รีวิว ห้วงน้ำสีเลือด SS1-2 Netflix ซีรีส์สืบสวนแนวอกาธาคริสตี คดีฆาตกรรมในเรือสำราญ
High Seas
สรุป
ห้วงน้ำสีเลือด SS1-2 High Seas ซีรีส์สัญชาติสเปน แนวสืบสวนคดีฆาตกรรมสไตล์นิยายของอกาธาคริสตีบนเรือสำราญ+ดราม่าน้ำเน่าหักมุม ปนการจำลองสภาพสังคมและจิกกัดชนชั้นได้เจ็บแสบดี
Overall
6.5/10User Review
( vote)Pros
- เดินเรื่องกระชับ รวดเร็ว
- ตัวละคร Casting มาดี นักแสดงส่งพลังใช้ได้
- ไม่ใช่แค่คดีฆาตกรรม แต่จำลองสังคมจริงมาอยู่บนเรือแล้วจิกกัดได้เจ็บแสบ
- มีหักมุมเป็นระยะ และตอนจบปูไปซีซัน 2 ได้น่าสนใจดี
Cons
- เผยตัวคนร้ายง่าย เพราะตัวละครที่มีลับลมคมใน จะแสดงให้เห็นชัดเจน
- ช่วงเฉลยคดีที่หักมุมหลายรอบ ดูง่ายไปนิด
- ทักษะการสืบสวนของนางเอกมาจากการเป็นคนขี้ซึ่งไม่ค่อยมีที่มานัก แม้จะบอกว่าเป็นนักเขียนก็ตาม
- ฉากจบหักมุม ทำออกมาได้ WTF มาก แต่ถ้ามองว่าเป็นแนวละครดราม่าน้ำเน่า ก็พอเข้าใจได้
ห้วงน้ำสีเลือด SS1-2 High Seas รีวิว ซีรีส์สเปนแนวสืบสวนคดีฆาตกรรมสไตล์อกาธาคริสตีบนเรือสำราญ+ดราม่าน้ำเน่าหักมุม ปนจำลองสภาพสังคมและจิกกัดชนชั้นใน Netflix
ห้วงน้ำสีเลือด เรื่องย่อ
ในทศวรรษ 1940 เมื่อเรือสำราญสุดหรูลำหนึ่งกำลังจะออกเดินทางจากสเปน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศบราซิล เพื่อนำพาหลายชีวิตออกเดินทางไปตั้งรกรากและมองหาโอกาสใหม่ๆในดินแดนละติน หนึ่งในนั้นคือ สองศรีพี่น้อง เอว่า ที่ติดตามพี่สาวคือ คาโรลิน่า ที่จะได้ขึ้นเรือลำนี้ไปเพื่อเข้าพิธีแต่งงานบนเรือสำราญกับ เฟอร์นันโด นักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวยและเป็นผู้ออกแบบเรือ แต่แล้วก่อนที่จะขึ้นเรือ พวกเธอได้เจอกับผู้หญิงสาวคนหนึ่งที่มาขอความช่วยเหลือและขอให้ช่วยพาขึ้นเรือไปด้วย เอว่าใจอ่อนแล้วพาเธอขึ้นเรือไป แต่แล้วนี่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคดีฆาตกรรมปริศนาที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยเรื่องราวลึกล้ำสุดหยั่งคาดที่ตีแผ่ด้านมืดของมนุษย์ออกมาอย่างถึงแก่น เอว่าตัดสินใจหาทางไขปริศนาที่เกิดขึ้นโดยได้รับความช่วยเหลือจาก นิโคลาส ต้นหนหนุ่มผู้สุขุมรอบคอบคอยช่วยเหลือ ซึ่งยิ่งสืบลึกเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งค้นพบว่าผู้คนบนเรือสำราญลำนี้อาจจะเดินทางไปถึงจุดหมายไม่ได้ตลอดรอดฝั่งก็เป็นได้
High Seas SS1 Trailer
ห้วงน้ำสีเลือด ตัวละครหลัก
