รีวิว Monster Hunter: Legends of the Guild ล่าแย้ 3D ไม่ดีเท่าที่ควร (ไม่สปอยล์)

Monster Hunter: Legends of the Guild (มอนสเตอร์ ฮันเตอร์: ตำนานสมาคมนักล่า) ภาพยนตร์แฟนตาซีคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน การกำกับครั้งแรกของสตีฟ ยามาโมโตะ มือวางร่างภาพและวิชวลเอฟเฟกต์จากภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย เช่น Justice League, Deadpool 2 และ World War Z สร้างโดยแคปคอมและ Pure Imagination Studios เนื้อเรื่องอ้างอิงจากแฟรนไชส์วิดีโอเกมขายดีที่สุดของแคปคอมอย่าง มอนสเตอร์ฮันเตอร์ หรือที่เกมเมอร์ไทยรู้จักในชื่อ เกมล่าแย้ โดยอนิเมชั่นนี้เดินเรื่องในเกมมอนสเตอร์ฮันเตอร์: เวิลด์ โดยเล่าเรื่องก่อนเกมหลักผ่านตัวละคร เอเดน และ จูเลียส ตัวละครหลักคู่จักรวาลมาอย่างช้านานจากเกม Monster Hunter 4 หลังจากที่ภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดงที่เดินเรื่องในจักรวาลเดียวกันออกฉายเมื่อสิ้นปีก่อน และอนิเมชั่นซีรีส์จากแฟรนไชน์ร่วมค่ายอย่าง ผีชีวะ มหันตภัยไวรัสมืด ก็ถึงคราวที่อนิเมชั่นจากเกมนี้จะได้ออกมาโลดแล่นบ้างแล้ว มาดูรีวิวกันเลย

ตัวอย่าง Monster Hunter: Legends of the Guild (มอนสเตอร์ ฮันเตอร์: ตำนานสมาคมนักล่า)

รีวิว Monster Hunter: Legends of the Guild (มอนสเตอร์ ฮันเตอร์: ตำนานสมาคมนักล่า)

เรื่องราวเกิดขึ้นในนิวเวิลด์ ในโลกที่มนุษย์และเหล่ามอนสเตอร์น่ากลัวอยู่ร่วมกันอย่างหวาดระแวง เอเดน เด็กหนุ่มผู้มีความรู้และความรักในมอนสเตอร์ที่วันหนึ่งชีวิตถูกดึงเข้าสู่วิถีการต่อสู้ของนักล่ามอนสเตอร์ที่นำโดย จูเลียสที่มาส่งข่าวถึงหมู่บ้านว่า มังกรโบราณ ลูนาสตร้าที่ไปที่ไหนก็สร้างความเสียหายอย่างมากกำลังเดินทางมาที่นี่เพื่อรุกรานและทำลายล้าง เอเด็นต้องละทิ้งทุกความกลัวและชีวิตที่แสนสงบที่เคยมี ใช้ความสามารถจากความรู้เรื่องมอนสเตอร์ของเขาเพื่อปกป้องหมู่บ้านให้ได้ โดยร่วมกับนักล่ามอนสเตอร์คนอื่น ๆ เดินทางออกตามล่ามอนสเตอร์เพื่อที่จะใช้มันเป็นอาวุธในการสังหารมังกรโบราณ ก่อนที่หมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่จะไม่เหลือซาก แม้จะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

การเล่าเรื่องนั้นเป็นไปแบบรวดเร็ว ไม่อืด เล่าเรื่องแบบคาดเดาได้ง่ายแบบพล็อตแนวผู้กล้ารวมตัวไปปราบมังกร เจอตัวละครใหม่ ๆ เดินทางต่อสู้ รับมือกับสัตว์ประหลาด มีจุดหักมุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ประหลาดใจ แต่ด้วยปัญหาเรื่องของความยาวของหนังที่สั้นมากเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แค่เห็นก็รู้ทันทีว่ามีปัญหาแน่ ๆ ทำให้ไม่ได้เห็นรายละเอียดอะไรมากเท่าที่ควร ตัวละครหลักถูกเน้นย้ำให้เห็นบุคลิกชัดเจน ในขณะที่ตัวละครอื่น ๆ เหมือนคอยมาซับพล็อต และมีบุคลิกให้เห็นพอผ่าน ๆ ตา มีฉากต่อสู้เท่ ๆ แต่ว่าไม่ค่อยมีบทบาทอะไรให้สำรวจมากนัก แถมอารมณ์ของเรื่องที่ค่อนข้างไปไว เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวฮึดสู้ เดี๋ยวสิ้นหวัง ทุกอย่างในเรื่องตัดไปตัดมาไวมากจนเราแทบไม่ได้รับรู้อะไรทั้งในด้านปูมหลังของตัวละครที่ก็เล่าแบบผ่าน ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะหนังต้องเน้นไปที่การต่อสู้กับมอนสเตอร์สลับกับประเด็นเรื่องของการเป็นวีรบุรุษหรือเป็นนักล่าที่สมบูรณ์ ทำให้เราไม่ได้อะไรจากมันมากสักเท่าไหร่ และหนังก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับชื่อสมาคมนักล่ามากอย่างที่ควรสักเท่าไหร่ แต่ให้ความสำคัญกับศูนย์กลางของเรื่องอย่างเอเดนมากกว่า ทำให้ชื่อเรื่องดูเป็นแค่การตั้งผ่าน ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับสมาคมอะไรโดยตรง

