playinone.com
รีวิว บทความ หนัง ซีรีส์ Netflix สตรีมมิ่งทุกระบบ

รีวิว Bulgasal Netflix ซีรีส์เกาหลีดราม่าแฟนตาซี ปีศาจอมตะที่ตามล่ากลับชาติมาเกิด (อัพเดทจบแล้ว)

สรุป

เรื่องของปีศาจอมตะ บุลกาซัล และความแค้นระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่ตามล่ากันข้ามภพข้ามชาติ เดินเรื่องสไตล์แฟนตาซีปนสยองขวัญ เนื้อหาโทนดราม่ามืดหม่นช่วงแรก แต่ช่วงกลางเรื่องถึงช่วงท้ายออกแนวอบอุ่น ความสัมพันธ์ตัวละครแบบครอบครัว หักมุมบ่อยครั้งถึงท้ายเรื่อง แม้อาจจะเนือยและดูยืดไปบ้าง

Overall
7.5/10
7.5/10
Sending
User Review
5 (4 votes)

Pros

  • งานโปรดักชั่นค่อนข้างดี อลังการ มุมกล้องดี
  • นักแสดงหลักโดดเด่น เล่นดีมาก
  • เรื่องราวน่าติดตาม เต็มไปด้วยปริศนา
  • แม้ว่าพลอตเอาปีศาจหลายแนวมายำรวมกันจะไม่ได้แปลกใหม่ แต่ก็ยังน่าสนใจติดตาม
  • มีฉากแอ็กชั่นต่อสู้และไขปริศนาให้ลุ้นเป็นระยะ
  • เรื่องราวหักมุมไปมาตลอดจนถึงท้ายเรื่อง

Cons

  • CG กราฟฟิกดูกลางๆ
  • แอร์ไทม์ฉากดราม่านานเกินไป ดูจงใจยืดฉาก
  • ช่วงแรกเรื่องเน้นแต่ความหม่นจนอาจจะทำให้หลายคนดรอปไปก่อน
  • ความสัมพันธ์ตัวละครวนไปมาไม่กี่คนจนน่ารำคาญไปบ้าง
  • พลอตของตัวละครมีความไม่สมจริงพอสมควร

ADBRO

Bulgasal Netflix รีวิว ซีรีส์เกาหลี แนวดราม่า แฟนตาซี เกี่ยวกับปีศาจอมตะ บุลกาซัล และความแค้นระหว่างชายหญิงคู่หนึ่งที่ตามล่ากันข้ามภพข้ามชาติ ช่วงแรกไปเน้นเดินเรื่องในสไตล์ Horror สยองขวัญที่ดูเหมือนจะได้อิทธิพลจากหนังสยองขวัญหลายแนวมายำรวมกัน ผสมกับแนวสืบสวนเพื่อค้นหาความลับที่เกี่ยวกับปีศาจบุลกาซัล และความเกี่ยวข้องระหว่างตัวละครที่ต้องกลับชาติมาพบกันในยุคปัจจุบัน รวมถึงการหาวิธีแก้ไขคำสาป ส่วนครึ่งเรื่องจะเน้นดราม่าค่อนข้างเยอะ

ต้องชมการเล่าเรื่องที่เล่นกับประเด็นกลับชาติมาเกิดได้สนุก แถมหักมุมไปมาหลายตลบในช่วงท้ายเรื่อง แต่ก็ยังไม่พ้นสไตล์เกาหลีแบบเดิมๆที่เน้นเรื่องโรมานซ์ความรักระหว่างพระเอกและนางเอกจนดูดราม่าเกินไปบ้าง และแอบยืดในหลายตอน แต่ภาพรวมแล้วถือว่าเป็นซีรีส์คุณภาพเรื่องหนึ่งเลย

รับชมได้เลยใน Netflix มีทั้งหมด 16 ตอนจบ

 Bulgasal: Immortal Souls (2021) on IMDb

ตัวอย่าง Bulgasal Trailer

Bulgasal เรื่องย่อ

เรื่องราวแนวดาร์กแฟนตาซีปนสยองขวัญของเกาหลีเรื่องนี้บอกเล่าเกี่ยวกับความแค้นและความสัมพันธ์แบบข้ามภพข้ามชาติที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ชายหญิงคู่หนึ่ง