เอว่า สาวน้อยนักเขียนนิยาย มีจิตใจรักความยุติธรรม เป็นคนมีจินตนาการ ฉลาด มีไหวพริบ กล้าพูดกล้าทำในสิ่งที่เห็นว่าถูกต้อง เธอติดตามพี่สาวมาร่วมงานแต่งและเดินทางไปบราซิล แม้ว่าลึกๆแล้วจะยังไม่เชื่อถือคู่หมั้นของพี่สาวเลยก็ตาม ระหว่างเดินทางบนเรือได้พบกับนิโคลาส แล้วก็เริ่มมีใจให้กันอย่างรวดเร็ว เธอเป็นพยานของเหตุฆาตกรรมปริศนาที่เกิดขึ้นครั้งแรกบนเรือ ทำให้เธอยึดถือเป็นความรับผิดชอบที่จะต้องสืบหาความจริงให้ได้
เอว่ามักมีปากเสียงกับคาโรลิน่าบางครั้งเมื่อความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อถึงเวลาทั้งสองพี่น้องก็จะยืนหยัดเคียงข้างกันเสมอ
คาโรลิน่า พี่สาวของเอว่า เป็นคนสวย สง่า มีนิสัยต่างกับน้องสาวสุดขั้ว เดิมทำงานเป็นฝ่ายบัญชีของบริษัทรองเท้าที่เป็นกิจการของครอบครัว โดยเนื้อแท้แล้วเธอเป็นคนฉลาดมีไหวพริบไม่ต่างจากน้องสาว และยังรักความยุติธรรมมากด้วย แต่ด้วยความที่รู้สึกว่าตนต้องรับผิดชอบในฐานะลูกสาวคนโตและการแต่งงานทำให้เธอไม่เป็นอิสระมากนัก แม้ว่าเธอและน้องสาวจะมีปากเสียงกันบ้าง แต่เธอก็เลือกที่จะยืนหยัดข้างน้องสาวเสมอ หลังจากเธอเริ่มยอมช่วยเอว่าสืบคดีปริศนาที่เกิดขึ้นบนเรือ เธอก็เริ่มพบว่าเฟอร์นันโดคู่หมั้นของเธออาจจะมีอะไรที่ซุกซ่อนเอาไว้
นิโคลาส ต้นหนเรือหนุ่มผู้สุขุมรอบคอบ เป็นคนรูปหล่อ อัธยาศัยดี เข้าหาเอว่าตั้งแต่แรกเริ่ม แล้วก็เริ่มสานสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว เขาอยู่ด้วยตอนที่เอว่าเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมบนเรือ จึงร่วมเป็นพยานให้ แล้วก็ช่วยเหลือเอว่าตามสืบอีกแรง หลังจากเริ่มสืบลึกไป เขาก็เริ่มพบว่าเจ้าหน้าที่บนเรือเองก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้
เฟอร์นันโด นักธุรกิจหนุ่มและวิศวกรผู้ออกแบบเรือสำราญ คู่หมั้นหมายของคาโรลิน่า แม้ว่าทั้งสองแทบจะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เนื่องจากเขาเป็นคนที่ช่วยซื้อกิจการบริษัทรองเท้าของพวกเธอไว้ จากนั้นก็ได้หมั้นหมายกัน เอว่าเป็นคนแรกๆที่รู้สึกว่าเขามีปริศนาและความลับซ่อนไว้
ห้วงน้ำสีเลือด น่าดูแค่ไหน
ให้นิยามว่ามันคือ การผสมกันของ แนวสืบสวนแบบนิยายนักสืบ + ละครดราม่าน้ำเน่า + จิกกัดสังคมและชนชั้น
ก่อนอื่นต้องชมนักแสดงที่มารับบทบาทในเรื่อง ไม่ว่าจะตัวหลักคือตัวรอง ทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่งเลยครับ สองพี่น้องตัวเอก ก็ได้นักแสดงที่หน้าตาดี และบุคลิกท่าทางเข้ากับคาแรคเตอร์ในเรื่องมาสวมด้วย ในขณะที่พระเอกของเรื่องก็ดูดีมีมาดของต้นหนเรือ ซึ่งน่าจะถูกใจคนดูสาวๆกันไม่น้อย ส่วนตัวละครรองอื่นๆก็แสดงกันได้ดีมาก ตรงนี้ต้องชม
