Apple Watch 5
สรุป
ดีงาม เรียกว่าเป็นสมาร์ทวอชที่เข้าใกล้คำว่า “สมบูรณ์แบบ”
Overall
9.5/10User Review
( votes)Pros
- มีหน้าจอแสดงผลตลอดเวลา
- ฟีเจอร์ครอบคลุมการออกกำลังกายมากขึ้น
- มีแอปพลิเคชั่นใหม่ๆที่รองรับเยอะมากขึ้น (รวมถึง App Store)
- ฟีเจอร์ที่ช่วยคำนวนเกี่ยวกับสุขภาพ (ตรงจุดนี้แตกต่างจากสมาร์ทวอชอื่นๆมาก)
Cons
- ไม่รองรับบนโทรศัพท์ Android
- ไม่มีระบบการติดตามการนอนหลับแบบรุ่นก่อนๆ
- อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยังได้แค่ 18 ชั่วโมง
สวัสดีค่ะ ! ครั้งนี้โทฟุจังจะมาแปลรีวิวแบบน้ำจิ้มเกี่ยวกับสมาร์ทวอชแบรนด์ดัง ‘Apple Watch 5’ (แอปเปิ้ลวอช 5) ผลิตโดยบริษัท Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีต่างๆที่ใครๆต้องรู้จักนั่นเองล่ะค่ะ ซึ่งซีรีส์ 5 เป็นรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อ 10 ตุลาคม 2019 ที่ผ่านมานี้ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ปรับปรุงให้แตกต่างจากซีรีส์ 4 แต่ว่าทั้งราคาที่ไม่แพง ฟีเจอร์ ระบบ WatchOS 6 ที่ถูกเพิ่มเข้ามาเรียกได้ว่าเปลี่ยนมากกว่าที่จะเรียกว่าเป็นรุ่น 4S แน่นอนค่ะ !
อ่านบทความข่าวสารรีวิวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวเจาะลึกนาฬิกา Garmin Fenix 6 (การ์มินฟีนิกซ์ 6) ครบจบทุกฟังก์ชันสำหรับคนออกกำลังกาย
- เปิดตัว Apple Watch series 5 พร้อมกับราคาที่จับต้องได้ !
- รีวิวการใช้งาน Amazfit GTS สมาร์ทวอชแบรนด์จีนจาก Huami (Xiaomi) ราคาน่ารัก
แปลข้อมูลรีวิว รูปภาพจาก : Andy Boxall (Digital Trends) The Verge
ข้อมูล (ที่ต้องรู้) ราคาและความน่าซื้อ
จะเริ่มวางขายในประเทศไทยในวันที่ 25 ตุลาคม 2019 พร้อมกันทั่วประเทศ ! หากใครที่กำลังสนใจจะได้มีเวลากำเงินรอ
- แอปเปิ้ลวอช 5 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 13,400 บาท (รุ่น GPS)
- และราคา 16,900 บาท (รุ่น GPS+cellular) นอกเหนือจากนี้จะเป็นรุ่นจากวัสดุพิเศษต่างๆที่อาจจะมีการเพิ่มราคาแตกต่างกันไปนะคะ
- ต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก AIS คลิกที่นี่
6 จุดเด่น แอปเปิ้ลวอช น่าซื้อแค่ไหน?
- มีเข็มทิศ สามารถเก็บเพลงฟังเพลงในตัวได้
- ระบบการตรวจจับเสียงดังรอบตัว ระบบการตรวจจับสุขภาพ ประจำเดือน
- ระบบการจับการเต้นหัวใจ (ถ้าหากอัตราการเต้นหัวใจสูงหรือต่ำเกินไปจะทำการแจ้งเตือนทันที)
- มีระบบ SOS หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุ มีระบบการขอความช่วยเหลืออัตโนมัติ !
