playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

One Piece Stampede รีวิว วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด ไม่สปอยล์

สรุป

ถ้าจะฉลอง 20 ปีมันก็ต้องแบบนี้ล่ะ จดหมายรักจาก อ. โอดะ ถึงคนรักวันพีชทุกคนตลอด 20 ปี ที่อาจไม่ได้ว้าวมาก แต่ก็เพลิดเพลินตลอดเรื่อง

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
0 (0 votes)
Comments Rating 0 (0 reviews)

Pros

  • เนื้อเรื่อง ดูง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน
  • ภาพสวย สีสันสดใส พร้อมเซอร์วิสคนดูด้วยลายเส้นของ อ. โอดะ
  • ปูเรื่องไม่นาน เข้าสู่แอ็คชั่นตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง
  • ประเด็นเก่าเล่าใหม่ ทั้งเรื่องมิตรภาพ และความทะเยอทะยานที่ได้ผล

Cons

  • เนื้อเรื่องค่อนข้างเบา เน้นฉากการต่อสู้ และโชว์ท่วงท่าเป็นส่วนใหญ่
  • เฉลี่ยบทตัวละครได้ไม่ค่อยดีนัก ใครเด่นก็เด่นเลย ใครด้อยก็ด้อยเลย
  • หากไม่ได้ติดตามวันพีช อาจจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละคร
  • ตัวร้ายที่มีแรงจูงใจในการเล่นใหญ่อันซ้ำซาก

ADBRO

One Piece Stampede รีวิว วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด ไม่สปอยล์

วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด
ในปีนึง มีแค่ครั้งนึงเท่านั้น กับเทศกาลโจรสลัด ผู้พันสโมคเกอร์, ซาโบ, ลูฟี่, ลอว์, แฮนค็อค

One Piece Stampede ผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 14 ของวันพีช อนิเมะที่สร้างจากมังงะชื่อเดียวกันโดย เออิจิโร่ โอดะ กำกับโดย ทากาชิ โอตสึกะ สร้างโดย โทเอแอนิเมชั่น และเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปีในการทำอนิเมชั่นเรื่องนี้ด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่แฟนคลับวันพีชจะตั้งตารออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไรวันฉายในประเทศไทยจะมาถึง

เด็กซ์ เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และอนิเมชั่นวันพีชในไทยเอง จึงไม่รอช้าซื้อลิขสิทธิ์มาเตรียมฉายในเพียงไม่กี่เดือนหลังจากฉายที่ญี่ปุ่นชื่อว่า วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด ถือว่าเร็วมาก และอย่างที่เราเห็นในตัวอย่าง ตัวละครต่าง ๆ มากหน้าหลายตาก็เข้ามามีบทบาทมีซีนไม่แพ้กัน จนคนอย่างผมที่เลิกตามอ่านวันพีชไปนานแล้ว แต่ได้ดูเดอะมูฟวี่ภาคก่อนประปราย รู้สึกลุ้นไม่แพ้กัน เพราะจากกระแสที่ญี่ปุ่นก็ถือว่าดีไล่เรี่ยกับอนิเมชั่นเรื่องนึงเลย (ไม่ต้องเดานะว่าเรื่องอะไร5555)

วันพีช คือ การผจญภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ผู้ร่วมกับโจรสลัดทั่วโลกในการค้นหาสมบัติในตำนานของ โกล ดี โรเจอร์ ราชาโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยไปถึงแกรนด์ไลน์และราฟเทลแล้ว (ประมาณว่าสุดขอบโลก) มอบตัวกับทางการรัฐบาล ก่อนถูกประหารได้ลั่นวาจาว่าเขาได้ซ่อนขุมทรัพย์ที่มีค่าที่สุดในโลกไว้ที่มีชื่อว่า วันพีช ขอให้เหล่าโจรสลัดจงออกเดินทางเพื่อตามหามัน เพื่อจะได้เป็นราชาโจรสลัดคนต่อไป ซึ่งลูฟี่ ผู้ที่ได้รับผลปีศาจและกัปตันของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางผู้มีพลังร่างกายยืดได้จากการทานผลปีศาจ จึงออกเดินทางตามหาพวกพ้อง ต่อสู้กับภัยร้าย และประลองฝีมือกับคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ และค้นหาวันพีช เพื่อจะได้เป็นโจรสลัดให้ได้