ดันฮวัล รับบทโดย อีจินอุค ชายหนุ่มผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กต้องคำสาปตั้งแต่เกิดว่าเขาถูกปีศาจในตำนานอย่าง บุลกาซัล ตามล่าเอาชีวิต สุดท้ายแล้วเขากลายเป็นอมตะและจะมีชีวิตด้วยการดูดกินเลือดมนุษย์ เป้าหมายของเขามีเพียงอย่างเดียวคือตามหาหญิงสาวปริศนาที่มีส่วนทำให้เขาต้องคำสาปจนกระทั่งมาถึงยุคปัจจุบัน

มินซางอุน รับบทโดย ควอนนารา หญิงสาวปริศนาผู้ที่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีและกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับบุลกาซัล ถูกสังหารไปในยุคอดีตและกลับชาติมาเกิดในยุคปัจจุบัน ซึ่งเธอก็ต้องการค้นหาปริศนาความลับของปีศาจบุลกาซัลและหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้

ที่น่าสนใจก็คือ ตัวละครที่เคยพบและมีความเกี่ยวข้องผูกพันกันในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในแบบที่ดีหรือเลวร้าย พวกเขาก็จะกลับมาพบกันใหม่ในโลกยุคปัจจุบัน และมีความเกี่ยวข้องกันอีกครั้งไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

Bulgasal Netflix รีวิว ซีรีส์เกาหลี บุลกาซัลBulgasal รีวิว

เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีแนวดาร์กแฟนตาซี แอ็กชั่น ดราม่า ที่เล่าด้วยบรรยากาศค่อนข้างซีเรียส ปนสยองขวัญ ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นวิธีการเล่าแนวนี้กับซีรีส์เกาหลีมากนัก ตอนที่ดูเรื่องนี้อดคิดไม่ได้ว่าได้รับอิทธิพลจากหนังสยองขวัญของฝั่งไต้หวันมาบ้างหรือเปล่า เพราะลักษณะของการใช้โทนสี มุมกล้อง การตัดต่อภาพ จังหวะการเล่า ดูเหมือนเรากำลังรับชมหนังสยองขวัญฝั่งไต้หวันที่ชอบเล่นกับเรื่องความเชื่อ ภูตผีปีศาจ หรือตำนานในท้องถิ่น

สำหรับปีศาจ “บุลกาซัล” ในเรื่องนี้ เหมือนได้รับแรงบันดาลใจมาจากเอาภูติผีปีศาจหลายแบบมายำรวมกัน โดยเฉพาะแวมไพร์ผสมซอมบี้ และเหมือนได้แนวทางแบบ Highlander มาผสมผสานด้วย ดังนั้นตอนที่ดูเรื่องนี้ หากเป็นคนที่ดูหนังสยองขวัญ หนังปีศาจ หนังคัลท์มาเยอะๆ เราจะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอะไรพวกนี้แฝงอยู่ในหนังค่อนข้างเยอะ

Bulgasal Netflix รีวิว ซีรีส์เกาหลี บุลกาซัลการเล่าตำนานของบุลกาซัลก็จัดว่าน่าสนใจ ในแง่การผูกโยงความเชื่อเรื่องปีศาจในท้องถิ่นของคนเกาหลีโบราณตั้งแต่ช่วงต้นยุคโชซอน แล้วยังมีการจิกกัดสังคม ด้านมืดของจิตใจมนุษย์ ที่ในยามชีวิตยากลำบากก็มักมองหาอะไรบางอย่างเพื่อกล่าวโทษไว้ก่อนโดยไม่ต้องสนใจเหตุผลอะไรนัก และทำให้ตัวเอกต้องกลายเป็นเด็กต้องคำสาปตั้งแต่เกิด เพียงแต่ซีรีส์เลือกที่จะเล่าในประเด็นที่ว่าตัวเขาก็ต้องคำสาปจริงๆ และต้องการหาทางสลายคำสาปนี้