ตัวละครแต่ละตัวก็ดูมีคาร์แร็คเตอร์รูปร่างหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับการแสดงออกกับอนิเมชั่นแบบไม่ได้ลงทุนอะไรมาก แม้ว่าจะถูกวิจารณ์ตอนตัวอย่างออกมาครั้งแรก ว่าภาพมันดูออกมาไม่ดี แต่พอมาดูภาพรวมจริง ๆ จะเข้าใจว่าเขาจงใจทำให้มันมีความเป็นเกมต้นฉบับที่ตัวละครไม่ได้หล่อสวยเวอร์วังอยู่แล้วตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเอเด็น หนุ่มผู้สดใสร่าเริงที่ดูไม่ค่อยมีพัฒนาการทางตัวละครเท่าไหร่ ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางเขาไปซะหมด จูเลียส ตัวละครมากประสบการณ์ที่เหมือนเอาแกรอลท์จากเกม เดอะ วิทเชอร์มาปรับแต่งทางด้านบุคลิกให้มีความสุขุม เม ตัวละครหญิงที่มาเป็นตัวละครฮาแต่ก็มุมที่คาดไม่ถึงแม้จะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่นัก แต่ช่วงท้ายเธอก็ดันกลายเป็นส่วนที่น่าจดจำได้บ้าง นาเดีย ตัวละครสาวเท่ที่มาแบบขนบตัวละครหญิงที่มีบทบาทในด้านการต่อสู้ที่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่น น็อกซ์ แมวป่าที่บุคลิกกวน ๆ มาคอยเป็นผู้ช่วย แต่น่าเสียดาย เมื่อความยาวอนิเมชั่นไม่เอื้อต่อการเล่าเรื่อง จังหวะในการเล่าเรื่องจึงค่อนข้างมีปัญหากับการให้ความสัมพันธ์กับตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ ที่หนังเหมือนรู้ตัวว่าจะจบก็จบแบบให้มันจบ คือยังไม่ทันจะอิ่ม ก็จบลงแบบดื้อ ๆ เราจึงไม่สามารถอินกับตัวละครเหล่านี้ได้เลย แต่ก็ยังดีที่มันยังมีฉากต่อสู้สนุก ๆ ให้ดูเป็นระยะ ๆ ว่านักล่าเขาต่อสู้กันยังไง และมอนสเตอร์มันร้ายกาจยังไง 

ถ้าใครที่เล่นเกมและรู้จักตัวละครหลัก คุณก็จะอ๋อ เขาเจออะไรมาบ้างถึงได้กลายมาเป็นตัวละครแบบในเกม มันเป็นไซด์สตอรี่ที่เกมเล่าไม่ได้ แม้อนิเมชั่นจะเล่าเรื่องพอใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้มีความจำเป็นกับเรื่องราวอย่างที่คาดหวัง คงคิดว่าจะทำออกมาเพื่อขายคนสมัครเน็ตฟลิกซ์ได้รู้จักจักรวาลมอนสเตอร์ฮันเตอร์ แบบไม่ต้องเล่นเกมมาก่อน แม้ว่าจะพยายามใส่ Easter Eggs ให้รู้ว่าเนื้อเรื่องดำเนินอยู่ในจักรวาลเกม หรือการคารวะต่อต้นฉบับโดยการใส่สิ่งที่คนเล่นเกมรู้แบบที่เอามาตบหน้าหนังเวอร์ชั่นคนแสดงที่คนพากันสาปส่ง ซึ่งหนังเรื่องนี้น่าจะเหมาะกับคนเล่นเกมหรือเป็นแฟนจักรวาลที่อยากเห็นเรื่องราวของเอเด็น หรือคนที่อยากดูอนิเมชั่นต่อสู้มอนสเตอร์หนุก ๆ ก็ได้อยู่ แต่ถ้าคาดหวังจะรู้อะไรมากกว่าการที่เขามาเข้าสมาคมกิลด์ยังไง ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะหนังเล่าแค่จากเด็กธรรมดากลายเป็นนักล่า ส่วนตำนานอื่น ๆ หลังจากนั้น คงต้องไปตามศึกษาต่อในจักรวาลเกมเอา ซึ่งคงไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากตามจักรวาลจะอยากไปศึกษาอะไรยาก ๆ ขนาดนั้น แต่สำหรับแฟนแล้ว นี่คือสิ่งที่ไม่ควรพลาด เล่นจบคุณอาจจะอยากเปิดเกมเล่นตีมอนสเตอร์ต่อเลยก็ได้

