playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Everything Will Be Fine เรียนรู้ เข้าใจ เดินหน้าไป เดี๋ยวดีเอง (ไม่สปอยล์)

สรุป

มินิซีรีส์แปดตอนจากเม็กซิกันที่สามารถตีความคู่รักเม็กซิกันผ่านการแสดงที่สมจริงของนักแสดง และเรื่องราวตลกเสียดสีชีวิตความรักและการแต่งงาน อัดแน่นไปด้วยประเด็นสุดทันสมัยทั้งในด้านความเป็นชาย ความเป็นหญิง ที่สามารถเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ด้วยมุมกล้องที่ไม่หวือหวาแต่สะท้อนสังคมคนเม็กซิโก พร้อมด้วยเพลงประกอบสุดเร้าอารมณ์และสไตล์อาร์ตสุดแนวแบบที่ไม่ได้เห็นในซีรีส์ที่เน็ตฟลิกซ์โปรโมท

Overall
8/10
8/10
Sending
User Review
5 (1 vote)

Pros

  • ตีแผ่ชีวิตแต่งงานของคนหมดไฟในเม็กซิโก
  • ประเด็นที่มากกว่าแค่ครอบครัว แต่ยังรวมไปถึงความเท่าเทียมทางเพศ
  • มุกตลกจิกกัดเบา ๆ และครบไปด้วยอารมณ์โรแมนติก อีโรติก และดราม่า
  • นักแสดงที่เป็นธรรมชาติในบทบาท
  • มุมกล้องแบบซีรีส์ที่ใช้ได้ผลในเรื่อง
  • เพลงประกอบที่ไพเราะและเร้าอารมณ์
  • เคลียร์ทุกปม จบทุกประเด็น

Cons

  • พล็อตค่อนข้างเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นหรือหวือหวาอะไร
  • จบซีซั่นแบบทิ้งท้ายปลายเปิด เหมือนจะมีซีซั่นต่อไป

ADBRO

Everything Will Be Fine (ทุกอย่าง…จะดีเอง) มินิซีรีส์เม็กซิกันแปดตอนจากเน็ตฟลิกซ์ ที่หยิบเรื่องราวของคู่รักที่หย่าร้างในประเทศเม็กซิโกในยุคโควิดมาจิกกัดเสียดสีอย่างสนุกมือ ผลงานที่สร้าง กำกับและเขียนบทโดย ดิเอโก้ ลูน่า นักแสดงเมกซิโกและโปรดิวเซอร์ชื่อดังที่เคยผลงานดังในฮอลลีวู้ดไว้ในบทแสดงนำอย่าง โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส พร้อมนักแสดงอย่าง ลูเซีย อูริเบ,ฟลาวิโอ เมดินา,อิซาเบลลา วาซเกซ โมราเลส ถามว่ารู้จักสักคนมั้ย ไม่เลย5555 แต่เราจะสนใจทำไมว่าเขาเป็นใคร ในเมื่อผลงานการแสดงของพวกเขาในซีรีส์ก็ออกมาแล้ว ติดตามกับรีวิวของผมเลย

 Everything Will Be Fine (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Everything Will Be Fine (ทุกอย่าง…จะดีเอง)

รีวิว Everything Will Be Fine

เมื่อความรักและความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จูเลีย กับ รุย คู่สามีภรรยาที่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน อันเดร ตัดสินใจที่จะหย่าร้างแยกจากกัน หลังปัญหาที่รุมเร้าทั้งในด้านนิสัยทั้งคู่ การงานที่มีแต่ความเคร่งเครียด และความลับที่ทั้งคู่มีระหว่างกันจนทำให้กลายเป็นการเปิดศึกทางกฏหมายและหาทางที่จะครอบครองสิทธิ์ในการดูแลลูกสาวให้ได้ แต่ในระหว่างนั้นพวกเขาต่างก็ห่วงแต่เรื่องของตัวเองและความต้องการที่แท้จริง จนหลงลืมสิ่งสำคัญของการเป็นพ่อแม่ที่ดีไปด้วย ทำให้คนรอบตัวทั้งคู่ต้องมาคอยสอนบทเรียนสำคัญที่มากกว่าที่พวกเขาเคยได้เรียนรู้ในตอนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน แม้งานแต่งงานจะเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับความรัก แต่หลังจากความรักแล้วการเป็นพ่อแม่จะยังมีความสำคัญอยู่หรือเปล่า หรือสุดท้ายแล้วทั้งคู่จะกลายเป็นศัตรูที่ทำลายครอบครัวที่พวกเขาสร้างจนพังย่อยยับเกินเยียวยา

