รีวิวหนังสารคดี BLACKPINK LIGHT UP THE SKY – ประกายไฟฝันของแบล็กพิงก์
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY
สรุป
สารคดีที่เรียบง่าย เปี่ยมไปด้วยความประทับใจ พาเราไปทำความรู้จักวงเคป๊อบ แบล็กพิงก์ มากกว่าที่เคยรู้
Overall
7/10User Review
( vote)Pros
- ได้เห็นความเป็นมาของวงแบล็กพิงก์ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
- มีฟุตเทจที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยเฉพาะช่วงก่อนเดบิวต์
- เบื้องหลังก่อนจะโด่งดังและปัญหาของแต่ละคน
- มิตรภาพและความอบอุ่นที่อบอวลตลอดต้นจนจบ
Cons
- เสียดายบางประเด็นที่ควรเล่า เช่น ความขัดแย้งในตัวเอง ความขัดแย้งระหว่างวง หรือแม้แต่เรื่องของกว่าจะมาเป็นเพลงต่าง ๆ อยากให้มันชัดเจนมากกว่านี้ เพราะมันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสารคดีเล่าเรื่องของวงแบล็กพิงก์อยู่แล้ว แต่กลายเป็นว่ามีเพียงเล่าผ่าน ๆ แค่นั้น
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY แบล็กพิงก์ ไลท์ อัพ เดอะ สกาย ภาพยนตร์สารคดีจากเน็ตฟลิกซ์ กำกับโดย แคโรไลน์ ซูห์ ผู้กำกับซีรีส์สารคดี เปรี้ยว ร้อน มัน เค็ม (Salt Fat Acid Heat) ทาง Netflix สร้างโดยคาร่า โมเนส และอำนวย
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY ถือเป็นสารคดีเคป๊อบเรื่องแรกจากเน็ตฟลิกซ์ที่ถ่ายทอดเส้นทางดาวรุ่งพุ่งแรงของสี่สาวซูเปอร์สตาร์วงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK จากค่าย วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ในประเทศเกาหลีใต้ โดยมีสมาชิกได้แก่ เจนนี่ ลิซ่า โรเซ่ และจีซู สี่สาวผู้ปฏิวัติโลกจากการขึ้นแสดงในงานโคเชลล่า เทศกาลดนตรียักษ์ใหญ่ระดับโลกที่จัดขึ้นในอเมริกา จนมีชื่อเสียงโด่งดัง และมีผลงานมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งเพลงฮิตอย่าง “DDU-DU DDU-DU” และ “Kill This Love”
กระแสฮิตติดลมบนที่ทรงอิทธิพลไปทั่วโลก ยังเห็นได้จากโอกาสในการร่วมงานกับศิลปินเพลงป๊อประดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดัว ลิปา จากเพลง Kiss And Make Up, เลดี้ กาก้า จาก Sour Candy เซเลน่า โกเมซ จาก Ice Cream และ คาร์ดี้ บี จาก BET YOU WANNA โดยมีซิงเกิ้ลจากอัลบั้มแรกของตัวเองชื่อว่า “Lovesick Girls” ที่ดังไปทั่วอเมริกาภายใต้สังกัดค่าย Interscope Records หนึ่งในค่ายเพลงในเครือ Universal Music Group ทำให้สารคดีนี้เป็นที่น่าจับตามองว่า จะตีแผ่ชีวิตก่อนความฝันเป็นจริงเป็นอย่างไร โดยเหล่าบลิงก์ หรือ แฟนคลับของวงก็คงจะทราบกันอยู่แล้วว่าพวกเธอผ่านอะไรมาบ้าง ความท้าทายคือจะเล่าความลำบากอะไรนอกสื่อที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน
“ภาพยนตร์สารคดีที่รวบรวมบทสัมภาษณ์สุดพิเศษและฟุตเทจที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนของสี่สาวแบล็กพิงก์อย่างจีซู เจนนี่ โรเซ่ และลิซ่า ตั้งแต่สมัยยังเป็นศิลปินฝึกหัดไปจนถึงการก้าวขึ้นมาเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปทรงอิทธิพลไปทั่วโลกจนทุกวันนี้ ผู้ชมจะได้ชมขั้นตอนการอัดเสียงในอัลบั้มที่สะท้อนให้เห็นทั้งอุปสรรคและความสำเร็จของวงไอดอลเคป๊อบ รวมถึงมุมมองทัศนคติที่พวกเธอมีต่อวง และบทเพลงที่นำพวกเธอมาจนถึงระดับโลก ที่มีทั้งความสุข ความเศร้า รอยยิ้ม และคราบน้ำตา”
