HELLO WORLD
สรุป
อนิเมชั่นที่จับเอาไซไฟมาโรแมนติกได้อย่างลงตัว
Overall
8/10User Review
( vote)Pros
- เนื้อเรื่องที่ผสมผสานไซไฟ และ โรแมนติกอย่างลงตัว
- คาดเดาเนื้อเรื่องแทบไม่ได้
- ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ซาบซึ้ง และกินใจ
- เพลงประกอบภาพยนตร์ในฉากเพราะ
- ซาบซึ้ง และกินใจ
Cons
- เพลงประกอบผิดที่ผิดทาง ทำให้เข้าถึงอารมณ์ไม่ได้พอ
- เนื้อหาซับซ้อน และรวดเร็วในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจตามไม่ทัน
- งานภาพยังไม่ลงตัวในบางช่วง
- ตัวละครนอกจากตัวเอกค่อนข้างแบนรา
HELLO WORLD เธอ.ฉัน.โลก.เรา
รีวิว ไม่สปอยล์
เธอ.ฉัน.โลก.เรา
HELLO WORLD เธอ.ฉัน.โลก.เรา เป็นผลงานภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวไซไฟโรแมนติกดราม่า ที่เหมือนจะกลายเป็นอะไรที่เฝือสำหรับคนที่เพิ่งจะได้สัมผัสงานของมาโกโตะ ชิงไก ทั้งลักษณะตัวอย่างที่ตัดออกมา ทั้งท่าทางตัวละครที่หลายคนมองว่ามันไม่ดีเอาซะเลย แต่ว่าในเมื่อเรื่องนี้ โทโมฮิโกะ อิโต้ จาก Sword Art Online Movie: Ordinal Scale มันก็ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว โดยงานนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า มีคนไทยร่วมทำด้วย ใครได้ไปดูจนจบเครดิต ก็หาชื่อให้เจอนะครับ555 ใครที่อยากทราบเกร็ดเพิ่มเติม อ่าน ที่นี่ ก่อนได้ ส่วน 3D ก็จัดเต็มโดยเอนจิ้น UNITY ที่เกมเมอร์ทั้งหลายรู้จักดี เพราะเกมสมัยนี้ผ่านเอนจิ้นนี้มาหมดแล้วทั้งนั้น เมื่อมันมาสู่หนังใหญ่มันจะออกมาเป็นยังไง แล้วเรื่องราวของความรักนี้มันพิเศษกว่าเรื่องอื่นยังไง มาอ่านเรื่องย่อกันก่อน
“ปี 2027 ณ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น วันหนึ่งของ นาโอมิ คาตางากิ เด็กหนุ่มม.ปลายธรรมดาที่ไม่กล้าทำอะไร วัน ๆ เอาแต่อ่านหนังสือและหวังว่าชีวิตของตัวเองจะมีความหมายมากกว่าการกลืนไปกับสังคม ทว่าจู่ ๆ ก็ดันมีตัวเองจากในอนาคตมาบอกว่าเขาจะต้องเป็นแฟนกับ อิจิเกียว รูริ เพื่อนร่วมชั้น ผู้ไม่เข้าสังคม และดูเป็นคนน่ากลัวจนเขายังไม่กล้าเข้าใกล้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ ทำให้หัวใจเขาเปลี่ยนใจ แต่มันกลับมาพร้อมความจริงอันน่าตกใจว่า อีกสามเดือนข้างหน้า รูริ จะต้องตายโดยเหตุการณ์ประหลาด และมีเพียงแค่นาโอมิ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ได้ แต่ทว่านาโอมิไม่ได้ตระหนักเลยว่า ทุกสิ่ง มีราคาต้องจ่าย โลกของเขาเอง…”
HELLO WORLD สวัสดีโลกนี้
การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างรวบรัด ไม่ค่อยทิ้งจังหวะยืดเยื้อหรืออะไรที่เสียเวลา แต่จะมีอะไรที่เราจะสงสัย หรืองงงวยในตอนแรกซึ่งไม่ต้องตกใจ เพราะหนังจงใจให้ผู้ชมรู้สึกแบบเดียวกับตัวละคร เหตุการณ์แต่ล่ะอย่างที่ถูกรังสรรค์ไว้ไม่ให้ซับซ้อน ทำให้ในแง่ของมุมมองตัวละครจะค่อนข้างแคบไปสักหน่อย แต่แม้จะเป็นยังงั้น หนังก็ยังทำหน้าที่ในการพาคนดูค่อย ๆ ไปสัมผัสชีวิตประจำวันของตัวละคร และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก่อนจะโยนเหตุการณ์ที่เรียกว่า “คาดเดาไม่ได้” ใส่เป็นระยะ ๆ เรียกได้ว่าดูไปเรื่อย ๆ ยังไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังมันจะมาอยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นได้
