เจียงจื่อหยา Jiang Ziya 2020 ภาคต่อของนาจา ขยายจักรวาลเทพเซียนห้องสิน
เจียงจื่อหยา (เจียงไท่กง) เรื่องราวที่ควรรู้ก่อนดูหนัง Jiang Ziya (2020) ภาคต่อของ นาจา Ne Zha 2019 ที่จะมาขยายจักรวาลเทพเซียนจีน จากวรรณกรรมห้องสินสุดยิ่งใหญ่
เจียงจื่อหยา คือใคร
ถ้าใครที่ได้ดูภาพยนตร์ นาจา Ne Zha 2019 อนิเมชั่นจีนที่กำลังเป็นกระแสและโกยเงินมากมายในเวลานี้จนจบไปแล้ว จะพบว่ามีตัวละครเป็นคุณลุงไว้หนวดคนหนึ่งที่โผล่ออกมาใน End Credit จากตอนจบของนาจา อาจจะสงสัยว่า เขาคือใคร มีความสำคัญอะไร เพราะท่านอาจจะเห็นบางเพจเกี่ยวกับเรื่องจีนที่ร้องว้าวกับการปรากฎตัวของคนผู้นี้
ต้องบอกว่าก่อนว่า สำหรับคนที่ชอบเรื่องจีนๆหรือเทพเซียนจีน นี่เป็นการส่งสัญญาณบอกคนดูว่า “จักรวาลหนังเทพเซียนจีน” กำลังจะขยายครับ
แล้วไม่กี่วันก่อน ตัวอย่างหนัง Jiang Ziya 2020 ก็ได้ออกมาให้ทุกคนได้รับชมกันไปแล้วด้วย ซึ่งตัวหนังจะเข้าฉายในวันที่ 25 ม.ค. 2020 ที่จะถึงนี้
Jiang Ziya trailer 2020
ทีนี้เข้าใจว่าสำหรับผู้ที่ไม่ได้สนใจหรือรู้เรื่องราวตำนานเทพเซียนจีนมาก่อน อาจจะไม่เข้าใจถึงความยิ่งใหญ่นี้ แต่ถ้าเป็นคนที่ทราบมาบ้าง จะเข้าใจเลยครับว่า นี่มันเป็นจักรวาลที่ยิ่งใหญ่กว่าระดับของ Marvel DC ด้วยซ้ำไป เพราะไม่ใช่แค่เหล่าเทพเซียนในตำนานห้องสินเท่านั้น แต่จักรวาลนี้ยังสามารถลากยาวไปถึงไซอิ๋วได้ด้วยครับ เนื่องจากตัวละครทั้งหมดเป็นชุดเดียวกัน
เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ทางจีนเองยังไม่เคยทดลองปั้นจักรวาลนี้ให้เกิดขึ้นบนสื่อบันเทิงได้จริงๆ แต่หลังจากความสำเร็จของนาจาที่โกยเงินถล่มทลายเกินความคาดหมายในประเทศจีนและออกมาโกอินเตอร์ได้ จนถึงระดับที่อาจจะเรียกว่าเป็นการพลิกโฉมอนิเมชั่นจากจีนแล้ว Jian Ziya 2020 ก็ตามมาติดๆทันที นี่จึงอาจจะเป็นการวางโปรเจคใหญ่ที่วางแผนมาก่อนแล้วก็เป็นได้
แล้วบุคคลผู้นี้คือใคร มีความสำคัญมากขนาดไหน วันนี้ทางเพจนำข้อมูลมาบอกเล่าให้ได้ฟังกันสนุกๆบางส่วนครับ
ที่มาของตำนาน เจียงจื่อหยา
อีกชื่อที่ถูกเรียกกันคือ เจียงไท่กง (ต้ากงอ้วง) เขาเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์จีน ตามประวัติแล้วมีชื่อจริงคือ หลู่ซาง
มีวรรณกรรมสามก๊ก มีการอ้างอิงชื่อของเขาโดยสุมาเต็กโช ยกย่องให้เขาเป็นสุดยอดเสนาธิการหรือกุนซือที่เก่งที่สุด 1 ใน 2 คนของประวัติศาสตร์จีน (อีกคนคือ จางเหลียง แห่งราชวงศ์ฮั่น) ชื่อของเขายังถูกอ้างอิงถึงเสมอเวลามีการกล่าวถึงการใช้กลยุทธ์ชั้นยอดต่างๆ