ด้านโปรดักชั่น จัดว่าทำได้ค่อนข้างดี ทั้งงานภาพ เสียง การตัดต่อ ซึ่งส่วนที่เล่าช่วงย้อนอดีตถือว่าจัดเต็มและทำได้ราวหนังแอ็กชั่นดราม่าย้อนยุคดีๆ สักเรื่องหนึ่ง ชนิดที่ว่าในตอนที่ 1 สามารถปรับเอามาทำเป็นหนังเรื่องหนึ่งได้สบายๆ เลย ตรงนี้ต้องขอชมที่งานสร้างซีรีส์เกาหลีมาไกลจริงๆ

Bulgasal Netflix รีวิว ซีรีส์เกาหลี บุลกาซัลด้านนักแสดงนำหลักสองคนคือ อีจินอุค และ ควอนนารา เล่นได้ดี น่าติดตาม ทั้งการแสดงทางสีหน้าท่าทาง บางทีไม่ต้องมีบทพูดที่เค้นพลังมากแต่ก็รู้สึกได้ถึงการส่งอารมณ์ได้ดีเยี่ยม ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นก็ทำได้ดีเช่นกัน

สำหรับภาพรวมความสัมพันธ์ตัวละครในเรื่องนี้จะเน้นการโยงใยความสัมพันธ์แบบข้ามชาติภพของเหล่าตัวละคร ว่าใครเคยมีการสร้างกรรมใดกับผู้คนไว้ในชาติภพก่อน ชาติต่อมาก็มักจะต้องวนเวียนมาเจอกันอีกจนได้ ซึ่งพลอตในสไตล์นี้คนไทยเราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วจากละครไทยหลายเรื่อง แล้วก็ทำให้เห็นว่าฝั่งเกาหลีก็ชอบพลอตแนวนี้เหมือนกันครับ โดยเรื่องนี้จัดว่าทำไดัดีในระดับหนึ่งเลยในการโยงความเกี่ยวข้องของตัวละคร

ส่วนข้อด้อยก็มีไม่น้อย เช่นการเล่าเรื่องในช่วงอดีตที่ใช้เวลาปูบทค่อนข้างนาน มีฉากและแอร์ไทม์บางอย่างที่เหมือนจงใจยืดเกินไปหน่อย ซึ่งก็น่ากังวลว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปจนจบเรื่องหรือไม่ เพราะถ้าเป็นแบบนี้จะมีหลายฉากที่ดูยืดยาดไปเลย ส่วนใครที่คาดหวังฉากแอ็กชั่นปราบปีศาจ เรื่องนี้ทำได้ในระดับกลางๆ งาน CG สำหรับพวกปีศาจทำได้ไม่เลวแต่บางทีดูไปแล้วก็แอบรู้สึกว่าต้องประหยัดงบ ทำให้ยังไม่ได้โชว์ของด้านงาน CG เท่าไร่นัก แถมใช้แอร์ไทม์ค่อนข้างมากกับฉากแนวดราม่ามากกว่าฉากแอ็กชั่น ตรงนี้เลยอาจทำให้หลายคนที่ดูรู้สึกว่ามันยืดยาดเกินเหตุ ทั้งที่สามารถทำให้มันกระชับกว่านี้ได้หลายเท่า อาจเป็นความจงใจของผู้กำกับก็ได้ที่ต้องการยืดเนื้อหาในช่วงแรกครับ แต่ก็เลยเป็นข้อด้อยที่น่าเสียดายไปเลย สำหรับใครที่คาดหวังฉากแอ็กชั่น

แล้วยังอีกจุดที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องนี้ค่อนข้างขาดแคลนมุกตลก หรือจังหวะการเดินเรื่องแบบเบาสมอง แม้ว่าจะพยายามสอดแทรกเข้ามาบ้างเป็นระยะ แต่ก็ยังถือว่าแห้งแล้งในส่วนนี้เพราะเรื่องมันไปหนักที่ดราม่าแบบมืดมนกับความสัมพันธ์แบบข้ามชาติภพระหว่างตัวละครซะมากกว่า อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ค่อยนำเสนอเรื่องราวในมุมที่กว้างขึ้นสำหรับเหล่าตัวละคร มันเลยดูเหมือนเป็นดาร์กแฟนตาซีที่ “วนไปมากับดราม่าของตัวละครไม่กี่คน” ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เรื่องจำเป็นต้องหาทางยืดยาดจนบางตอนก็ดูใช้เวลากับฉากตัวละครมองหน้ากันค้างๆซึ่งเป็นเทคนิคยอดนิยมของซีรีส์เกาหลีในช่วงหลัง ในแง่หนึ่งมันก็ดูอลังการและโชว์งานภาพกับการถ่ายทำสวยๆอยู่ตลอดเรื่อง แต่ช่วงแรกแอร์ไทม์ยืดมากเกินไป ทำให้กว่าจะเข้าเนื้อหาที่ชวนติดตามต้องใช้เวลาพอสมควร