นี่คือซีรีส์แปดตอนความยาวไม่เกินครึ่งชั่วโมงที่หยิบนำชีวิตคู่หลังแต่งงานของคนเมกซิกันมาตีความเสียดสีอย่างตลกร้ายด้วยมุกตลกแบบชีวิตประจำวันที่มักจะมาแบบโดยไม่ได้ตั้งใจ ผ่านการเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรซับซ้อน ปมค่อย ๆ คลี่ออกมาเรื่อย ๆ ก่อนที่จะมีปมใหม่และไล่ลำดับของเรื่องราวตั้งแต่ช่วงที่เนื้อเรื่องอาจจะเอื่อย ๆ ในช่วงต้น เนื่องจากต้องปูความสัมพันธ์สำคัญที่นำไปสู่จุดแตกหักของตัวละคร แต่หลังจากตอนสองเป็นต้นไปก็จะเริ่มชินและดำดิ่งสำรวจเข้าไปในสังคมของคนเมกซิกันที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ขวนขวายหาความสำเร็จด้วยพละกำลังและความสามารถจนมันค่อย ๆ บั่นทอนความสัมพันธ์ พร้อมกับสไตล์งานอาร์ตแบบนามธรรมที่เป็นสัญญะหรือใช้บอกหน้าที่การงานของตัวละคร โดยเฉพาะช่วงอินโทรที่จะใช้วิดีโอฉากงานแต่งของตัวละครหลัก ตัดย้อนไปมาพร้อมแทนความวุ่นวายของทั้งคู่ตั้งแต่ที่เริ่มแต่งงานเป็นเครื่องหมายของความขัดแย้งที่ทั้งคู่มีต่อกัน

ในแต่ละตอนก็จะเป็นประเด็น ๆ ไป แต่ทุกประเด็นมันจะเป็นการสำรวจชีวิตของสามีภรรยาจริง ๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขกับลูกสาว จนมีปัญหา จนมาถึงจุดแตกหัก ซึ่งซีรีส์ก็หยิบเอาเรื่องเล็ก ๆ แบบที่คนคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญมาใช้ในการสร้างมูลเหตุจูงใจและความขัดแย้งได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนิสัยของทั้งคู่ที่แตกต่าง แต่ไม่เคยหาทางพูดคุยปรับความเข้าใจ ตัวของรุยก็เป็นผู้ชายที่พยายามจะทำทุกอย่างในหน้าที่การงานของการเป็นนักพ็อดแคสต์ในคลื่นวิทยุท้องถิ่น เป็นพ่อที่ดี เป็นคนที่คอยสนับสนุนทุกคน ทั้งลูก ทั้งภรรยา ทั้งสหายรอบข้าง แต่เพราะความที่เขาติดอยู่ในหล่มของความเป็นชาย เขาจึงทำเรื่องผิดพลาดและมีปากเสียงกับ จูเลียที่ฐานะการงานของเธอดีกว่าในฐานะดีไซเนอร์บริษัทชื่อดัง ทำให้เธอนั้นสามารถดูแลทุกคนในครอบครัวได้ดี และมีความเบื่อหน่ายเพราะเรื่องบนเตียงที่หมดไฟ หรือมุมมองของตัวละครเด็กที่เป็นลูกของพวกเขาอย่าง อันเดร ที่ต้องมารับผลกระทบจากความขัดแย้งของพ่อแม่ กลายเป็นคนกลางที่ต้องพยายามดิ้นรนในสังคมที่มีปัญหา โดยมีพี่เลี้ยงเคยเป็นคนดูแล ในขณะที่ตัวละครเอกทั้งสองคน ดูไม่น่าเอาใจช่วย พวกเขาไม่สมบูรณ์แบบ ทำเรื่องที่แย่ แต่สามารถเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าด้วยกระบวนการเล่าเรื่องจะค่อย ๆ กะเทาะวิธีแก้ปัญหาว่าพวกเขาควรจะปล่อยวาง หรือ ควรทำยังไงให้ชีวิตของพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะเดินหน้าต่อไปได้

