We Couldn't Become Adults
สรุป
ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่มอบความทรงจำอันเปี่ยมด้วยสัจธรรมอันเจ็บปวดของการเป็นผู้ใหญ่ มีทั้งสุขและทุกข์ ความรักที่หวานอมขม ผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติของนักแสดงนำ ดนตรีประกอบที่ถูกใช้อย่างถูกจังหวะ มุมกล้องและการถ่ายทำที่สวยงาม เปลี่ยนผันไปตามยุคอดีต ปัจจุบัน ภายในเรื่อง แม้มีช่วงเนือย เรื่องราวไม่หวือหวา ทั้งยังมีการเล่าตัดสลับบ่อยจนแอบงง แต่ประเด็นที่มีคุณค่าก็ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นมากกว่าหนังรักธรรมดา
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- การแสดงที่เป็นธรรมชาติของนักแสดงนำ
- บทของเรื่องที่เขียนออกมาอย่างละเมียดละไม
- ครบทุกรส แต่ดราม่าเน้นหนักมากหน่วงใจกันไปข้าง
- ดนตรีประกอบที่เพราะและตรงจังหวะของเรื่อง
- มุมกล้องและการถ่ายทำที่สวยและเปลี่ยนตามยุคสมัย
- ประเด็นความสัมพันธ์และสัจธรรมของชีวิตมนุษย์
- พากย์ไทยดีมาก
Cons
- เนือย ไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ถ้าคนไม่ชอบ
- เรื่องราวไม่ได้แปลกใหม่หรือหวือหวาอะไรมาก
- ตัดสลับเหตุการณ์ไปมาบ่อยจนทำให้สับสน
- เหมือนหนังปรัชญาป้อนคำคมที่เหมาะกับคนอายุมากแล้ว ถ้าไม่อินบท ก็ไม่อินเลย
We Couldn’t Become Adults (Bokutachi wa Minna Otona ni Narenakatta) ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าสัญชาติญี่ปุ่นดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Moegara ที่ว่าด้วยชายวัยอายุสี่สิบในปี 2020 ที่หวนนึกถึงอดีตที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์รักมากมายที่ผ่านเข้ามาและเขาได้ทำหล่นหายไปโดยไม่เคยรู้มาก่อนและกลายเป็นชายโดดเดี่ยวที่ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมายและความสุข ภาพยนตร์นำแสดงโดย มิราอิ โมริยามะ จากหนังรางวัลคำวิจารณ์ดีในปี 2016 RAGE และ ซาอิริ อิโตะ จากซีรีส์ โป๊ บ้า กล้า รวย พร้อมเสียงพากย์ภาษาไทยในเน็ตฟลิกซ์
ตัวอย่าง We Couldn’t Become Adults
รีวิว We Couldn’t Become Adults
เรื่องราวในปี 2020 ซาโต้ มาโคโตะ ชายวัยสี่สิบที่ชีวิตของเขาไม่ได้เป็นนักเขียนอย่างที่ใฝ่ฝัน มิหนำซ้ำยังผิดหวังกับความรักและการงานในฐานะโปรดิวเซอร์เงินน้อย แถมกลายเป็นผู้ใหญ่ที่คนไม่ให้ความสนใจไยดีนอกจากคนรู้จัก จนกระทั่งคืนหนึ่งเขาได้ค้นพบกับใครบางคนที่มอบความปรารถนาดีให้และนั่นทำให้เขาย้อนคำนึงไปถึงความรักที่ผ่านมาในอดีต หญิงสาวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและที่เขาทำหล่นหายไป ที่หลากรสชาติ เปี่ยมไปด้วยความสุขและความทุกข์ของความเป็นมนุษย์ แต่หนึ่งในความทรงจำนั้นกลับเป็นหญิงสาวคาโอริที่ติดอยู่ในใจเขาตลอดมาตั้งแต่ปี 1999 ซาโต้เริ่มทบทวนชีวิตของตัวเองไปพร้อม ๆ กับคนรอบตัวที่คอยอยู่เคียงข้าง ทั้งเพื่อนฝูง หัวหน้า ยากูซ่า และแฟนสาวจะผลักดันให้เขานั้นเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปโดยปราศจากความเสียใจ และกลายเป็นคนใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม แต่เขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในช่วงวัยกลางคนจริง ๆ เหรอ