จุดหนึ่งที่ต้องชมคือ เรื่องมีความพยายามที่จะเล่าให้เดาทางยาก ช่วงแรกแม้จะทิ้งปริศนาไว้เยอะ และในช่วง 1-6 ตอนแรกอาจเดินเรื่องตามสูตรและค่อนข้างเนือยไปจนถึงจงใจยืดแอร์ไทม์หลายฉากไปบ้าง แต่เมื่อถึงช่วงกลางเรื่องที่ทีมตัวละครหลักมารวมตัวกันครบ ความสนุกก็บังเกิด (แม้จะยังแอบยืดเป็นระยะ) เพราะเรื่องจะพาเราไปสู่การสืบค้นปริศนาที่หักมุมไปมาหลายตลบ จนคนดูเดาทางได้ยาก เรื่องยังหักมุมไปจนถึงตอนสุดท้าย แม้ว่าเราจะพอเดาได้บ้างว่าอาจจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเล่นกับคนดูได้ดี จึงนับว่าเป็นอีกเรื่องที่วางพลอตมาได้ไม่เลว แม้ว่าจะมีความไม่สมจริงของตัวละครในบางจุด เช่น การใช้ชีวิตมาถึงยุคปัจจุบันระหว่างพระเอกและตัวร้ายที่ต่างกันสุดขั้ว จนดูเหมือนคนเขียนบทจะตั้งใจให้ตัวเอกอยู่ในสถานะเป็นรองตัวร้ายมากไปหน่อย เพราะพระเอกเก่งและฉลาดแบบนี้แต่พอมีชีวิตอมตะกลับไม่ได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์แบบตัวร้ายในการสร้างสถานะตัวเองให้มั่นคง รวมถึงพาร์ทสืบสวนและการปั่นหัวของตัวละครที่ก็จงใจยืดเรื่องไปหน่อย

อีกส่วนหนึ่งที่ต้องชมคือ พัฒนาการของตัวละคร โดยเฉพาะสามตัวละครหลักของเรื่องคือ ดันฮวัล และสองสาวพี่น้อง มินซางอุนและชีโฮ หรืออาจจะรวมโดยุนไปด้วยก็ได้ คือตัวเอกในซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่มักมีการเซตติ้งคาแรคเตอร์บางอย่างที่ค่อนข้างตามสูตร พระเอก นางเอก นางรอง พระรอง แต่เรื่องนี้เลือกที่จะแหวกขนบที่ว่าอย่างสิ้นเชิง ซึ่งอันที่จริงเราก็พอจะเริ่มเห็นความพยายามแหกกรอบเดิมๆของตัวละครตามสูตรในซีรีส์เกาหลีบางเรื่องในช่วง 2-3 ปีหลังนี้มาบ้างแล้ว แต่บุลกาซัลทำตรงนี้ได้ดีเกินคาด ตรงที่ว่าเรื่องราวเลือกที่จะผูกโยงความสัมพันธ์ของกลุ่มตัวละครหลักในรูปแบบ “ครอบครัว” โดยเฉพาะบทของชีโฮที่เปิดเรื่องมาเป็นสาวนิสัยออกจะเสียอยู่บ้าง แต่โดยเนื้อแท้คือคนที่รักครอบครัว ตรงนี้ต้องชมว่าบทระหว่างมินซางอุนและชีโฮเขียนออกมาได้ดีอย่างคาดไม่ถึง เอาจริงๆอาจจะทำออกมาดีกว่าบทรักระหว่างดัลฮวันและมินซางอุนด้วยซ้ำ รวมถึงบทของโดยุนและสายสืบควอน ที่ต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับดัลฮวัลมาตลอดทุกชาติภพ เรื่องก็นำเสนอออกมาได้ดีมาก