ในแง่เดินเรื่อง จะเหมือนกับว่าเรากำลังอ่านนิยายนักสืบชั้นดีของ อกาธา คริสตี โดยในมุมของคนดู จะมีสามตัวละครเอกเป็นตัวเดินเรื่องในพาร์ทของการสืบสวนเป็นหลัก แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วเกือบทุกคนจะเข้าข่ายผู้ต้องสงสัยหรือมีปมปริศนามากน้อยแตกต่างกันไป
แต่ตรงนี้พอเอาเข้าจริง คนดูจะพบว่าตัวละครที่น่าสงสัยในเรื่องก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนครับ แถมเฉลยง่ายด้วย ทำให้โดยภาพรวมแล้ว ปริศนาหลักของเรื่องมันอยู่ที่ว่า ตัวละครที่เราสงสัยนั้น เขามีแรงจูงใจอะไรหรือมีปมลี้ลับอะไรซ่อนอยู่มากกว่า
นอกจากนี้ก็จะมีเส้นเรื่องรองอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวน อาชญากรรม ดราม่าชีวิต ที่แทรกเข้ามา บางตัวละครก็เหมือนใส่เข้ามาเพียงเพื่อให้เรื่องมีสีสันในแง่ดราม่าขึ้น โดยแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเส้นเรื่องหลักของการสืบหาความจริงในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเรื่อง แต่เมื่อดำเนินเรื่องไประยะหนึ่ง ตัวละครต่างๆก็เริ่มจะผนวกเข้ามาเกี่ยวข้องกันทีละเล็กทีละน้อย
ในซีรีส์ ยังค่อนข้างฉายภาพของ การแบ่งแยกทางชนชั้น บนเรือสำราญสุดหรูลำนี้ ความไม่อยุติธรรม การเอารัดเอาเปรียบ การคุกคามทางเพศ และความทะเยอทะยานของบางตัวละครที่ต้องการไต่เต้ายกระดับตนเองให้หลุดขึ้นมาจากชนชั้นที่ตนเองถูกกดไว้ แต่วิธีการที่เลือกใช้ก็แตกต่างกันไป ตรงนี้เลยเสมือนการจำลองเอาสังคมจริงในโลก มาย่อใส่ไว้ในเรือสำราญที่มีตัวละรจำกัดเพียงไม่กี่คน แล้วใช้ตัวละครเหล่านั้นเป็นเสมือนตัวแทนของอะไรบางอย่าง
ส่วนการเฉลยเรื่องราว ในตอนสุดท้ายของซีซันแรก เรื่องจะใช้วิธีการแนวดราม่าละครหลังข่าว หรือแนว Soap Opera มาช่วย ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าวิธีนี้ไม่ดี เพราะมันก็ดูเข้ากับธีมของเรื่องดีอยู่ เพียงแต่อาจจะดูง่ายไปนิด เพราะในขณะที่ตัวเอกพยายามสืบหาทุกอย่างอยู่ตั้งนาน กลับพบว่ากุญแจเฉลยความลับกลับอยู่ในจุดที่ถูกเปิดโปงได้ไม่ยากเลย
อัพเดท รีวิว ห้วงน้ำสีเลือด ss2
ถ้าหากว่าเนื้อหาในซีซัน 1 คือเรื่องราวในแบบนิยายสืบสวนฆาตกรรมในสไตล์อกาธาคริสตี + ละครน้ำเน่าดราม่า + โรมานซ์ + จิกกัดและสะท้อนสังคม เรื่องชนชั้น และความเหลื่อมล้ำทางเพศแล้ว สิ่งที่ซีซัน 2 เลือกที่จะนำเสนอขึ้นมาเพิ่มเติมจากสิ่งที่ซีซันแรกขาดไปก็คือ “อารมณ์เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ” และ การขยายปมของตัวละคร” ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกปูไว้ในซีซันแรก แล้วดูเหมือนว่าจะโยนทิ้งไปง่ายๆในท้ายซีซัน แต่ปรากฏว่าในต้นซีซัน 2 ปมปริศนาบางอย่างของตัวละครก็ถูกขุดกลับขึ้นมาเล่าใหม่ และกลายเป็นหนึ่งในประเด็นใหญ่ของเรื่อง
