Attack on Titan 125 Spoil สปอยล์ บางส่วน หลังจาก เอเรน เปิดเผยแผนการใหญ่ที่จะใช้พลังไททัน เรื่องก็เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว พร้อมการกลับมาของตัวละครสำคัญคนหนึ่ง
ล่าสุด Attack on Titan หรือ ผ่าพิภพไททัน มีลิขสิทธ์แปลไทยกับ สนพ. วิบูลย์กิจ ผลงานชื่อดังของ อ.อิซากายะ ฮาจิเมะ ก็ประกาศว่าจะจบเรื่องให้ได้ในปี 2020 ส่วนฉบับอนิเมะภาคสุดท้าย ss4 ก็จะมาในปีนี้เช่นกัน
จากนี้เป็นภาพสปอยล์ Spoil บางส่วนจากตอนที่ 125
Attack on Titan 125 Spoil รุนแรง
เปิดเรื่องมาต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว หลังจาก เอเรน ได้ประกาศ “เจตจำนง” ที่จะใช้ไททันในกำแพงออกไปเหยียบโลกภายนอกเกาะสวรรค์ให้ราบคาบ แล้วจากการที่เขาเชื่อมต่อกับ ยูเมียร์ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษและต้นกำเนิดของไททัน ก็ดูเหมือจะส่งผลกระทบไปถึงผู้ถือครองพลังไททันยุคปัจจุบันทั้งหมด ทำให้พลังถูกสลายชั่วคราว แล้วหนึ่งในคนที่หลุดออกมาจากผลึกที่แช่แข็งนาน 4 ปีก็คือ แอนนี่
สถานการณ์ในเมือง พื้นที่บางส่วนที่ถูกไททันร่างยักษ์ในกำแพงถูกเอเรนสั่งให้ยกทัพกันออกมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ทำร้ายคน แต่ก็เหยียบบ้านเรือนและสร้างความเสียหายอย่างมาก รวมถึงพวกคนที่ถูกทำให้เป็นไททันไร้สติก่อนหน้านี้ด้วย
ฮิตซ์นำทหารเข้าไปช่วยชาวเมืองที่ได้รับบาดเจ็บ แล้วก็พบว่าประชาชนชาวเอลเดียนส่วนหนึ่งก็ไมได้พอใจกับแผนการล้างโลกของเอเรนเพราะทำให้คนในเกาะต้องตายไปด้วย
แต่ก็มีชาวเมืองบางส่วนที่ “เห็นด้วยกับเอเรน” ว่าถ้าหากไม่ลุกขึ้นต่อสู้ เกาะสวรรค์ก็จะถูกโลกภายนอกทำลาย ชัยชนะย่อมต้องมีการเสียสละเป็นเรื่องปกติ ขณะที่อีกฝ่ายก็โจมตีว่าเอเรนเป็นเผด็จการ นี่จึงเริ่มทำให้เกิดการโต้แย้งกันระหว่างผู้คนสองฝั่ง
ฮิตซ์ที่ดูสถานการณ์แล้วกลัวว่าเรื่องจะลุกลามบานปลาย เลยให้ทหารแยกย้ายกันไปเอาอาวุธมาเตรียมพร้อมสถานการณ์ไว้
แต่เมื่อฮิตซ์เข้ามาที่สำนักงานทหาร กลับโดนใครบางคนจู่โจมปิดปากจากด้านหลัง คนนั้นก็คือ “แอนนี่” ซึ่งเพิ่งจะฟื้นหลังจากหลับไป 4 ปีนั่นเอง
แต่แอนนี่ร่างกายยังอ่อนแรงมาก แล้วฮิตซ์ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นทหารฝึกหักหน้าใหม่เหมือนช่วงแรก เธอเลยจับแอนนี่ทุ่มลงกับพื้นได้ง่ายๆ แต่แอนนี่ก็กรีดมือตัวเองเตรียมพร้อมไว้แล้ว ถ้าฮิตซ์เรียกคนมาช่วย ตนก็จะใช้พลังแปลงร่างเป็นไททัน ฮิตซ์เลยยอมที่จะพาแอนนี่ออกจากเมืองไป
ตรงนี้เองที่ฮิตซ์พบว่า แท้จริงแล้ว แอนนี่รู้สึกตัวมาตลอด 4 ปีที่อยู่ในผลึก เจ้าตัวบอกว่าเหมือนกับเป็นความฝันที่ดำมืดรางๆ แต่ก็ได้ยินทุกอย่างที่อาร์มิน ฮิตซ์ หรือใครต่อใครมาพูดอยู่ตรงหน้าเธอตอนที่เธออยู่ในผลึก
แล้วตอนที่เธอฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงของเอเรน รวมถึงคำประกาศทำลายล้างโลกของเขาด้วย
