playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Dora and the Lost City of Gold ดอร่า​และเมืองทองคำที่สาบสูญ – ว้าว! โตแล้วนี่นา ดอร่า

สรุป

ไปดูเถอะ ดอร่ามาพร้อมกับความสนุก และเสียงหัวเราะที่ไม่ว่าใครที่ได้ดูการ์ตูน หรือไม่ได้ดูก็เข้าถึงเรื่องนี้ได้

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • สนุกแบบหนังผจญภัยเก่า ๆ
  • มีแง่คิดเกี่ยวกับมิตรภาพและครอบครัว
  • มุขตลกชวนขบขัน
  • นักแสดงเล่นได้เป็นธรรมชาติทุกคน

Cons

  • อาจจะเด็กไปสำหรับคนบางกลุ่ม และคนที่ไม่ได้ดูการ์ตูน
  • ตัวละครบางตัวหมดบทซะดื้อ ๆ
  • ทุกอย่างง่ายดายไปหมด

ADBRO

รีวิว Dora and The Lost City of Gold ดอร่า​และเมืองทองคำที่สาบสูญ

รีวิว Dora and The Lost City Of Gold

“ช่วยเปิดกระเป๋าให้ฉันหน่อย พูดว่า..แบ็คแพ็ค”

แว่วเสียงของสาวน้อยที่พูดกับหน้าจอกับคนดู เป็นสีสันที่สร้างความสนุกของคนดู (หรือความรำคาญ ผมก็ไม่รู้นะ5555) มานับหลายปี ทุกคนได้เห็นเด็กสาวผมสั้นหน้าตาออกละตินที่สะพายกระเป๋าเป้ไปในป่า คู่กับลิงใส่รองเท้าบู๊ตในชื่อเดียวกัน ต้องพบเจอกับอุปสรรค หรือแม้แต่หมาจิ้งจอกใจร้ายที่ชื่อว่า สไวเปอร์ ที่จ้องจะลักลอบขโมยของจากกระเป๋าอยู่เป็นประจำ ทำให้เธอต้องขอความช่วยเหลือจากคนดูที่ดูเธออยู่นี่แหล่ะ แต่คราวนี้ เธอมาโลดแล่นในโลกภาพยนตร์เป็นครั้งแรกแล้ว แต่จะเป็นยังไงกันล่ะ จะดีหรือจะห่วย อ่านก่อนสิครับ

สวัสดีครับ พบกับผมอีกแล้ว กับ นายมหรรณพัน หรือ Thousand Mar นั่นเอง

เอาล่ะ สำหรับหนังวันนี้เป็นหนังที่ใครหลายคนจะรู้จักกันดีว่า “ดอร่า และเมืองทองคำที่สาบสูญ สร้างจากซีรีย์ทีวีการ์ตูนอนิเมชันทางการศึกษา ที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนดูสำหรับเด็กชื่อว่า Dora The Explorer หรือ “ดอร่า สาวน้อยนักผจญภัย” ที่ฉายในช่อง Nickelodeon และในเน็ตฟลิกซ์ ที่ถูกหยิบมาเป็นมีมสร้างเสียงฮา ของตัวละครหลักอย่างดอร่า เด็กสาวชาวละตินที่อาศัยอยู่ในป่ากับเจ้าลิงพูดได้อย่างบูสต์ที่ซึ่งก็เป็นสีสันที่ดีพอสมควรในหมู่มีมคนไทย

ด้วยกระแสที่นิยมของต่างประเทศ จึงเกิดการหยิบยกการ์ตูนเรื่องนี้ มาสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดง โดยมีโครงเรื่องใหม่ ตัวละครเดิม โดยต่อยอดจากเหตุการณ์ในอนิเมชั่นดั้งเดิม ซึ่งทำให้เกิดเสียงของสองฝั่งว่าจะปังหรือจะพัง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญเท่าการได้เข้าไปชมในโรงภาพยนตร์ครับ อย่างที่บอกตัวอย่างอาจจะไม่ได้บอกหมดทุกอย่างก็ได้ เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย เรามาดูเรื่องย่อกันเลยดีกว่า