One Piece Stampede เรียกได้ว่าเป็นอนิเมะม้ามืดแห่งในประเทศไทยปีนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นและเอเชียที่เปิดตัวในไทยอันดับหนึ่งด้วยรายได้ 5.37 ล้านบาท (ตบหนังเรื่องอื่นคว่ำ แบบไม่ทิ้งฝุ่น) และขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์เอเชียเปิดตัวรายได้สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับสอง รองจาก Stand By Me Doraemon โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป ซึ่งยิ่งฉุกให้ผมคิดว่า ผมจะไม่พลาดเด็ดขาดกับ  ขอไปชมสักครั้งให้เห็นหน่อยว่าใน วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด นั้น อ.โอดะ แกมีไม้เด็ด และอะไรให้กับแฟนคลับที่ติดตามมาอย่างเหนียวแน่น 20 ปีบ้าง ก่อนอื่นมาฟังเรื่องย่อคร่าว ๆ ของภาพยนตร์ดีกว่า

“One Piece Stampede บอกเล่าเรื่องราวของเทศกาลไพเรทส์ เฟส งานเฉลิมฉลองเพื่อโจรสลัดโดยเฉพาะที่จู่ ๆ ก็เกิดมีการจัดขึ้นมา ทั้งที่ไม่ได้จัดมานานแล้วหลายปี พร้อมทั้งได้เชิญโจรสลัดจากทั่วโลกมาร่วมกันล่าหาสมบัติลับไปพร้อม ๆ กัน รวมถึง กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย ซึ่งงานก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และการห้ำหั่นระหว่างโจรสลัดอย่างตื่นเต้น แต่ทว่า งานเฉลิมฉลองเพื่อโจรสลัด ย่อมมีบางอย่างแอบแฝงอยู่ ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนใจการล่าสมบัติอย่างเอาเป็นเอาตาย แผนการลับที่อาจสะเทือนทั้งโลกก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”

ฉันจะเป็น ราชาโจรสลัด ให้ได้เลย!

จดหมายรักถึงคนรักวันพีช

One Piece Stampede จัดหนักจัดเต็มใส่คนดูตั้งแต่เริ่ม แม้หนังจะเดินเรื่องไปอย่างเรื่อย ๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา สลับกับการเปิดตัวละครทั้งใหม่ และเก่า ทั้งฝั่งโจรสลัด หรือ ฝั่งทหารเรือ ที่ใครที่เป็นแฟนคลับได้เห็นจะต้องว้าวไปกับท่วงท่าการต่อสู้ หรือ แม้แต่ความฮาที่สอดแทรกเข้ามาได้อย่างถูกจังหวะ ตัวละครเหล่านี้อาจจะออกมาเป็นกิมมิคเล็ก ๆ ให้หายคิดถึง หรือไม่ก็เป็นกิมมิคสำคัญที่ออกมาโชว์ความเท่ ความเจ๋ง ของคาร์แร็คเตอร์ตัวละครที่พอควร อาจจะไม่มาก แต่ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า 20 ปีที่มีงานนี้ออกมามันมีค่ามากแค่ไหน ก่อนจะพลิกเป็นช่วงทริลเลอร์ ระทึกขวัญ แอ็คชั่นบู๊แหลก แบบไม่มีหยุดตลอดร้อยกว่านาที เรียกได้ว่าไม่ว้าว ก็เอียนกันไปข้าง

เนื้อเรื่องของ วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด มันแทบไม่มีอะไรจริง ๆ ใครที่คิดว่าเรื่องนี้จะมีเส้นเรื่องที่หนาแน่น ขอให้วางมันลงไว้ก่อน แต่ถ้าอยากไปเห็นว่าอ.โอดะ มีของอะไรมาโชว์บ้าง คุณต้องห้ามพลาด! One Piece Stampede แต่ถ้าหากคุณไม่เคยดูติดตามวันพีชมาก่อน คุณก็สามารถมาสนุกกับฉากแอ็คชั่นได้ แต่อาจจะงงตัวละคร และความสำคัญของตัวละครนั้นไป ซึ่งนี่เป็นเพียงเดอะมูฟวี่ เพราะงั้นไม่ต้องเครียด

