รีวิว Yara (Netflix) หนังสืบสวนจากเรื่องจริงที่พยายามเกินไป (ไม่สปอยล์)
Yara
สรุป
ภาพยนตร์ดราม่าเล่าเป็นเส้นตรงเนือย ๆ สะท้อนความน่ากลัวของมนุษย์ การแสดงที่ใช้ได้ เรื่องราวที่น่าติดตาม แม้บทของตัวละครนั้นจะไม่เป็นธรรมชาติ ยัดเยียดดราม่ามากมาย และดนตรีประกอบและการถ่ายทำโปรดักชั่นที่ดี แต่ด้วยเพราะสร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริง มันจึงไม่มีอะไรพิเศษหรือแปลกใหม่
Overall
5.5/10User Review
( votes)Pros
- สร้างจากเรื่องจริงในอิตาลี ปี 2010
- การแสดงที่ใช้ได้ ชวนให้ติดตาม
- ประเด็นมากมายภายในหนังให้คิดตามในสังคม
- โปรดักชั่นการถ่ายทำที่มีความสวย
- ดนตรีประกอบที่ทรงพลัง
- เสียงพากย์ไทยคุณภาพ
Cons
- สร้างจากเรื่องจริง จึงไม่มีอะไรแปลกใหม่
- บทตัวละครไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
- พยายามยัดปัญหาหรือดราม่าเข้ามาเกินไป
- เล่าเรื่องเป็นทื่อ ๆ ไม่มีชั้นเชิง
- บทสรุปที่จบแบบดื้อ ๆ
Yara (หนูน้อยยารา) ภาพยนตร์ดราม่าสืบสวนสะเทือนอารมณ์สัญชาติอิตาลี สร้างจากเหตุการณ์จริงในประเทศอิตาลี คดีฆาตกรรมยารา กัมบิราซิโอ เด็กหญิงนักกีฬายิมนาสติกอายุ 13 ที่หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างเดินกลับบ้านที่ห่างจากโรงฝึกซ้อมไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรในปี 2010 ก่อนจะถูกพบเสียชีวิตในไม่กี่เดือนต่อมา พร้อมการสืบคดีที่กินเวลากว่าหลายปีและเต็มไปด้วยความตึงเครียด และกระแสสังคมที่บีบคั้นให้อัยการและคนที่เกี่ยวข้องออกตามหาความจริง ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังคดีนี้ กำกับโดย มาร์โก ตูลลิโอ จอร์ดานา ผู้กำกับภาพยนตร์อิตาลีดังคะแนนวิจารณ์ดีในปี 2003 อย่าง The Best of Youth โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในเน็ตฟลิกซ์พร้อมเสียงพากย์ไทย
ตัวอย่าง Yara (หนูน้อยยารา)
รีวิว Yara (หนูน้อยยารา)
ใน Brembate di Sopra เมืองเล็ก ๆ ประเทศอิตาลี วันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 2010 ยารา กัมบิราซิโอ เด็กหญิงวัย 13 ปี ได้หายตัวอย่างลึกลับ หลังถูกรถบรรทุกปริศนาขับเข้าหา ก่อนจะถูกพบเป็นศพในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปี 2011 สร้างความทุกข์ใจให้กับครอบครัวกัมบิราซิโอ เนื่องด้วยยารา เป็นนักกีฬายิมนาสติกมากฝีมือและดูเป็นที่รักใคร่ของทุกคน กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่อัยการหญิงอย่าง เลทิเซีย รักเกริ ต้องลงสืบข้อมูลท่ามกลางสายตาของคนรอบตัวที่มองว่าเธอบ้าไปแล้วกับการพยายามตามหาความจริงที่ไม่มีสาระ ที่ยิ่งเวลาผ่านไป ความหวังเริ่มหดหาย เลทิเซีย ที่มีลูกสาวและถูกเชื่อมโยงกับไดอารี่ที่ยาราเขียนไว้ก็เริ่มค้นพบเบาะแสสำคัญที่จะนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ทว่า ยิ่งเธอสืบลงลึกมากเท่าไหร่ ทั้งชีวิตและการงานก็ตกอยู่ในความเสี่ยง แถมผู้ต้องสงสัยก็แทบไม่มีอะไรเชื่อมโยงกับยาราเลย เธอจึงต้องทำทุกวิถีทาง จะต้องออกค้นหาความจริงและจับกุมคนร้ายให้ได้ ก่อนมันจะกลายเป็นคดีที่ไร้การแก้ไปตลอดกาล
