รีวิว Curtiz Netflix หนังตีแผ่เรื่องราวของ เคอร์ติซ ผู้กำกับหนังขึ้นหิ้ง คาซาบลังกา

Curtiz Netflix หนังสร้างจากช่วงเวลาของ ไมเคิล เคอร์ติซ ผู้กำกับชาวฮังการีซึ่งเป็นผู้สร้าง “คาซาบลังกา” (Casablanca) ภาพยนตร์แนวโรแมนติกสัญชาติอเมริกัน

สำหรับตัวหนัง คาซาบลังกา เริ่มออกฉายในปี ค.ศ. 1942 ซึ่งนำแสดงโดย ฮัมฟรีย์ โบการ์ต อิงกริด เบิร์กแมน และพอล เฮนรีด และมีโคลด เรนส์ คอนราด วีดท์ ซิดนีย์ กรีนสตรีท ปีเตอร์ ลอรร์ และดูลีย์ วิลสัน เป็นนักแสดงสบทบ

สำหรับเรื่องราวในภาพยนตร์เกิดขึ้นในเมือง คาซาบลังกา ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนเหนือของประเทศโมร็อกโก ดินแดนในอาณัติของฝรั่งเศสเขตวีชีช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างนาซีเยอรมันกับกลุ่มแนวร่วมการปลดปล่อยฝรั่งเศส และผู้ที่ต้องการอพยพหนีภัยสงครามไปยังสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์กล่าวถึงความขัดแย้งและการตัดสินใจของชายคนหนึ่ง ที่ต้องเลือกระหว่างความรักที่มีต่อหญิงคนหนึ่ง กับการช่วยเหลือสามีของเธอในการต่อสู้ต้านทานนาซี

ข้อมูลจากวิกิพีเดียไทย https://th.wikipedia.org/wiki/คาซาบลังกา_(ภาพยนตร์)

คะแนนเฉลี่ย IMDB

Curtiz รีวิว สปอย

ในภาพรวมของหนังขาวดำเรื่องนี้ พยายามอธิบายสาเหตุว่า ทำไมภาพยนตร์เรื่อง คาซาบลังก้า (Casablanca) ถึงกลายเป็นภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และในระหว่างการถ่ายทำ มันเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง 

เนื่องจากคนไทยและคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบว่า แท้จริงแล้วภาพยนตร์เรื่อง คาซาบลังก้า ไม่ใช่แค่หนังธรรมดา แต่มีนัยยะทางการเมืองบางอย่าง ที่อิงจากสถานการณ์ของสงครามโลกในเวลานั้นที่ทำให้ หนังรักเรื่องนี้ มีอะไรที่มากกว่าแค่หนังรักทั่วไป แต่เป็นหนังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลบางอย่าง และมีกระบวนการเรื่องการเขียนบท ใส่องค์ประกอบต่างๆที่หวังผลในเรื่องการ “ปลุกระดมความรักชาติ” Propaganda เพื่อเรียกความรักชาติให้กับคนอเมริกาในภาวะสงครามสมัยนั้น

เพียงแต่ลักษณะของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะมีความแตกต่างไปจากภาพยนตร์แนวโฆษณาชวนเชื่อที่แตกต่างออกไปจากภาพยนตร์แนวนี้ในเวลานั้น ซึ่งในหนังเรื่อง Curtiz ก็มีการตีแผ่เรื่องราวหลายอย่างที่คนทั่วไปอาจจะไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างการถ่ายทำ รวมถึงสาเหตุว่า ทำไมผู้กำกับ ไมเคิล เคอร์ติซ ถึงถูกเลือกมาถ่ายทำเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น