- มีสายรัดข้อมือมากมายหลายรุ่นให้เลือกเปลี่ยนตามการใช้งานได้ในราคาที่ไม่แพง (ตั้งแต่สายสปอร์ตกันน้ำ ไปจนถึงสายหนังแฟชั่นสวยๆ)
- ตอบข้อความด้วยอิโมจิต่างๆได้ เพิ่มความปลอดภัยขณะทำกิจกรรมอื่นๆเพราะไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาให้ยุ่งยากกดรับคุยผ่านนาฬิกาได้ทันที
ตรงจุดนี้โทฟุจังต้องขอสรุปเล็กๆก่อนว่า
- ถ้าหากคุณกำลังใช้โทรศัพท์ Apple และต้องการสมาร์ทวอชที่คอยอำนวยความสะดวกในทุกๆ วัน แอปเปิ้ลวอช 5 ตอบโจทย์ค่ะ
- มุ่งเน้นเกี่ยวกับการตรวจจับข้อมูลสุขภาพโดยรวม (ไม่ได้เน้นเจาะจงทางด้านตรวจจับเวลาในการออกกำลังกายอย่างจริงจัง)
- เหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือมอบให้คนที่รัก ด้วยระบบแจ้งเตือนตรวจจับการล้มหากเกิดอะไรขึ้นเราจะรับรู้ได้อย่างฉับไว (ตามในข่าวต่างประเทศที่มีเคส คุณตาปั่นจักรยานล้มแล้วตัวนาฬิกาทำการแจ้งเตือนไปยังลูกชาย พร้อมส่งโลเคชั่นจุดที่ล้มทันที)
- ถ้าหากว่ากำลังใช้ ซีรีส์ 4 อยู่ อาจจะไม่จำเป็นต้องอัปเกรดรุ่นก็ได้เพราะว่าความต่างนั้นไม่ได้มีมากนัก แต่ถ้าหากยังไม่มีตรงจุดนี้ห้ามพลาดค่ะ
- หากงบจำกัด ไม่เน้นฟีเจอร์มาก ตอนนี้ซีรีส์ 3 ลดราคาเหลือเพียงตัวละ 6,400 บาทเท่านั้น (รองรับ WatchOS 6 ไม่ห่วงกลัวตกรุ่นค่ะ)
หากถามว่าควรซื้อแค่ไหน..? ระยะเวลาหลังจากนี้โทฟุจังคาดว่าจะใช้ได้อย่างน้อยๆก็ 2 ปี ก่อนที่จะควรเปลี่ยนถ้าหากว่าคุณสนใจใน Apple ใช้โทรศัพท์ Apple และยังไม่มีสมาร์ทวอชขอเชียร์ให้ซื้อ 100% ค่ะ ! สิ่งที่ได้มาคือการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเล็กๆน้อยๆมากขึ้น
หลังจากนี้เราไปดูรีวิวและหน้าตากันเลย !
Apple Watch 5 รีวิว : ดีไซน์เดิม สเปคไฉไล ?!
แน่นอนว่าหน้าตาคือสิ่งแรกที่เราจะมองค่ะ (เรียกว่าเฟิร์สอิมเพรสชั่น?) เราจะมาพูดถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่ถ้าหากเทียบกับซีรีส์ 4 มองตาเปล่าผ่านๆเรียกว่าแทบไม่ต่างกัน ใช่ค่ะ เพราะว่าซีรีส์ 5 ยังคงใช้ดีไซน์เดิมจากซีรีส์ 4 แตกต่างกันที่น้ำหนักเล็กน้อยเพราะว่าในซีรีส์ 5 จะมีกระจกแซฟไฟร์ที่ด้านหน้าของนาฬิกาและวัสดุพิเศษในรุ่นของ ไทเทเนียม เซรามิค (เพิ่มความทนทานให้นาฬิกาก็จริงแต่ดูแล้วมันไม่ได้แตกต่างในเรื่องพื้นผิวหรือการใช้งานเท่าไหร่ เอาไว้สำหรับคนที่ชอบเป็นการเฉพาะล่ะนะ)
หน้าจอโค้งมน เหมือนกับซีรีส์ 4 ตัวเรือนดูละเอียดอ่อนแต่คงทนแม้จะเป็นรุ่นอลูมิเนียมที่ราคาถูกที่สุดก็ตามที ทำให้รู้สึกสัมผัสคุณภาพสูง สีเทาด้านจับคู่กับสาย Sport Band สีขาวเรียบง่าย
- ในซีรีส์ 5 นี้ ใช้ชิปประมวลผลแบบ S5/w3 และเพิ่มความจุของตัวนาฬิกาเป็น 32GB (จากรุ่นก่อนๆ 16GB)
ในส่วนของหน้าตาของรุ่นอลูมิเนียมเรียกว่า ‘ดีไซน์นี้ดูคลาสสิคในตัวของมันอยู่แล้ว’ รวมทั้งวัสดุของรุ่นอลูมิเนียมยังรีไซเคิลได้ 100% (เรียกว่าเพื่อสิ่งแวดล้อมจริงๆค่ะ)
ดีไซน์ของ Apple Watch ซีรีส์ 5 ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้มากกว่านี้แล้ว..