“ความฝัน” ก่อน “ชื่อเสียง”
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY เปิดเรื่องมาด้วยการฉายภาพความสำเร็จกันแบบไม่มีหยุดถึงความโด่งดังต่อโลกใบนี้ ทั้งบทเพลงทุกเพลง ทั้งทุกความเฉิดฉาย ที่มีที่มาจากวงการเคป๊อบ หรือ เพลงป๊อบเกาหลีที่ถือกำเนิดขึ้นมาได้สองทศวรรษ จนหลายค่ายเริ่มนำมันมาใช้เพื่อหารายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ และนำมันออกสู่สายตาชาวโลก ค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เช่นกัน จะมีการเปิดออดิชั่นจากทั่วเอเชีย เพื่อเฟ้นหาดาวดวงใหม่ หรือศิลปินที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของวงการ ซึ่งเราอาจจะรู้จักมาจากวง 2NE1 BIGBANG หรือ PSY ที่ปล่อยเพลง ซึ่งในที่นั้น เราคงจะฟังผ่าน ๆ กันมาบ้าง หรือไม่ก็ข้ามไป ต้องมีได้ฟังกันบ้างละ เพลงพวกนี้ผ่านหูอยู่แล้วล่ะนะ
ในที่สุดค่ายก็ได้พบสี่สาว เริ่มจาก เจนนี่ คิม สาวเกาหลีผู้ที่ดูนิ่งขรึมแต่แอบซ่อนความเป็นเด็กที่ทุกระเบียบนิ้วคือความสมบูรณ์แบบ ลิซ่า ลลิสา มโนบาล สาวไทยที่ครอบครัวเป็นวงดนตรีและตามรอยจนมาถึงที่เกาหลี คิม จีซู สาวที่เปี่ยมไปด้วยความฉลาดและมั่นใจที่มาสมัครค่ายแบบไม่รู้เรื่องอะไร โรเซ่ พัก หรือ พัก แช ยอง สาวสวยน่ารักผู้มาเพื่อความเป้าหมายในการเป็นศิลปินและซูเปอร์สตาร์ ทั้งหมดได้มารวมตัว เรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน เกิดเป็นมิตรภาพใหม่ พร้อม ๆ กับความฝันที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาในที่สุด ซึ่งก็เรียบง่ายสบาย ๆ ตามประสาสารคดี คือเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ตามประเด็นที่ถูกปูมาตั้งแต่เริ่มต้น
“ความคาดหวัง” นำมาซึ่ง “ความกดดัน”
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY ทำให้รู้ว่า กว่าจะได้เป็นศิลปินในค่ายที่ประเทศเกาหลีใต้ ต้องผ่านการฝึกฝนมาหลายปี บางคนหมดหวัง บางคนจากไป เหลือไม่กี่คนที่อยู่รอดจนถึงวันได้เดบิวต์ ซึ่งแบล็กพิงก์เองก็ผ่านความยากลำบากเหมือนกัน เพราะความกดดันทำให้พวกเธอต้องแข่งขันกันเอง ต้องติดกับการฝึกฝนจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองหรือครอบครัว แต่พวกเธอก็ไม่เคยคิดถอย และเลือกที่จะทำฝันนั้นให้เป็นจริง จนในที่สุด ก็ได้รับเลือกให้มาอยู่ในทีมเดียวกัน และได้อัดเพลงเป็นครั้งแรกกับ เท็ดดี้ ปาร์ค ผู้แต่งเพลงประจำวงมือฉมังที่มองเห็นศักยภาพของสาว ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นสมาชิกคนที่ 5 ของวงเลยก็ว่าได้ เขาได้ใช้ความรู้สึกและความแตกต่างของสาว ๆ อัดเพลงตลอดตั้งแต่ก่อนดีบิวต์ และปล่อยมันเป็นเพลงสู่ตลาดจนโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีหลายเพลงที่ถูกเก็บไว้และไม่ได้นำออกมาใช้ เพราะเมื่อวงดังขึ้นพวกเขาต้องแบกรับชื่อเสียง และทุกงานก็ย่อมต้องถูกคาดหวังว่าจะต้องออกมาดี แน่นอนว่าบางครั้งมันอาจจะไม่เติบเต็มแฟนคลับ แต่มันก็คืองานที่ดีที่สุดที่เขาจะรังสรรค์ออกมาได้ เขาคือคนหนึ่งที่รู้ว่าจะผลักดันทั้ง 4 สาวไปได้อย่างไร
อัตลักษณ์และตัวตนของแบล็กพิงก์