แล้วเขาสร้างผลงานอะไรไว้ ทำไมจึงได้รับการยกย่องอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้น
ก่อนอื่นต้องกล่าวว่าเรื่องราวของบุคคลท่านนี้มีการบอกเล่าสืบทอดกันมาสองส่วนครับ คือส่วนที่เป็นกึ่งตำนานเทพนิยาย และในแง่มุมทางประวัติศาสตร์ ซึ่งที่จริงแล้วโดยสาระสำคัญก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก
ตามชีวประวัติ เขาเป็นบุคคลที่เกิดในสมัยราชวงศ์ชาง หรือประมาณสามพันกว่าปีก่อน ต่อมาเรื่องราวบางส่วนของเขาถูกบันทึกไว้ในพิชัยสงครามหลิ่วเทา และต่อมาก็มีการรวบรวมไว้โดยซือหม่าเซียน บิดาแห่งประวัติศาสตร์จีน ซึ่งเป็นนายอาลักษณ์ในสมัยราชวงศ์ฮั่น ผู้ประพันธ์ สื่อจี้ บันทึกประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจีน หลังจากนั้นยังมีการรวบรวมเรื่องราวเพิ่มโดยซือหม่ากวง นักประวัติศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ซ่งซึ่งได้บันทึกเรื่องราวของเขาไว้ใน จือจื่อทงเจี้ยน ทั้งหมดนี้ทำให้เรื่องราวของเขาได้รับการสืบทอดต่อมาในบันทึกประวัติศาสตร์จีน
แต่เรื่องของเขายังมีการบอกเล่าในอีกรูปแบบที่มีความพิสดารและเต็มไปด้วยอภินิหาร นั่นคือการเล่าผ่านทาง “วรรณกรรมห้องสิน” หนึ่งในวรรณกรรมจีนโบราณที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งของจีน ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อโดยมีนัยยะเชิดชูเทพเจ้าในลัทธิเต๋านั่นเองครับ (ในขณะที่ไซอิ๋วเชิดชูทางพุทธ และกดข่มฝั่งเต๋าแทน)
มาลองดูว่า ทั้งสองส่วนเล่าเรื่องราวของยอดคนท่านนี้ไว้อย่างไรบ้างครับ
ตำนานในวรรณกรรมห้องสิน
สำหรับเรื่องราวใน ห้องสิน จะเกี่ยวข้องกับการทำสงครามระหว่างราชวงศ์โจวและราชวงศ์ชาง ที่มีเหล่า เทพเซียน ผู้วิเศษ อสูร ปีศาจ เข้าร่วมในสงครามนี้ด้วย โดยฝ่ายโจวมีเหล่าเทพเซียนแห่งเขาคุนลุ้นเป็นแกนนำ ส่วนฝ่ายชางมีเหล่าเซียนปีศาจโดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกที่มีฤทธิ์เดชมหาศาลเกินเหล่าเทพเซียนอย่าง “ต๋าจี่” เป็นผู้นำ
แล้วผลก็คือฝ่ายราชวงศ์โจวได้ชัยชนะ กลายเป็นราชวงศ์ที่ครองความเป็นใหญ่ในแผ่นดินจีนและยังวางรากฐานการปกครองที่สำคัญสืบทออดต่อมากว่า 800 ปี จนมาถึงสมัยราชวงศ์ฉินรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว
แล้วเจียงจื่อหยา หรือ เจียงไท่กง เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวนี้ตรงไหน???