เรื่องราวถูกบอกเล่าได้อย่างชวนสับสนและตัดสลับไปมา โดยมีการบอกว่าย้อนไปเหตุการณ์ตอนปีไหน กว่า 80 เปอร์เซนต์ จะเดินเรื่องในช่วงอดีตก่อนหน้าเหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งแต่ละเหตุการณ์ก็จะไม่ได้โรแมนติกจ๋า ๆ แต่จะมีความหวานขมปนกันไป ประหนึ่งเหมือนชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่มีความดี ความเลว ความเฉยชา ความสิ้นหวัง โดยจะมีตัวแทนของผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ของตัวเองเคยเชื่อมเรื่องก่อนจะหักอกด้วยเหตุผลปวดตับมากมายที่ชีวิตคน ๆ หนึ่งได้พบเจอ เรียกได้ว่ามันแทบเป็นหนังดราม่าสัจธรรมชีวิตคนวัยเลขสี่จริง ๆ มากกว่าจะเป็นหนังรักสดใส แม้จะมีช่วงผ่อนอารมณ์หรือดูมีความสุขอยู่เรื่อย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวาหรือพล็อตที่มันเซอร์ไพรส์อะไรมาก แต่ก็เจ็บปวดใจในทุกช่วง มีแต่ความหน่วง ใจและเชื่อมโยงตัวละครอย่างไม่น่าเชื่อ บทของเรื่องที่ถูกเขียนมาอย่างละเมียดละม มีทั้งแบบปรัชญา หรือคำคมที่ฟังแล้วเจ็บจิ๊ดชวนน้ำตาร่วง ก่อนจะมอบบทสรุปสุดจุกใจเพราะมันจริงมาก ๆ กับเรื่องราวของหนังที่ไม่ได้สวยงามมีความสุขแต่ก็สมบูรณ์ในแบบของมัน
ตัวละครหลัก ๆ ในพล็อตจะมีอยู่แค่สองคนคือ ซาโต้ และ คาโอริ แต่ภาพสะท้อนของเรื่องราวจะเล่าผ่านซาโต้ตั้งแต่วัย 21 จนถึงวัย 46 ซึ่งแม้เวลาจะผ่านไปสักแค่ไหนเขาก็ยังเป็นคนที่จริงจังกับงาน แต่ก็ละเลยในความสัมพันธ์แม้ว่าเขาจะพยายามมากเท่าไหร่ก็ตาม นอกจากนี้เขายังละเลยข้อดี่ที่ตัวเองมีไปอย่างสูญเปล่า โดยคาโอริคือผู้หญิงที่แสนน่ารัก แตกต่างจากคนอื่น และมีเอกลักษณ์คนเดียวที่เขารักมาตลอดจนกระทั่งแยกจากกันและทำให้ชีวิตของซาโต้ไม่เคยเดินออกจากวงเวียนแห่งความเศร้า เขากลายเป็นคนที่หยุดนิ่งไม่เคยไปไหน แม้แต่กับซู หญิงสาวลูกครึ่งเกาหลีที่เขาได้มีความสัมพันธ์ด้วยก็จากเขาไปอย่างปริศนา ท่ามกลางมิตรสหายที่อยู่ด้วย ต่างก็มีความลับเก็บซ่อนกับเขา จะมีบ้างที่บางตัวละครจะมีมุมมองเป็นของตัวเองและอาจจะไม่ได้มีบทบาทมากอะไร แตก็จะปรากฏในช่วงชีวิตของซาโต้ และจะค่อย ๆ ผลักดันให้ตัวละครเดินไปข้างหน้าเสียมากกว่า โดยเฉพาะตัวละครเกย์คนหนึ่งที่ขโมยซีนทั้งมุกตลกและดราม่าที่ทำได้ดีและใจสลายอย่างไม่น่าเชื่อ
ประเด็นของเรื่องนั้น เราทุกคนล้วนมีความฝัน แต่เราต้องเตรียมใจว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แม้พยายามมากแค่ไหน เราก็อาจไม่โชคดีได้ทำในสิ่งที่ต้องการจริง ๆ เราถึงต้องทุกข์ทรมาน บางครั้งการโทษว่าเพราะโลกมันแย่ก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่ก็ทำให้รู้ว่าเข้าใจเสมอว่าโลกมันไม่ยุติธรรมเหมือนความสัมพันธ์ รักกันมากแค่ไหน จากกันไปก็ง่ายดาย บางคนมีหน้าที่การงานที่สูง บางคนตกต่ำ บางคนเจอกันไม่กี่ปีก็จากเราไป ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน อยากทำอะไรก็ควรทำ ยิ่งเราโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ยิ่งถวิลหาความเป็นเด็กมากขึ้น ยอมโอบรับความทรงจำที่สวยงาม เพื่อให้สามารถเจ็บปวดกับความจริงที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นและไม่อาจกลับไปในช่วงเวลาดี