แต่นอกจากสามตัวละครหลักในโปสเตอร์อย่าง อย่าง นาโอมิ ที่ตอนแรกมาเป็นตัวละครแนวผู้ชายธรรมดา แต่ก็ถูกเล่าไม่ให้ซ้ำซากจนเกินไป รูริที่ออกมาโปรยเสน่ห์ความน่ารักให้ใครหลายคนได้อมยิ้ม มีติดตลกหน่อย ๆ หรือเซนเซย์ ตัวนาโอมิจากอนาคตในสิบปีที่เป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่สุดในเรื่องแล้ว ก็ไม่มีตัวละครไหนที่น่าจดจำเลย ตัวละครค่อนข้างจะแบน ออกมาเพื่อเป็นแบบนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้มีส่วนอะไรกับเนื้อเรื่องโดยเฉพาะบทของ มิเรอิ คาเดโนะโคจิ ที่ออกมาแจกความสดใส ไม่ได้มีอะไรเลย แต่ก็ทำให้เรื่องราวไปข้างหน้า โดยไม่ต้องสำรวจอะไรมากมาย ฉะนั้นแล้วเนื้อเรื่องจึงไม่มีการหยุดพักหรือมีฉากเนือยเลยสักฉาก (ในความคิดผม) เพราะงั้นขอแนะนำให้อย่าละสายตาแม้แต่ฉากเดียวดีกว่า ไม่งั้นอาจจะงงได้
HELLO WORLD สวัสดีท้องฟ้าสีคราม
ไม่เทียบกับงานอนิเมชั่นอื่น ๆ ที่ผ่านมาแล้ว ต้องบอกว่างานภาพของเรื่องโดดเด่นขึ้นมากว่าปกตินิดหน่อย เพราะในช่วงแรกของหนัง การเคลื่อนไหวของตัวละครจะค่อนข้างแปลก ๆ เรียกได้ว่าโดดจากทัศนียภาพของฉากที่ธรรมชาติดูจะเนียนกว่า เลยก็ว่าได้ แต่เหมือนพอปรับสายตา หรือ เข้าเนื้อเรื่องได้แล้วก็จะชินเอง งานสิ่งก่อสร้าง ตึกรามบ้านช่องสวยงาม แต่ดูโดด ๆ เพราะงานนี้เป็นงานที่ผสมผสานความเป็นอนิเมชั่นแบบ 2D ที่ออกมากับ 3D จากการโปรแกรมที่พอออกมาในแต่ละฉากก็ว้าวใช้ได้ ไหนจะฉากที่เต็มไปด้วยแสงสีก็ทำออกมาได้อย่างน่าพิศวงและอัศจรรย์ เพราะเหมือนเอางานเก่าของผู้กำกับมาต่อยอดให้มีความจัดเต็ม เล่นใหญ่ขึ้น แต่ภาพก็ยังเคลื่อนไหวแปลก ๆ อยู่ดี ซึ่งในช่วงหนึ่งของหนังมันจะค่อนข้างกระตุก ๆ แบบงานที่เหมือนอยู่ผิดฝั่งไม่ค่อยกลมกลืนกับภาพ แต่ตอนนั้นชินแล้ว เลยไม่มีปัญหาอะไรมาก
สวัสดีเสียงอันแผ่วเบา
เรียกได้ว่าเตรียมใจไปฟังเพลงประกอบภาพยนตร์เลยก็ว่าได้ เพราะเห็นโปรโมททีมประพันธ์เพลงอย่าง 2027 Sound ที่ได้หยิบเอาวงดนตรี นักร้องมือฉมัง (ที่กำลังมีชื่อเสียง) มาร่วมกันทำให้หนังเรื่องนี้ ฟังไปเหมือนจะดีแต่เมื่อมันมาถูกเล่นในหนังมันกลับผิดจังหวะ และไม่ค่อยช่วยเสริมหนังเลย ใช่เพลงเพราะ ดนตรีดี แต่บางฉากตัวละครพูดมันกลับไม่สม่ำเสมอกับตัวละคร เราไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ได้เลย หรือแม้แต่เพลงชูหลักสามเพลงก็ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนหนังได้ดีเท่าที่ควร แม้เพลงมันจะมีจังหวะหรือเนื้อหาเข้ากับหนังมากแค่ไหนก็ตาม
โดยเฉพาะเพลง Yesterday ของวง Official髭男dism ที่ตอนฟังรู้สึกอินมาก ๆ แต่กลับถูกใช้ในฉากธรรมดาที่ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องอย่างน่าเศร้าใจ ทั้ง ๆ ที่เพลงเอื้อให้หนังเล่นอะไรได้เยอะกว่านี้มาก ทว่าในช่วงสุดท้ายของเรื่องเพลงกลับเด่นมาก เด่นจน น่าประหลาดใจ ยิ่งเพลง Lost Game ของ Nulbarich ในฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องคือ กลับมาได้อย่างงดงามพร้อมกับเพลงประกอบเอนเครดิตอย่าง Shinsekai (New World) โดยวง OKAMOTO’S ที่มงคลทำดีมากที่มีซับไทยให้เป็นเพลงสุดท้าย -_-
