playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว ห้วงน้ำสีเลือด ss3 ซีรีส์สืบสวนบนเรือหรู ขยายสเกลเรื่อง แต่ยิ่งออกทะเล

สรุป

ห้วงน้ำสีเลือดซีซันสามเป็นเนื้อเรื่องที่แยกออกมาต่างหากจากสองซีซันแรก ซีรีส์น่าดูเพราะนักแสดงหลักโดดเด่น ขยายสเกลเรื่องให้ใหญ่ขึ้นแต่กลับไม่สมจริงอย่างแรง แต่เนื้อหาเหมือนคิดอะไรไม่ออกก็ใส่มาดื้อๆ ใครดูสองซีแรกมาแล้ว จะดูเพราะคิดถึงตัวละครก็ได้ แต่อย่าคาดหวังอะไร

Overall
6/10
6/10
Sending
User Review
0 (0 votes)

Pros

  • นักแสดงหลัก โดยเฉพาะสองนางเอกออร่าโดดเด่น แสดงดีมาก
  • ตัวละครจากสองซีซันแรกเปลี่ยนลุคน่าสนใจ
  • ให้คิดซะว่ากำลังดูละครน้ำเน่าหลังข่าวของสเปนที่โปรดักชั่นดี จะไม่คิดอะไรมาก

Cons

  • ตัวเรื่องค่อนข้างหมดมุก
  • สูญเสียเสน่ห์ของเรื่องแนวสืบสวนในสถานที่ปิด
  • ขยายสเกลเรื่องใหญ่ขึ้น แต่มันดูไม่สมจริงเลย
  • บทคลี่คลายเรื่องราวเล่นง่ายเกินไปอย่างมาก

ADBRO

ห้วงน้ำสีเลือด ss3 (High Seas) Netflix รีวิว ซีรีส์สเปน แนวสืบสวนคดีฆาตกรรมสไตล์อกาธาคริสตีบนเรือสำราญ+ดราม่าน้ำเน่าหักมุม ภาคนี้ขยายสเกลเรื่อง แต่ยิ่งสร้างยิ่งออกทะเลไปเรื่อยๆ

ซีซัน 1-2 อ่านรีวิวได้ที่นี่

ห้วงน้ำสีเลือด High Seas ss3 ตัวอย่าง

https://www.youtube.com/watch?v=L54oaQ-zY_E

ห้วงน้ำสีเลือด High Seas ss3 เรื่องย่อ

ในทศวรรษ 1940 เมื่อเรือสำราญสุดหรูลำหนึ่งกำลังจะออกเดินทางจากสเปน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศบราซิล เพื่อนำพาหลายชีวิตออกเดินทางไปตั้งรกรากและมองหาโอกาสใหม่ๆในดินแดนละติน หนึ่งในนั้นคือ สองศรีพี่น้อง เอวา ที่ติดตามพี่สาวคือ คาโรลิน่า ที่จะได้ขึ้นเรือลำนี้ไปเพื่อเข้าพิธีแต่งงานบนเรือสำราญกับ เฟอร์นันโด นักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวยและเป็นผู้ออกแบบเรือ นอกจากนี้เอวายังได้พบรักกับ นิโคลาส ต้นหนของเรือ แต่แล้วการเดินทางครั้งนั้นกลับเกิดคดีฆาตกรรมปริศนาที่ดึงทุกตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องโดยมีสองพี่น้อง เอวา และ คาโรลีน่า เป็นศูนย์กลางของเรื่อง ซึ่งบทสรุปของทั้งสองซีซันก็จบลงด้วยดี

หลังจากเรื่องราวในสองซีซันแรกจบลง สองพี่น้องเริ่มต้นชีวิตและธุรกิจของพวกเธอในบราซิล เอวา กลายเป็นนักเขียนนิยายดัง ส่วนคาโรลีน่าช่วยเหลือสามีบริหารธุรกิจ แต่แล้วก็มีเหตุทำให้ทั้งสองต้องกลับมาขึ้นเรือลำเดิม พร้อมกับตัวละครหน้าเดิมจากสองซีซันแรกที่จะมาร่วมเดินทางครั้งใหม่ พร้อมกับอันตรายที่ใหญ่กว่าเดิม เนื่องจากเอวาได้รับการติดต่อลับๆจาก ฟาวิโอ เจ้าหน้าที่ชาวสเปนที่ทำงานเป็นสายลับร่วมกับหน่วยข่าวกรองข้ามชาติของอังกฤษ ที่ได้สืบทราบว่า มีผู้ก่อการร้ายลึกลับที่นำ “ไวรัส” โดยสารขึ้นเรือไปด้วย เนื่องจากเอวาเป็นคนที่รู้ทุกซอกทุกมุมของเรือดี และเป็นน้องสะใภ้เจ้าของเรือ อรกทั้งเธอยังเป็นผู้หญิงที่มีไหวพริบเป็นเลิศ ฟาวิโอและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองจึงเข้ามาติดต่อขอให้เธอช่วยเหลือเพื่อสืบหาว่า ใครคือผู้ก่อการร้ายที่เอาไวรัสแอบขึ้นเรือมา และต้องหาทางหยุดยั้งก่อนที่จะทำอันตรายต่อชีวิตผู้คนจำนวนมาก