ๆ อีกต่อไป ผลักดันชีวิตให้ดีขึ้นแม้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงเราไปเพียงน้อยนิด แต่เราต้องรักษาความเป็นตัวเองไว้ อย่าให้โลกเปลี่ยนเราไปโดยสมบูรณ์ เหมือนตัวละครในเรื่องที่มีแต่ความทุกข์ทนเป็นของตัวเอง และเกี่ยวข้องกับตัวเอกอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับชีวิตของผู้คนที่เราพบเจอในแต่ละวัน และล้วนมีส่วนประกอบที่เติมแต่งให้เราเป็นเราอย่างในทุก ๆ วัน
ในส่วนของนักแสดง มิราอิ โมริยามะ นักแสดงนำสามารถเล่นบทของคนที่มีช่วงชีวิตผ่านมากว่า 25 ปีได้อย่างแนบเนียน จากหนุ่มอายุ 21 ที่มีความรักที่สวยงาม ก้าวเข้าสู่ความรักสีเทา และความรักอันเลวร้ายในวัย 46 เขาเป็นตัวแทนของคนที่มีชีวิตจริงจังกับงานจนละเลยคนรอบตัวทั้งแฟน เพื่อนฝูง และเป็นต้นเหตุให้ชีวิตของเขาพบเจอความล้มเหลว แม้ตลอดทั้งเรื่องเขาจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์และเฉยชา แต่ในช่วงท้ายที่สุดจะทนจนน้ำตาคลอก็แสดงให้เห็นถึงความเสียใจที่ไร้ทางกลับไปแก้ไข ซาอิริ อิโตะ ที่บทอาจจะมาเพื่อโชว์ความน่ารัก แต่เธอก็เล่นเป็นบทของผู้หญิงน่ารักและมีเสน่ห์ ไม่แปลกเลยที่ซาโต้จะรักมากขนาดนี้ และ อัตสึชิ ชิโนฮาระ ในบทเกย์หนุ่มผู้มีความลับกับซาโต้ ที่ดูเผิน ๆ เขาอาจจะเล่นตลก แต่จริง ๆ เขาซ่อนความเจ็บปวดไว้และระเบิดออกมาในตอนท้าย นอกนั้นแล้วก็จะเป็นธรรมชาติ เล่นน้อย ๆ เรียบ ๆ ไม่มีล้น มุมกล้องการตัดสลับนี่สวยมากระหว่างยุค มีการใช้โทนสีภาพให้เข้ากับยุคสมัยนั้น ๆ ด้วย จังหวะดนตรีกับไม่มีก็เข้ากับอารมณ์เรื่องหน่วง ๆ มาก ช่วงท้ายทำเอาน้ำตาร่วง
We Couldn’t Become Adults ถ้าแปลชื่อไทยได้คงหมายถึง เป็นผู้ใหญ่ก็ยิ่งเจ็บปวด ภาพยนตร์ดราม่าหน่วงใจที่สะท้อนสังคม ช่วงชีวิตหนึ่งที่ไม่แน่นอน และมองหาความหวังในความสัมพันธ์เก่า ๆ ทั้งที่รู้ว่ามันสูญเปล่า แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต มีความรักแต่มันก็แค่ชั่วพริบตาหนึ่ง และทุกครั้งที่มันจบก็เจ็บปวดในทุกครา ด้วยการแสดงที่เป็นธรรมชาติและเคมีที่ลงตัวของนักแสดง บทที่ถูกร้อยเรียงแบบไม่เข้มข้นแต่หน่วงใจและเต็มไปด้วยปรัชญา การนำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองของคนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัยในปัจจุบันที่สวยงาม พร้อมดนตรีประกอบก็ทำให้มันเป็นหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องที่ดีตามมาตรฐาน แต่ถามว่าดีเยี่ยมมั้ย ก็คงไม่ถึงขั้นนั้นสักเท่าไหร่ เพราะมันก็ยังดูอั้น ๆ ไว้ การเล่าก็ออกจะชวนสับสนไปนิดนึงเพราะตัดสลับเยอะไปหน่อย แต่ถ้าใครที่กำลังใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมาย คาดหวังแต่ความรัก มาดูเรื่องนี้อาจจะสะท้อนความคิดอะไรบางอย่างได้ คงเป็นหนังที่เหมาะกับผู้ใหญ่ที่ถวิลหาวัยเยาว์นั้นแหละครับ และหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากเซ็กส์แบบเห็นเป็นหนังอีโรติก และการเสพยาด้วย เพราะงั้นผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ
ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์