รีวิว นาจา Ne Zha 2019 อนิเมชั่นจีนรายได้สูงสุดตลอดกาล
สรุป
นาจาเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดตลอดกาล เป็นเรื่องที่พลิกวงการอนิเมชั่นจีนเลยก็ว่าได้ ทั้งในแง่ของ กราฟฟิก และการดัดแปลงเรื่องของตัวละครและบท ให้มีความร่วมสมัย จับต้องได้มากขึ้น มีองค์ประกอบหนังแนว Coming of Age
Overall
8.5/10User Review
( votes)Pros
- เป็นอนิเมชั่นทำได้ดีกว่าที่คาดหวังมากเมื่อเทียบจากตัวอย่าง
- ดัดแปลงเรื่องของเทพบุตรนาจาที่คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ดูได้ทั้งครอบครัว
- อาจจะเป็นการสร้างจักรวาลอนิเมชั่นที่ดัดแปลง วรรณกรรมห้องสิน สำหรับภาคต่อในอนาคต
Cons
- ดีไซน์ตัวละครในภาพรวมที่อาจจะไม่ถูกใจทุกคน
- ต้นฉบับ Ne Zha ในห้องสิน มีความดิบและดาร์กมาก บางครั้งตัวละครจึงมีการกระทำน่าขัดใจ
นาจา Ne Zha (2019) รีวิว ภาพยนตร์อนิเมชั่น 3D ของจีนที่ทุบสถิติรายได้มากที่สุดตลอดกาล ดัดแปลงและตีความใหม่จากในวรรณกรรม ห้องสิน ให้ร่วมสมัยมากขึ้น
ภาพยนตร์ Ne Zha กลายเป็นภาพยนตร์จีนที่เปิดตัวได้สูงสุดในประเทศไทย ปี 2019 ส่วนในประเทศจีนเวลานี้ ทำเงินไปมากกว่า 5 พันล้านหยวน หรือประมาณ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่นำตัวละครเทพบุตร Ne Zha ที่มีชื่อเสียงมากจากในวรรณกรรมห้องสิน มาดัดแปลงและตีความใหม่ โดยผู้กำกับ ยูหยาง (เจี่ยวจือ) โดยนำเสนอในรูปแบบอนิเมชั่น 3D
สำหรับตำนานของเทพบุตรองค์นี้ น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยกับคนไทยมานาน โดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องจีน เนื่องจากเป็นชื่อที่ปรากฏอยู่ในตำนานจีนเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะในวรรณกรรม ห้องสิน และ ไซอิ๋ว แล้วยังเป็นเทพบุตรที่มีการเคารพกราบไหว้ในวัดจีนและศาลจีนต่าง ๆ ด้วย
ในสื่อภาพยนตร์และสื่อบันเทิง ก็มีการดัดแปลงเรื่องราวของเทพบุตรองค์นี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่อยู่ในไซอิ๋ว หรือสร้างเป็นหนังและซีรีส์ของตนเอง และยังโด่งดังถึงในญี่ปุ่นด้วยครับ แม้แต่ใน Netflix ก็มีตัวละครนึ้ปรากฏอยู่ในอนิเมะเรื่อง Houshin Enki และภาพยนตร์ ตำนานศึกเทพเจ้า ซึ่งสามารถรับชมได้จากใน Netflix เลยครับ
ส่วนการกลับมารอบนี้ของเทพบุตรสุดแสบ จึงถือได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เกินคาดมาก ในรูปแบบของภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดูได้ทั้งครอบครัว และคอหนังจีนไม่ควรพลาดครับ