งานอนิเมชั่นก็ตามมาตรฐานไม่ได้ดีมากมายและค่อนข้างจะตกยุคเหมือนหนังม้วนวิดีโอ แต่อย่างน้อยงานเสียงและการเคลื่อนไหวก็ดูเป็นธรรมชาติ และตัวละครก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นเมื่อมาดูภาพรวมแล้ว รายละเอียดอะไรก็ทำให้นึกถึงเกม PS2 ซึ่งแน่นอนเกมมอนสเตอร์ฮันเตอร์ยุคแรก ๆ ก็มาจากเครื่องเกมนี้ แต่เรื่องของแสงสีหรือบรรยากาศก็ทำออกมาได้เหมือนอยู่ในเกม ใครที่เป็นแฟนเกมน่าจะชอบพอสมควร แม้จะแอบแปลก  ๆ ไปบ้างในการเคลื่อนไหวบางช่วงที่ดูไม่มีชีวิตชีวาและลอยแปลก ๆ แต่ก็ถือว่าตามคุณภาพหนังเน็ตฟลิกซ์ ทีเด็ดคือ หนังยังมีการใส่เพลงประกอบจากเกมเข้ามาให้แฟน ๆ ที่คิดถึงได้กรี๊ดแตก เรียกได้ว่าเป็นเซอร์วิสปลอบใจแฟนเกมที่เกลียดภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดง มาดูเรื่องนี้อาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง แถมยังมีเสียงพากย์ที่มีคุณภาพทั้งไทยและอังกฤษที่สมควรกับเรื่องราวด้วย

สรุป Monster Hunter: Legends of the Guild (มอนสเตอร์ ฮันเตอร์: ตำนานสมาคมนักล่า)

ถือเป็นอนิเมชั่นแฟนเซอร์วิสไซด์สตอรี่ที่ไม่มีพื้นที่ให้เหล่าภายในเกมสำหรับคนที่ชื่นชอบจักรวาลเกมมอนสเตอร์ฮันเตอร์ ด้วยการเล่าเรื่องที่พอใช้ได้ แม้จะเป็นสูตรสำเร็จและไม่ได้มีอิมแพ็คอะไรกับจักรวาล ตัวละครที่มีเสน่ห์ใช้ได้ แม้ว่าหนังจะให้ความสำคัญไปในด้านการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ทำออกมาได้ดี จนละเลยจังหวะช่วงของเรื่องที่มันแปลก ๆ ไม่มีความสม่ำเสมอ ตัดอารมณ์ไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงท้ายที่แย่เอามาก ๆ เหมือนงบเรื่องหมด กับความยาวของเรื่องที่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงที่ทำให้การวางความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ไม่แน่นพอจนเราไม่อินกับฉากบางฉากในเรื่อง ทำให้มันเป็นอนิเมชั่นธรรมดาที่สามารถดูผ่าน ๆ และเหมาะสำหรับแฟนเกมมากกว่าคนทั่วไป แม้จะดูได้หมดทุกคนก็ตาม ก็ถือเป็นอะไรที่ดูฆ่าเวลาที่ไม่ได้ดีอย่างที่คาดหวังไว้สักเท่าไหร่ ถ้าแคปคอมยังจะทดลองทำอะไรแบบผ่าน ๆ ไถล ๆ กับเน็ตฟลิกซ์แบบนี้เรื่อย ๆ ก็บอกได้เลยว่ามันไม่เวิร์คแน่ในอนาคต

ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์ 

• ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
• ติดตามผลงานของผม Thousand Mar ได้ ที่นี่