ตัวอย่าง Dora and The Lost City of Gold ดอร่า​และเมืองทองคำที่สาบสูญ

ดอร่า สาวน้อยนักผจญภัย ตอนนี้เธอได้โตเป็นสาวแล้ว เธอต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวใช้ชีวิตในสังคมเมืองใหญ่ที่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่เธอหวัง ทั้งผู้คน ทั้งสภาพแวดล้อม หนำซ้ำความฝันที่จะเป็นนักสำรวจเพื่อออกตามหา เมืองทองคำที่สาบสูญ ในดินแดนป่าลึกลับที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ก็ถูกขัดขวางโดยทหารรับจ้างที่หวังจะใช้เธอเป็นเครื่องมือเพื่อเข้าถึงมหาขุมทรัพย์ นี่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเธอนั้นคู่ควรกับการเป็นนักสำรวจหรือไม่

 

เมื่อ ดอร่า อายุ 15

จากสาวลุยป่าสู่เมืองใหญ่

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการต่อยอดเรื่องราวการเติบโตของสาวน้อยดอร่า เพราะฉะนั้นแล้วเราจะได้เห็นพัฒนาการของความสดใสน่ารักแบบเด็กสาวจนไปถึงวัยรุ่นที่ต้องพบเจอกับความว้าวุ่นกลุ้มใจในการอยู่ในสังคมใหม่ที่เธอไม่คุ้นเคย แต่ขึ้นชื่อว่าดอร่าแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการผจญภัยในฐานะนักสำรวจ ที่นอกจากจะสำรวจสมบัติแล้ว ยังต้องสำรวจความเป็นตัวเองอีกด้วย เราจะเห็นความเปิ่น โก๊ะ อย่างน่าเอ็นดูแบบที่ใครดูการ์ตูนมาคงเข้าใจเลยว่า นี่แหล่ะดอร่า แต่เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นตลอดไป เพราะต่อมาหนังจะพาคนดูไปเห็นว่าดอร่า โตแล้วนี่นา แบบที่เธอเคยกล่าวให้ผู้ชม ตอนที่เธอยังเป็นเด็กนี่ล่ะ ไหนจะยังคงนิสัยความมองโลกในแง่ดีที่เธอมีตลอดทั้งเรื่อง

การผจญภัยแสนอบอุ่นหัวใจ

ดอร่าและผองเพื่อน

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต่อยอดจากอนิเมชั่นแต่คนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพราะเนื้อหาคือใหม่ทั้งหมด เราจะได้พบกับการเดินทางตามเธอไปในทุกหนแห่ง เธอก็ยังเป็นดอร่าที่เรารู้จักกันดี แม้ว่าอายุจะโตขึ้นมาก แต่เธอก็ไม่เคยละทิ้งความเป็นตัวเอง ว่าง่าย ๆ ความโลกสวย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นเสน่ห์ของตัวละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ในอนิเมชั่นแล้ว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับอนิเมชั่นของค่ายเดียวกันก่อนหน้าอย่าง “The Wild Thornberrys Movie จิ๋วแสบตะลุยป่า” ที่เคยฉายเมื่อหลายปีก่อน (ปี 2002) ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวผ่านการผจญภัยของกลุ่มเพื่อน และครอบครัว พร้อม ๆ กับเผชิญหน้ากับภัยอันตราย

