รีวิว Cagaster of an insect Cage คากัสแตร์ สงครามแมลงยักษ์ อนิเมะจากผู้กำกับ FMP

Cagaster of an insect Cage Netflix คากัสแตร์ สงครามแมลงยักษ์ รีวิว อนิเมะจากผู้กำกับ Full Metal Panic แนวเอาชีวิตรอดในโลกดิสโทเปียที่แตกต่างจาก Attack on Titan

Cagaster of an insect เป็นอีกหนึ่งผลงาน Original Anime Netflix ที่เพิ่งเข้าฉาย ดัดแปลงจากมังงะในเชื่อเดียวกัน รับชมได้แล้วทั้งซีซัน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดูได้เพลินๆครับ ผลงานกลับมากำกับอีกครั้งของ ผู้กำกับที่เคยสร้างผลงานสุดยอดอย่าง Full Metal Panic และ Last Exile 

คะแนนเฉลี่ย IMDB

Cagaster of an insect Cage Trailer

https://www.youtube.com/watch?v=VWbOhC34YhY

Cagaster of an insect Cage คากัสแตร์ เรื่องย่อ

ในโลกอนาคตปี 2125 นับเป็นเวลา 30 ปี นับตั้งแต่ค้นพบเกิดโรคระบาดร้ายแรงที่แพร่กระจายไปทั่วโลก เมื่อมนุษย์บางส่วนที่ติดเชื้อได้กลายเป็นแมลงยักษ์ที่มีพลังมหาศาล ทำให้สังคมโลกในหลายส่วนถูกทำลายไป จนทำให้เกิดกลุ่มคนที่ฝึกฝนตนเองให้มีความสามารถในการต่อสู้และกำจัดแมลงขึ้นมา

วันหนึ่ง อีลี่ เด็กสาวอายุ 14 ปี ที่ออกเดินทางมากับพ่อ ถูกแมลงเข้าโจมตี พ่อของเธอเสียชีวิต แต่เธอก็มาได้ คิโด ชายหนุ่มนักำกจัดแมลง เข้ามาช่วยเอาไว้ แล้วเขาก็รับปากกับพ่อของเธอก่อนตายว่า จะพาเธอไปหาแม่ของเธอให้ได้ จากนั้นการใช้ชีวิตร่วมกันระหว่าง อีลี่ และ คิโด ก็เริ่มต้นขึ้น โดยที่ตัวของอีลี่มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ และกำลังถูกคนบางกลุ่มไล่ตามตัว

 

Cagaster of an insect Cage คากัสแตร์ ตัวละคร

อีลี่ เด็กสาวอายุ 14 ปี อาศัยอยู่กับพ่อในชนบท ช่วยกันเลี้ยงแกะ แต่ด้วยเหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอและพ่อต้องออกเดินทาง กระทั่งพ่อเธอเสียชีวิต เธอได้รับความช่วยเหลือจากคิโด แล้วก็ได้มาอยู่ในการดูแลของคิโดที่ร้านมาริโอตั้งแต่นั้น

หลังจากอยู่ร่วมกัน อีลี่ พยายามจะเข้าใจคิโด ผู้ซึ่งไม่ค่อยจะยอมพูดเรื่องราวของตัวเอง กระทั่งเธอตกหลุมรักอีกฝ่ายเข้าจนได้ ที่จริงแล้วอีลี่มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ทำให้เธอเป็นที่ต้องการตัวของคนกลุ่มหนึ่ง

 

คิโด นักกำจัดแมลงชื่อดัง ที่มีทักษะและความสามารในการต่อสู้และการฆ่าที่ไม่ธรรมดา ปกติแล้วเป็นคนสุขุม ไม่ค่อยชอบพูดจา ทำให้เข้ากับคนอื่นยาก บรรดาทหารประจำเมืองและคนในวงการกำจัดแมลงเองก็ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรนักที่เขาได้งานไปแทบจะคนเดียว

ที่จริงแล้วคิโดมีอดีตที่ซับซ้อน ซึ่งในเรื่องจะค่อยๆเปิดเผยให้เรารู้ แล้วตัวของอีลี่ก็พยายามที่จะเข้าใจเขามากขึ้นด้วย หลังจากเขาได้อยู่ร่วมกับอีลี่แล้ว เขาก็มีทีท่าเปิดใจต่อผู้คนมากขึ้น

แอช เด็กหนุ่มปริศนา ที่มีร่างกายส่วนหนึ่งเป็นแมลง เรื่องราวชาติกำเนิดของเขามีความเกี่ยวพันกับความลับของอีลี่ด้วย เขายังห่วงใยอีลี่เสมือนเป็นน้องสาวของตนเอง แต่ก็แสดงออกไม่เก่งนัก

คากัสแตร์ มังงะ สู่ฉบับอนิเมะ

สำหรับที่มาของ คากัสแตร์ เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงจากต้นฉบับมังงะของ คาโช ฮาชิโมโตะ ในชื่อเรื่องว่า Mushikago no Cagaster

ซึ่งการดัดแปลงเป็นอนิเมะก็มาได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง โคอิชิ ชิงิระ ที่เคยฝากผลงานอนิเมะระดับขึ้นหิ้งอย่าง Full Metal Panic และ Last Exile กับสตูดิโอในตำนานอย่าง Gonzo ที่ภายหลังประสบปัญหาการเงินจนปิดตัวลง ภายหลังจึงได้ฟื้นสถานะกลับมารับสร้างผลงานใหม่ๆต่อ แม้ว่าจะไม่ได้มีผลงานชื่อดังมากแบบในสมัยก่อนแล้ว จากนั้นก็กลายมาอยู่ในเครือของ Studio Kai ซึ่งล่าสุดเตรียมสร้าง 7Seeds Season2 ด้านตัวผู้กำกับก็ถือว่าเป็นคนสร้างงานที่สำคัญของสตูดิโอหลายเรื่องก่อนจะห่างหายไป