ประเด็นของเรื่องที่สำคัญ คือ การแต่งงานอาจจะเป็นได้ทั้งคุก เป็นทั้งบ้าน ขึ้นอยู่กับเราอยู่กับคนคนไหน คนที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ หรือคนที่ทำให้เราอึดอัดใจ และมันจะคุ้มมั้ยที่จะเดินออกจากความสัมพันธ์ในขณะที่ต้องยึดเหยี่ยวลูกของตัวเองไว้ ซึ่งมันจะคล้าย ๆ กับ แมริเอจ สตอรี่ หนังเน็ตฟลิกซ์ที่ว่าด้วยคู่รักที่หย่าร้างเพราะไปด้วยกันไม่ได้ มันขึ้นอยู่แค่ว่าถ้ารักกันไม่ได้แล้ว เราจะสามารถคุยกันปรับความเข้าใจกัน เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเป็นคนเลวร้ายหรือศัตรูต่อกันได้หรือไม่ นอกจากนี้ยังพูดถึงสถาบันครอบครัวที่หากมีปัญหาไม่เข้าใจกัน ก็อาจจะนำมาสู่ปัญหาสังคมที่เกิดจากการกระทำต่อคนในครอบครัวที่เขาอาจจะทำเพราะเรียกร้องความสนใจหรือยังไงก็ตาม ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดี ทุกคู่แต่งงานก็ต้องเจอข้อเสียเหล่านี้เหมือนกัน แต่การจัดการและผลลัพท์ย่อมจะต่างกันตามความเข้าใจในหัวอกของอีกฝ่าย ซึ่งซีรีส์ได้สะท้อนภาพว่าการใช้อารมณ์นั้นนำมาซึ่งความเจ็บปวดแค่ไหนกับทุกฝ่าย

นอกจากนี้ ซีรีส์ยังแอบกะเทาะเปลือกระหว่างความเป็นชายและความเป็นหญิงที่ให้มุมมองสองฝ่าย มากกว่าจะอคติอีกฝ่ายไปมา ให้เหตุผลว่าเขาคิดแบบไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เขาทำมันจะถูก หรือสิ่งที่ผู้หญิงทำจะถูกเช่นกัน แต่ยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลให้มีการเหยียดเพศ และเรื่องของการพูดอย่างไม่คิด ทำอย่างไม่คิดก็มักจะนำมาสู่ปัญหาได้เช่นกัน แถมตอนท้ายเรื่องยังจบที่คำว่า ครอบครัวไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคน แต่มันเป็นได้มากกว่านั้น เป็นมุมมองใหม่ที่ซีรีส์ทั่วไปไม่ค่อยทำให้เห็นกันนัก นอกจากนี้ยังได้เห็นบรรยากาศของการระบาดของโควิดที่มีผลต่อการถ่ายทำ จนต้องโยงมาอยู่ในเส้นเรื่องของซีรีส์ด้วย