ห้วงน้ำสีเลือด ss3 รีวิว

สำหรับสองซีซันแรกที่ผ่านมา ตัวเรื่องเน้นการสืบสวนคดีฆาตกรรมปริศนาในเรือสำราญที่ไม่มีทางออกไปไหน จึงเป็นรูปแบบการเล่าเรื่องผสมผสานกันของ แนวสืบสวนแบบนิยายนักสืบ + ละครดราม่าน้ำเน่าปนหักมุม ถึงแม้ว่าตอนจบซีซันสองจะออกไปทางผีสางเพิ่มเข้ามาด้วยก็ตาม เรียกว่าเรื่องนี้มาแนวละครหลังข่าวเลยก็ว่าได้ เพียงแต่โปรดักชั่นจัดว่าดีกว่าละครหลังข่าวมาก อีกทั้งนักแสดงหลักก็หน้าตาดี หล่อสวย มีออร่าดึงดูด เล่นได้เป็นธรรมชาติมาก

ด้านเนื้อเรื่อง ซีซันสาม เห็นชัดเจนเลยว่า ทีมสร้าง “หมดมุก” เพราะไม่รู้ว่าจะหามุกอะไรทำให้พวกตัวละครต้องขึ้นเรือแล้วเจอเรื่องราวอีก เลยนำมาสุ่การขยายสเกลเรื่องที่ต้องเรียกว่า ออกทะเลขนานแท้ จากการสืบสวนคดีฆาตกรรม เริ่มกลายมาเป็นภารกิจแนวสายลับของเอวา ที่ลักษณะภารกิจของการตามหา “ไวรัส” และ “ผู้ก่อการร้าย” ราวกับกำลังดูหนังเนว เจมส์ บอนด์ หรือ อีธาน ฮันท์ ใน Mission Impossible ยังไงก็ยังงั้น เพียงแต่เอวาไม่ได้มีทักษะอะไรมากมายนอกจากความช่างสังเกต และการเข้าถึงแทบทุกสถานที่บนเรือ ในฐานะน้องสะใภ้เจ้าของเรือที่ได้รับความเชื่อถือจากเจ้าหน้าที่ของเรือด้วย

เนื่องจากตัวเนื้อเรื่องหลัก อย่างการตามหาไวรัสและผู้ก่อการร้าย มันค่อนข้างจะเริ่มหลุดสเกลเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้จากสองซีซันที่ผ่านมาไปมาก ทำให้การรับชมซีซันสามจะได้อารมณ์แบบ “โอเค อยากทำอะไรก็เอาเลย” คือความเซอร์ไพร์สในเรื่องไม่ได้เหลือมากแล้ว เพราะเรื่องงัดเอามุกต่างๆที่จะพบได้ในหนังแนวมิชชั่นมาใช้เต็มไปหมด ในขณะที่สไตล์การสืบสวนแบบ “อกาธา คริสตี” ที่เราจะพบในเรื่องนี้จากซีซันแรก ได้หายไปแทบไม่เหลือ

ด้านนักแสดงในซีซันสาม ก็ถือว่านักแสดงหลักยังคงทำได้ดี แถมการปรับลุคของนางเอกอย่างเอวา ก็ทำให้เธอดูดีขึ้นไปอีก ในขณะที่ Alejandro Onieva นักแสดงสาวชาสเปนที่รับบท คาโรลีน่า ก็ยังคงสวยเฉิดฉายโดดเด่นเหมือนเดิม แถมยังต้องรับบทบาทสำคัญสำหรับการแสดงในซีซันนี้ด้วย

ส่วนนักแสดงหลักตัวใหม่ที่เข้ามาสมทบ ก็มีบทบาทที่น่าสนใจ แต่ต้องยอมรับว่า ตัวเอกชายคนใหม่อย่าง ฟาวิโอ มีเสน่ห์ดึงดูดไม่เท่ากับนิโคลาส แต่ก็ถือว่าเป็นบทที่สร้างมาเพื่อให้นางเอก เอวา ที่อกหักจากตอนจบในซีซันสอง ได้มีคู่บ้าง แต่สุดท้ายด้วยบทหรืออะไรก็ตาม ทำให้ตัวละครนิโคลาส กลับมามีบทสำคัญอีกในตอนท้าย และก็เป็นตัวขโมยซีนไปโดยปริยาย

แล้วในแง่การคลี่คลายปริศนา ซีซันสาม “ทำได้แย่ที่สุด” จากทั้งซีรีส์ แต่ก็เข้าใจได้ เพราะสเกลเรื่องมันใหญ่เกินไป แต่จำนวนตอนก็มีเพียงแค่ 6 ตอน แม้ว่าเรื่องจะพยายามเดินหน้ารวดเร็วแล้ว แต่ก็ทำให้การเคลียร์ปมเรื่องดูไม่สมจริงอยู่ (เอาจริงๆเรื่องนี้มีความไม่สมจริงเต็มไปหมดอยู่แล้วตั้งแต่แรก)

ภาพรวมแล้ว ซีซันสาม เป็นเนื้อเรื่องที่แยกออกมาต่างหากจากสองซีซันแรก แม้ว่าจะใช้ทีมตัวละครชุดเดิมเป็นหลัก แต่ความที่ตัวเรื่องมันเกินสเกลของซีรีส์นี้ไปแล้วแต่แรก ความน่าเชื่อถือของตัวเรื่องจึงแทบไม่เหลืออะไรอีก สำหรับคนที่ดูสองซีซันแรกมาแล้วคิดถึงกลุ่มตัวละคร จะดูต่อก็ได้ แต่อย่าคาดหวังครับ เพราะเอาจริงๆเรื่องนี้ควรจบลงที่ซีซันสองแล้ว

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://www.imdb.com/title/tt8961508/

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!