แอน พิธีกร งานไพเรทส์ เฟส ตัวละครจากงานแสดงโชว์ One Piece Live Attraction ที่เปิดตัวในอนิเมชั่นครั้งแรก

ทะเลสีคราม ฉาบด้วยความรุนแรง

One Piece Stampede งานภาพครั้งนี้รู้สึกว่าจะได้ อ.โอดะ วาดมือให้หมด ลายเส้นอาจารย์แกชัดเจน มีสลับกับใช้เส้นสองมิติแบบขาวดำ (แต่มีแอบเผาอยู่นะ – เผาคืองานไม่เนี้ยบ เส้นไม่เท่ากัน) และยังมีซีจี 3D ที่แสนจะอลังในฉากสำคัญของเรื่อง แต่ก็แอบขัดตาในฉากธรรมดา ซึ่งเป็นฉากอะไรไปดูเอาเอง วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด ยังมีสีสันที่ฉูดฉาดด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นต่าง ๆ ที่ตัวละครสวมใส่ สีของสภาพแวดล้อมที่สดใหม่ราว และมีความชัดเจน เห็นท่าทางการต่อสู้ของตัวละครจะค่อนข้างมีความพลิ้ว แต่ถามว่าสวยมากมั้ย ก็มากกว่ามาตรฐานงานปกตินิดหน่อย นอกจากนี้แล้วพอเป็นฉากที่มืดครึ้ม ชวนให้เห็นความน่ากลัวก็ทำได้ดี มีอารมณ์ร่วม และเข้าใจในสภาวะที่ตัวละครต้องเผชิญอยู่ และอยากจะเอาใจช่วยให้ตัวละครต่อสู้และฝ่าฟันไปให้จงได้

One Piece Stampede
สีสดมากกก

เสียงโจรสลัดนั้น ดังกึกก้อง

One Piece Stampede เสียงประกอบของเรื่องนี้ เรียกได้ว่ากระหึ่ม กระหึ่มมาก นั่งดูไปขนลุกไป เสียงงานฉลองที่ดูสดใส เสียงความสิ้นหวัง เสียงที่แสดงความยิ่งใหญ่ เสียงดาบชนดาบ เสียงระเบิดตูมตาม เสียงปืน เสียงหมัด เสียงวัตถุกระทบกัน นี่อยู่ในขั้นดี ช่วยเสริมฉากการต่อสู้ให้ดูถึงใจมากขึ้น และด้วยความที่ผมดูพากย์ไทยมา ก็ได้ยินกระแสมาพอสมควรถึงการนำคนที่ไม่ใช่นักพากย์มาพากย์ One Piece Stampede ซึ่งผมเข้าใจ เพราะมันคงรู้สึกแปลก ๆ ที่ตัวละครที่เราคาดหวังในภาพลักษณ์นึง พอเสียงออกมาเป็นอีกแบบนึง แต่ถามว่าผมไม่อคติจนไม่ไปดูมั้ยก็ไม่

ดักลาส บุลเลต (อาเกรียง) ปะทะ ลูฟี่ (พี่จูน) คือความดุสุดขีดของนักพากย์และเรื่องนี้แล้ว

ใน One Piece Stampede ผมจะมาขอไล่รีวิวแค่นักพากย์รับเชิญของ วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด เพราะนักพากย์มืออาชีพก็ทำได้ดีอยู่แล้ว อาจจะมีบทที่ออกมาดูประหลาดในบางช่วง แต่ก็ไม่เป็นปัญหากับเนื้อเรื่อง แต่เหมือนเป็นอรรถรสของอารมณ์มากกว่า ซึ่งผมจะตัด น้าต๋อย มาพากย์เสียงให้กับเด็กซ์ กับ อาเกรียง ที่มาพากย์เสียงอนิเมชั่นครั้งแรกด้วย (ไม่รู้จริง ๆ ว่าแกเคยพากย์อนิเมะอะไร ซึ่งก็เซอร์ไพรส์ผมพอสมควร) แต่นับทั้งคู่เป็นนักพากย์มืออาชีพอยู่แล้ว เพราะงั้นข้ามไป ไม่ต้องสนใจ