คำตอบคือ เขาเป็นหนึ่งในตัวละครเอกของตำนานห้องสินครับ ซึ่งมีบทบาทสำคัญคือ เป็นแม่ทัพใหญ่ของฝ่ายราชวงศ์โจวที่นำทัพเทพเซียนจากเขาคุนลุ้นช่วยรบชนะราชวงศ์ชางนั่นเองครับ
ตามเรื่องราวในห้องสิน เขาเป็นศิษย์คนสำคัญของมหาเซียน เหวียนสือเทียนจวิน ผู้นำแห่งเขาคุนหลุน แล้วยังเชื่อกันว่าเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้องค์แรกด้วย ตัวเขายังป็นมนุษย์ที่บำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นเซียน มีอายุ 72 ปี (ซึ่งถือว่ายังน้อยสำหรับเทพเซียน) แต่ด้วยความเป็นอัจฉริยะทางการทหาร มากด้วยกลยุทธ์ มีจิตใจหนักแน่น ความคิดอ่านลึกล้ำ เขาจึงถูกเลือกให้ขึ้นมาเป็นผู้นำกองทัพเทพเซียนแห่งเขาคุนหลุน เข้าช่วยเหลือราชวงศ์โจวในการทำศึกกับราชวงศ์ชางที่มีเหล่าเซียนปีศาจที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันหนุนหลัง
แล้วบรรดาเทพเซียนกับขุนพลต่างๆที่เข้าร่วมกับกองทัพโจว ก็ล้วนเป็นตัวละครชื่อดังที่คนไทยคุ้นชื่อกันไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะสองขุนพลสำคัญคือ นาจา และ หยางเจี่ยน (ต่อมาคือเทพนักรบเอ้อหลาง) ซึ่งตามตำนานห้องสินแล้ว ทั้งสองคนคือขุนพลในทัพโจวที่มีเจียงไท่กงเป็นแม่ทัพใหญ่คอยวางแผนกลยุทธ์ให้จนกระทั่งเอาปราบปีศาจจิ้งจอกต๋าจี่และล้มราชวงศ์ชางได้ครับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเทพเซียนองค์สำคัญตามความเชื่อในลัทธิเต๋าของจีน
ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเรื่องราวในนาจา 2019 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นมหากาพย์สงครามเทพเซียนและปีศาจที่ยิ่งใหญ่อลังการกว่าเดิมก็ไม่ผิดครับ
แล้วอันที่จริง ทางฝั่งญี่ปุ่นเองก็เคยนำเรื่องราวในห้องสินมาดัดแปลงจนโด่งดังมาแล้วกับมังงะเรื่อง Houshin Enki หรือในชื่อไทยคือ ตำนานเทพประยุทธ์
เจียงจื่อหยา กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์
ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องราวในตำนานที่เป็นกึ่งเทพนิยาย แต่ทีนี้มาลองดูชีวิตประวัติของเขาในแง่มุมทางประวัติศาสตร์บ้างครับ เพราะหากตัดเอาความพิสดารต่างๆในเรื่องเทพเซียนออกไปแล้ว บุคคลท่านนี้นับว่าเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีนเลยทีเดียว
ตามชีวประวัติ ในสมัยหนุ่มเขาเป็นบัณฑิตที่มีอุดมการณ์ออกแสวงหาความรู้และศึกษาตำราต่างๆจนบรรลุ แล้วก็หวังว่าจะได้ทำงานรับราชการ ช่วยเหลือเจ้านายดีมีคุณธรรมทำการใหญ่ แต่ตลอดชีวิตเขากลับล้มเหลวในการแสวงหานายดีมาตลอด กระทั่งแก่ตัวลงในอายุ 72 ปี เขาก็ยังเป็นเพียงบัณฑิตเฒ่าที่ไร้งานทำ ภรรยาเองก็ดูแคลน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเฝ้าหาโอกาสทำการใหญ่อีกครั้ง