ในส่วนของการผจญภัยเมื่อเข้าป่าก็ดีไม่แพ้กัน หนังก็ยังคงเล่นกับสถานการณ์ได้อย่างชาญฉลาดในการเอาตัวรอดของตัวละครในแบบเด็ก ๆ (นี่มันหนังสำหรับเด็กล่ะนะ) แต่ผู้ใหญ่ก็เพลิดเพลินกับเรื่องนี้ได้ เพราะหนังก็ยังมีความเข้มในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่แบบหนังผจญภัยทั่วไป ที่มีเจ็บตัวหนัก ๆ แต่เป็นการเล่นมุก หรือ การข้ามผ่านอุปสรรคไปพร้อม ๆ กันแบบหนังล่าสมบัติ สลับกับฉากไขปริศนาแบบไม่ซับซ้อนเกินไป ฉากแอ็คชั่นก็ออกจะขำ ๆ มากกว่า ว่า เออเนอะ ทำได้ด้วย ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอะไรแฝงอีกมากมายในการเดินทางครั้งนี้

การให้ความสำคัญกับการเติบโต และพัฒนาการของตัวละครรอบตัวของดอร่าที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ด้วย ทั้งในมุมอบอุ่น สงสาร ตลก มีเหตุผล ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก เพราะส่วนใหญ่หนังแนว ๆ นี้จะไม่ค่อยแสดงให้เห็นมุมแบบนี้มากนัก ซึ่งในเรื่องนี้ปรับปรุงเพิ่มในส่วนของการให้ตัวละครอื่น เข้ามามีบทบาทร่วมกับดอร่า หนังจะไม่สมบูรณ์ได้เลย หากขาดตัวละครเหล่านี้ เพราะตัวละครเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างมุมมองของความสัมพันธ์ตัวละครให้หนักแน่น สร้างสีสันมากขึ้นไปอีก

นักแสดงเป็นสิ่งที่ทำให้หนังพิเศษ

Dora and The Lost City Of Gold
ตัวละครที่มาสร้างสีสันให้ทั้งเรื่อง – Dora and The Lost City of Gold ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ

อิซาเบลา โมเนอร์ ที่ผ่านการแสดงที่เรารู้จักกันดีจาก ทรานฟอร์เมอร์ : อัศวินรุ่นสุดท้าย ที่ร่วมสู้ไปกับมาร์ค วอห์ลเบิร์ก มาในเรื่องนี้เธอมารับบทดอร่า เด็กสาวผมม้ายิ้มกว้างสดใสร่าเริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็มีมุมเศร้า ๆ เคร่งเครียด ที่ทำให้เชื่อได้ว่าเธอไม่ได้เสแสร้งแกล้งเป็นเด็กอายุ 15 อาจเพราะเธออายุใกล้เคียงด้วยส่วนหนึ่ง, ไมเคิล พีน่า จากแอนท์แมน 1 และ 2 บทไม่ได้แปลกไปจากบทที่เคยเล่นเท่าไหร่ ก็ยังคงรักษามาตรฐานความพูดมากเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีความอบอุ่นแบบคนเป็นพ่อที่มีต่อลูก เช่นเดียวกับ อีวา ลองโกเรีย กับบทแม่ของดอร่าที่ทั้งอบอุ่น ใจเย็น แต่ก็มีตบมุกกับเขาด้วย

แดนนี่ เทรโฮ มาพากษ์เสียงเป็นเจ้าลิงบู๊ตได้อย่างน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับ เบนิซิโอ เดล โตโร ที่มาพากย์เสียงเป็นสไวเปอร์ เจ้าหมาจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ได้อย่างผิดคาด เพราะพี่แกเสียงก็เท่ มาพากย์เรื่องนี้ดูบ๊อง ๆ ไปเลย