คากัสเตอร์ จึงอาจจะนับได้ว่าเป็นผลงานที่ทั้งผู้กำกับและสตูดิโอดัง พยายามกลับมาสร้างผลงานอีกครั้ง โดยคราวนี้ผ่านช่องทางสตรีมมิ่งอย่าง Netflix

สำหรับตัวมังงะต้นฉบับ จุดน่าสนใจคือ อาจจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักในบรรดามังงะกระแสหลัก แม้แต่มังงะสาย Seinen ด้วยกันก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้ถูกซื้อลิขสิทธิ์แปลออกไปเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น ฝรั่งเศส และ สเปน ที่สำคัญคือ เรื่องนี้ยังถึงขั้นได้รางวัลมังงะของทางฝรั่งเศสด้วย

 

Cagaster of an insect Cage สนุกไหม

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ใครคาดหวังจะได้ดูเรื่องแนวแอ็กชั่น เอาชีวิตรอด แนวดิสโทเปีย ที่งานสร้างอลังการแบบ Attack on Titans เรื่อง คากัสแตร์ ไม่ใช่แนวนั้นเลยครับ

เพราะเรื่องนี้จะไปโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละคร โดยเฉพาะ อีลี่ และ คิโด สองพระนางของเรื่อง รวมถึง แอช ที่ถือว่าเป็นตัวหลักอีกคน โดยเรื่องจะโฟกัสไปที่พัฒนาการของเหล่าตัวละครที่ได้มาพบกัน ใช้ชีวิตอาศัยอยู่ด้วยกัน ไปจนถึงการพบกับผู้คนต่างๆในเมืองโลกอนาคตที่ถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าแมลงยักษ์ และอันตรายดำมืดที่คืบคลานเข้ามาหาตัวละครในเรื่อง

เรียกง่ายๆว่า ถ้าเปรียบเทียบกับ Attack on Titans ที่เน้นความสิ้นหวังของเหล่าตัวเอกและมนุษยชาติ ในฐานะปราการด่านสุดท้าย เรื่องนี้เล่นมุมตรงข้ามเลย คือไปเน้นที่การใช้ชีวิตในโลกดิสโทเปียของเหล่าตัวละคร และการปรับตัวเข้าหากันของสองตัวละครหลัก เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ค่อนข้างทำได้ดีในแง่ของอารมณ์อบอุ่นในเรื่อง

ส่วนด้านงานภาพ และ CG น่าเสียดายว่า อาจจะมีทุนจำกัด ทำให้งาน CG ไม่สมูทเท่าที่ควร การเคลื่อนไหวของตัวละครค่อนข้างแข็ง แต่ในส่วนของฉากแอ็กชั่นถือว่าทำได้พอใช้

อีกจุดคือ ในด้านดีไซน์ตัวละคร มีการปรับจากต้นฉบับมังงะพอสมควร โดยเฉพาะตัวนางเอกอย่าง อีลี่ ซึ่งตามเรื่องแล้วอีลี่เป็นเด็กสาวอายุ 14 ปี แล้วในต้นฉบับมังงะจะทำให้ดูมีรูปร่างเป็นผู้หญิงสาวมากกว่านี้ แล้วยังแต่งตัวเปิดเผยกว่านี้ด้วย แต่ในอนิเมะเลือกปรับดีไซน์ให้ดูเด็กลง รูปร่างเป็นเด็กมากขึ้นและแต่งตัวมิดชิดขึ้น ซึ่งก็อาจจะเพื่อให้เรื่องนี้สามารถขายทางสตรีมมิ่งได้ (ผู้เขียนมีความรู้สึกว่า ถ้าเรื่องนี้ทำเป็นอนิเมะในญี่ปุ่นแบบปกติ อาจจะไม่ปรับดีไซน์ตัวละครแบบนี้)

ด้านฉากแอ็กชั่น ค่อนข้างทำได้ดี แม้ว่า CG ของตัวละครจะดูแข็งและไม่สมูทเท่าไรนัก อีกทั้งเรื่องนี้มีฉากแอ็กชั่นน้อยกว่าที่คาดคิด แต่ว่าในแต่ละฉากก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอประมาณครับ

สำหรับจุดด้อยอย่างแรงของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ ใช้เวลานานเกินไปกว่าจะเข้าช่วงสนุกมากของเรื่อง แต่ตรงนี้เป็นเพราะต้นฉบับมังงะที่เดินเรื่องช้าเองด้วย คือกว่าจะเข้าช่วงสนุกมากของเรื่อง ก็ต้องรอถึงตอนที่ 4-5 เป็นต้นไป โดยเฉพาะหลังจากปริศนาของอีลี่เปิดเผยในตอนที่ 6 ซึ่งอาจจะไม่ได้หักมุมอะไรมากมายก็จริง แต่การเล่าเรื่องในช่วงเฉลยปริศนาทำได้ดีมาก รวมถึงการพลิกบุคลิกของตัวนางเอกอย่างอีลี่หลังจากจำความได้แล้วด้วย

ในภาพรวมแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้ถึงขั้นดีสุดยอดอะไรนัก แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่ดูได้เพลินๆขอ Netflix และเป็นแนวดิสโทเปียที่ให้อารมณ์อีกสไตล์ที่แตกต่างไปจากเรื่องดังๆก่อนหน้านี้ครับ

 

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website 

https://myanimelist.net/news/56177626