ระบบการแสดงผลหน้าจอตลอดเวลา Always-on display !
อาจจะดูน่าตลกที่ว่า แสดงหน้าจอตลอดเวลาแล้วมันว้าวตรงไหนในเมื่อสมาร์ทวอชอื่นๆก็มี..?(ฮา) แต่ไม่ค่ะ ! นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว ฟังดูงี่เง่าแต่เมื่อก่อนหลายคนเคยร้องขอไปถึงทางบริษัทเกี่ยวกับระบบนี้และอีก 5-6 ปีต่อมา… ตอนนี้มันเป็นจริงแล้ว หมดยุคที่จะต้องยกข้อมือหรือรอนาฬิกาตอบสนองเพื่อแสดงผล เพราะว่าในซีรีส์ 5 นี้จะมีการแสดงผลตลอดเวลาการใช้งาน (โดยที่แบตเตอรี่ยังคง 18 ชั่วโมงเท่ากับรุ่น 4)
ในส่วนของหน้าปัดดิสเพลย์บอกเวลาที่สามารถปรับแต่งหรือให้ผู้ใช้งานได้เลือกโหลดแบบที่ชอบให้เข้ากับสายรัดข้อมือ
แอป Noise เป็นอีกแอปใหม่ที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเรา ตัวแอปจะทำการวัดค่าเสียงรอบตัวจาดสภาพแวดล้อม และแจ้งว่าอยู่ในระดับไหน มีการแจ้งเตือนเมื่อถึง 100 เดซิเบล (ฟังเสียงดังนานๆนั่นอาจส่งผลต่อหูและการได้ยินของคุณได้นะ) จริงๆมันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนักแต่ว่าเจ้าแอปนี้มันทำให้เรา ‘ตระหนัก’ และใส่ใจต่อสภาพแวดล้อมของเรามากขึ้น
โดยรวม WatchOS 6 มีประสิทธภาพและมันใช้ง่ายดูกลมกลืนมากยิ่งขึ้น (มีบางครั้งที่ซอฟต์แวร์ช้าหรือค้างแต่นั่นก็แค่ชั่ววินาที เพียงจุดเล็กๆที่ตัวนาฬิกาจะทำการอัปเดตบ้างในบางครั้ง)
Apple Watch 5 รีวิว : การออกกำลังกายและสุขภาพ
ถ้าหากว่าคุณไม่ใช่สายออกกำลังกายจริงจัง เจาะจง Watch 5 คือตัวเลือกที่ดีมากๆค่ะ ! เพราะจุดเด่นของนาฬิกาจะมุ่งเน้นในรูปแบบของสมาร์ทวอชมากกว่าสปอร์ตแบนด์ที่ทำเพื่อตรวจวัด จับค่าการออกกำลังกาย แต่มุ่งเน้นไปทางลูกเล่นต่างๆตรวจจับสุขภาพจากการใช้ชีวิตประจำวันของเราในทุกๆวัน
หลังจากลองใช้ดูก็พบว่าต้องใช้เวลาซักพัก ยิ่งเราเก็บข้อมูลหลายวันนานๆมากยิ่งขึ้น ข้อมูลที่แสดงออกมาก็จะยิ่งแม่นยำ ตรงจุดนี้คิดว่ามันช่วยให้เราสนใจเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย มีคำแนะนำต่างๆ คอยสังเกตการใช้ชีวิต เดิน ยืน นั่ง ของตัวเองมากขึ้น (ถึงจะกินแบตเตอรี่นิดหน่อยก็ตาม)
เพราะแอปเปิ้ลวอช 5 จะรับข้อมูลแคลอรี่ การเคลื่อนไหวต่างๆรายชั่วโมง อัตตราการเต้นหัวใจ รวมถึงการดูค่า VO2 Max (การวัดค่าออกซิเจนที่ร่างการใช้ไป) รวมถึงการออกกำลังกายต่างๆที่เราสามารถบันทึกเพิ่มเติมได้ อาทิ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน โยคะ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แอปเปิ้ลวอชเก็บเพื่อรวมข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้งานควบคู่กับแอปในสมาร์ทโฟนของเรา
