้ตลอด บิ๊วสุด ๆ พอ ๆ กับหนัง แถมเพลงประกอบตอนจบแบบป๊อบที่ร้องโดยวิคตอเรีย จัสติซ และ สเปนเซอร์ ซัทเธอร์แลนด์ ก็เพราะมากจนไม่อยากจะปิดเรื่องเลย
สรุป
ขอยกให้เป็นหนังจากเน็ตฟลิกซ์ที่ดีที่สุดของปีในแนวดราม่าคอเมดี้ที่ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่ฉายตอนนี้มากจริง ๆ ครบทุกรส ทั้งสุขและเศร้า ความขยี้ในทุกประเด็นทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว ทั้งตัวเอง และทำให้เราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวได้อย่างเรียบเนียน ไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกแหม่ง ๆ หรือแย่ แต่คุณจะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละครด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและน้ำตา ผ่านการแสดงที่กลมกล่อมของนักแสดงและบทที่สูตรสำเร็จแต่เก็บครบ อย่ามองหน้าหนังเป็นแค่หนังโรแมนติกคอเมดี้พล็อตห่วย ๆ แบบเน็ตฟลิกซ์ แต่นี่คือหนังเพื่อครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และเมื่อคุณดูจบแล้วคุณจะอิ่มใจและอยากออกไปใช้ชีวิตของตัวเองให้คุ้มค่าในทุกนาที เพราะเหมือนที่หนังบอก พรุ่งนี้อาจไม่มีอยู่จริง ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ
ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์