นาจา ตัวอย่าง Ne Zha Trailer
Ne Zha เรื่องย่อ
เรื่องราวในภาพยนตร์ กล่าวถึงพลังแห่งสวรรค์และโลกที่ได้ให้กำเนิดไข่มุกที่รวมพลังปราณมหาศาลเอาไว้ มหาเซียนสูงสุด หยวนสือเทียนจวิน ผู้ปกครองเขาคุนหลุน แดนวสวรรค์ของเหล่าเทพเซียน จึงสกัดไข่มุกออกเป็นสองลูก โดยลูกหนึ่งได้กลายเป็นลูกปัดสวรรค์ และอีกลูกกลายเป็นลูกปัดปีศาจ
ฝั่งลูกปัดสวรรค์ถูกกำหนดให้จุติบนโลกมนุษย์เพื่อให้ช่วยเหลือมนุษย์ในการก่อตั้งราชวงศ์โจวในภาพหลัง ส่วนโของปีศาจมีชะตาต้องกลายเป็นปีศาจร้ายที่จะนำหายนะมาสู่โลกมนุษย์ ดังนั้นเพื่อป้องกันหายนะ หยวนสือเทียนจวิน จึงใช้คาถาเพื่อทำให้ลูกปัดปีศาจต้องถูกทำลาย จากนั้น ไท่อี้เจินเหริน หนึ่งในเหล่าเซียนแห่งคุนหลุน ก็ถูกบัญชาให้นำลูกปัดสวรรค์ไปจุติในครอบครัวของแม่ทัพ หลี่จิ้ง เพื่อให้กำเนิดเทพบุตรออกมา
แต่เนื่องจาก พญามังกร ได้ทำการสลับลูกปัดสวรรค์และลูกปัดปีศาจ ด้วยความไม่พอใจที่เผ่ามังกรยิ่งใหญ่ของตนต้องมาคอยควบคุมเหล่าปีศาจจากในแดนบาดาล จึงรอเวลาแก้แค้น
จากนั้นลูกปัดปีศาจก็มาจุติเป็นบุตรชายคนที่สามของหลี่จิ้งและภรรยา นั่นก็คือ “นาจา”
ในขณะที่ลูกปัดสวรรค์ ก็สลับมาจุติเป็นบุตรของพญามังกร นั่นคือ “เอ๋าปิ่ง” ซึ่งเด็กทั้งสองที่กำเนิดในเวลาเดียวกัน ต่อมาก็กลายมาเป็นสหายกัน
ถ้าน่าจาเป็นตัวแทนของพลังแห่งไฟ เอ๋าปิ่งก็เป็นตัวแทนของพลังน้ำแข็ง ที่เป็นขั้วตรงข้ามกัน แม้ว่าตัวเอกจะมีชะตาที่เกิดมาเพื่อเป็นปีศาจนำความพินาศเข้ามา แต่เขาก็เลือกที่จะต่อสู้เพื่อเลือกชะตากรรมของตนเอง มาลุ้นกันว่า เรื่องราวของเทพบุตรแห่งเปลวไฟที่ถูกตีความใหม่ครั้งใหญ่นี้ จะมีบทสรุปแบบใด
น่าดูแค่ไหน
ในภาพรวมแล้ว ถือว่าเป็นอนิเมชั่นจีนแบบ 3D ที่สร้างออกมาได้อลังการ ทั้งในแง่ของ CG กราฟฟิก งานภาพ บท เนื้อเรื่อง และการตีความเหล่าตัวละครจากในวรรณกรรมห้องสินขึ้นมาในรูปแบบใหม่
จุดหนึ่งที่ Ne Zha ในเวอร์ชั่นนี้ ทำได้ดีมากชนิดเกินคาดก็คือ การดัดแปลงเรื่องราวบางอย่างจากตำนานดั้งเดิมให้ออกมามีความสากล คนดูสามารถอินตามไปกับบทในส่วนของครอบครัว และแนวทางการเล่าเรื่องแบบ Coming of Age เนื่องจากปัญหาใหญ่ของวรรณกรรมห้องสินในต้นฉบับนั้น มีอยู่หลายส่วนที่มีความโหดและดิบตามสไตล์ของเทพนิยายและวรรณกรรมยุคเก่า ดังนั้นตรรกะความคิดและบางฉากจึงทำออกมาได้ลำบาก (เช่นเรื่องราวแล่เนื้อคืนแม่ แล่กระดูกคืนพ่อ) โดยในหนัง Ne Zha จะทำมาเน้นประเด็นครอบครัว ลูกที่ต้องก้าวข้ามผ่านพ่อ และความรักของแม่ ซึ่งเรื่องพวกนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ
นอกจากนี้ตัวเรื่องก็ไม่ได้มีแต่ดราม่า แต่ยังมีมุกตลกแทรกมาในเรื่องเป็นระยะด้วย แถมหลายมุกมีความเป็นสากล ไม่ได้เฉพาะทางเกินไป ทำให้เป็นหนึ่งที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัว
สำหรับฉากแอ็คชั่นซึ่งเป็นจุดขายของเรื่องแนวเทพเซียนจีน เรื่องนี้ทำได้ในระดับดีเกินคาด ซึ่งต้องชมกับ CG และกราฟฟิก ที่ทำได้ดีกว่าอนิเมชั่น 3D ของจีนหลายเรื่องที่เคยมีมา เรียกว่าเป็นพัฒนาการที่น่าจับตามองเลยก็ว่าได้
แล้วอีกจุดหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การดีไซน์ตัวละคร เพราะนอกจากตัวเอกแล้ว เอ๋าปิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตัวละครสำคัญอีกคนของเรื่องก็ทำออกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะเวลาออกมาคู่กับตัวเอก (จะเรียกว่าทำมาเพื่อหวังขายสาว Y ก็ได้ครับ)
ส่วนตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง ก็ขนกันมาพร้อม โดยแต่ละชื่อนั้นเชื่อว่าคนที่ชอบตำนานห้องสิน หรือสนใจเรื่องแนวเทพเซียนของจีนโบราณ ก็คงจะคุ้นชื่อกันไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น หยวนสือเทียนจวิน มหาเทพเซียนที่ปกครองเขาคุนหลุน ซึ่งว่ากันว่าเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้องค์แรก รวมถึง เสิ่นกงเป้า ไท่อี้เจินเหริน เหล่าเซียนที่ปรากฏชื่อในห้องสิน
ถ้าจะมีจุดที่ติอยู่บ้าง ก็คงเป็นเรื่องของลักษณะการดีไซน์ตัวละครบางอย่างที่อาจจะไม่โดนใจทุกคน และเด็กอาจจะไม่ได้ชอบเสมอไป
แล้วที่สำคัญคือ หนังเรื่องนี้ยังเป็นเสมือนแค่ปฐมบทของนาจา ซึ่งน่าจะได้มีการสร้างภาคต่อแน่นอน เนื่องจากในหนังมี End Credit อยู่ในตอนท้ายเรื่องด้วย แล้วตรงนี้ถ้าเป็นคนชอบดูหนังจีนหรือสายจีนอยู่แล้วก็อาจจะร้องว้าวเลยครับ เพราะตัวละครที่ปรากฏตัวออกมาก็คือ
เจียงจื่อหยา (ต้ากงอ้วง) หนึ่งในตัวละครเอกจากในวรรณกรรมห้องสิน ผู้ซึ่งจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพโจว บุกพิชิตราชวงศ์ชาง ซึ่งภายหลังนาจาจะได้มาเข้าร่วมในกองทัพของเจียงจื่อหยา และเป็นหนึ่งในขุนพลเอกคนสำคัญ
เจียงจื่อหยา Jiang Ziya 2020 ภาคต่อของนาจา ขยายจักรวาลเทพเซียนห้องสิน
สำหรับคนที่สนใจรับชมเรื่องราวของ Ne Zha 2019 สามารถรับชมได้ตามโรงภาพยนตร์ใกล้บ้าน และในเครือ Major ซึ่งเข้าฉายแล้วตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมาครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website