เรื่องราวที่สร้างจากเรื่องจริงที่สะเทือนขวัญในอิตาลี ถูกบอกเล่าผ่านมุมมองของเหยื่อทั้งก่อนจะหายตัว และหายตัวไป ทำให้เราได้เห็นว่าตัวละครมีชีวิตอย่างไรก่อนเรื่องจะเกิด หนังเล่าเป็นเส้นตรง จะมีตัดสลับไปมาแต่ไม่ได้ชวนสับสนอะไร ก่อนที่หนังจะพาเราไปสำรวจตัวละครหลักที่ล้วนตกอยู่ในวังวนของความเศร้าและความเคลือบแคลงที่ค่อย ๆ ออกตามหาความจริง ถ้าใครเคยดูหนังสืบสวนมานั้น จะต่อติดง่าย เพราะมันเล่าจากเรื่องจริงสลับกับการเล่าเรื่องบุคลิกของตัวละคร ยารา ที่แม้จะไม่ได้มีบทบาทเยอะอะไร แต่ก็ทำให้เราแอบสงสัยตามว่า เรื่องของเธอนั้นเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับเธอได้อย่างไร และแอบมีการหักมุมสลับไปมาในช่วงท้ายซึ่งภาพรวมก็ถือออกมาค่อนข้างชวนติดตามในระดับหนึ่ง หลังจากคดีค่อนข้างไม่คืบหน้าและเนือยมาก จะมีจังหวะดราม่า โอเวอร์ของตัวละครหลักที่ดูมากเกินไปหน่อย ที่ดูแย่คือหนังพยายามจะชี้เป้าไปที่ตัวคนร้ายอย่างชัดเจนมากจนดูไม่เป็นธรรมชาติ และเป็นการแสดงตามบท ด้วยบทสรุปที่จบแบบจับให้จบและทิ้งคำอธิบายจากเรื่องจริงหลังจากจบคดีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น ก็ทำให้รู้สึกค่อนข้างไม่ได้ทรงพลังเท่าที่ควร แม้จะเต็มไปด้วยความสะเทือนขวัญของเรื่องราวก็ตาม
ตัวละครในเรื่องต้องบอกเลยว่าแทบไม่มีใครนอกจาก ยารา กับ อัยการหญิงเลทิเซีย ผสมกับมุมมองของครอบครัวกัมบาริซิโอ้ที่เฝ้าวิงวอนให้ลูกสาวกลับคืนมา ก่อนจะพบว่าความหวังทุกอย่างพังทลาย ซึ่งบทจะไม่ค่อยมีอะไรเพราะครอบครัวจะอบอุ่น แต่ก็แอบมีอะไรซ่อนอยู่ ในขณะที่ยาราก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝัน มุมมองสังคมกว้างไกลที่เขียนไดอารี่เอาไว้จดจำถึงเรื่องราวในชีวิต โดยที่เธอไม่รู้ว่าเธอจะไม่ได้กลับมาเขียนอีก น่าสลดใจมาก อัยการหญิงเลทิเซียก็ต้องเจอความตึงเครียดทุกทางหลังจากที่เข้ามาสืบคดี เพราะไม่มีอะไรชี้เพาะเจาะจง และต้องเจอกับอคติทางเพศที่ทำให้รูปคดีของเธอไม่น่าเชื่อถือ และความสัมพันธ์ของลูกสาวที่เป็นตัวผลักดันให้เธอต้องออกตามหาความจริง ซึ่งตัวละครเธอมาจากตัวจริง ทำให้เราได้เห็นว่าหนังเน้นไปที่ตัวเธอมากที่สุด และการพยายามเชื่อมโยงระหว่างยารากับเธอก็ดูเป็นอะไรที่แอบจับยัดไปหน่อย
เราจะได้เห็นจิตใจอันสดใสของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ความโศกเศร้าของครอบครัวที่ต้องสูญเสีย การเผชิญหน้าของทีมกฏหมายกับสื่อและอำนาจใหญ่ที่คอยปั่นป่วนคดีเพราะมองว่าคดีที่กำลังทำใช้ทุนสูงเกินไป ได้เห็นการทำงานทางความยุติธรรม การต่อสู้กับอคติทางเพศในวงการกฏหมาย มุมมองของผู้กระทำผิด ความน่ากลัวของคนธรรมดาที่จิตใจมืดบอดจนกล้ากระทำความผิดที่ให้อภัย มุมมองของคนรอบตัวคนร้าย ชีวิตบริสุทธิ์ที่ถูกพรากไปเพียงเพราะไม่ยินยอม ความผิดพลาดในการทำคดี การบุกเบิกการตามจับคนร้ายด้วยฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นเอง