• หนังที่ถูกสร้างในช่วงนั้น ต้องแฝงองค์ประกอบชาตินิยมรักชาติอเมริกัน ต่อต้านนาซี
• เคอร์ติซถูกเลือกแม้ว่าจะเป็นผู้กำกับชาวฮังการีที่อพยพมา แต่เขาสามารถทำหนังตามสั่ง และทำในเวลาจำกัดได้ แม้ว่าเขาก็ไม่ได้เต็มใจไปทั้งหมด
• ปัญหาการแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่รัฐในเรื่องบทหนัง
• การเขียนบทหนังที่เขียนไปถ่ายไปโดยไม่รู้ตอนจบด้วยซ้ำ คือไม่รู้ว่า อิลซานางเอกในเรื่องควรจะเลือกผู้ชายคนไหน
• การตัดสินใจเลือกคีย์หลักที่หนังคาซาบลังก้าต้องการสื่อคือ การเสียสละเรื่องหน้าที่และความรักต่อส่วนรวม

แต่เราจะพบว่ามีอีกเส้นเรื่องหนังในหนัง ที่อาจจะถือว่าเป็นเส้นเรื่องหลักไม่แพ้กับปัญหาเรื่องการแทรกแซงของเจ้าหน้าที่รัฐในระห่างถ่ายทำ นั่นคือความขัดแย้งระหว่างเคอร์ติซและ “คิตตี้ เคอร์ติซ” ลูกสาวของเขากับภรรยาคนก่อน ซึ่งเธอแอบเข้ามาเป็นตัวประกอบอยู่ในกองถ่ายหนังคาซาบลังก้า

แล้วบทของลูกสาวนี้เองที่น่าจะเป็นจินตนาการของผู้สร้างหนังเรื่องนี้ที่ต้องการสร้างเรื่องราวดราม่าเข้ามา เพราะในชีวประวัติจริงของเคอร์ติซ เขาไม่สามารถสะสางความขัดแย้งและปัญหาที่มีกับลูกสาวได้ แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จอย่างมากในเรื่องหน้าที่การงานและอาชีพผู้กำกับ โดยเฉพาะรางวัลออสการ์ครั้งแรกและครั้งเดียวที่เขาจะได้รับหลังจากหนังคาซาบลังก้าออกฉายไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิตผู้กำกับของเขา

สำหรับจุดดีของหนังที่ทำได้ดีคือ การสร้างบรรยากาศที่สื่อถึงความเป็นยุค 40 ภายใต้ความเป็นหนังขาวดำ การเลือกใช้ดนตรีประกอบที่ทำได้ดี

นอกจากนี้ตัวหนังยังพยายามหลีกเลี่ยงที่จะแพนกล้องไปหาคนที่เป็นนักแสดงในบท ฮัมฟรีย์ โบการ์ด ซึ่งเป็นดาราที่แสดงเป็น ริก ตัวเอกในเรื่องคาซาบลังก้า รวมถึงไม่ให้เราเห็นดาราสาวที่เล่นเป็น อิงกริด เบิร์กแมน ซึ่งจะรับบทเป็น อิลซา นางเอกในเรื่อง แต่ใช้วิธีการให้ผู้ช่วยออกมารายงานเอาว่า เบิร์กแมนบ่นเรื่องอะไรในกองถ่ายบ้าง ก็เป็นเทคนิคที่ทำได้ดี เพราะจะได้ไม่ต้องหาดารามาเล่นเป็นสองคนนี้ ซึ่งเป็นการเลี่ยงที่จะโดนวิจารณ์ไปเลยว่า คุณหาดารามาแล้วหน้าตาไม่เหมือนตัวนักแสดงจริง เพราะทั้งสองคนถือว่าเป็นดาราระดับขึ้นหิ้งจากหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะเบิร์กแมนตัวจริงเป็นดาราสาวที่สวยมากในยุคนั้น 

แต่จุดด้อยก็มีพอสมควร โดยเฉพาะการเล่าเรื่องที่ไม่ปราณีต่อคนที่ไม่เคยรู้จักหรือดูหนังคาซาบลังก้ามาก่อน เชื่อเลยว่าใน 20 นาทีแรกของหนัง จะต้องมีคนดรอปไปแน่ๆ ถ้าหากว่าคุณไม่เคยดูหนังคาซาบลังก้า หรือมีความสนใจประวัติศาสตร์ของฮอลลีวูดในช่วงนั้น เพราะบทพูดของเหล่าตัวละครจะชวนงงมากๆว่าเขากำลังคุยอะไรกัน