ระหว่างที่พาแอนนี่ขึ้นม้าออกจากเมือง ทั้งสองคนได้คุยกัน แอนนี่ยอมเปิดเผยว่า มีเรื่องที่อยู่ในใจเธอมาตลอด ตัวเธอถูกสอนมาตั้งแต่เด็กให้ทำภารกิจ สังหารศัตรู ก็จะได้รับคำชื่นชมในฐานะทหาร แล้วการทำลายชาวเอลเดียนก็เพื่อปกป้องโลกไว้ ฮิตซ์ถามกลับว่า ถ้าอย่างนั้นคนที่ตายเหล่านี้ เธอจะบอกว่ามันคือการเสียสละที่น้อยที่สุดใช่ไหม แต่แอนนี่กลับบอกว่า ตอนนี้เธอไม่สนใจเรื่องปกป้องโลกอะไรอีกแล้ว
แอนนี่เล่าให้ฮิตซ์ฟังว่า ที่จริงแล้วเธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เป็นทารกแล้วถูกเลี้ยงมาในค่ายของชาวเอลเดียน ซึ่งคนที่รับเธอมาเลี้ยงก็คือผู้ชายชาวเอลเอียนคนหนึ่งที่มาจากต่างแดน ตั้งแต่จำความได้ เธอถูกเขาฝึกฝนวิชาต่อสู้และทักษะต่างๆอย่างหนักเพื่อให้เป็นนักรบให้กองทัพมาร์เลย์ เพื่อแลกกับทรัพย์สินและเกียรติยศ นั่นคือคุณค่าเดียวที่เธอมีอยู่
แต่ในวันหนึ่ง หลังจากเธอเก่งขึ้นจนเอาชนะแล้วเล่นงานเขาลงกับพื้น แล้วยังโจมตีที่หัวเข่าของเขาจนบาดเจ็บหนัก ทำให้ตอนหลังเขาไม่สามารถเดินได้สะดวกอีก เพื่อเป็นการแก้แค้นที่เธอถูกฝึกหนักมาตลอด ตอนนั้นเขากลับร้องไห้ด้วยความดีใจแล้วกล่าวว่า “เท่านี้เธอก็เก่งพอจะฆ่าศัตรูแม้จะไม่มีอาวุธได้แล้ว”
แล้วในวันที่แอนนี่จะต้องออกจากเกาะไปทำภารกิจ ผู้ชายคนนั้นกลับร้องไห้คุกเข่าต่อหน้าเธอ ขอให้เธอปลอดภัยกลับมาบ้านให้ได้ ต่อให้จะทำภารกิจไม่สำเร็จหรือไม่มีเกียรติยศในฐานะนักรบ หรือต้องทิ้งทุกอย่างก็ไม่เป็นไร ขอเพียงเธอปลอดภัยกลับบ้านก็พอ
ตอนนั้นเองที่แอนนี่ได้รับรู้ว่า คนๆนั้นที่เลี้ยงดูเธอมาตลอด ก็คือ “พ่อ” และเธอก็คือ “ลูกสาว”
ตรงนี้น่าสนใจว่า อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้ที่แอนนี่เพิ่งเข้าใจว่า แบบนี้เองที่เขาเรียกว่า พ่อกับลูกสาว
แอนนี่จึงตั้งใจที่จะกลับบ้านไปหาพ่อของเธอ แต่ฮิตซ์ก็บอกว่า เรื่องมาถึงขนาดนี้ จะกลับไปก็คงมีแต่ร่างไร้วิญญาณ แอนนี่เองก็ทำใจไว้แล้ว
แล้วภาพก็ตัดไปเขตชาวเอลเดียนที่อยู่ในมาร์เลย์ พ่อของแอนนี่และชาวเอลเดียนที่ได้ยินคำประกาศของเอเรน ก็เข้ามากดดันพวกทหารมาร์เลย์เพื่อจะบอกว่า กองทัพไททันจะมาแล้ว แต่ก็ถูกพวกทหารจะจับยิงเป้า แล้วพ่อของแอนนี่ก็นึกถึงคำสัญญาที่ลูกสาวของเขาให้ไว้ว่าจะกลับมาให้ได้ เขาจึงลุกขึ้นต่อต้านพวกทหาร ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชะตากรรมของเขาและพวกชาวเอลเดียนที่มาร์เลย์จะเป็นยังไงต่อไป
ด้านอาร์มินตอนนี้กำลังเครียดนัก มิคาสะพยายามเข้ามาปรึกษา แต่อาร์มินที่สับสน (แล้วก็ดูเหมือนจะโดนความทรงจำของเบลรูทเล่นงานอีก) ไม่สามารถคุมสติเพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์ได้ แล้วในที่สุดอาร์มินก็พูดออกมาเองว่า
“แน่ชัดแล้วว่า คนที่ควรถูกทำให้คืนชีพตอนนั้น คือผู้บัญชาการเออร์วิน ไม่ใช่ฉัน”
ด้านกาบิ ก็บอกลาครอบครัวเบราส์ กาบิบอกชื่อจริงกับคายะ แต่คายะบอกว่าเธอชอบชื่อมีอามากกว่า ส่วนชื่อกาบิดูประหลาดไป แล้วในที่สุดทั้งสองคนก็บอกลากันด้วยดี โดยมีอาร์มินเป็นคนไปส่งกาบิ