ผมจะไล่ทีละคน จากดีที่สุด ไปหา รับไม่ได้ที่สุดก็แล้วกัน ปล. นี่คือความรู้สึกของผม เพราะงั้นคิดต่างก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

 

นักพากย์เฉพาะกิจ ใน One Piece Stampede ที่ทำให้เกิดดราม่า ยกเว้นน้าต๋อยนะ

1. แอน พากย์โดย นัยรัตน์ ธนไวทย์โกเศส (พี่แป้ง Z.bingz) จากสาวแคสเตอร์เกม ต้องมาพากย์เสียงอนิเมชั่นครั้งแรก แถมเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน คงทำให้คนตั้งแง่กับเธอกับการใช้เสียง แต่ขอบอกเลยครับว่า คนนี้ดีที่สุดเลย เธอมีเสน่ห์ กลมกลืนมาก ร่าเริงตามท่าทาง อาจมีรีแอ็ค เสียงดังไปบ้าง แต่ไม่มีหลุดคาร์เลย เข้ากับนักพากย์มืออาชีพได้พอสมควร อาจเพราะบทมีไม่มาก ซึ่งน่าเสียดาย แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าจะพากย์ต่อไป

2. มิสเตอร์ ทรี พากย์โดย อรรถพล ไข่ทอง (พี่เบล ขอบสนาม) เสียงของคนพากย์บอล มาอยู่ในหนัง แล้วแสดงเป็นเพศที่สามที่ต้องมีคำติดปาก คือเปิดเรื่องมากคือกลืนกับตัวละครมาก ไม่รู้ว่าในต้นฉบับตัวนี้เป็นยังไง แต่ขึ้นมาก็ไม่คิดว่าเป็นเขาเลย แถมมีการเล่นเสียงตลก มีคำลงท้ายมีเอกลักษณ์ (หรืออาจขัดหูกับบางคนไป)  แต่เรื่องต่อบทดีกับนักพากย์คนอื่น ๆ อยู่ในขั้นดี

3. คาโปเน่ เบจ พากย์โดย ญาณวุฒิ จรรยหาญ (พี่เอ็ด 7 วิ) คนนี้คืออึ้งมาก น้ำเสียง ท่าทางตัวละคร ไปด้วยกันมาก คือมีความเป็นมาเฟียรักครอบครัว ท่าทางตอนสั่งจัดการคือเท่ นึกว่านักพากย์มืออาชีพ อยากให้มาพากย์เป็นตัวละครนี้ถาวรไปเลย

4. ซาโบ พากย์โดย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ (พี่บอย ช่อง 3 HD) คนนี้ผมอาจจะคิดต่างคนอื่น ผมฟังเสียงซาโบแบบปกติมาแล้ว พอได้มาฟังในโรง คือพี่บอยแกพากย์ได้ พากย์ดีด้วย ท่าทางการต่อสู้ บุคลิกอะไรให้หมด เพราะพี่แกเคยพากย์อนิเมชั่นฉายโรง อย่าง แรงโก้ มาก่อนด้วย เลยทำให้ผมไม่มีปัญหาในอารมณ์การพากย์ของพี่แก

แต่เดี๋ยวก่อน ปัญหาสำคัญที่ทำให้โดนคนด่า คือใน One Piece Stampede ที่แกมาพากย์เป็นโซโบนั้น พี่แกมาผิดเรื่องครับ… ด้วยเสียงพี่แกที่นุ่ม และสดใสเกินไป หรือโดนบรีฟมาผิดอะไรก็ตาม ในสายตาคนอื่นพี่แกควรไปพากย์อนิเมชั่นของดรีมเวิร์ค หรือ วอลท์ ดิสนีย์ดีกว่า สำหรับผมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ผมว่ามันก็ได้อารมณ์อีกแบบ เวลาฟังพี่แกมาพูดอะไรแบบตัวละครพูด เหมือนตอนฟัง คุณเมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร พากย์เป็น คูราโซ่ ในโคนัน เดอะมูฟวี่ 20 หรือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มาพากย์ กิลด์ เตโซโร ในวันพีช ฟิล์ม โกลด์ แต่อันนี้ไม่แย่เท่าสองคนนี้นะ