ส่วนใครคาดหวังจะได้ดูฉากแอ็กชั่นปราบปีศาจมันส์ๆ อาจจะผิดหวังสักหน่อย เพราะแม้ว่าตอนแรกจะเปิดตัวมาราวกับว่าเรื่องนี้จะมีฉากแอ็กชั่นอลังการ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากมาย

โดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นซีรีส์แนวดาร์กแฟนตาซีของเกาหลีที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจครับ เพียงแต่ช่วงแรกมีความยืดไปบ้าง

บุลกาซัล สนุกและดีไหม

จัดว่า สนุก ครับ แต่อาจจะมีความดราม่ายืดยาดจนน่ารำคาญไปบ้าง พลอตเรื่องก็ไม่ได้เป็นอะไรแปลกใหม่มากนัก เน้นไปที่ความสัมพันธ์ตัวละครที่เกี่ยวข้องกันจากชาติภพก่อนมาถึงยุคปัจจุบันที่เกิดใหม่ แล้วต้องกลับมาเกี่ยวข้องกันอีกครั้ง พร้อมกับสืบหาปริศนาไปด้วย ใครชอบแนวรักดราม่าแฟนตาซีสไตล์เกาหลี เรื่องนี้ทำได้มาตรฐานเลยทีเดียว แต่ส่วนตัวแล้วยังเทียบกับเรื่องขึ้นหิ้งอย่างก็อบลินไม่ได้ครับ

บุลกาซัล จบดีไหม (สปอยล์ตอนจบในแถบ)

จบได้น่าประทับใจครับ และเป็นบทสรุปที่ก็สมกับเรื่องราวที่ปูมา

ในแถวข้างล่างนี้เป็นสปอยล์ตอนจบ

ตอนจบ เฉลยความลับเรื่องปริศนาบุลกาซัล ว่าความจริงแล้วในชาติภพแรกสุดก่อนที่เรื่องจะเริ่ม ดัลฮัลและมินซางอุน เคยเป็นคู่ชายหญิงบุลกาซัลเพียงสองตัวมาก่อน แต่เพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้พวกเขาที่ทั้งรักและแค้นต่อกันต้องข้ามชาติภพไป แล้วยังทำให้เกิดบุลกาซัลตัวใหม่คือ อ๊กอึลแทขึ้นมาด้วย

ในการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย ดัลฮวัล จัดการอ๊กอึลแทได้สำเร็จและจบชีวิตตัวเองลง เช่นเดียวกับมินซางอุนที่ตายลง สุดท้ายแล้ว ชีโฮ และ โดยุน ได้ไปใช้ชีวิตอย่างสงบ ชีโอได้มีลูก สร้างครอบครัวจนมีลูกหลานออกมา แล้วเฝ้ารอการกลับมาเกิดใหม่ของ ดัลฮวัลและมินซางอุน ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็ได้เกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้วกลับมาพบกันอีกครั้ง แม้ว่าจะยังจำไม่ได้ แต่พวกเขาก็รู้สึกเหมือนเคยพบกันมาก่อนนั่นเอง

สรุปในภาพรวมแล้วถือว่าเป็นซีรีส์ดาร์กแฟนตาซีของเกาหลีที่น่าสนใจในแง่การเดินเรื่องและคาแรคเตอร์ตัวละครไม่ค่อยตามสูตรเกาหลีทั่วไปดี แล้วแม้ว่าจะดูเหมือนหยิบยืมพลอตและลักษณะของปีศาจมาจากหนังหลายเรื่อง บทดราม่ามาเรื่อยๆมีแนวสิบสวนหาปริศนา หักมุมอยู่ตลอด แต่ก็มีช่วงเนือยเป็นระยะ รวมๆแล้วดูเพลินครับ

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

https://www.imdb.com/title/tt14691616/

The Devil’s Hour ช่วงเวลาปีศาจ ตี 3.33 นาที ที่เต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์เกินคาด!