ด้านแจนและฟล็อตซ์ ก็กำลังโต้เถียงกัน ฟล็อตซ์ยิงทหารอาสาคนหนึ่งเพื่อเชือดไก่ แล้วบอกกับพวกทหารอาสาที่เป็นชาวมาร์เลย์ว่า ที่จริงเขารู้แผนของเอเรนที่จะตลบหลังซีคมาตั้งแต่ 10 เดือนก่อน แล้วก็รวบรวมผู้คนเพื่อช่วยงานของเอเรน ตอนนี้เขาให้โอกาสพวกทหารอาสาที่นี่ เพราะถึงจะกลับไปตอนนี้แผ่นดินเกิดของพวกเขาก็ไม่เหลือซากแน่นอน แต่ถ้ายอมจำนน ก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเอลเดียนใหม่ที่จะเกิดขึ้น คนที่ไม่ยอมก็จะถูกฆ่าทิ้ง ฟล็อตซ์ยังย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องไปตายเพื่อศักดิ์ศรีของใครอีก
ซึ่งตรงนี้อาจจะถือว่าเป็นคีย์สำคัญของทั้งตอนเลยก็ว่าได้ เมื่อฟล็อตซ์พูดกับแจนว่า
ฟล็อตซ์ : พวกเราเอาตัวรอดจากขุมนรกเมื่อ 4 ปีก่อน แล้วพวกเราก็ได้มันมาอยู่ในมือแล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นอิสระแล้ว นายไม่จำเป็นต้องต่อสู้อีกต่อไปแล้ว จากนี้นายสามารถใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการได้แล้ว ใช่ไหมละแจน นายเคยบอกว่าอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในฐานะสารวัตทหารไม่ใช่เหรอ ตอนนี้จะเป็นก็ได้แล้วนะ นายคือวีรบุรุษ
แจน : ทุกอย่างมันจบลงแล้วเหรอ
ฟล็อตซ์ : ใช่ ทุกอย่างมันจบลงแล้ว นายจะกลับไปทำตัวนิสัยเสียเหมือนสมัยก่อนก็ได้แล้วนะ
แล้วเมื่อมิคาสะถามฟล็อตซ์ว่า หัวหน้าลีไว กับ ผู้บัญชาการฮันจิอยู่ที่ไหน ฟล็อตซ์ก็ว่าพวกนั้นคงโดนซีคฆ่าหมดแล้ว
ด้านโคนี่ ก็หลอกจะพาฟัลโก้ไปหาแม่ตัวเองเพื่อให้กิน จะได้คืนร่างเดิม โดยโคนี่หลอกว่าจะฟัลโก้หมดสติแล้วเห็นว่าเสียความจำไป เลยพาลงใต้เพื่อหาที่ปลอดภัยก่อน ส่วนฟัลโก้ก็คิดว่าโคนี่เป็นคนดีเลยตามมา ถึงแม้จะสงสัยว่าทำไมจึงพาลงทางใต้ แล้วก็รู้สึกว่าความทรงจำช่วงก่อนหน้านี้ของตัวเองมันเรือนลางมาก เขาก็หวังว่าจะได้กลับไปเจอกาบิอีก
ทางฝั่งผบ.มากัธและพีคที่หนีออกมานอกเมือง เห็นสภาพกองทัพไททันมหึมากำลังจะออกไปบุกโลกภายนอกเกาะ พีคก็ถามว่าถึงตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว แล้วเราควรหาทางหยุดยั้งไหม มากัธกลับบอกว่าไม่ต้อง แล้วตัดสินใจที่จะรอให้ทุกอย่างจบสิ้นลง
แล้วจู่ๆฮันจิก็เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือแล้วบอกว่า ที่เธอพามาด้วยก็มีแค่นายทหารที่บาดเจ็บใกล้ตายคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เป็นอันว่าตอนนี้นอกจากแอนนี่จะกลับมาแล้ว ลีไว ก็ยังมีชีวิตอยู่ตามที่หลายคนคาดไว้ แต่ทิศทางของเรื่องจะไปยังไงต่อ ถือว่าน่าสนใจมากครับ
แล้วหนึ่งในแก่นสำคัญของเรื่องตอนนี้ ดูเหมือนจะถูกใส่ไว้ในบทพูดของฟล็อตซ์นี่เอง กับความคิดสุดโต่งที่ว่า ถ้าไม่สู้ก็ต้องตาย แล้วทุกอย่างจะจบลงได้ก็ต่อเมื่อศัตรูตายหมด
แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แผนการใหญ่ของเอเรนจะบรรลุเป้าหมายหรือไม่ ต้องรอติดตามต่อครับ ซึ่งล่าสุดทางผู้เขียนคือ อ.อิซายามะ ฮาจิเมะ ก็ออกมาเปิดเผยบนทวีตเตอร์แล้วว่า จะพยายามจบผลงานเรื่องนี้ให้ได้ในปี 2020 นี้ ส่วนฉบับอนิเมะ ภาคสุดท้าย ss4 ก็จะมาในปีนี้เช่นกันครับ
ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่
Reference Website