5. วาโปลู พากย์โดย นิกร วิศวะไชยพันธ์ (พี่นิค Nrsportsradio) คนนี้พากย์ดีนะ กลมกลืนกับตัวละคร แต่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใครในเรื่อง บทพูดน้อย และเผลอพูดเร็วกว่าด้วย แต่ถ้าไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ ก็อยู่ในขั้นดีเลย แต่ผมรู้สึกว่ามันจางไป

6. โคบี้ พากย์โดย อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ (คุณต๊อบ เถ้าแก่น้อย) คนนี้ผมว่าบททำร้ายมาก จาง แทบไม่มีความสำคัญอะไร เอาคุณต๊อบมาก็ใช่ว่าจะทำให้มันน่าสนใจ แถมบทพูดไม่กี่คำ หนำซ้ำยังทิ้งความรู้สึกประหลาดหลังประโยคสุดท้ายที่ไร้พลังกับตัวละครเลย ทำให้จาง จางจนรู้สึกว่าไม่เห็นต้องเอาคุณต๊อบมาพากย์เลย แถมคุณต๊อบก็เหมือนอ่านบทอาขยานมาก

7. โกสต์พริ้นเซส เพโรน่า พากย์โดย ณัฐธิชา นามวงษ์ (เก๋ไก๋สไลเดอร์) คนนี้เปิดตัวมาดีครับด้วยเสียงหัวเราะที่ไปด้วยกันกับยัยเด็กผีได้ ฉากต่อสู้มีเสียงที่ประหลาดบ้าง แต่เพราะเป็นคาร์แร็คเตอร์ที่หลุดโลกด้วย จึงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอประโยคยาวเพียงประโยคเดียวไม่รอดครับ ใช้เสียงผิดวิสัยกับคำพูด จนพาลทำให้ประหลาดไป แต่พอรับได้ครับ บทมีนิดเดียว

8. บาซิล ฮอว์คินส์ พากย์โดย ไวท์สอดอStyle ผมไม่รู้นะว่าเขาไปแคสมาจากไหน แต่มันไม่ไหวจริง ๆ ครับ คือตัวละครมันก็ดูเย็นชา แต่มันเท่นะ พอพูดออกมาทื่อ ๆ หมดกัน หมด พัง พังมาก เสียงไม่เข้า ไม่มีความรู้สึกคือเข้าใจ แต่จังหวะจะโคนนี่ผิดตัวละคร เรียกได้ว่าโชคดีมากที่บทน้อย ถ้ามากกว่านี้คงไม่ไหวครับ แต่มันก็ตลกอยู่นะ ถ้าคนไม่คิดอะไรมาก แต่มันขัดหูจริง ๆ

และคนสุดท้าย ขออนุญาตวิจารณ์แบบไม่อ้อมค้อมเลยนะครับ

9. จูวาคิล มิฮอว์ค พากย์โดย กิตติพงษ์ ชูปาน (สไปรท์สไลเดอร์) ตัวละครเท่มาก แบบว้าวเลย แต่พอพูดเท่านั้นแหล่ะ ผมคิ้วขมวดทันที ทำไมเสียงมันเป็นเป็ดได้ขนาดนั้น เหมือนอัดไมค์ไปงั้น ๆ แล้วพยายามจะดัด แต่มันไม่ตรงคาร์ ไม่ตรงอะไร คือหลุดออกนอกจักรวาลวันพีชเลยก็ว่าได้ แค่บทพูดไม่กี่บทก็ฆ่ามิฮอว์คสุดหล่อเท่ตายได้ในพริบตา ยิ่งต่อบทกับเพโรน่านี่พากันพังเลยครับ ขอร้องล่ะ บทน้อยก็ดูเสียงพากย์ว่าเข้ากับตัวละครมั้ยบ้างเถอะ ไม่ใช่แค่พูด ๆ แล้วก็ส่งทางฝ่ายประสานเสียง มันมีเวลาขัดเกลาได้มากกว่านี้นะ แต่นี่อะไรเนี่ย โคตรผิดหวัง สอบตกแบบไม่ยอมให้ดร็อปเรียนใหม่ครับ