ดังนั้นคำแนะนำคือ ก่อนดูหนังเรื่องนี้ อาจจะต้องหาเรื่องคาซาบลังก้ามาดูก่อน หรืออย่างแย่ที่สุด ก็ควรต้องรู้เรื่องย่อตั้งแต่ต้นจนจบของหนังคาซาบลังก้าไว้สักหน่อยครับ

Curtiz เรื่องจริง ที่อยู่ในหนัง

มีจุดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ แท้จริงแล้วหนังเรื่องนี้บอกเล่าชีวิตจริงของผู้กำกับเคอร์ติซมากน้อยแค่ไหน

เส้นเรื่องหลักของตัวหนังทั้งสองส่วนคือ

1.ปัญหาการโดนแทรกแซงระหว่างถ่ายทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องการทำให้หนังมีความโฆษณาชวนเชื่อเรื่องความรักชาติอเมริกันให้มากกว่านี้ อีกทั้งความยากลำบากและอึดอัดใจของเคอร์ติซ ซึ่งเป็นชาวฮังการีอพยพที่เข้ามาสร้างตัวในสหรัฐ เขาจึงไม่มีทางเลือกในการสร้างหนังมากนัก แต่ก็ยังสามารถครีเอทตอนจบที่ตราตรึงออกมาได้ในที่สุด

ซึ่งเส้นเรื่องที่หนึ่งนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องราวที่มีความจริงอยู่พอสมควร ตามที่หนังพยายามสื่อออกมา

2.ความขัดแย้งกับ ลูกสาว คิตตี้ เคอร์ติซ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวประวัติของเขา เพียงแต่เรื่องรายละเอียดอาจจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ที่ตรงกันคือ นิสัยส่วนตัวของเคอร์ติซ ที่เป็นเพลย์บอยอย่างสุดกู่ ซึ่งในหนังก็นำเสนอจุดนี้ออกมาตั้งแต่ช่วงแรก แล้วย้ำหลายครั้ง

ที่จริงแล้ว ตามชีวประวัติจริงของเขา มีลูกทั้งหมด 4 คน ซึ่งมาจากผู้หญิงทั้งหมด 4 คนที่แตกต่างกันด้วย เขาแต่งงานถึง 3 ครั้ง และไม่เคยเป็นพ่อที่ดีนักตามประวัติ

ส่วนลูกชายที่เป็นลูกติดจากภรรยาคนหนึ่งที่ปรากฏตัวในเรื่องนี้คือ ลูคัส ตามประวัติจริงแล้ว ภายหลังลูคัสกลายเป็นนักเขียนบทและผู้กำกับชื่อดังในวงการ ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาก็คือ Star Trek นั่นเอง ซึ่งในหนังก็มีการใส่ Hint เอาไว้จากสมุดสเก็ตซ์ภาพที่คิตตี้เห็นเขากำลังวาดภาพตัวละครอยู่ด้วย

สรุปในภาพรวมแล้ว นี่เป็นหนังขาวดำที่ได้ผู้กำกับชาวฮังการีสร้างขึ้นมา เพื่อคารวะต่อทีมสร้างคาซาบลังก้าและผู้กำกับเคอร์ติซ ซึ่งเป็นชาวฮังการีไม่กี่คนที่เข้ามาสร้างชื่อเสียงไว้ในฮอลลีวูดระดับที่เป็นตำนานได้ เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลายเป็นตำนานหน้าหนึ่งในวงการ เพียงแต่ว่าหากคุณไม่มีพื้นฐานมาก่อน อาจจะดูหนังเรื่องนี้ไม่สนุกเอาเสียเลยครับ

 

ติดตามบทความทั้งหมดของผู้เขียนคลิกที่นี่

Reference Website

The True Story Behind ‘Curtiz’, Explained