ยูจินิโอ เดอเบซ นักแสดงชาวสเปนที่รับบทเพื่อนของพ่อแม่ดอร่าสุดติ๊งต๊อง และจริงจังได้เกือบจะขโมยซีนดอร่าได้ด้วย, เจฟฟ์ วอห์ลเบิร์ก ผู้บังเอิญเป็นหลานชายในชีวิตจริงของมาร์ค วอห์ลเบิร์ก รับบทเป็นดิเอโก้ ลูกพี่ลูกน้องของดอร่า ตัวละครหลักอีกตัวที่อยู่ในอนิเมชั่น, เมเดอลีน แมดเดน ในบทของหญิงสาวรวยเริ่ดเชิ่ดแต่ไม่หยิ่ง และ นิโคลาส คูมบ์ ที่มาในบทหนุ่มเนิร์ดผู้เซ่อซ่าที่สร้างซีนฮาเกือบตลอดทั้งเรื่อง แต่ตัวละครก็มีบางบทที่น่าเสียดายที่มีบทบาทในเรื่องไม่มากจนแอบขัดใจ

 

 ไม่ดูการ์ตูนมาก็อิน แต่ถ้าดูมายิ่งอิน

ดอร่าต้องมีแผนที่ และสะพายกระเป๋าเป้ – ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ

นี่คือหนังที่สร้างจากอนิเมชั่น เพราะงั้นจะไม่แปลกเลยถ้าเราจะได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราได้เห็นมาแล้วถ้าหากได้ดูมา แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะทำลายความเป็นภาพยนตร์ เพราะหยิบมาใช้ไม่เยอะ แต่ก็ทำให้ขำก๊ากเมื่อนึกถึงในอนิเมชั่นเมื่อตอนที่ได้ดู ในส่วนของซีจีนั้นอยู่ในระดับธรรมดาไม่ได้โดดเด่นเท่าไรเพราะใช้ไม่มาก แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แค่รู้สึกว่ามุมกล้องหนังมันแคบ ๆ ไปหน่อย เกือบจะเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ไปเลย แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นข้อด้อยของเรื่องเท่าไหร่ ส่วนที่เป็นข้อด้อยคือ หนังจะแน่นกว่านี้มากหากให้ความสำคัญในตัวละครสักเล็กน้อย อีกทั้งเพราะหนังทำมาเพื่อกลุ่มเด็ก จึงอาจจะดูสดใส ลัลล้า การไขปริศนาดูธรรมดาบ้าง เลยอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ของคนที่อยากเห็นการผจญภัยตื่นเต้นเร้าใจเท่าที่ควร แต่ทั้งหมดทั้งมวลหนังก็ยังอยู่ในระดับที่ดีเกินคาดที่น่าพอใจ ไหนจะประเด็นของตัวละครที่อาจไม่ลึกซึ้ง แต่ก็เข้าถึงคนดูได้แน่นอน

สรุปควรไปดูหรือไม่

นี่เป็นหนังผจญภัยครอบครัวที่ไม่แย่เหมือนหน้าปก ถ้าคุณชอบดอร่าหรือชอบหนังแนวผจญภัยล่ะก็ ผมขอแนะนำเลยว่าให้ผู้อ่านจูงคนใกล้ตัว จะลูกจูงหลาน จูงพ่อจูงแม่จูงเพื่อนจูงแฟนจูงเพื่อนไปดูในวันหยุด หรือ วันว่าง ๆ หลังเครียดจากงาน เพราะหนังเรื่องนี้จะทำให้รักกันมากขึ้น แถมยังได้รอยยิ้ม ข้อคิดและเสียงหัวเราะมากมาย กลับไปอีก ไม่เสียดายเงินที่จ่ายแน่นอนข้อคิดดี ๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ที่รอคุณผู้อ่านอยู่ในโรงภาพยนตร์ครับ 

Dora and The Lost City of Gold ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ

Dora and The Lost City Of Gold

คราวหน้าจะพาไปท่องมหาสมุทรแบบไหนต้องติดตาม สำหรับวันนี้ลาไปก่อน

สวัสดีครับ

นายมหรรณพัน ยังมีกระทู้ดี ๆ มากมายในพันทิปของผมนะครับ

เยี่ยมชมบทความต่าง ๆ ที่มีความบันเทิงมากมายได้ ที่นี่

Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!