สวัสดี โปรแกรมล้ำ พลิกอนาคต
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่ามีความทะเยอทะยานต่อประเด็นในเรื่องมาก “โลก” ในหนังเรื่องนี้ถูกใช้ทั้งในนามธรรมและรูปธรรม สำหรับเรา คน ๆ หนึ่งที่เรารัก อาจเป็นโลกทั้งใบที่เราไม่อยากปล่อยให้มันหายไป หรือแม้แต่โลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้มันเป็นสิ่งที่เรายอมรับได้หรือไม่ แล้วเราจะพยายามทำมันให้ดีแค่ไหนหรือแม้แต่ความรักที่ต้องมีความรู้สึกเดียวกัน ถึงจะไปกันรอด ความรักมันผลักดันคนเราให้ไปได้ไกลเหมือนกับตัวละครในเรื่องจริง ๆ หยิบจับองค์ประกอบไซไฟ ทั้งเทคโนโลยี และวิทยาการที่ไม่สามารถพูดถึงได้ เพราะจะเป็นการสปอยล์ มันคือการหยิบเอา ตอนใดตอนหนึ่งของ Black Mirror มาผสมกับ Inception เทความเป็นอนิเมชั่นแบบญี่ปุ่นลงไป ก็คือเรื่องนี้เนี่ยแหล่ะ แต่หนังก็ไม่ได้จะทะเยอทะยานจนต้องปีนบันไดดู เพราะหนังค่อนข้างจะมีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่มีบางอย่างที่ต้องใช้ความรู้ และจุดสังเกตให้ดี ๆ มันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นข้ามจักรวาลอะไรขนาดนั้น แต่ใกล้เคียงอยู่พอสมควร ที่ดูจบแล้วอาจต้องคิดตาม แต่ถ้าชมภาพยนตร์ไซไฟมาเยอะ ๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ผมว่ามาน่าจะเข้าใจดี
HELLO WORLD สวัสดี ปรัชญา และ ความรัก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างจะเน้นปรัชญาความรักผสมผสานกับไซไฟแต่ถูกเล่าออกมาในแบบ Coming of Age ที่เข้าใจได้ไม่ซับซ้อน แต่เพราะมีการเล่าเรื่องที่รวบรัด ฉับไว ทำให้จูนหนังยากไปนิด แต่ถ้าดูจนจบน้ำตาอาจไหลออกมาไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะการขยี้ประเด็นจริง ๆ ก็คือช่วงท้าย ๆ ของเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่ไซไฟจ๋าแต่ฉาบด้วยเรื่องราวแบบอนิเมชั่นญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่เปี่ยมด้วยฉากสุดโรแมนติก กินใจ และซาบซึ้ง แอบมีมุกตลกพอขำ ๆ นิด ซึ่งถือว่าผู้กำกับ โทโมฮิโกะ อิโต้ สามารถสร้างความแปลกใหม่ทั้งงานภาพผสมผสาน และเนื้อเรื่องที่สุดจะทะเยอทะยานให้ออกมาเป็นโลกที่ผู้ชมสามารถพอจะเข้าไปอยู่ในนั้นได้พอสมควร อาจจะมีปัญหาในส่วนของเพลงที่ออกมาด้อยกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย แต่ก็เป็นงานที่น่าจับตามองไม่แพ้กับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องอื่นเลยครับ
ปล. แนะนำว่าอ่านจบแล้วอยากดู ให้รีบไปดู ก่อนโดนสปอยล์นะครับ
แล้วก็อย่าลืมไปดู ANOTHER WORLD หลังจบ เพื่อเติมเต็มเนื้อหาได้นะครับ มี 3 ตอนจบ
ตัวอย่างภาพยนตร์ประกอบ รีวิว HELLO WORLD เธอ.ฉัน.โลก.เรา
ซื้อตั๋วไปเปลี่ยนโลกได้แล้ววันนี้ที่ Major และ SF
บอกเลยว่ารอบน้อยมาก เป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดครับ!
ตอนนี้ขอลาไปก่อนนะครับ
สวัสดี
- ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
- ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่