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY เล่าเรื่องราวต่อหลังจากที่ได้รวมตัวกันในนามของ แบล็กพิงก์ ทั้งสี่สาวก็ออกเดินสายถ่ายเอ็มวีเปิดตัวเพลงให้สังคมได้รับรู้ ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ชาร์ตจากเพลง BOOMBAYAH, PLAYING WITH FIRE และ (AS IF IT’S YOUR LAST) ที่กวาดรางวัลถ้วยประจำรายการเกาหลีมากมาย ก่อนจะมาประสบความสำเร็จกับเพลง DDU-DDU-DDU-DDU เพลงที่ได้สร้างกระแสให้พวกเธอมีชื่อโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงโลกอย่างเต็มรูปแบบ ยอดวิวตอนนี้ก็ปาเข้าไป 1 พันล้านบาทแล้วซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนได้เป็นประวัติการณ์ของวงในเทศกาลดนตรีโคเชลลาปี 2019 ซึ่งแบล็คพิงค์ถือเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปวงแรกที่ได้มีโอกาสไปแสดงบนเวทีแห่งนี้ แต่ว่าก็ทำให้พวกเธอเริ่มสูญเสียอัตลักษณ์ของตัวเอง เพราะด้วยชื่อเสียงและความโด่งดังที่มันไม่มีหยุดหย่อน แต่น่าเสียดายที่ประเด็นนี้มีนิดเดียวที่ตัวของลิซ่า จากนั้นก็หายไปเลย เข้าเป็นประเด็นดนตรีไม่มีพรมแดนหลังจากการแสดงที่โคเชลลา เดินสายแสดงทัวร์ไปทั่วโลกได้สำเร็จ โดยไปเยือน 23 เมืองใน 4 ทวีปด้วยการแสดง 32 งาน รวมทั้งโดมทัวร์ 4 ครั้งในประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่ารวมใจทั่วโลกจนเป็นบลิงก์เลยทีเดียว ซึ่งทั้งสี่สาวคิดว่า มันเป็นอัตลักษณ์และตัวตนของพวกเธอ ซึ่งมันก็ดีครับ แต่ชอบประเด็นการค้นหาตัวเองของสาว ๆ มากกว่า แต่ก็เข้าใจว่าลิซ่าเป็นผู้หญิงไทยที่ต้องเจอกับการคาดหวังคนเดียวของวง
จากนี้ไป แบล็กพิงก์จะ….
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY แม้ทุกคนมีความฝัน แต่ก็ย่อมต้องการชีวิตตามที่ใจต้องการแบบเรียบง่าย นั่นคือการกลับไปหาที่ ๆ เป็นของตัวเอง แม้จะมีผู้ชม แฟน ๆ คอยจับจ้องบนเวที อย่างที่ทั้งสี่คนร้องไห้บนเวทีตอนทัวร์ในประเทศไทย เห็นได้ว่า มันก็ถือเป็นฝันที่ใหญ่เกินจริงมากของสี่สาว โดยเฉพาะลิซ่า ผู้เป็นคนไทบ และมันอาจจะทำให้ต่อไปนี้ชีวิตของพวกเธอจะต้องพบอุปสรรคอีกมากมายที่รออยู่ หากทุกคนได้เห็นฟุตเทจในสารคดี ทุกคนจะเห็นความเรียบง่ายของผู้หญิงสี่คนที่อยากกลับมาที่จุดเริ่มต้นของตัวเอง และพูดคุยถึงอนาคตที่ไม่รู้จะเป็นยังไง ผลงาน ความรัก ความฝัน ซึ่งมันก็คือสิ่งที่แบล็กพิงก์จะเป็นต่อไปในวันหน้าครับ
ควรชมหรือไม่ อย่างไร?
BLACKPINK LIGHT UP THE SKY คือสารคดีที่เล่าถึงความฝันและจุดสูงสุดของผู้หญิงสี่คน ไม่ได้พยายามบีบคั้นอารมณ์ถึงความยากลำบาก แต่ก็ครบทุกอารมณ์ โดยเฉพาะบลิงก์หรือแฟนคลับดูแล้ว อาจจะรักสี่สาวมากขึ้น ในขณะที่คนทั่วไปก็จะเข้าใจสี่สาวว่ากว่าพวกเขาจะมาถึงจุดที่เรียกว่า LIGHT UP THE SKY มันเป็นอย่างไร เวลาที่มองสี่สาว มองวง พวกเขาก็จะได้รู้ว่า พวกเธอไม่ได้เป็นแค่อุตสาหกรรมทางดนตรี แต่เป็นมนุษย์ ที่มีความฝันและความหวังเป็นพลังขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นแล้ว หากมีเวลาว่าง หรือเคยฟังเพลง รู้จักคร่าว ๆ ก็แนะนำให้ไปชมกันนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้มีประเด็นอะไรมากมาย แต่ก็สามารถเปิดดูเพลิน ๆ ได้จนจบครบ 1 ชั่วโมง กับอีกครึ่งชั่วโมงเลยล่ะครับ
ตัวอย่าง BLACKPINK LIGHT UP THE SKY
สามารถชมได้แล้วที่ NETFLIX