*ในซีรีส์ 5 นี้ยังไม่มีการเพิ่มระบบการติดตามการนอนหลับเข้ามาแบบในข่าวลือ
**ปัจจุบันการตรวจด้วยระบบคลื่นไฟฟ้า (ECG) พร้อมใช้งานสำหรับทั่วโลกแล้ว ซึ่งเป็นข่าวดีมากๆ เพราะว่าข้อมูลตรงนี้สามารถเก็บเป็นข้อมูลทางการแพทย์ได้ หากเกิดเหตุอะไรทำให้การเต้นหัวใจของเราผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอเสมอ ตัวนาฬิกาจะทำการแจ้งเตือนหรือส่ง SOS ไปยังปลายทางที่เราตั้งค่าไว้ทันที
ความคงทนของแบตเตอรี่ ?
ครั้งแรกอาจจะมีกังวลบ้างเพราะว่า ระบบแสดงหน้าจอตลอดเวลาจะส่งผลกับปริมาณแบตเตอรี่หรือไม่ แต่หลังใช้งานแล้วพบว่า ไม่ เรายังสามารถใช้ได้ปริมาณเท่าเดิม เพราะว่าในหนึ่งวัน เริ่มใช้ 8 โมงเช้าและ 5 ทุ่มกลับจากทำงาน แบตเตอรี่ยังคงมีอยู่หากเราทำการชาร์จระหว่างหลับสำหรับพรุ่งนี้อีก หากทำเป็นกิจวัตรเหมือนกับชาร์จแบตโทรศัพท์นั่นแทบจะไม่มีทางที่คุณจะใช้จนแบตเตอรี่หมด (ถึงจะน่าผิดหวังที่รุ่นใหม่ ยังคงมีระยะเวลาแบตเตอรี่เท่าเดิมก็เถอะ..แค่หวังว่ามันอาจจะเยอะกว่านี้)
แต่ว่านั่นก็เกี่ยวกับการใช้งานของแต่ละคน ถ้าหากว่าคุณเปิด GPS และระบบติดตามการออกกำลังกายตลอดเวลา รวมถึงตรวจสอบการเต้นหัวใจอีก แน่นอนว่าวันนั้นแบตเตอรี่จะไหลเร็วยิ่งกว่าเงินในกระเป๋าแน่นอนค่ะ (ฮา)
สรุปสุดท้าย
เรียกว่าซีรีส์นี้ทำอะไรได้มากกว่าเดิม แถมช่วยอำนวยความสะดวกเล็กๆน้อยๆ ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมมากขึ้นแต่สิ่งที่ชอบที่สุดก็คงไม่พ้น ระบบตรวจจับการล้ม ที่ยังไม่มีในรุ่นอื่นๆเป็นฟีเจอร์ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตเราจริงๆ โทฟุจังคิดว่ามันเป็นนาฬิกาที่ให้มากกว่าการดูเวลา ไม่ว่าจะคำนึงถึงสุขภาพและเรื่องการปลอดภัย ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความหรือรับสายเวลาทำกิจกรรม ประชุมอื่นๆ ถ้าหากใครต้องการตรงจุดนี้ คิดว่าคงต้องชอบแน่ๆค่ะ 🙂
หวังว่ารีวิว Apple Watch 5 น้ำจิ้มเรียกน้ำย่อยนี้จะช่วยประกอบการตัดสินให้หลายๆคนได้นะคะ !
ขอขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
สามารถติดตามข่าวสารบทความเรื่องเล่าสนุกๆอื่นๆจากโทฟุจังได้ที่! : Playinone/Tofuchan