เรื่องของงานภาพก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ค่อนข้างเป็นไปในทางของซีรีส์ทุนไม่มาก แต่ก็มีการเล่นกับมุมกล้อง ภาพสะท้อน การแพนกล้องไปมาระหว่างตัวละครซึ่งให้อารมณ์ต่างจากแฮนด์เฮลด์ หรือ มุมตามติดผ่านกล้อง แต่เราจะเหมือนอยู่รอบ ๆ ตัวละครคอยมองดูการใช้ชีวิต การตัดสินใจ ตั้งแต่เรื่องกลางวันจนถึงเรื่องกลางคืน ใช่แล้ว ซีรีส์เรื่องนี้เรียลในสไตล์เมกซิกัน มีฉากเซ็กส์ที่โป๊เปลือยที่เห็นนม เห็นการมีเพศสัมพันธ์ชัดเจน เพราะงั้นคงต้องให้คำอธิบายกับลูกหลานด้วย หากตั้งใจจะเปิดดูกันเป็นครอบครัว นอกจากนี้ยังใช้ดนตรีหลายแบบ ทั้งดนตรีกลองโฉ่งฉ่างที่ใส่เข้ามาในตอนเครดิตเปิดเรื่องที่ใช้ในการเล่าถึงความวุ่นวายในชีวิตแต่งงาน หรือเพลงประกอบช่วงปิดตอนที่พาเราดำดิ่งไปกับความรู้สึกที่ตัวละครกำลังเป็นในขณะนั้น แม้จะเป็นเพลงเม็กซิกัน อเมริกัน แต่ก็ไม่ได้ขัดต่ออารมณ์ อีกทั้งการแสดงของตัวละครที่เป็นธรรมชาติตั้งแต่ตัวละครหลักอย่างพ่อแม่ที่ต่างแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้แต่ลูกสาวก็ยังแสดงเป็นลูกสาวที่มีปัญหาครอบครัว และร้อยเรียงเรื่องราวให้กลมกล่อม และเป็นส่วนประกอบที่ขาดไปไม่ได้เลยกับซีรีส์ แม้ว่าซีรีส์จะเหมือนจบลงด้วยดี แต่ก็ไม่วายจบแบบมีซีซั่น 2 หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ หรือเขาตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เพราะชีวิตมันไม่ได้มีแค่ชีวิตคู่ มันจะเป็นยังไงก็ปลายเปิดก็ได้ หรือจะปิดเรื่องเลยก็ได้ไม่เป็นไร หากไม่มีซีซั่นต่อไป

สรุป Everything Will Be Fine

เป็นซีรีส์น้ำดีที่ดีกว่าที่คาดมาก แม้ว่าจะไม่มีนักแสดงแม่เหล็ก หรือ มาจากประเทศอย่างเม็กซิโก แต่ต้องขอยอมรับว่าดิเอโก้ ลูน่า เจ๋งมากที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักแต่งงานที่แม้แต่คนไม่เคยมีประสบการณ์ยังได้รับรู้ เข้าใจ และดำดิ่งไปตั้งแต่ต้นจนจบ แถมไม่โยนอคติโทษว่าเป็นความคิดเป็นของใคร แต่ให้เราคิดว่ามันมาจากสถานการณ์ที่มันผิดที่ผิดเวลา หรือความรู้สึกที่มันเปลี่ยนไป อย่างที่คิดไว้ ความรักอาจเป็นได้ทั้งบทสรุป หรือเป็นบทเรียน สิ่งสำคัญคือการยึดมั่นในตัวเองและใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข แล้วทุกอย่าง ก็จะดีเอง ซีรีส์นี้เหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวที่ต้องการจะมองสถาบันครอบครัวแล้วย้อนกลับมาทบทวนว่า เราเป็นครอบครัวที่ดีแล้วหรือยัง เราเป็นแบบอย่างให้กับลูกหลานให้ได้เติบโตด้วยไม่ต้องเคร่งเครียดในสังคมที่มีแต่การแข่งขันและความผิดพลาดหรือเปล่า แล้วเราจะทำยังไงให้ชีวิตของเราสามารถมีความสุขได้ ท่ามกลางความทุกข์ ซีรีส์นี้ช่วยคุณได้ครับ

ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์ 

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
  • ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่

 

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!