จุดน่าที่น่าสนใจมากก็คือ ในท้ายซีซันแรก มีการวางแนวทางการเล่าเรื่องและขยายปมตัวละครเตรียมไว้แล้ว ทำให้ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่การยัดปมปริศนาเข้ามาดื้อๆ แต่ทุกอย่างถูกปูทางไว้เพื่อเรื่องราวและบทสรุปในซีซัน 2 นี้
สำหรับตัวละครที่จะเข้ามามีบทบาทเพิ่มเติมในซีซัน 2 ซึ่งเป็นบทสรุปของเรื่องก็คือ คาสซานดร้า ซึ่งก็ถือว่าในซีรีส์ค่อนข้างฉลาดในการหาทางยัดตัวละครใหม่เข้ามาในสภาพที่เรื่องราวท้งหมดอยู่บนเรือสำราญลำใหญ่ แล้วก็ไม่น่าจะมีตัวละครสำคัญมาเพิ่มอีกแล้ว แต่ซีรีส์ก็หาทางออกตรงนี้ไว้ได้ดี
โดยปมและปริศนาของตัว คาสซานดร้า ก็มาพร้อมกับแนวทางการเล่าเรื่องในอีกรูปแบบที่เล่นกับความเชื่อและอารมณ์ของคนดู ที่มีเรื่องเหนือธรรมชาติ วิญญาณ ผี การหยั่งรู้เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากซีรีส์ถูกปูมาแต่แรกแล้วว่า นี่เป็นเรื่องแนบสืบสวนสมจริง ไม่ใช่แฟนตาซี เพราะฉะนั้นประเด็นการสื่อสารกับวิญญาณที่มาในเรื่องก็น่าจะเป็นของปลอม แต่ทำไมถึงสามารถทำให้ตัวเอกในเรื่องเชื่อได้ รวมถึงประเด็นที่ว่า ตัวละครหญิงคนนี้ที่จริงแล้วเป็นคนดีหรือมุ่งร้าย หรือมีจุดประสงค์อะไรแอบแฝง ซึ่งนี่ก็จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ในเรื่องที่ชวนให้ติดตามต่อครับ
แต่จุดที่ซีซัน 2 ได้ดรอปลงไปบ้างก็คือ การเล่าเรื่องที่ดราม่าและตึงเครียดมากขึ้น แต่มีลักษณะที่พายเรืออยู่ในอ่างอยู่บ้าง คือเป็นการให้ตัวละครมาบ่นๆ พูดดราม่าใส่กัน แต่เนื้อหาไม่เดินหน้า ซึ่งมีลักษณะแบบนี้แทรกอยู่พอสมควรเลย เลยอาจจะทำให้เรื่องราวในช่วงกลางๆดูน่าเบื่อไปบ้าง
สำหรับในส่วนของการค้นหาปริศนา มุมมองเรื่องก็ยังคงโฟกัสไปตัวเอกอย่างเอว่า และ คาโรลิน่า เช่นเดิม เพียงแต่ทั้งสองคนก็จะมีปัญหาที่ตองเผชิญแตกต่างกันไปหลังจากตอนจบของซีซันแรก
อย่างไรก็ตาม จุดที่หายคนอาจไม่ชอบ จนถึงขั้นร้อง WTF คือตอนจบของเรื่อง แต่ถ้ามองในมุมว่า นี่เป็นซีรีส์แนวดราม่าละครหลังข่าวน้ำเน่า ซึ่งละครไทยเองก็ชอบมามุกนี้ อาจจะเข้าใจได้กับตอนจบ ซึ่งให้อารมณ์ คนเลวแพ้ภัยตัวเอง ชดใช้กรรมกันไป
โดยภาพรวมแล้ว นี่จึงเป็นซีรีส์สัญชาติสเปน แนวสืบสวนสไตล์นิยายนักสืบแบบ อกาธา คริสตี โดยคดีเกิดขึ้นอยู่บนสถานที่ปิดตายอย่างเรือสำราญ แล้วก็มีเรื่องราวเบื้องหลังเป็นละครดราม่าน้ำเน่าผสมเข้ามา ไปจนถึงการตีแผ่สังคมในแง่ชนชั้น การขับเคี่ยวผลประโยขน์ทางธุรกิจ ความโลภ และความรัก แทรกปนอยู่ตลอดเรื่องครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website