ส่วนที่ทำให้ว้าวนอกจากดนตรีกับเสียงพากย์ คือเพลงประกอบของเรื่องที่เปิดขึ้นมาในระหว่างเรื่อง ถ้าใครติดตามวันพีช คุณจะต้องน้ำตาไหล เพราะมันคือเพลงแรกแห่งวันพีช ผมบอกได้เลยว่าพอมันมาอยู่ในฉากนั้น คือร้องลั่นโรง เหมือนหวนกลับไปตอนดูวันพีชครั้งแรกตั้งแต่แรกเลย ส่วนเพลงปิดก็ทำหน้าที่ปิดเรื่องได้อย่างดุเดือด อย่างเพลง GONG โดยวง J-ROCK อย่าง WANIMA ที่ใครหลายคนดูจบอาจจะต้องไปหามาฟัง แล้วโยกหัวตามจังหวะเพลงเลย5555

ของขวัญจากอาจารย์โอดะถึงแฟนวันพีช

One Piece Stampede ดีมากมั้ย ก็ดี แต่ว้าวมั้ย ไม่ขนาดนั้น เพราะนอกจากฉากแอ็คชั่น ภาพที่สวย และดนตรีที่ดุเดือดแล้ว เนื้อเรื่องนั้นดูจะบางเบาและเกลี่ยตัวละครได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บางตัวละครมาแล้วก็หาย บางตัวมาแล้วก็โผล่มาตอนใกล้จบ ปมตัวร้ายของเรื่องก็ดูซ้ำซาก จนไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนั้น ผมว่า วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด เป็นการเซอร์วิสแก่แฟนวันพีชมากกว่า อยากเห็นอะไรได้เห็น อยากรู้อะไรได้รู้ แต่เนื้อเรื่องจริง ๆ มีแค่ 30 เปอร์เซนต์ ถามว่าน่าสนใจมั้ยก็ใช่ แต่มันถูกบดบังด้วยการโชว์ออฟของตัวละครมากกว่า อีกทั้งปมดราม่าของตัวละครที่แม้จะซ้ำซากแต่ก็กินใจอย่างไม่น่าเชื่อ ใครว่าวันพีชเน้นบู๊ เน้นฮาก็ไม่ได้จริงเสมอไปหรอก

One Piece Stampede
นี่คือการเฉลิมฉลอง 20 ปี ของวันพีช!

One Piece Stampede มอบของขวัญจาก อ.โอดะ ให้แก่คนดู คือ การรวมพลเหล่าโจรสลัด และงานเฉลิมฉลองแก่คนรักวันพีช ที่ไม่ว่าคุณจะดู หรือชอบวันพีช หรือไม่ ผมก็อยากแนะนำให้ไปดูนะ ไม่แน่คนที่ไม่ชอบอาจจะชอบเลยก็ได้ หรือ ไม่คนที่ชอบอยู่แล้ว อาจจะยิ่งรักมันมากเข้าไปอีก ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันพีช จึงเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมาตลอด 20 ปีขนาดนี้ รายได้ก็บอกอยู่แล้ว ว่า คนรักเรื่องนี้มากขนาดไหน ขนาดผมเองที่ไม่ได้ดูมานาน ยังอยากกลับไปตามดู แต่คงไม่ง่ายขนาดนั้น ถ้าลดอคติกับนักพากย์ไม่ได้ ก็สามารถดูซาวด์แทร็คได้เช่นกัน ตามโรงภาพยนตร์ที่ร่วมรายการ ซึ่งน่าจะให้อารมณ์ถึงใจมากกว่าพากย์ไทยอยู่แล้ว อย่าเพิ่งลุกจากที่นั่งล่ะ ฟังเพลงให้จบ ฉากท้ายเครดิตรอคุณอยู่

“รออะไรอยู่ล่ะ มาออกไปล่าหาสมบัติกันเลย!”

ตัวอย่างภาพยนตร์ประกอบ รีวิว One Piece Stampede วันพีช เดอะ มูฟวี่ สแตมปีด

ซื้อตั๋วไปล่าสมบัติใน One Piece Stampede ได้แล้วที่โรงภาพยนตร Major และ Sf ทุกสาขา

ตอนนี้ขอลาไปอีกตามเคย พบกันใหม่ในบทความหน้า

สวัสดี

มหรรณพัน 

 

  • ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจในแวดวงเกม รีวิวภาพยนตร์ ซีรีส์ และ อนิเมะ ได้ ที่นี่
Leave a comment
The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!