แต่แล้วโอกาสก็มาถึง เมื่อครั้งหนึ่งเขาได้ออกไปนั่งตกปลาริมแม่น้ำแล้วก็ได้พบกับ จีชาง เจ้าเมืองโจว ผู้ซึ่งต่อมาคือโจวเหวินหวาง ก็กำลังออกไปล่าสัตว์ แล้วทั้งสองก็ได้พบกันแล้วสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดกัน จีชางประทับใจในความรอบรู้และความคิดอ่านของเขามาก จึงเชิญตัวเขามาทำงานเป็นเสนาธิการให้
เวลานั้นจีชางกำลังมีความแค้นกับราชวงศ์ชาง โดยเฉพาะพระเจ้าโจ้วหวาง (ติ้วอ๋อง) ทรราชผู้ทำการทารุณกดขี่ผู้คน ด้วยความที่หลงใหลในตัวนางต๋าจี่ที่เป็นสนมเอก จนไม่สนใจราชการ แล้วกระทำการป่าเถื่อน ลงโทษและสังหารผู้คนไปมากมาย แม้แต่บุตรชายคนโตของจีชางก็ถูกสังหารแล้วถูกนำเนื้อมาปรุงเป็นอาหารให้จีชางทาน จีชางรู้ว่านี่คือเนื้อของลูกชายตนแต่ก็จำต้องฝืนใจกินเพื่อเอาตัวรอด เมื่อถูกปล่อยตัวมา จีชางก็เก็บความแค้นแล้วหาหนทางล้มล้างราชวงศ์ชาง จนกระทั่งคนทั้งสองได้พบกัน
หลังจากนั้น เจียงไท่กงก็ได้เสนอแผนกลยุทธ์ต่างๆในการปรับรุงและพัฒนากองทัพโจวให้เข้มแข็ง สร้างพันธมิตร ไปจนถึงรวบรวมบุคลากรที่มีความสามารถ แต่หลังจากนั้นไม่นานจีชางก็ล้มป่วยแล้วเสียชีวิตลง ภารกิจจึงถูกส่งต่อไปที่ จีพา บุตรชายคนรอง ได้ขึ้นเป็น โจวอู่หวาง แล้วจากนั้นก็นำทัพทำสงครามกับราชวงศ์ชางอย่างดุเดือดกระทั่งได้รับชัยชนะในที่สุด
เจียงไท่กงได้รับความชอบมากในชัยชนะ ได้รับตำแหน่งหลู่อ๋อง ได้ปกครองดินแดน แต่ไม่นานโจวอู่หวางที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำศึกก็เสียชีวิต โจวกงต้าน (โจวกง) น้องชายอีกคนซึ่งเป็นยอดนักบริหารที่ยิ่งใหญ่ต้องขึ้นมาช่วยบริหารบ้านเมืองต่อ เเจียงไท่กงก็ยังช่วยให้คำปรึกษาและวางรากฐานบางอย่างไว้ที่ทำให้ราชวงศ์โจวยืนหยัดต่อมาได้ ก่อนที่จะเสื่อมอำนาจลงในภายหลังจนกระทั่งเข้าสู่ ยุคชุนชิว-จ้านกว๋อ นั่นเองครับ
จะเห็นว่าเรื่องราวของเขาไม่เพียงเป็นตำนาน แต่ยังให้แง่คิดและแรงบันดาลใจมากมายสำหรับคนจีนที่องการประสบความสำเร็จและสร้างตัวเป็นใหญ่ แล้วหลังจากชนะสงคราม เขาก็ได้แต่งตำราพิชัยสงครามที่รวบรวมยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทั้งหมดในการทำสงคราเพื่อก่อตั้งราชวงศ์โจว รวมถึงหลักการบริหารเอาไว้ ตำราของเขาถือได้ว่าเป็นฉบับแรกของจีนเท่าที่มีการค้นพบ นั่นคือ พิชัยสงครามหลิ่วเทา
แล้วต่อมาคัมภีร์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบให้กับพิชัยสงครามอีกมากมายของจีนนับไม่ถ้วน และถูกจัดให้เข้าเป็น 1 ใน 7 สุดยอดพิชัยสงครามจีนยุคโบราณ ได้แก่ พิชัยสงคราม หลิ่วเทา ซุนจื่อ อู๋ฉี ซือหม่าฝา เว่ยเหลียวซู ซานเลวี่ย หลี่จิ่งซู
วีรกรรมทั้งหมดนี้ จึงทำให้เจียงจื่อหยาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของจีนยุคโบราณที่ยังส่งอิทธิพลต่อถึงปัจจุบันครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website