มุมมองอคติทางคดีที่เกิดจากการตีความไม่ชัดเจน และการต่อสู้ในชั้นศาลที่ฟาดสำนวนและเฉลยคดีได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอาจจะไม่ได้ตรงเป้ากับชื่อเรื่อง แต่ก็ทำให้เห็นว่าสังคมที่เด็กผู้หญิงคนนี้อยู่มันเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความไม่แน่นอน ไม่ว่าผลสรุปคดีนี้จะจริงหรือไม่ ยังไงคนร้ายก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจและต้องยอมรับผิดอย่างไม่มีข้อแก้ตัว และแม้จะพยายามพิสูจน์ยังไง ก็อาจจะสายเกินไป
ในส่วนของการแสดง Isabella Ragonese ได้โชว์ให้เห็นความพยายามของตัวอัยการที่พยายามสืบคดีอย่างสุดความสามารถ ไม่เคยย่อท้อ และถูกหลอกหลอนโดยยารา ซึ่งเธอก็ทำได้ดีแม้ว่าบทจะเขียนให้เธอเป็นเจ้าของเรื่องราวจนทุกอย่างเข้าทางเธอไปหมด จนแอบไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง Nicole Fornaro เด็กสาวเจ้าของบท ยารา ที่แม้บทจะไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากโชว์ความสดใส และน่ารัก แต่ฉากที่เธอตกเป็นเหยื่อของคนโฉดอย่างน่าสงสารและสิ้นหวังก็สะเทือนอารมณ์มาก Roberto Zibetti ในบทชายปริศนาที่ปรากฏตัวขึ้นเพราะเกี่ยวข้องกับยารา เขาแสดงให้เห็นความกลัว ความไม่แน่ใจ และความพยายามจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ และการแสดงของครอบครัวยาราที่ไม่ต้องมีบทให้ทำอะไรก็เข้าใจความรู้สึกของความสูญเสีย ในโปรดักชั่นการถ่ายทำก็ดีตามมาตรฐาน แต่ที่ต้องขอชมคือดนตรีประกอบที่ทำออกมาได้ทรงพลังและเร้าอารมณ์มากโดยเฉพาะตอนเฉลยปมและช่วยทำให้หนังดีขึ้นมา ท่ามกลางความไม่เป็นธรรมชาติของบทที่พยายามเล่าทุกอย่างสรุปแบบขอไปที
ยารา คือภาพยนตร์ชีวิตที่สะท้อนให้เห็นชีวิตของคนที่พลิกผันกลายเป็นปัญหาสังคมเพราะคนด้วยกันเอง จากคนที่เราเคยรู้จัก อาจจะกลายเป็นคนที่ทำร้ายเรามากกว่าที่คิด มันอาจไม่ได้มาจากสิ่งเร้าที่สะสม มันอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีทันใดโดยไม่ทันตั้งตัว ถือว่าเป็นหนังสืบสวนที่ดีแต่ไม่มีอะไรพิเศษมากมาย นอกจากการแสดงที่ใช้ได้ การถ่ายทำที่ดูดี และเรื่องราวที่ชวนให้ติดตามแม้จะมีช่วงที่เนือยและดราม่าที่ไม่เป็นธรรมชาติและสรุปเอาง่าย ๆ และคนอายุต่ำกว่า 13 ปี ควรได้รับคำแนะนำเพราะเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเยาวชน แต่ยังไงก็ตามเรื่องนี้ยังเป็นข้อพิพาทกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตว่าไม่มีการพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนกับทางผู้กำกับ หรือแม้แต่คนในประเทศก็ยังไม่ปักใจเชื่อแม้ตัวของคนร้ายจะถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและมีหลักฐานยืนยันอยู่หลายครั้งก็ตาม เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ จงคิดตามและใช้วิจารณญาณในการรับชม ค่อนข้างเฉย ๆ ไม่แย่เลยกับหนังเรื่องนี้ ถ้าหากว่าง หรืออยากดูหนังสอบสวนที่ใกล้เคียงกับความจริง เรื่องนี้คงเป็นคำตอบได้ครับ
ชมได้แล้ววันนี้ใน เน็ตฟลิกซ์